สิทธิ์เพียงกำมือ
......การกบฎกำลังเกิดขึ้นในทุกย่อมหญ้า การปล้นฆ่า.. การต่อสู้แย่งชิงเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน อาหารที่กำลังจะหมดลงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ไม่มีการผลิตใดๆ อีก ทุกอย่างเลยทีเดียว. การแย่งชิงจึงเป็นภารกิจหนึ่ง ของทุกคนในอาณาจักรแห่งนี้ อาณาจักรที่มีนามว่า " ไร้ฝัน" ผู้ปกครอง อาณาจักรหรือ? ท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พวกเขาอยู่ในปราสาทที่คล้ายกระดองเต่าดูสะดวกสบายทุกอย่าง แต่ประชาชนของพวกเขาสิ ...ไร้ที่อยู่และ ที่สำคัญก็คือ อาหาร "เราต้องต่อสู้ .ไม่เหลือใครอีกแล้ว" อาเนสพึมพรำกับตัวเอง ขณะที่มองไปทางยายและแม่ เขาใช้ความคิดมากขึ้นทีเดียว หลังจากที่พ่อของเขาถูกฆ่าตายเมื่อสัปดาห์ก่อน พ่อของเขาตัดสินใจปล้นข้าวสารจากชาวนาคนหนึ่ง ซึ่งข้าวสารเพียงกำมือเดียวกับความจำเป็นที่จะต้องฆ่าผู้เป็นเจ้าของ ผู้เป็นพ่อกำลังภูมิใจกับความสำเร็จความอิ่มหนำของครอบครัว จนทำให้เขา ลืมไปว่าเขาอาจเป็นเช่นนั้นก็ได้ เช่นเดียวกับชาวนาผู้นั้น เขาถูกฆาตกรรม !!!! ไม่ใช่สิมันเป็น การแย่งชิงที่แสนจะธรรมดาเท่านั้นเอง ก็แค่ข้าวสารเพียงกำมือเดียว |
......"คืนนี้มันช่างผ่านไปช้าจริงว่ะ" อาเนสพูดกับตัวเอง เวลาที่ใช้ในค่ำคืน ที่ดูโดดเดี่ยว กับบทบาทผู้นำครอบครัว มันทำให้เขาคิดถึงความรับผิดชอบ การแย่งชิงต้องเกิดขึ้นโดยตัวของเขาเอง พรุ่งนี้แม่กับยายควร ได้รับอาหารบ้าง เขาหวนคิดถึงความดีทั้งหมดที่ เขาเคยได้สัมผัสมาแต่เกิดและความชั่วที่เขาเพิ่งได้รับไม่ถึงสัปดาห์ คิดวกวนกลับไปมาจนกระทั่งอ่อนล้า และความเงียบค่อยเขามาในสมอง ของเขา เขาหลับสนิทภายใต้ความเงียบภายนอกสมอง อาเนสวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตท่ามกลางความมืด เบื้องหลังของเขาเป็น อาคารใหญ่มีลักษณะโค้งมนที่ที่เขาเพิ่งจากมาพร้อมบางสิ่งบางอย่างในกำมือ เขาวิ่ง.....ไม่หันหลังไปดูมันอีกเลย |
อาเนส ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิต แต่วิ่งไปได้อีกไม่นานก็ต้อง หยุดชะงักลงด้วยความตกใจกับแสงวาวของคมมีดที่อยู่เบื้องหน้า พร้อมกับคำตะโกนของผู้ถือดาบ "ไอ้เดนนรก" เขาตัดสินใจหันหลังกลับทิศทางที่เขาเพิ่งจากมา แต่มันช้าเกินไปจริงๆ เขากลับล้มลงร้องโอดครวญ .เลือด เลือด... มือข้างหนึ่งกุมแขนที่เต็มไปด้วยเลือดทำให้รู้ว่ามือของเขาหายไป มือที่กำข้าวสาร? อาเนส! สดุ้งตื่นเหงื่อเต็มร่าง ไม่เพียงแต่ เหงื่อเท่านั้น หรอกความกลัวที่เต็มอยู่ในจิตใจสำหรับการดิ้นรนต่อสู้และแย่งชิง ไม่นานความตระหนักถึงภารกิจรุ่งเช้าทำให้เข้าหลุดออกจากภวังค์เมื่อสักครู่นี้ได้ เหลือบมองบริเวณที่พักซึ่งขณะนี้ว่างเปล่า แม่กับยายคงออกไปตลาดแล้วกระมัง" เขาพูดขึ้น |
......ที่ตลาด
