พ่อไม่ผิดหรอกครับ

1
"ผลัวะ!"  ฝ่ามืออันหนาเตอะฟาดลงไปที่ครึ่งแก้มครึ่งกกหูบนใบหน้าอันออ่นเยาว์นั้นเต็มแรง เด็กน้อยวัยสิบขวบถลาไปปะทะกับฝาบ้านแล้วทรุดฮวบลงตรงนั้นเหมือนนกที่ถูกยิงด้วยหนังสะติ๊ก แกทำท่าจะปล่อยโฮออกมา
"ไม่ต้องร้องไอ้สัตว์ มึงมันลูกไม่รักดีก็ต้องเจออย่างนี้แหละ"
หนุ่มใหญ่ร่างสั่นเทิ้มด้วยฤทธิ์โทสะบวกด้วยพิษไข้ เขายืนหันรีหันขวางอย่างไม่รู้จะทำอะไรต่อไป เด็กน้อยถดร่างเข้าไปชิดข้างฝาอีกอย่างหวาดกลัว ริมฝีปากเม้มแน่นเพื่อกลั้นเสียงร้องไห้ แต่กระนั้นน้ำตายังไหลอาบแก้ม ตังโยนด้วยแรงสะอื้นจากภายใน
"ผมไม่ได้โกหกพ่อครับ เขาไล่ผมจริงๆ ผมขายไม่ได้เลย เมื่อวานฝนก็ตกด้วย"
"ฮ้าย ยังจะตอแหลอีก...ชักจะเหมือนแม่มึงทุกที ดอกทองไปทั่วจนเสียผู้เสียคน...มึงรู้ไหม มึงมันลูกอีดอกทอง ตอแหลเก่งเหมือนแม่มึงทุกอย่าง"
เด็กน้อยเงียบกริบ เขาโตพอที่จะรู้ความหมายของทุกคำที่พ่อคำรามมันเจ็บจนพูดไม่ออก และมันเจ็บจนพูดไม่ออกทุกครั้งที่พ่อโมโหเขาแล้วลามไปถึงแม่ ปกติพ่อนั้นอารมณ์ร้ายอยู่แล้ว ยิ่งในช่วงตกงานพ่อก็ยิ่งพาลกระแชงหนักเข้าไปอีกเหมือนหมาบ้า พ่อเองก็ไม่รู้ว่าแม่หนีไปไหนแต่ก็มีความเชื่อฝังใจว่าแม่ต้องก้าวไปในทางเสื่อม เพราะพ่อเองก็ได้แม่มาจากถนนสายหนึ่งเท่านั้น
"เอาล่ะ พรุ่งนี้กูจะตามไปดู เอาให้คาหนังคาเขาสักหน่อยเดี๋ยวจะหาว่ากูหาเรื่องมึง..."

2
"หวานเย็นจ้าหวานเย็น..."
พ่อหนูน้อยก้าวเท้าช้าๆ ขณะที่ตะโกนร้องขายสินค้าของตนเสียงเจื้อยแจ้ว กระติกใส่หวานเย็นยังคงเต็มจนถึงฝา มันหนักอึ้งจนทำให้เขาต้องเดินตัวเอียงไปข้างหนึ่ง แขนที่คล้องกระติกชาซ่าไปจนถึงปลายนิ้ว ดวงตาที่ใสบริสุทธ์ฉายแววกังวลเหมือนหมาหิว
เปล่า...เขาไม่ได้กลัวว่าพ่อจะจับโกหกได้หรอก ความจริงก็ต้องเป็นความจริงวันยังค่ำ เขาไม่ได้ให้การเท็จอะไรกับพ่อ แล้วอีกไม่นานพ่อคงจะได้เห็นว่าอะไรมันเป็นอะไร สิ่งที่เขากังวลคือวันนี้จะต้องเป็นอีกวันหนึ่งที่สูญเปล่า แล้วพ่อกับเขาจะเอาอะไรกรอกท้องในตอนเย็น ลำพังเจ้าไอศกรีมแท่งที่ขายเหลือ ก็คงจะไม่ช่วยละลายน้ำย่อยได้เท่าไรนัก และสิ่งที่เขาห่วงที่สุดคือสิ่งที่เขารักยิ่งกว่าใครๆ ซึ่งกำลังเดินตามมาอยู่ห่างๆนี้จะเอาเงินไปซื้อยา เขารู้อยู่แก่ใจว่าหลายวันแล้วโยไม่มียาสักเม็ดตกถึงท้อง
"แม่ กินหวานเย็น... จะกินหวานเย็น..."
