(อันนี้ลอกคคห.ที่ 150 ของกระทู้ที่แล้ว เพราะมันเดี้ยง.. มาต่อให้ใหม่ที่นี่) ............................... ในศตวรรษที่ 18 พื้นที่ปลูกองุ่นในบอร์คโดซ์ได้เติบโต ออกไปในทุกด้าน เพราะความขยันหมั่นเพียรของเล่าขุนนางเจ้าของไร่ทั้งหลาย ที่ต่างพากันหันมาสนใจและทุ่มเทให้กับการทำไวน์ให้ออกมาเด่น มาดัง.. เพราะเป้าหมายที่เหมือนกัน..นั่นก็คือ ความต้องการในการครองตลาด ครองใจ เหล่าตัวกลางดัชท์และอังกฤษ นอกจากพื้นที่เด็ดดังจะถูกครอบครองโดยเหล่าเสนาบดี แล้ว..บอร์คโดซ์ก็ได้ถูกขยายเพิ่มเติมไปด้วยเหล่า bourgeois (อ่านว่า โบ-ชวาส์ อันหมายถึงชาวบ้านที่มีฐานะอยูดีกินดีขึ้นไป แต่ไม่ใช่เหล่าขุนนาง..หรือที่ภาษาไทยเรียกว่า คหบดี) ในเมื่อพวกขุนนางและคหบดีพากันรุกคืบเข้ามาแย่งที่ดินทำกินของชาวบ้าน (คือกลุ่มที่ครอบครองแต่เก่าก่อน) โดยสารพัดวิธี แน่นอนว่า ย่อมไม่ใช่วิธีที่สะอาดนัก.. หนึ่งในนั้นก็คือ การออกกฏหมายแบบหน้าด้านๆ นั่นคือ ผู้ที่มีสำเนาสำมะโนครัวและเอกสารสิทธิที่ดินอยู่ในบอร์คโดซ์ จะได้รับการลดภาษีในผลผลิตในที่ดิน.. เพราะเหล่าพวกขุนนางนั้น ได้ไปปลูกชาโต จดทะเบียน กันอย่างเรียบร้อย.. แต่ชาวรากหญ้า ที่เช่าที่ดินทำกิน ต้องเสียภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย..ในที่สุดก็ต้องมากลายเป็นลูกจ้างให้กับนายทุน.. และอัตราค่าจ้างนั้นก็ถูกแสนถูก.. กดขี่กันถึงขนาดว่า..ตั้งแต่ปี 1750-1772 ค่าจ้างไม่ได้ขยับเพิ่มขึ้นเลย..แม้ว่าค่าครองชีพจะสูงขึ้น และนี่คือสาเหตที่ทำให้เห็นง่ายๆว่า ทำไม..ชาวรากหญ้าจึงได้ลุกฮือขึ้นมาปฏิวัติใหญ่ ล้มล้างระบอบศักดินา ในปี 1789... จากคุณ : WIWANDA - [ 1 พ.ย. 49 08:30:16 ] จากคุณ : WIWANDA - [ 1 พ.ย. 49 09:04:24 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มาทักทายยามเช้ากับป้าก่อนเลย :) ป้าครับมะวานแม่โทรมา เซอร์ไพรซ์ตอนบ่าย ดีนะกำลังอู้อยู่ตอนนั้นเลยปั้นหน้านิ่งๆ ได้ :D ป้าสบายดีนะครับ ผมตอนนี้งานยุ่งอย่างเดียวเนี่ยหละ กลาย เป็นเทพบุตรคิวทองไปตอนไหนก็ไม่รู้ :'( จากคุณ : Ace striker - [ 1 พ.ย. 49 09:54:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ตามกลิ่นมากระทู้ใหม่ครับ วันฮาโลวีนเหรอครับไม่ได้ไปไหนเปิดปิโนกรีส์กับหอยลายผัดน้ำพริกเผาครับ อิอิ จากคุณ : D19 - [ 1 พ.ย. 49 10:53:35 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีค่ะ คุณหลาน Ace striker และคุณ D19จ้าพ่อคลับเอฟ.. นั่งจิบ Pintoresco Tempranillo de Espana 2002 (ของตัวอย่าง)แก้เซ็งอยู่เหมือนกัน.. ไวน์ชนิดนี้นี่นะ ต้องใช้เวลากับมันสักหน่อยนึง ประเภทว่าจิบไปพิมพ์หนังสือไป พอใกล้ๆจะหมดแก้วถึงจะอร่อย.. ความที่มันเป็นสีทับทิมใส รสชาติออกแนวปีโนต์ นัวร์ จนมีหลายคนเคยสงสัยว่า องุ่นสายพันธ์นี้มันจะเป็นญาติกันหรือเปล่า..แต่..ยังไม่มีใครสนใจที่จะตรวจสอบ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 1 พ.ย. 49 12:49:17 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขนาดบอร์คโดซ์ยังไม่อ่อนข้อต่อพระราชกฤษฏีกาฉบับ 1731 เลย..แล้วไฉนชาวไวน์ที่อยู่ไกลโพ้นอย่าง Alsace จะมาฟังหรือปฏิบัติตามเล่า.. เพราะพวกเขาเพิ่งผ่านสงครามสามสิบปีที่แสนจะลำบากยากเข็ญ อดไวน์ไม่ใช่อดมื้อกินมื้อเสียเมื่อไหร่ มันอดแบบไม่มีกินสักมื้อเลยทีเดียว พอสงครามสงบ..หนอย..จะมาให้ตัดองุ่นทิ้ง ห้ามขยายการปลูก...เชอะ..ฝันไปเหอะ.. ว่าแล้ว..ชาวอัลเซเชี่ยน ก็ตั้งหน้าตั้งตาปลูกองุ่นกันจ้าละหวั่น..เมื่อใครต่อใครแย่งกันปลูกมากๆเข้า ปัญหาที่ตามมาคือ..ไม้ที่จะนำมาทำถังไวน์มันจะหมดป่าไปซะก่อน ดังนั้น..รัฐบาลจึงต้องรีบออกกฏหมายคุ้มครองป่าโอ๊คขึ้นมาอีกฉบับอย่างเร่งด่วน.. การปลูกองุ่นได้กระจายออกไปทั่วทุกเขตที่สามารถจะปลูกได้.. จนไปถึงปี 1767 ที่กาลวิบัติ ภัยธรรมชาติได้มาเยือนต่อไวน์ฝรั่งเศสชนิดยาวนานถึง 12 ปี (ถึง 1778) สี่ปีแรกนั้นถือว่าแย่.. ตามด้วยอีกแปดปี ที่แย่กว่า.. มีบันทึกไห้เห็น ของปี 1771 จากท่านคหบดีไวน์ท่านหนึ่งว่า.."องุ่นปลูกแทบไม่ได้ เพราะอากาศที่หนาวจนเกินขนาด แล้วยังตามมาด้วยฝนที่ตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา.. พอมาถึงหน้าร้อน เดือนกรกฏาคมก็แห้งจนแย่กันไปหมด" หลายต่อหลายคนที่ต้องทำไวน์ออกมาทั้งๆที่องุ่นยังอ่อนๆ หรือไม่ก็เก็บมาทั้งๆที่ยังเป็นน้ำแข็งเกาะ บางคนถึงกับเอา กากองุ่นของปีที่แล้วมาผสมแช่ให้ไวน์ข้นขึ้น มีรสชาติเป็นไวน์มากขึ้น เมื่อซัพพลายมีจำนวนน้อยลง..ดีมานด์ก็ย่อมสูงขึ้นเป็นธรรมดา ไวน์กลายเป็นของมีค่าราคาแพงยิ่งกว่าทองคำ ประชาชนอดอยากกันถ้วนหน้า..ความกดดันได้ยิ่งทวีคูณขึ้น.. จนถึงการปฏิวัติครั้งใหญ่ 1789 ที่ประชาชนลุกฮือขึ้นมา เพราะความที่ต้องการการอยู่ดีกินดี และเพื่อที่จะได้รับสิทธิในที่ทางทำมาหากินกันบ้าง..ไม่ใช่คิดอะไรไม่ออกก็ หาทางแต่จะรีดภาษี.. จากคุณ : WIWANDA - [ 1 พ.ย. 49 13:37:51 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ในช่วงต้นๆของศตวรรษื้ 18 นี้เอง ที่มีจุดผันเปลี่ยนไปในการบริโภคไวน์ เพราะเนื่องจาก ประชาชนชาวมีอันจะกิน หันไปสนใจการดื่มกาแฟกันมากขึ้น สถิติได้ชี้ให้เห็นว่า ในยุโรปใช้กาแฟจากปีละสองล้านปอนด์ ขยับขึ้นมาเป็น 120 ล้านปอนด์(เท่ากับ 55 ล้านกิโลกรัม) การดื่มช๊อคโกแล๊ต พุ่งขึ้นจาก สองล้านปอนด์ ไปถึง สิบสามล้านปอนด์ การดื่มชา..จากหนึ่งล้านปอนด์..มาเป็น สี่สิบล้านปอนด์ การเพิ่มขึ้นนี้..เป็นการบริโภคอย่างฟุ่ยเฟือยของเหล่าผู้มีอันจะกิน หาได้เกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของประชากรไม่.. จากนั้นไม่นาน..ก็เกิดมีนวัตกรรมเครื่องบริโภคเพิ่มขึ้นมาใหม่ นั่นคือ น้ำตาล..จาก เวสต์อินดี้ส์ ที่เปิดตัวปั๊บ.. ยอดขายก็พุ่งทะลุปรี๊ด..เพราะ น้ำตาลได้เข้ามามีส่วนทำให้เครื่องดื่มต่างๆที่กำลังนิยมนั้น..เอร็ดอร่อยขึ้นราวกับ ปาฏิหารย์ ไม่ว่าจะเติมลงในกาแฟ ชา หรือ ช๊อคโกแล๊ต.. ทีนี้..ทุกคนเริ่มติดกับการกินรสหวาน.. มีบันทึกไว้ว่า.. "ผู้คนดื่มไวน์กันจนติดนิสัย หลายคนชอบผสมน้ำตาลลงไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลก แต่ก็เป็นเพราะชาวอังกฤษได้เปลี่ยนรสนิยมในการกินไปอย่างสิ้นเชิง" ไวน์คลาเร็ตที่คนอังกฤษที่เคยชื่นชอบ บัดนี้เมื่อมันได้ถูกนำมาเปรียบเทียบกับ เหล้าพอร์ตจากโปรตุเกส กาแฟ ชา..และ ชอคโกแล๊ต ทำให้มันกลายเป็นจืดชืดราวกับน้ำเปล่า.. และนี่คือสาเหตุที่ผู้บริโภคได้เริ่มหันมามองหาไวน์มีรสชาติ"เข้มข้น" กว่าที่มีอยู่.. จากคุณ : WIWANDA - [ 1 พ.ย. 49 14:05:54 ]