.ท่านอาจคิดว่าอาณาจักรแห่งนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มากมาย
มีผู้คนมากมายเป็นเช่นเดียวกับอาเนสและครอบครัว พวกเขามาเฝ้ามอง และรอคอย
.....การค้าขายระหว่างผู้แทนผู้ปกครองนครกับพ่อค้าคนกลาง ซึ่ง โดยตำแหน่งต้องเรียกเขาว่า
"ผู้แทนประชาชนหัวเมือง" ลักษณะตลาดใน อาณาจักรแห่งนี้แปลกกว่าที่อื่นใดที่ท่านเคยพบเห็น
มาก็ว่าได้ กลางที่ราบ โล่งกว้าง ตรงกลางมีกรงเหล็กขนาดใหญ่มหึมา ทางเข้าออกเต็มไปด้วย
คนถือดาบมากมายล้อมอยู่รอบกรงใหญ่นี้ ผู้คนที่มาตลาดเหล่านั้นต้องอยู่ภายนอก
ไม่มีสิทธิเข้าไปภายในกรงนี้ได้เป็นอันขาด เวลาและการรอคอย เท่านั้นจะทำให้พวกเขามีสิทธิ์ขึ้นมา นี่คือกฎหนึ่งแห่งอาณาจักรนี้ |
......พ่อค้าคนกลางรายแรกเดินเข้ามาในกรงอย่างสง่างาม
ซึ่งพวกเขาเรียกมันว่า "สภาการค้า" หัวหน้าคนถือดาบทำความเคารพเขา
และเป็นธรรมเนียม พ่อค้าคนกลางต้องจ่ายค่าเบิกทางซึ่งมันน้อยนิดหรือแทบจะไร้ค่าสำหรับพ่อค้าเอง
เขาเดินตรงเข้ามาทางซ้ายมือของเขาเต็มไปด้วยกระสอบข้าวสาร วางเรียงกันตลอดทุกแนว
ทุกกระสอบมีหมายเลขกำกับอยู่ เดินได้สักครู่จึง หยุดลง ทางขวามือมีโต๊ะเก้าอี้สำหรับคณะผู้ปกครองนครและทั้งสองข้างของมันก็เต็มไปด้วยข้าวสารอีกมากมาย
ที่นี่คือบริเวณสำหรับการจัดซื้อ จัดขาย "จากที่ไหน" ผู้แทนผู้ปกครองคนหนึ่งเอ่ยขึ้น "จากหัวเมืองภาคเหนือตอนบน .ครับท่าน" ผู้แทนประชาชนหัวเมือง กล่าวตอบ "ต้องการเท่าไหร่ล่ะ" ผู้แทนผู้ปกครองคนถามอีก "ห้า..ห้า.ห้าร้อยครับท่าน" ผู้แทนประชาชนกล่าวตอบผู้แทนผู้ปกครองนคร ยื่นกระดาษที่มีหมายเลขหนึ่งถึงห้าร้อยให้ พร้อมรับ กระดาษชนิหนึ่งจากอีกฝ่ายหนึ่งเข้ามา ทุกอย่างเรียบร้อย จากนั้นผู้แทน ประชาชนเอ่ยขึ้นว่า "กระผมมีสิ่งที่ท่านต้องการมาเสนอขายครับ" พูดพร้อมกับหันไปทางรถเข็นคันใหญ่ เปิดผ้าคุมออกเผยให้เห็นบางส่วนข้างใน ซึ่งเต็มไปด้วยอาวุธหลากหลายชนิด คันเบ็ดตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึง ขนาดใหญ่ เสียม คันไถ หรือแม้แต่อุปกรณ์ในครัว พวกเขาเรียก มันว่า "อาวุธ" คณะผู้แทนผู้ปกครองทุกคนต่างกระหยิ่มยิ้มย่องใน จำนวนอาวุธเหล่านั้น และกำลังตีเป็นราคา ผู้แทนผู้ปกครอง คนหนึ่งพูดขึ้น "เยี่ยมไปเลยไอ้น้องชาย" พร้อมกับยื่นจำนวนเงิน ตามราคาที่กำหนด ผู้แทนประชาชนหัวเมืองยิ้มขณะนับมัน .....ทุกอย่างเรียบร้อย พ่อค้าคนกลางก็เดินไปรับข้าวสารตามหมายเลขที่ได้รับ จากหัวหน้าคนถือดาบ ขั้นตอนสุดท้ายข้าวทุกกระสอบ จะได้รับการตรวจสอบคุณภาพแน่นอนสิ เขาถือว่ามันเป็น การรักษาผลประโยชน์ของประชาชน ข้าวสารประมาณหนึ่งกำมือจาก ทุกๆกระสอบ จะต้องผ่านมือและสายตาของผู้แทนประชาชน หัวเมือง .ทุกอย่างเรียบร้อย |
