![]() |
![]() |
![]() |
หมากไม้ |
ประเสริฐ จันดำ เขียน |
......"พ่อแม่แกอยู่ไหนวะ ไอ้เหมือน" |
......คำของเพื่อนเอ่ยถามคล้ายหยามหยัน เด็กชายขยับตัวหัวร่อพลัน |
......"ไปขายถ่านนานวัน ไม่กลับมา" |
......ขายถ่าน-วลีนี้มีความหมาย เปรียบถึง-ตาย-ชาวบ้านล้วนขานว่า เหมือนได้ยินจากยายอยู่หลายครา เมื่อเด็กน้อยถามหาพ่อของตน ถามถึงแม่ แก่ไม่ใคร่อยากตอบ แต่ทำหน้าไม่ชอบเสียทุกคน |
......"ไปค้าขายอยู่ห่างต่างตำบล" |
......มิแจกแจงเหตุผลมากกว่านั้น |
......เหมือน,เรียกยายว่า-แม่-มาแต่แรก ความรู้สึกเห็นแปลก คนขบขัน ประสาเด็กตัวนิดคิดไม่ทัน ถามมากเรื่องเป็นอันถูกยายตี |
......อายุเพียง 7 ขวบ แกอวบอ้วน ไม่เจ็บไข้ไม่กวนพวกพี่พี่ คนโตเรียกน้าชายดูแปลกดี ถัดมานี่, อาสาวขาวสำอาง เขาออกเรือนไปอยู่หมู่บ้าอื่นๆ หลายเดือนจึงกลับคืนมาเยี่ยมบ้าง บอกแม่ว่าอาภัพเพราะทรัพย์จาง อยากเดินทางไปไหนไม่คล่องตัว |
......อยู่สามคน ยาย น้า, ต่ามาเหมือน น้าเดินโพยหวยเถื่อนตระเวนทั่ว รอบหมู่บ้าน, ตำบล เลี้ยงครอบครัว ชอบโลดเต้นเล่นหัวเป็นประจำ |
......"ไอ้เหมือนมันเกิดจากปล้องไม้ไผ่" |
......เพื่อนวิ่งไล่หยอกล้อเป็นข้อขำ |
......"ข้ามีพ่อมีแม่เว้ย เจ้าดำ" |
......เหมือน, กัดกรามหมัดกำจะต่อกร เจ้าดำเห็นเอาจริงจึงวิ่งหนี เด็กชายเมื่อได้ที |
......"กลับมาก่อน จะตอกหน้าเข้าให้ ไอ้นี่วอน.." |
......"เอ็งสั่งสอนมันหน่อย ต่อยสักปัง" |
......เจ้าชื่นส่งเสียงเชียร์อย่างมันเขี้ยว เจ้าดำวิ่งเต็มเหนี่ยวไม่เหลียวหลัง เหมือน,หัวเราะไม่คิดเอาจริงจัง |
......"ไอ้ปากผีกระหัง ช่างหัวมัน" |
......ฝนเดือนแปดพรมพร่างมาบ้างแล้ว ทั่วถิ่นแถวท้องนาเริ่มเปลี่ยนผัน คนเขาลงไถดะประจำวัน ยอดหญ้าเขียวกันขึ้นชูใบ มีน้ำท่ารินหลั่งขังห้วยหนอง กบเขียดร้องรับฝนเสียงแจ่มใส ความชื่นเย็นครอบคลุมอยู่ทั่วไป สายฝนซึ่งหลากไหลให้ชีวิต |
......รุ่งเช้า, น้าแบกไถ เหมือนจูงควาย แดดอ่อนอุ่นอาบกายชุ่มชื่นจิต |
......"เฮ้ย รีบเร่งลงแรงเว้ย ไอ้ทิด" |
......เสียงเพื่อนมิตรนาหนองร้องบอกมา ไอ้ทิด, ก็น้าชายของเหมือนนั่น จับควายเทียมแอกพลันสั่งฮื่อฮ่า มันลากไถเบิกร่องของงานนา ก่อนแดดกล้าแล้วงานได้หยุดพัก |
......ปล่อยควายกินหญ้าอยู่แถวนั้น สองน้าหลานชวนกันหาเก็บผัก กลับบ้านกินข้าวเช้าอย่างพร้อมพรัก อาหารหลักน้ำพลิกต้มปลาร้า |