ความคิดเห็นที่ 7 กระทู้ที่แล้วมันไม่ขึ้นว่าแตกประเด็นเป็นกระทู้ใหม่แล้ว กลัวว่าจะดมกลิ่นตามกันมาไม่ถูกหนะครับ จากคุณ : D19 - [ 1 พ.ย. 49 20:06:14 ]

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีครับ ทุกๆท่าน เมื่อวานได้ไปทานไวน์มากับกลุ่ม DLDB สนุกมาก อร่อยมาก อิ่มมาก อบอุ่นมาก เคยทาน sparkling เมื่อ เกือบ 10 ปีที่แล้ว จากสมนาคุณจาก ผับแห่งหนึ่ง ยังจำได้ถึงวันนี้ รสชาติห่วยมาก (ของฟรีจะเอาอะไรมาก) แต่ บัดnow ความคิดได้เปลี่ยนไปแล้ว อร่อยมากๆ จากคุณ : sparkling spark memory (jearjear) - [ 1 พ.ย. 49 21:35:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตามมาเจอจนได้ครับ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 1 พ.ย. 49 22:07:01 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ...สมุดโน๊ตเล่มเล็กๆ...ขนมปังจืด...น้ำหนึ่งขวด... พร้อมแล้วครับ สำหรับงาน Wine For Asia พรุ่งนี้... Ps ..หลงไปกระทู้เก่าเหมือนกัน.. จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 1 พ.ย. 49 23:01:18 ]

ความคิดเห็นที่ 11 Good evening. I found you krup. DP :) จากคุณ : DP (DP Wine) - [ 2 พ.ย. 49 01:58:30 ]

ความคิดเห็นที่ 12 วานนี้นึกว่า ทุกคนนัดไปเจอกันนอกจอ ร้อ รอ ไม่กล้าโพสท์ เพิ่งเจอเช้านี้เองค่ะ น่าสนใจค่ะ คุณวิ เพราะ นึกถึงการทำแพลนเทชั่นไร่อ้อยที่ เลเบอร์อินเทนสิฟมากๆ แต่ใช้แรงงานทาสที่ค้าขายข้ามแอทแลนติคอยู่ ไม่ทราบการทำไร่องุ่นและไวน์ต้องมีคนงานมากอย่างนั้นไหมคะ (ถ้าเคยคุยเเล้ว ข้ามได้เลยค่ะ เพราะยังไม่ได้ตามอ่านเลยค่ะ) จากคุณ : nijja - [ 2 พ.ย. 49 07:48:32 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณ พ่อหมี Polar Bear คะ.. พี่เข้าไปดูในเวบของ WFA แล้ว..เห็นทีว่าน้ำขวดเดียวกับขนมปังครึ่งแถวนั่น..คงไม่พอแล้วละค่ะ คงต้องยกไปทั้งลัง.. แต่แปลกใจจัง ที่ไม่เห็นรายการของไวน์ไทยเลย ถ้าไม่ไป..ก็เสียดายโอกาส เราน่าจะยึดฐานตรงนี้ให้มั่นในฐานะที่เราเป็นหนึ่งของไวน์เอเซียเข้าไว้.. ที่น่าสนใจกว่าอื่นใด..คือ ภาพอันแสนหวานที่ตั้งบนโต๊ะน่ะค่ะ .................................... คุณ Master_Indy คะ ช่วยเข้าไปดูที่หลังไมค์ด้วยค่ะ มีข้อความถึงคุณ.. .................................... คุณวิโรจคะ เอ..พี่จำได้ว่า..ไวน์ไทยเข้าไปร่วมใน VinExpo ด้วยนี่นา..ความคืบหน้าเป็นอย่างไร มีข่าวคราวบ้างไหมคะ? ................................ คุณนิดคะ.. คนงานในไร่อ้อย กับ ไร่องุ่นนั้น เป็นคนละแคลิเบอร์ค่ะ ไร่อ้อย..เอากำลังกายเข้าหักหาญเข้าว่า.. ไร่องุ่น..คนงานจะต้องมีประสบการณ์และรู้จักองุ่นราวกับลูกของตัวเอง การปลูกต้องคอยตรวจดิน ตรวจต้นและใบ คอยดัด คอยริดใบไม่ให้บังผล ยิ่งตอนเก็บ..ต้องเบามือ สายตาต้องไว..อันไหนยังไม่สุกเต็มที่ ทำเครื่องหมายไว้.. ไปเก็บผลพวงที่สุกก่อน.. จำนวนเท่ากันไหม..แล้วแต่ขนาดของไร่ค่ะ.. ไร่องุ่นที่ใหญ่ยักษ์แบบมอนดาวี..เขาใช้เครื่องเก็บ.. ขนาดเล็กแบบว่าไม่ถึงร้อยเอเคอร์ มีคนงานชุดเดียว เพราะองุ่นแต่ละพันธ์...สุกไม่พร้อมกัน..ตามเก็บกันไป ตั้งแต่กลางกันยา..จนถึงกลางตุลา.. จากคุณ : WIWANDA - [ 2 พ.ย. 49 08:29:43 ]