......ไม่นานหรอกท่านก็จะได้เห็นพ่อค้ากลางคนใหม่เดินเข้ามา ที่นี่ท่าน จะได้เห็นผู้แทนประชาชนเกือบทุกคนก็ว่าได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นเช่นเดียวกับคนก่อนๆ จ่ายค่าเบิกทาง บอกจำนวนกระสอบ เสนอและสนองไปอย่างรวดเร็ว แต่มี .นอกจากพ่อค้าบางคนอาจ ไม่มีสิ่งมาเสนอขายหรือไม่ก็สิ่งที่เสนอขายไม่ได้รับการยินยอมจากคณะผู้แทนผู้ปกครองนครเท่านั้น และแล้วก็มาถึงเวลาที่สภาการค้าต้องปิดทำการ ทุกอย่างจะถูกขนออกไปเหลือเพียงแต่ .ซึ่งพวกเข้าเรียกมันว่า "เศษข้าวตรวจ" มีเสียงดังจากภายในสภา "ประชุมครั้งต่อไปครั้งที่หนึ่งพันหกร้อยสี่สาม สัปดาห์หน้า วันและเวลาเดียวกัน" ..... "ปิดสภา" หัวหน้าคณะผู้ปกครองนครกล่าว มีเสียงดังจากการเคาะระฆังหนึ่งครั้ง เป็นอันว่าปิด ทุกอย่างเรียบร้อย กรงใหญ่ ความว่างเปล่า แต่สิทธิของผู้มารอคอยกำลังเกิดขึ้น หนึ่งกระสอบข้าวสารหนึ่งกำ หนึ่งกระสอบ .หนึ่งกำ . พื้นที่ภายในพอเพียงสำหรับทุกคน ที่นี่ไม่มีการแย่งชิง นั้นคือกฎ หรือ ธรรมเนียมที่ได้รับการปฏิบัติมานาน แต่ภายนอกกรงนี้มันอีกเรื่องหนึ่ง ทุกคนจองบริเวณที่ตนต้องการ นั่งเก็บเม็ดข้าวสารเท่าที่สามารถจะเก็บได้ และเป็นธรรมเนียมอีกอย่างหนึ่งคือ เพียงคนละหนึ่งกำมือเท่านั้น มันคือ การจัดสรรอย่างเท่าเทียมที่สุดแล้ว ทุกคนจะคอยดูแลกฎเกณฑ์เหล่านี้ ใครละเมิดอาจหมายถึงการใช้ศาลที่มีอยู่ .ศาลเตี้ย . |
......อาเนสพร้อมด้วยข้าวสารหนึ่งกำมือ เดินกลับมาด้วยความรู้สึกกลัว เมื่อนึกถึงความฝันคืนก่อน การถูกตัดมือคือการหมดสิทธิ์ในการเก็บ เขาจะอดตาย พ่อของเขาเคยบอกว่าปู่มีเคยเงินจากการประมง ใช้เงินซื้อข้าว จากผู้แทนประชาชนเหล่านั้นมาวันหนึ่งถูกปล้นอุปกรณ์หาปลาและทุกอย่างที่มี วันนั้นเป็นวันที่พ่อต้องเรียนรู้ถึงสิทธิเพียงแค่กำมือนี้ และทุกวันนี้ยังเป็นเช่นนั้น ทุกคนอยู่พร้อมหน้ากัน ข้าวทั้งสามกำมือถูกปรุงเป็นอาหารที่อร่อยที่สุด และนั้นเป็นอาหารมื้อแรกของสัปดาห์กระมัง ไม่มีเสียงพูดคุย ไม่มีเสียงทักทายระหว่างกัน ไม่มีฝันใดที่ต้องพูดคุยกัน ทุกอย่างเป็นไปตามหน้าที่ มีเพียงเสียงเคี้ยวอาหารอย่างเอร็ดอร่อย พวกเขาใช้เวลานานทีเดียวสำหรับอาหารมื้อนี้ แล้วภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้ก็เสร็จสิ้น ต่างคนต่างเข้าสู่มุมของตัวเอง ต่างคนต่างฝัน เป็นเช่นนี้นานแล้ว |
...... รุ่งเช้าของวันใหม่ แต่วันนี้เขาค่อนข้างอารมณ์ดีกว่าวันก่อน อาเนสนั่งพิจารณาถึงความฝันเมื่อคืนที่ยังติดอกติดใจอยู่ มันช่างวิเศษเสียจริงๆ กรงเหล็กใหญ่ที่คุ้นตากำลังถูกยกขึ้นโดยผู้คนมากมาย มันมากจนแทบติดตาของเขาแม้ในขณะนี้ เขาไม่เคยเห็นมันมาก่อนเลย เขารู้สึกขนลุกวาบทีเดียว ข้าวสารมากมายถูกแจกจ่ายอย่างเท่าเทียม อาวุธมากมายสำหรับพวกเขา ไม่มีผู้แทนเหล่านั้นอยู่? พวกเขาหายไปไหน? เขาอึ้งสักครู่ แต่มันทำให้เขาขนลุกขึ้นอีก พร้อมกับกำมือซ้าย มือที่ใช้กำข้าวสาร ชูขึ้นอย่างองอาจ การต่อสู้กำลังเกิดขึ้น |
(ตั้ง ทหารกล้า) |
19 สิงหาคม 2541 |
|