......ยายหรือแม่สงสารหลานคนน้อย แกปิ้งเขียดไว้คอยด้วยห่วงหา ตัวยังเล็กยิ่งน่าเวทนา อย่างกับลูกไก่กาต้องเลี้ยงดู |
......เมื่อห้า-หกปีก่อนเดือดร้อนหนัก มิได้ปักดำนาน่าหดหู่ ยาย-แม่,คนผัวตายได้รับรู้ ขืนทนอยู่มีแต่จะอดตาย จึงเข้ากรุงมุ่งมาหารับจ้าง เป็นคนงานก่อสร้างมันหนักหลาย เปลี่ยนไปทำงานบ้านค่อยผ่อนคลาย พร้อมกับเลี้ยงเด็กชายเหมือนคนนี้ แม่ของเขามีงานย่านโอ่อ่า จ่ายเงินค่ากินอยู่ไม่ตระหนี่ เวลาผ่านไปแค่ครึ่งปี แล้วก็หนีหายหน้าไม่มาแล |
......ตัวคนเดียวเดี่ยวโดดในเมืองหลวง เลี้ยงเด็กมา รัก,ห่วง ดังเป็นแม่ ตัดใจกลับบ้านเดิมพร้อมตัวแก เท่ากับลูกแท้แท้ทิ้งไม่ลง |
......เหมือน,เป็นเหมือนหมากไม้ตกไกลต้น มาเติบโตเป็นตนอยู่บ้านท่ง มียายแม่เท่านั้นรักมั่นคง กระทั่งหลงว่าคือลูกในอุทร |
......"เหมือน แกไปเลี้ยงควายกับแม่นะ" |
......แกบอก ทำธุระบ้านเสร็จก่อน รวบห่อหมาก เสียม คุ ขึ้นบ่าคอน มายังควายซึ่งนอนคลุกขี้ตม |
......ควายสองตัว ผู้-เมีย ผลัดเปลี่ยนไถ นาเพียงแค่เก้าไร่ก็พอสม หากฝนส่งน้ำท่ามีอุดม ไม่เกิดล่มเกิดแล้งแกล้งให้จน |
......มองลูกเลี้ยงหรือหลานสงสารนัก ไม่รู้จักพ่อแม่มาแต่ต้น มีท้องท่งท้องนาเป็นบ้านตน อนาคตมัวมนเกินคาดการณ์ ปีนี้เหมือน,เข้าเรียนชั้นประถม ยังไม่รู้ประสมตัวเขียนอ่าน หลังเลิกเรียนวิ่งเล่นอยู่ตามลาน ไม่ประสาเรื่องงานอันอื่นใด |
......"ต้อนควายขึ้นจากปลักทีซิ เจ้า" |
......ยายบอกเขา นั่งลงร่มไม้ใหญ่ เหมือน,ทำตามคำบอกอย่างเร็วไว มันจะได้กินหญ้าอาหารมัน |
......น้าทิดเดินแบกจอบลัดลิ่วมา |
......"ไปขุดหนูดีกว่า ที่โพนนั่น" |
......เจ้าเด็กน้อยชอบใจ ตามไปพลัน |
......"ดูแลกันให้ดี นะพี่มึง" |
......ทิด น้าชายรับคำย่ำออกหน้า หนูนาอยู่ในโพนไม่นานถึง จะต้องขุดรากไม้ทั้งฉุดดึง มันซ่อนตัวเป็นหนึ่งหลบหลีกภัย เขาขุดตามร่องรูอย่างรอบคอบ พอเหนื่อยหอบหยุดพักแล้วขุดใหม่ ปิดทางออกทุกทางอย่างตั้งใจ แล้วหนู่ใหญ่พุ่งพรวด, กวดตะครุบ |
......"เฮ้ย เร็วหน่อย ช่วยกันมันจะหนี" |
......ทิดร้องลั่นทันทีเขากว้าปุบ เกรงว่ามันพลาดไปคว้าไม้ทุบ เพียงแค่สองสามตุบ ถึงที่ตาย |
......อีกตัวหนึ่งเผ่นไวหนีไปรอด เหมือนยืนทอดอาลัยไม่สมหมาย |