ความคิดเห็นที่ 14 พอตลาดอังกฤษได้เปลี่ยนรสนิยมการกินไวน์แบบกระทันหันนั้น..ทำให้ฝรั่งเศสกลับตัวไม่ทัน.. เพราะไวน์ไม่ใช่เต้าทึง... ที่จะมาเปลี่ยนปุบปับได้ดังใจ.. ดังนั้น..ไวน์ที่พอสนองความต้องการของชาวผู้ดีได้ นั้นก็คือ ไวน์จากโปรตุเกส ที่ได้เข้ามาสำแดงเดชตั้งแต่ครั้ง ศตวรรษที่แล้ว..ยามเมื่ออังกฤษได้ตัดสัมพันธ์ทางการค้า กับฝรั่งเศสในครั้งนั้น ครั้งนี้คือ 1703 ที่ไวน์จากโปรตุเกสได้เข้ามามีบทบาท เพราะความมีชื่อเสียงของความเข้มข้น(กว่า) โปรตุเกสรีบจับอังกฤษมัดมือชก เพราะไม่ไว้ใจในนโยบายทางการค้าแบบลักกะปิดลักกะเปิด..โดยการเซ็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ที่เรียกว่า The Methuen Treaty ที่มุ่งเฉพาะการเก็บภาษีการท่า ว่า.. อังกฤษจะเก็บภาษีสินค้าโปรตุเกสได้..แต่ต้องไม่เกินจำนวนของ 2/3 ของจำนวนที่เก็บกับฝรั่งเศส ดังตัวอย่าง..ภาษีไวน์โปรตุเกส (ปี 1713) เสียถังจะ 7 ปอนด์ ฝรั่งเศส เสียภาษี ถังละ 20 ปอนด์.. ส่วนที่อังกฤษจะได้กลับคืนนั้นจิ๊บจ้อย เพียงแค่ โปรตุเกสสัญญาว่าจะซื้อผลิตภัณฑ์สิ่งทอเป็นการตอบแทน แต่..สนธิสัญญาแมทธวน ฉบับนี้..หมายถึงเป็นการเขี่ยไวน์ฝรั่งเศสได้กระเด็นออกไปจากแผ่นดินของบริเตน.. ในทางอ้อม.. จากคุณ : WIWANDA - [ 2 พ.ย. 49 09:11:06 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เพราะตลาดการค้าได้เปิดกว้างให้กับโปรตุเกสแล้วนั้น สินค้าที่ขึ้นชื่อและโด่งดัง คือ Port ก็เข้ามาเป็นสินค้าฮ๊อตฮิตติดอันดับขึ้นมาทันที เพราะมีทุกอย่างที่ชาวอังกฤษต้องการ..เข้มข้น.. หวาน..และ แก่ดีกรี.. พอร์ตชั้นดีจาก Douro ผลิตส่งออกขายไม่ทัน..ในที่สุด เมื่อความต้องการมีมาก..การย้อมแมวขายก็ได้เกิดขึ้น นั่นคือ การผสมแบบจับแกะชนแกะ เติมน้ำตาล เติม elderberry กันให้มั่วไปหมด.. จนรัฐบาลโปรตุกีส เริ่มร้อนรนทนไม่ไหว เพราะใครก็ไม่อยากให้ลูกค้าอย่างอังกฤษเกิดความไม่พอใจ.. จึงได้จัดทำองค์กรควบคุมขึ้นมา..เข้าไปดูแลในพื้นที่ของ โดโร..โดยเฉพาะ สิ่งแรกที่องค์กรได้เข้ามาควบคุม คือ การจำกัดบริเวณของการปลูกองุ่นในพื้นที่ของโดโร..ว่า..ตรงไหนคือ ไร่ในพื้นที่..ตรงไหนไม่ใช่.. และนี่คือ..ครั้งแรกและครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ไวน์ ที่มีการขีดคั่นพื้นที่ของการทำไวน์(ให้เล็กลง) องค์กรได้เข้ามาดูแลในเรื่องของการปรับปรุงคุณภาพไวน์ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มปลูกไปจนถึงส่งขึ้นเรือไปขาย เท่านั้นไม่พอ..องค์กรยังจัดการถอนต้น elderberry ทิ้งจนไม่เหลือซากให้เห็น.. (แต่ในเรื่องนี้..ก็เป็นเรื่องขำ เพราะ ลูกเอลเดอร์เบอร์รี่แห้งๆ ก็สามารถนำมาใช้ได้ดีเช่นกัน ในการที่จะทำให้ไวน์สีเข้มขึ้น) ในปี 1770 จนถึง 1799 พอร์ตได้ขายดีอย่างเทน้ำเทท่าในอังกฤษ จาก สองแสน เฮคโตลิตเตอร์ มาเป็นเหยียบ ห้าแสน..ต่อปี ทั้งๆที่ ประชากรชาวผู้ดีมีเพียงเก้าล้านคน.. จากคุณ : WIWANDA - [ 2 พ.ย. 49 09:37:30 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตามมาจนเจอคับ พ่อหมี มีไวน์ต้วเด็ดๆนำมาเล่าสู่กันฟังบ้างน่ะคับผม จากคุณ : จาไปเขาใหญ่ (Nic Nenin) - [ 2 พ.ย. 49 11:14:02 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เข้าใจแล้วค่ะ คุณวิ ขอบคุณ นี่เพิ่งจะไปคลิกตอนที่หนึ่งอ่านค่ะ จะได้ไม่เสี่ยงถามอะไรเชยๆ ยังคิดว่าไม่ทราบเมืองไทยมีที่ให้เรียนเรื่องไวน์ได้ที่ไหนบ้าง เวลาคุณวิมา ก็เปิดเป็น อินเทนสิฟคอส ได้นะคะ คิดว่าคนหนุ่มสาวอยากเรียนตรึม เอ่อ .... แก่ๆ (คนสูงวัย)ที่อยากเรียน ก็อาจจะมีมากกว่าที่คิดก็ได้ค่ะ อิ อิ บนเขาใหญ่น่าจะมีหลาย ไวเนอรี่เลยนะคะ .... บรรยากาศ น่าจะดี .... จากคุณ : จาได้ไปมั่ง (nijja) - [ 2 พ.ย. 49 14:10:20 ]