เสียงเด็กสองสามคนร้องแข่งกันดังลั่นทันทีที่เห็นพ่อหนูเลี้ยวเข้าตรอกมา บางคนวิ่งตามกันออกมาบนแผ่นไม้กระดานที่พาดคร่อมน้ำครำซึ่งส่งกลิ่นเน่าคลุ้งอย่างไม่กลัวหกล้ม เด็กคนเล็กที่สุดทิ้งตัวลงดิ้นฟูมฟายอยู่หน้าบ้านอย่างเจ็บปวดเมื่อเห็นพวกพี่ๆ พากันวิ่งหนีแกมาหมด
เด็กชายผู้ขายหวานเย็นหยุดยืนนิ่งพลางกวาดสายตาไปรอบๆ เขารู้ดีว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นอีกต่อไป ข้างหลังไม่ไกลนักพ่อกำลังเดินตามมาด้วยฝีเท้าที่ช้าลง
"มาอีกแล้วเรอะไอ้เด็กเปรต..." เสียงแหลมเล็กดังแหวขึ้นพร้อมทั้งร่างของผู้หญิงคนหนึ่งพุ่งปราดออกมานอกประตูไม้ฉำฉาที่เปิดทิ้งไว้ห้อยร่องแร่ง หล่อนเป็นคนผอมสูง ใส่เสื้อชั้นในคอกระเช้าตัวเดียว ผมกรอบแตกปลายเสยขึ้นไปแล้วสับไว้ด้วยหวีพลาสติกตรงท้ายทอย
"มาอีกแล้วหรือไอ้ห่า... กูบอกแล้วไงว่าไม่ต้องมาขายแถวนี้ ท่ามันจะต้องตบสั่งสอนเสียที" หญิงอารมณ์ร้าย ปรี่เข้ามาที่พ่อหนูขายหวานเย็นด้วยท่าทางเอาจริง
"เฮ้ยหยุด นั่นแกจะทำอะไรลูกฉัน" เสียงห้าวๆของพ่อดังขึ้นทันเวลา ในขณะที่เจ้าหนูลูกชายหน้าซีดเผือดตกตะลึง
"อ้อ ลูกชายพี่เรอะ" หญิงร่างผอมผงะเล็กน้อย ท่าทีอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
"ใช่ ลูกฉันเอง แกนี่ใช่ไหมที่ขู่มันไม่ให้มาขายหวานเย็นแถวนี้ ใหญ่มากนักรึ... จะลองดีกับกูก็ได้"
ชายร่างหนาพูดเสียงดังลั่น ชี้หน้าหยิงคนนั้นอย่างโกรธจัด
"อย่าๆอย่าทำฉันเลยพี่ชาย ลูกมันร้องกินไม่รู้จะทำอย่างไร...ฉันไม่มีเงินซื้อ"
หญิงในชุดเสื้อคอกระเช้าถอยกรูดไปติดบานประตูไม้ฉำฉาอย่างตกใจ ผู้เป็นพ่อเด็กขายหวานเย็นหยุดชะงัก ใบหน้าถมึงทึงคลี่ออกอย่างรวดเร็ว มือที่กำหมัดเงื้อง่าเมื่อครู่นี้ตกห้อยมาคลายอยู่ข้างตัว เขาจ้องหน้าคู่กรณีอย่างแปลกใจ
"ไม่มีเงินซื้อเรอะ ทำไมล่ะ อันละสลึงเดียว หวงลูกทำไม... อันเดียวแบ่งกันหลายคนก็ได้"