......"อย่าเสียใจ ช่างมัน ไอ้หลานชาย ถึงตะกายเท่าไรคงไม่ทัน" |
......บอกหลานชายให้กลับไปหาแม่ ตัวเขาเองยังแต่ต้องขุดปั้น แต่งคันคูรับน้ำทำทุกวัน ทิดเป็นคนขยันเรื่องงานนา |
...... |
......เหมือนครุ่นคิดว่าจะต้องลองดูบ้าง ล่าหนูอย่างน้าทิดทำเข้าท่า ต้องขุดเร็วตามไวเต็มอัตรา จึงจะได้มันมาเป็นกับกิน ยายเอ่ยถาม |
......"ขุดได้ไหมละ ลูก" |
......"ตัวหนึ่งถูกน้าทิด ตีซะดิ้น" |
......ยายนั่งยิ้มพอใจที่ได้ยิน แกเองต้องขุดดินหาเขียดปู ส่งขวดน้ำให้หลานให้พักร่ม หวั่นแดดลมเล่นงานไม่หาญสู้ ตัวยังเล็กจึงยั้งแค่นั่งดู ทิดเสร็จจากคันคู เดินมาชวน |
......"กลับไปกินข้าวเที่ยงเถอะ รึ เรา ตั้งแต่เช้าท้องไส้ปั่นป่วน จะแกงคั่วหนูให้หอมอบอวล" |
......น้า-หลานด่วนเร่งก้าวไปตามกัน |
......"แล้วไม่บอกแม่รึล่ะ น้าทิด" |
......เหมือน, สะกิดข้างหลัง หน้ายังหัน |
......"เอ็งไม่ต้องห่วงแก ดอกแม่นั้น ต่อตะวันบ่ายล่วงจึงกลับไป" |
......เข้าเขตบ้านชานเรือนค่อยคลายร้อน อยู่ระหว่างส่วนหม่อมกับกอไผ่ ทิดจัดการหอบฟืนมาก่อไป ท้องบอกเตือนว่าให้เร่งมือทำ |
......มีหญิงสาวแปลกหน้าเดินมาถาม |
......"บ้านป้าครามแม่หม้าย แม่นบ่หำ" |
......เหมือน, มองหน้า |
......"แม่นครับ" |
......เขารับคำ ทิดพึมพำ |
......"แม่มัน ซะกระมัง" |
......"ฉันชื่อมล มาตามถามข่าวลูก พ่อบุญปลูก ซื่อเหมือน, ด้วยความหวัง" |
......แม่กับลูกสบตากันอย่างจัง |
......ทิดบอก "นั่งตรงนี้ ไงล่ะคุณ" |
......พลันหญิงสาววางกระเป๋าเข้ากอดรัด |
......โอ้ ลูกฉันชัดชัดนะเนื้ออุ่น" |
......เหมือน, ปัดไม้ปัดมือชุลมุน ไม่เคยคุ้นรู้จักหญิงคนนี้ |
......ขณะนั้นป้าครามเดินมาถึง แกยืนตกตะลึงหน้าถอดสี |
......"คุณ.....คุณมล มาเรื่องไรไหนบอกที" |
......"ฉันมานี่ ขอรับลูกกลับไป" |
......เงียบแสนเงียบ เงียบงันกันไปหมด หล่อนเหลืออดเกินกลั้นน้ำตาไหล |
......"นี่แม่คราม แม่ผม น้ำเป็นใคร ผมไม่ใช่ลูกน้า อย่าตู่เอา" |
......"โธ่ ลูกจ๋า ลูกแม่อย่าแง่งอน แม่มาวอนมาตามด้วยความเศร้า เพราะความจริงแม่ลูกคือ สองเรา" |
......เหมือน..... |
......."แม่เขาจริงแท้ คือแม่คราม" |
...... |
ดูเถิดเท็จจริงปฏิบัติ |
แม่ลูกพลัดจากกันอย่ามองข้าม |
ดั่งหมากไม้พรากต้นออกติดตาม |
จะตกในโมงยาม-สายเกินไป..... |