ความคิดเห็นที่ 18 แหม..คุณนิดก็ว่าไปโน่น..ถามอะไรก็ได้ไม่เชยหรอกค่ะ เพราะบางอย่างและหลายๆอย่างในเรื่องไวน์นั้น คนมักไม่เข้าใจจริงๆ ดิฉันได้คุยกับเพื่อนหลายๆคนในธุรกิจนี้ ต่างพากันเป็นห่วงเรื่องกฏหมายแรงงานฉบับใหม่ของอเมริกา เกี่ยวกับต่างด้าว..เพราะตอนนี้คนงานในไร่องุ่นที่เก่งๆ ล้วนแต่เป็นพวกเม๊กซิกัน..ถ้าคุมเข้มมากๆ พวกเขาต้องถูกส่งกลับไป กว่าจะหา..หรือฝึกขึ้นมาแทนกันใหม่..คงยากเย็นแสนเข็ญพิลึก การเรียนเรื่องไวน์ที่ดีที่สุด ต้องมีวัตถุดิบหลายอย่างประกอบกัน เช่น ตำรา..หนังสือประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวพัน.. ไวน์..เพื่อนฝูงที่มีรสนิยมเดียวกันมารวมตัวกัน แบ่งปันประสบการณ์ ..เวลา.. ทั้งหมดนี่..คือหน้าที่ของบริษัทขายไวน์ที่จะต้องจัดชมรม ให้ความรู้..พร้อมวิทยากร แก่ประชาชนผู้สนใจทั่วไป เชื่อว่า แม้จะมีค่าใช้จ่ายบ้าง..ก็คงไม่มีใครรังเกียจรังงอน.. จากคุณ : WIWANDA - [ 3 พ.ย. 49 07:49:35 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขณะที่พอร์ตและเหล้าต่างๆกำลังทำชื่อเสียงเป็นที่นิยมอยู่ในอังกฤษนั้น.. ฝรั่งเศสไม่มีแรงกดดันในเรื่องที่ต้องรีบผลิตไวน์และรีบส่งไปขายอย่างแต่ก่อน..มีเวลาพักจนเกิดสติปัญญา หันมาพัฒนาไร่องุ่นอย่างเอาจริงเอาจัง..ดังที่เราทราบว่าพื้นฐานของคนฝรั่งเศสเป็นคนประณีต รวมทั้งเรื่องไวน์ ที่ วิกฤติคราวนี้ ได้เป็นการระดมสมองของเหล่าผู้เชี่ยวชาญต่างๆให้มารวมตัวกัน..ที่มีทั้ง นักวิทยาศาสตร์ นักพฤกษาศาสตร์ นักเกษตรศาสตร์ นักธรณีวิทยาฯลฯ ซึ่งทั้งหมดได้จับมือกันเขียนตำราแม่บทเอาไว้จนเป็นมาตรฐานสำหรับการสอนเกี่ยวกับการทำไวน์ให้แก่ชนรุ่นหลัง..ไว้ที่.. The Academy of Bordeaux ในปี 1756 ที่เบอร์กันดี..ที่ The Academy of Dijon ก็ได้ริเริ่มทำอย่างเดียวกัน...ในปี 1777 ตามตำราที่ว่าหมายถึงการใช้องุ่นพันธ์ดี รากต้นแข็งแรง และเก็บเมื่อองุ่นสุกจัด การหมักอย่างพิถีพิถัน ทั้งในถัง จนถึงการนำลงบรรจุขวด คนที่จะทำได้เยี่ยงนี้..คือไร่ไวน์ที่มีทุนหนา และบารมี(เพราะยังไงก็ขายได้ตามราคาที่ต้องการ) ซึ่งมีเพียงไม่กี่เจ้า..ตามรายชื่อดังนี้.. 1. Haut-Brion 2.Lafite 3.Latour 4.Margaux เพราะสี่เจ้าที่มาว่านี้..คงคุณภาพยอดเยี่ยม..เหนือกว่าไวน์ของโปรตุเกส หรือ สเปน..ถึงแม้ว่าจะโดนพิษของ สนธิสัญญาแมทธวน ก็ยังเป็นที่ต้องการของตลาดผู้ดีอังกฤษ จากคุณ : WIWANDA - [ 3 พ.ย. 49 08:21:02 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ในยามนั้น ..ไวน์แพงๆที่ว่านี้ ได้ทำการส่งอออกขายในรูปแบบของการบรรจุขวดแล้ว..สำหรับในประเทศ แต่สำหรับการส่งออก ตามกฏหมายของอังกฤษที่ห้ามรูปห่อทุกชนิด ยกเว้นในถัง.. ดังนั้นไวน์ที่มาจากเยอรมัน โดยการนำเข้าของดัทช์จึงต้องใช้วิธีรมถังด้วยสาร sulphur เผาใหม้ เพื่อป้องกันการบูด หรือการที่รีบนำไวน์ออกจากถังหมัก(ที่มีกาก) แล้วรีบกรองด้วยใข่ขาว หรือ กระเพาะปลา (ไอซิงกลาส -isinglass) .....ไอซิงกลาสนี้ เป็นวิธีที่ทำมาแต่โบราณ โดยการนำ กระเพาะปลาสเตอร์เจียน(แห้ง) ที่จะกลายเป็นแผ่นเหนียวหนืดยามที่เปียกน้ำ ใช้ในการกรอง ดูดซับตะกอนในไวน์หรือเบียร์ได้..... หรือ..ผสมบรั่นดีลงไปในไวน์เพื่อเพิ่มแอลกอฮอลและ สามารถกันเสียไปได้อีกวิธีหนึ่ง.. และมาถึงในยุคนี้..ได้มีวิธีใหม่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง..คือการเติมสารตะกั่ว (หรือ lead acetate =PbC4H6O4·3H2O) ลงไปในไวน์.. เรื่องการเติมสารตะกั่วลงไปในไวน์นั้นได้ทำกันมาตั้งแต่ยุคโรมัน ครั้งจูเลียส ซีซ่าร์ แล้ว..ไม่ใช่เรื่องใหม่.. นักวิชาการเคยวิเคราะห์ไว้ด้วยว่า..การใช่สารตะกั่วอย่างฟุ่นเฟือยในยุ๕โรมันนั่น อาจเป้นสาเหตุหนึ่งของโรคภัยใข้เจ็บที่ทำให้อาณาจักรถึงกับต้องล่มสลายไป.. เพราะ อย่างเบาๆก็คือทำให้ชายเป็นหมัน..อย่างจักรพรรดิ์ ที่ครองบัลลังค์ต่อมาจาก จูเลียส..คือ Caesar Augustus ก็เป็นหมันอย่างเรียบร้อย ไม่มีรัชทายาทสืบต่อ.. ในอเมริกา..ทุกวันนี้..นักชิมไวน์ก็ตื่นตัวพอสมควร.. กับเรื่องนี้..ดังข้อความนี้..(ขอให้อ่านดีๆนะคะ นายแพทย์เป็นคนตอบ) .................................. Patrick J. Bird, Ph.D. Keeping Fit Column 238 1991 Q. At a dinner the other night, one of the health nuts in the group said that the Government has been finding lead in wines. Is this true? A. Not exactly. The U.S. Food and Drug Administration (FDA) recently reported that 3 to 4 percent of table wines the agency had tested contained more than 300 parts per billion (ppb) of lead. This is a level that is high enough to be a health hazard, particularly for pregnant women. Even minute amounts of lead can impair an unborn child's mental capacity. But the problem is not the wine itself, thank goodness. It's the lead foil that helps to keep the bottle air tight and prevents the cork from being infested by insects and molds. Apparently, when the bottle is opened, lead salt deposits are left on the rim. These dissolve into the wine as it is poured. But the FDA says you can easily avoid this by peeling all the lead from the top and neck of the bottle and only then removing the cork. Then wipe the rim of the bottle and cork with a damp cloth or with a cloth moistened with a touch of vinegar or lemon juice before you pour the wine. While we're on the subject, don't store wine or other spirits in crystal decanters. Over time the lead from the crystal can bleed into the wine. Drinking out of crystal glasses is okay, however, since the liquor normally does not stand long enough in the glass to become contaminated with lead. จากคุณ : WIWANDA - [ 3 พ.ย. 49 09:24:09 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อ้อ..ลืมรูปของ Isinglass กระเพาะปลาสเตอร์เจียนแห้ง จากคุณ : WIWANDA - [ 3 พ.ย. 49 10:30:32 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เพราะการใช้สารตะกั่วในไวน์นั้น..คือวัตถุประสงค์ในการที่ทำให้รสชาติของไวน์หวานขึ้น..จึงใช้กันแพร่หลาย.. อย่างหลักฐานในตำราการทำไวน์(ของอังกฤษ) ได้มี สูตรเขียนส่วนผสมอันหนึ่งว่า "a pound of melted lead in fair water" จนต่อมา..ผู้คนเริ่มผิดสังเกตกับอาการป่วยไข้ของตัวเอง ที่เป็นเหมือนๆกัน นั่นคือ อาการจุกเสียด ท้องเฟ้อ ที่เป็นกันกว้างขวางในเขตของ Devon (ทางใต้ของอังกฤษ) จนเรียกกันว่า.. Devonshire colic เนื่องจากเขตนี้ได้ผลิตไซเดอร์ ที่ใช้สารตะกั่วผสม.. หรือที่ฝรั่งเศส คือ ที่ Poitou (ใกล้กับ ลวาร์ แวลลี่ย์) เรียกว่า Poitou colic อาการจุกเสียดที่ว่านี้..คือ อาการที่เริ่มต้น.. ต่อด้วยการปวดท้อง ท้องผูก และเมื่อได้รับสารมากๆเข้า..อาการเป็นพิษที่จะตามมานั่นคือ สมองไม่สามารถควบคุมการใช้มือและเท้าได้ จนถึงกับเป็นอัมพาตในที่สุด ดังในปี 1750 ที่รัฐบาลในกรุงปารีสได้พบว่า มีไวน์ในตลาดที่เตรียมส่งออกขาย..เสียถึง 8 ล้านลิตร นับว่าเป็นจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ จึงได้ทำการตรวจสอบ พบว่า..ไวน์ทั้งหมดนั่น มีการใช้สารตะกั่วกันอย่างมากมาย เพื่อเป็นการปรุงรส.. ในปลายศษวรรษที่ 17 นายแพทย์ชาวเยอรมัน นามว่า Gockel ได้เป็นผู้ค้นพบว่า สาเหตุอาการป่วยนั้นมาจาก สารตะกั่วที่ใช้ในเครื่องบริโภคทั้งหลายแหล่นั่นเอง จากคุณ : WIWANDA - [ 3 พ.ย. 49 11:01:17 ]