"ฉันไม่มีเงินเลย สลึงเดียวก็ซื้อไม่ได้ เอาไว้ซื้อข้าวกินเท่านั้น... พ่อเด็กไปทำงานต่างจังหวัด เกือบสองเดือนแล้วยังไม่กลับมาเลย"
"แม่จ๋า... หนูจะเอาหวานเย็น..." เจ้าหนูคนเล็กลุกขึ้นจากนอนกลิ้งเกลือกกับพื้นมาเหนี่ยวผ้าถุงแม่ไว้แน่น แกรบเร้าแม่ต่อไปอย่างไม่ยอมรับรู้อะไรทั้งสิ้น
"ไอ้ห่า...ไอ้ลูกเวร ข้าวจะแดกยังไม่มีแล้วยังอยากกินขนมอีก... รอให้พ่อมึงกลับมาก่อน ฉิบหายเอ๊ย... ไม่รู้ไปติดสาวที่ไหน ไม่กลับมาสักที" ผู้เป็นแม่ก้มลงตะคอกเด็กน้อยอย่างระบายอารมณ์
เด็กขายหวานเย็นแอบสังเกตสีหน้าพ่อ ดวงตาที่เคยเกรี้ยวกราดเมื่อครู่นี้เปลี่ยนเป็นหม่นวูบ แล้วกลายเป็นยิ้มอย่างใจดี พ่อลูบหัวเจ้าลูกคนเล็กของหญิงร่างผอมแล้วเรียกเข้ามาใกล้ๆ เปิดผากระติกหยิบหวานเย็นให้เด็กน้อยทุกคนๆละแท่ง ลูกๆของบ้านใกล้เคียงเห็นดังนั้น  ต่างพากันมายืนดูอย่างอยากกิน พ่อกำหมัดต่อยพุงตาลขโมยของเจ้าหนูคนหนึ่งเบาๆอย่างเอ็นดู จากนั้นหยิบหวานเย็นแจกเด็กทุกคนที่เข้ามายืนมุง พ่อแจกไปเรื่อยๆจนกระทั่งหวานเย็นเหลือไม่ถึงครึ่งกระติก
"กลับบ้านเถอะลูก วันนี้เราคงไม่ต้องดูดหวานเย็นก่อนนอนแล้ว... ขายดีจัง..."
พ่อพูดกับเจ้าลูกชายด้วยท่าทีร่าเริง แต่น้ำเสียงดูจะซ่อนความรู้สึกขื่นๆบางอย่างไว้ไม่มิดนัก

3
คืนวันนั้นสองพ่อลูกนอนแต่หัวค่ำ ชายผู้เป็นพ่อกอดลูกชายวัยสิบขวบของเขาไว้แน่น ไออุ่นจากร่างอันหนาทึบดูจะขับไล่ความรู้สึกเย็นลื่นจากเสื่อน้ำมันเก่าๆไปจนหมดสิ้น เด็กน้อยเอามือลูบคางที่สากไปด้วยเคราของพ่ออย่างมีความสุข
"ยกโทษให้พ่อด้วยเถิดนะลูก พ่อผิดเหลือเกินที่ทำร้ายแกอย่างนี้... อันที่จริงเราก็มีกันอยู่แค่นี้"
เด็กน้อยใจหายวาบเมื่อรู้สึกว่ามีน้ำอุ่นๆ หยดลงมาบนใบหน้า มือเล็กๆรีบตวัดโอบรอบคอพ่อไว้แน่น ใบหน้าอันอ่อนเยาว์ซุกไซ้ไปตามอกกว้างอย่างทุรนทุรายในอารมณ์
"ไม่...ไม่...ไม่... พ่อไม่ผิดหรอกครับ...พ่อเพียงแต่หิวเท่านั้น"
แกพูดซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งหลับไปด้วยความหิวและอ่อนเพลีย