ความคิดเห็นที่ 23 สารตะกั่ว น่ากลัวจังนะคะ .... ยังไม่คุยค่ะ วันนี้ตั้งใจ จะอ่านให้จบตอนที่สาม ขณะนี้ฟังอภิปรายอยู่ค่ะ พูดดีทุกคนเลย ...... จากคุณ : nijja - [ 3 พ.ย. 49 11:33:03 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ...ผมเพิ่งกลับมาจากเยี่ยมชมและชิมไวน์ที่ "แม่จันไวน์เนอรี่"...เชียงราย ...ร่วมกับ Denis Gastin และสมาคมผู้ผลิตไวน์ไทยและสื่อมวลชน ...มีมุมมองหลายอย่างจะเล่าให้ฟัง ...ขอพักผ่อนก่อน...เพราะยังมี Wine Dinner ค่ำนี้ที่กรุงเทพฯ ...แล้วพรุ่งนี้จะตื่นมาเล่าให้ฟังแต่เช้า จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 3 พ.ย. 49 13:44:08 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เจ้าสารตะกั่วยังมีหลงเหลือในไวน์ยุคปัจจุบันหรือเปล่าคับ ผมว่าไวน์สมัยนี้ร้อยล่ะ20-30 แทนที่จะทานแล้วมีประโยชน์กับมีโทษเหมือนกันถ้าไม่รู้จักเลือกทาน จากคุณ : ชอบไวน์ รักไวน์ (Nic Nenin) - [ 3 พ.ย. 49 13:52:07 ]

ความคิดเห็นที่ 26 พี่หวานขา นกแว่บไปชิมไวน์ตอนมิคกี้เรียนว่ายน้ำ (อยู่ตึกเดียวกันน่ะค่ะ) ได้ไวน์ออสเตรเลียมา 4 ขวด (ชีราส 2, เกรนาช+ชีราส 2) และชิลี 2 ขวด (ชาดอนเน) เที่ยวนี้มีไวน์ฝรั่งเศสให้ชิมเยอะแต่ไม่ชอบซักขวดค่ะ เทสติ้งโน้ตที่พี่หวานสั่งมา แหะๆ ทำไม่ได้ค่ะ จดมาแค่ 2 ช่อง 1. ชอบ 2. ไม่ชอบ อิอิ ไม่ได้กวนนะคะ บอกไม่ได้จริงๆ เพราะไม่ทราบกลิ่นอะไรมั่งค่ะ ชิมเสร็จหัวทิ่มกลับบ้าน อดไปปาตี้ฉลองถ้วยไซเบอร์คัพเลยค่ะ ขับรถไม่ไหว ขอจุ๊บแก้มพี่หวานสามทีก่อนไปนอน จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 3 พ.ย. 49 22:36:08 ]

ความคิดเห็นที่ 27 Dear P Wi, Do you know any reliable person that is willing to carry wine (and other gifts) back from the US? I want to order some wine there, but none of my friends are coming back any time soon. So, if anyone has an address in US that I can ship my wine to, and he or she is willing to carry the wine back on the airplane, I'm willing to pay a reasonable price. Many thanks krup, DP จากคุณ : DP Wine - [ 4 พ.ย. 49 01:12:51 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ...ตื่นแล้วครับ นี่ครับ แม่จันไวนเนอรี จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 4 พ.ย. 49 10:18:42 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ดู...แผ่นที่ไปก่อนครับ ....ขอตัวไปอาบน้ำก่อน จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 4 พ.ย. 49 10:20:33 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ...แม่จันไวน์เนอรี ตั้งบนเนื้อที่ประมาณ 80 ไร่ ...ของอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ...ไปตามถนนสายเอเชียที่มุ่งหน้าสู่แม่สาย ...เราต้องข้ามอ่างเก็บน้ำแม่เปิน..ที่เงียบสงบ ...ก่อนจะเข้าสู่ไร่ไวน์ที่แสนโรแมนติก จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 4 พ.ย. 49 10:59:56 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ว้าว อยู่ริมอ่างเก็บน้ำเรยเหรอคับ แหมถ้ามีบ้านเล็กซักหลังสุดยอดดดด ไปเขาใหญ่ก่อนคับแล้วกลับมาอ่านคับผม จากคุณ : ไปเขาใหญ่ (Nic Nenin) - [ 4 พ.ย. 49 11:15:49 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สภาพภูมิประเทศโดยรอบจะเป็นเนินเขาเล็กๆ แบบนี้ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 4 พ.ย. 49 11:16:59 ]

ความคิดเห็นที่ 33 แล้วก็มีการปลูกไร่ชา...กว้างใหญ่ไพศาล จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 4 พ.ย. 49 11:20:06 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ...บนความสูง 450 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ...ไร่องุ่นที่นี่ปลูกองุ่นสายพันธุ์ Shiraz เป็นหลัก ...โดยปลูกองุ่นตามเนินเล็กๆ ไล่ตาม Slope จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 4 พ.ย. 49 11:25:11 ]

ความคิดเห็นที่ 35 เนินลูกเล็กๆ แบบนี้ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 4 พ.ย. 49 11:27:31 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ...แบบนี้ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 4 พ.ย. 49 11:30:46 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ...และแบบนี้ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 4 พ.ย. 49 11:31:53 ]

ความคิดเห็นที่ 38 WOW ..... สวยมากเลยค่ะ น่าขับรถไปเที่ยวจัง จากคุณ : nijja - [ 4 พ.ย. 49 11:35:10 ]

ความคิดเห็นที่ 39 นี่คือโรงหมักบ่ม...รูปทรงแปลกตา จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 4 พ.ย. 49 11:35:43 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ...สภาพภายในโรงหมักบ่ม...ที่อลังการล้ำเหลือ ...ดูแปลกตายิ่ง...ด้วย Insulation เคลือบบุโครงหลังคา จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 4 พ.ย. 49 11:43:23 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ...แม่จันไวน์เนอรี่ง..ใช้ถังซิเมนต์หมักแบบระบบเปิด ...วางระบบโดย Winemaker ชาวฝรั่งเศส ...ที่เป็นคนเดียวกับที่ทำให้ชาโตเดอเลย ...ซึ่งเพิ่งจะลาออกไป และได้ Winemaker คนใหม่ ...เป็นชาวเยอรมัน จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 4 พ.ย. 49 11:49:08 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ที่นี่ใช้ถังบ่มเป็นโอ๊กเก่า...มือสองจากฝรั่งเศส จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 4 พ.ย. 49 11:54:37 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ...จนสุดท้ายได้มาเป็นไวน์ในรูปนี้ ...นี่คือ Napa Mieng 2002 ซึ่งเป็นวินเทจสุดท้ายในชื่อนี้ ...ต่อไปจะเป็น Mae Chan Winery นับแต่วินเทจ 2004 จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 4 พ.ย. 49 12:30:39 ]

ความคิดเห็นที่ 44 ...ที่ชื่อว่า Napa Mieng ผมได้รับคำชี้แจงว่า... ...มาจากคำว่า "ณ ป่าเมี่ยง" ครับ ...และตรงใจกลาง Logo เป็นรูปหยินหยาง ...พอตวัดหางขึ้นข้างบน จึงกลายเป็นเลขมงคล ...หมายเลข ๙ ครับ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 4 พ.ย. 49 12:34:48 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ...มาเข้าเรื่องซีเรียส ...อุณหภูมิที่นี่ใช้ได้ครับ เย็นกลางคืนแดดจ้ากลางวัน ...แต่รูปลักษณ์ของเนินเล็กเนินน้อยที่ชันปานกลางนี้เอง ...ทำให้แปลงองุ่นเปลี่ยนมุมรับแสงแดดไปตามเหลี่ยม Slope ...จึงมีเหลี่ยมมุมบางเหลียมที่ได้แดดลมดีและไม่ดี..สลับกันไป ...แต่ปัญหาใหญ่ของที่นี่อยู่ตรงนี้ครับ ...คือ ผืนไร่ที่ดอยห่มฟ้านี้...มีชั้นดินเป็น Top Soil ล้วนๆ ...ทำให้รากต้นองุ่นแผ่ออกในแนวนอน ...เพราะไม่ต้องดิ้นรนกระเสือกกระสนดิ่งรากลงไปหาอาหารข้างล่าง จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 4 พ.ย. 49 12:48:10 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ...แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ...แม่จันไวน์เนอรี่กำลังปรับปรุงกรรมวิธีการผลิตไปเรื่อยๆ ...ด้วยการเลือกหาแปลงดินใหม่ในที่ละแวกข้างเคียง ...ที่จะปลูกต้นองุ่นมาเสริมและทดแทนให้มีคุณภาพสูงขึ้น จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 4 พ.ย. 49 12:53:13 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ...มาแม่จันครั้งนี้ ก็ขอขอบคุณสมาคมผู้ผลิตไวน์ไทย ...ที่เอื้อเฟื้อความสะดวก...และที่สำคัญยิ่ง ...ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจาก Denis Gastin ...ผู้ชำนาญการและไวน์วิจารณ์ชาวออสซี่...ผู้นี้ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 4 พ.ย. 49 12:57:14 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ดอยห่มฟ้าเป็นรีสอร์ทที่สวยทีเดียวครับ ผ่านมาเชียงรายอย่าลืมแวะมาดูงานพืชสวนโลกที่ชียงใหม่ด้วยนะครับพี่น้อง จากคุณ : tanawee@gmail.com (Master_Indy) - [ 4 พ.ย. 49 21:48:50 ]

ความคิดเห็นที่ 49 คุณ Master_Indy อาการเป็นไงมั่งคะ? ดีขึ้นยังไงบ้างเล่าให้ฟังหน่อยค่ะ วันนี้ไปซื้อแก้ว Riedel มาค่ะ ซื้อแก้ว Borcdeaux กับแก้ว O ค่ะ อยากลองดูว่า ใช้แล้วเป็นไง กลับมาบ้านก็ลองเลย ผล...ให้กลิ่นดีกว่าใบเดิมที่บ้านจริงๆ ค่ะ มันใบใหญ่กว่ามากด้วยค่ะ ใบขวา(ใบเล็ก)คือใบเดิมที่บ้านนะคะ Schott Swiesel คงจะซื้อมาผิดขนาด ส่วน mug ข้างๆ นั้นวางเทียบขนาดค่ะ ใบนี้รักที่สุด ใช้ดื่มกาแฟทุกเช้ามาตั้งแต่ปี 1990 ค่ะ เกือบลืมบอก ช่วงนี้ถ้าซื้อแก้วครบหนึ่งหมื่นเขาแถมกล่องใส่แก้วสำหรับพกไปด้วยค่ะ ไม่มีรูปให้ดูเพราะเขายังไม่มีของให้จนกว่าจะวันจันทร์ค่ะ จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 5 พ.ย. 49 03:13:32 ]

ความคิดเห็นที่ 50 รูปค่ะ ตะกี๊ลืม จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 5 พ.ย. 49 03:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ตอบคุณ DP ก่อนค่ะ ว่า..ยังไม่มีใครกลับไปเลยในช่วงนี้..หลังมกราคมไปอาจจะมีค่ะ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงเดินทางของชาวไกลบ้าน เพราะว่าหลังจากเทศกาลทั้งหลายแหล่.. แต่โดยปรกติ ทุกคนก็แบกสมบัติของตัวเองกันอย่างเพียบหลังแอ่น ต้องรอพวกเพื่อนๆที่เดินทางแบบธุรกิจ ประเภทหิ้วเเล็ปท๊อปตัวเดียว ตอนนี้ก็อีเมล์ไปถามไถ่กันมั่งแล้วละค่ะ..เผื่อว่าจะมีฟลุ๊ค ถ้าได้ใจความยังไงก็จะหลังไมค์ไปบอก จากคุณ : WIWANDA - [ 5 พ.ย. 49 08:20:54 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณคุณวิโรจมากค่ะ ที่นำภาพสวยๆของไร่แม่จัน ไวน์เนอรี่ มาให้ชม..ดูท่าเขามีความตั้งใจในการผลิตดี.. และที่คุณได้บอกมาว่า.. "...แต่ปัญหาใหญ่ของที่นี่อยู่ตรงนี้ครับ ...คือ ผืนไร่ที่ดอยห่มฟ้านี้...มีชั้นดินเป็น Top Soil ล้วนๆ ...ทำให้รากต้นองุ่นแผ่ออกในแนวนอน ...เพราะไม่ต้องดิ้นรนกระเสือกกระสนดิ่งรากลงไปหาอาหารข้างล่าง " ตรงนี้..ก็ย้อนไปถึงตอนตั้งต้นของกระทู้แรกๆที่เขียนไว้นั่นเลย..ที่เราพูดถึงเรื่องความสำคัญของแทร์วาร์ ที่ว่าจะปลูกองุ่นออกมาให้ได้ดีนั้น ไม่ใช่มีเพียง ภูมิอากาศ ภูมิประเทศ แต่มันหมายถึง ประเภทของพื้นดินด้วย..(ที่ลอกเลียนกันไม่ได้) และได้เคยบอกไว้ว่า..ควรจะให้ภาครัฐหันมาสนใจเรื่องนี้อย่างจริงจัง พื้นที่ที่เหมาะสมนั้น เราอาจจะมีอยู่ส่วนไหนของเมืองไทยก็ได้ ถ้าพบว่ามีจริงๆ นั่นหมายถึงรายได้เข้าประเทศอย่างมากมายมหาศาล หรือ..ลองวิจัยปลูกองุ่นในในพื้นดินประเภทร่วนๆอย่างของเรามั่งก็ได้ ว่าพันธ์ไหนจะหมาะ ไม่จำเป็นต้องแห่ตามไปปลูกองุ่น syrah ในเมื่อยังมีพันธ์องุ่นอีกนับหมื่นๆชนิด ที่รอการเปิดตัว.. จำได้ว่าเคยไปลองไวน์(ตระกูลโตคัย) ชื่อว่า szamorodni (ซาโมรอดนี่) จากฮังการี..เป็นไวน์ขาว ดราย..กลิ่นออกแนวเชอร์รี่แห้งๆ นัตตี้หน่อยๆผสมกับกลิ่นหัวกระโหลกของขนมปังแบบเกรียมนิดๆ รสชาติประทับใจมาก และ ซาโมรอดนี่..มีการทำชนิดหวานด้วย แต่ยังไม่เคยลอง.. ยังมีไวน์ที่ทำจากองุ่นพันธ์อื่นๆอีกเยอะแยะ ลองไปดูรายชื่อในไวน์อิตาเลี่ยนดูก็ได้ นับได้เป็นพัน.. ถ้าเราจะไปผลิตตามยักษฺใหญ่..หรืออย่างแค่ ชิลี หรือ อาร์เจนติน่า....ด้วยไวน์อย่างเดียวกัน ก็คงเหนื่อยเอาการ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 5 พ.ย. 49 08:47:00 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ว๊าว..แม่น้องสาวทวีตี้..เธอมาแรง..เอาจริงด้วยแฮะ.. ว่าแต่หมดไปกี่หมื่นแล้วล่ะ..น้องเอ๋ย..??? ........................... คุณ Master_Indy คนเก่ง.. ว่างๆก็ไปดูข้อความในหลังไมค์บ้างนะคะ.. ยังเป็นห่วงเสมอ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 5 พ.ย. 49 08:51:18 ]

ความคิดเห็นที่ 54 "...และได้เคยบอกไว้ว่า..ควรจะให้ภาครัฐหันมาสนใจเรื่องนี้อย่างจริงจัง พื้นที่ที่เหมาะสมนั้น เราอาจจะมีอยู่ส่วนไหนของเมืองไทยก็ได้..." ...พี่วิครับ ...ผมไม่คิดฝันไปไกลถึงปานนั้นกับความพยายามของหน่วยภาครัฐหรอกครับ ...เพราะนับจากวันที่ 3 ธันวาคม นี้ เป็นต้นไป... ...พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของกระทรวงสาธารณสุข ฉบับใหม่ ...ก็จะมีผลบังคับใช้แล้วล่ะครับ ...โดยจะมีมาตรการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท ...ในทุกสื่อทุกรูปแบบ ตลอด 24 ชั่วโมง ...ผู้ประกอบการทุกสาย...หน้ามืดกันไปทั่วหน้าเลยครับ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 5 พ.ย. 49 09:54:11 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ลงชื่อครับ ลาสอบ หนึ่งอาทิดครับ จากคุณ : Natt_ac121 - [ 5 พ.ย. 49 10:22:50 ]

ความคิดเห็นที่ 56 สรุปว่ากฏหมายห้ามโฆษณาเหล้าจะมีผลบังคับใช้จริงๆหรือคะ..ไม่มีการแยกประเภทว่าอ่อนว่าแก่ หรือมีแบ่งเกรด กันเลยเหรอ.. งั้นเราก็คอยดูกันต่อไปว่า ลดโฆษณาแล้วยอดขายจะตกลงมั่งหรือเปล่า..? ......................... หลานแน๊ท..ก็ตั้งใจดูหนังสือสอบนะหลานนะ ขอให้ได้เกรดดีๆ แล้วมาเล่าให้ฟังด้วยล่ะ.. .................. คุณพ่อหมีฯ กลับมาจากสิงคโปร์หรือยางงงง.....?? ส่งเสียงด้วย คุณปีบก็ลาไปจำศีล...คุณนิคไปเขาใหญ่.. ยังไม่กลับเหมือนกัน.. คุณ jearjear พอพ้นจากการกินเจได้เท่านั้นแหละ.. กู่ไม่กลับเลยเชียว.. จากคุณ : WIWANDA - [ 5 พ.ย. 49 10:52:33 ]

ความคิดเห็นที่ 57 กระเป๋าปลิ้นเลยค่ะพี่หวาน ต้องสัญญาตัวเองว่าจะไม่ซื้ออะไรให้ตัวเองไปสามเดือนแม้แต่กิ๊บหนีบผม เงินที่เอามาซื้อแก้วนี้แลกกับเครื่องสำอางยี่ห้อฝรั่งเศสที่เคยใช้ประจำค่ะ แต่นี้ไปคงซื้อได้แต่นีเวีย คิดว่าไม่เป็นไรเพราะยังไงหน้าก็จะเหี่ยวอยู่ดี จริงมั้ยคะ รูปของพี่วิโรจสวยมากค่ะ ดูแล้วเหม่อเลยค่ะ ว่าเมืองไทยหรือนั่น แต่คับข้องใจค่ะ ว่าทำไมเราทำไม่อร่อย สู้เขาไม่ได้ เพราะเป็นคน patriotic มาก เห็นไทยสู้อะไรคนอื่นไม่ได้แล้วหงุดหงิด ขี้อิจฉาน่ะค่ะ ดื่มไวน์นี่ก็คับข้องใจมากๆ ว่ามันของนำเข้าทั้งนั้นเลย เงินก็ ไหล..ไหล..ไหลออกนอกประเทศไป (เครื่องสำอางก็เหมือนกันค่ะ ต้องหาของไทยใช้ หาไม่ได้เดี๋ยวทำเองซะเลย โปรเจ็คแรกดูดเงินตราต่างประเทศ โปรเจ็คนี้จะหยุดเงินไหลออกค่ะ อิอิ) พอได้อ่านข้อความของพี่หวานแล้วก็หายสงสัยค่ะ ว่าทำไมไวน์เรายังสู้เขาไม่ได้ (นกไม่เคยชิมนะคะ ฟังท่านๆ บอกมา ว่าเอาไปอาบดีกว่า) อ่านแล้วถึงบางอ้อ ได้แต่ภาวนาว่า เราจะสู้เขาได้สักวันหนึ่ง พี่หวานทราบมั้ยคะว่า พี่หวานพาคนไปถึงบางอ้อมากี่แสนกี่ล้านเที่ยวแล้ว พี่หวานเป็นหนังสือเล่มโตยิ่งกว่า ..ยิ่งกว่าอะไรดี?? ยิ่งกว่าหนังสือทุกเล่มที่เคยอ่านค่ะ อ่านเท่าไหร่ก็ไม่จบ นกว่าไทยเราก็มีพี่หวานพี่วิโรจ คนไทยคนเก่งนี่ล่ะค่ะ จะเป็นผู้ช่วยผลักดัน ให้ความรู้แก่ผู้ผลิตไวน์ไทยได้ ตอนนี้ก็ซาบซึ้งอยู่นะคะว่า การที่พี่ๆ มาให้ความรู้แก่น้องๆ ที่ต้องข้องเกี่ยวกับไวน์ที่เว็บนี้ ก็เป็นการเพาะบ่มเมล็ดพันธุ์อย่างนึงเหมือนกัน Salute! ค่ะ ฝากความหวังด้วยนะคะ พี่หวานต้องกลับมาแอคถีฟ (แอ๊คและถีบ) ทางนี้บ้างนะคะ (ล่อให้มาอีกแย้ว ก็คิดถึงนี่คะ อิ๊อิ๊) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 5 พ.ย. 49 11:47:34 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เรื่อง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของกระทรวงสาธารณสุข ฉบับใหม่ ในความเห็นของนก ในฐานะผู้บริโภคนะคะ นกไม่ได้ซื้อไวน์เพราะเห็นโฆษณาที่ไหนนะคะ ซื้อเพราะมีคนแนะนำ หรือ ได้ชิมค่ะ ทีนี้ การโฆษณาเรื่องเทศกาลชิมไวน์เป็นครั้งคราว จะอยู่ในกรอบของ พ.ร.บ. นี้ด้วยมั้ยคะพี่วิโรจ? นกเองอ่านดูแล้ว คิดว่า ..อาจจะอยู่นะคะ เพราะว่า อ่านดูในแนวร่างแล้ว เขาบอกว่า... "ห้ามโฆษณาชื่อ หรือเครื่องหมายของบริษัทห้างร้านผู้ผลิต ผู้นำเข้า หรือผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในลักษณะที่อาจทำให้แพร่หลายซึ่งชื่อ หรือเครื่องหมายของบริษัทห้างร้านผู้ผลิต ผู้นำเข้าหรือผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ " (ลิ้งค์ที่นี่ค่ะพี่หวาน) http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02p0104161049 http://www.thaihealth.or.th/news.php?id=788 ก็มีตรงนี้ล่ะค่ะ ที่โดนจังๆ เลย สำหรับผู้บริโภคอย่างนกนะคะ คือจะไม่ได้รับข่าวสาส์นเกี่ยวกับการส่งเสริมการขาย (ชิมไวน์) ค่ะ อีกอย่างนึง คือการจำกัดเวลาซื้อด้วยค่ะ ซื้อไม่ค่อยสะดวก ต้องคอยดูนาฬิกา (แต่ข้อนี้ก็จำกัดอยู่แล้วในปัจจุบัน ไม่ได้มีผลกระทบสำหรับนกเท่าไหร่เลยค่ะ แต่ทั่วไปคงต้องมี) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 5 พ.ย. 49 12:12:42 ]

ความคิดเห็นที่ 59 Dear P Wi, Thank you na krup. I'll stay in tune. จากคุณ : DP (DP Wine) - [ 5 พ.ย. 49 12:28:14 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ".....ทีนี้ การโฆษณาเรื่องเทศกาลชิมไวน์เป็นครั้งคราว จะอยู่ในกรอบของ พ.ร.บ. นี้ด้วยมั้ยคะพี่วิโรจ?....." ...อยู่ครับ ...จะทำอะไรก็ได้ โปรโมทยังไงก็เอา... ...แต่ห้ามเอ่ยชื่อ...ยี่ห้อ...หรือรูปภาพ...เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดสู่สาธารณะ ...คอลัมน์วิจารณ์ไวน์ที่ทำอยู่ก็...ถูกปิดตาย...โดยปริยาย ...สอบถามไปเพื่อหาวิธีแก้ไข...ก็ได้รับคำตอบว่า... "ก้อ...ไปเขียนอย่างอื่นสิคะ" ...นี่กะว่าจะเปลี่ยนไปเขียน "Fish Sauce Tasting" แล้วหล่ะ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 5 พ.ย. 49 12:52:02 ]

ความคิดเห็นที่ 61 อ่านแล้วเป็นแบบเนี้ยค่ะ ชิมน้ำปลา ฮือ น่าจ๋งจ๋าน ทำไงดี จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 5 พ.ย. 49 13:11:07 ]

ความคิดเห็นที่ 62 โอ๊ะ ขออีกคำถามนึงค่ะ ถ้าเขาไม่ให้พี่วิโรจเขียน แล้วหนังสือ Wine Spectator ที่นกซื้อประจำละคะ? เขาก็ห้ามขายหรือเปล่าคะ? จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 5 พ.ย. 49 13:15:15 ]

ความคิดเห็นที่ 63 คุณนก.... อะไรที่มาจากนอก...ไม่เป็นไรครับ ...ไม่ว่าจะโฆษณาในบอลพรีเมียร์หรือหนังสือจากต่างด้าว ...ไม่ห้ามครับ ...ห้ามเฉพาะจากภายในประเทศนี้เท่านั้น ...ก็คุยกันว่า...จะไปเขียนที่ลาว...แล้วส่งเข้ามา ...ลาวจะได้เป็นมหาอำนาจก็คราวนี้ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 5 พ.ย. 49 13:44:46 ]

ความคิดเห็นที่ 64 พรบ.เมืองไทยเป็นอย่างนี้ผมว่า มาจากพวกมือถือสากปากถือศีล เยอะครับ สวัสดีทุกๆท่านครับ ป้าวิผมสงสัยอยู่เรื่องนึง เกี่ยวกับการเก็บไวน์หนะครับ อย่างเมืองไทย เราเก็บไวน์ใน ตู้แช่ไวน์ ที่อุณหภูมิ 13 องศา (ไวน์แดง) แล้วอย่างนี้เมืองนอกเขาเก็บไวน์กันยังไงครับ อย่างพวกไร่ไวน์ หรือ ร้านไวน์ในต่างประเทศแถบยุโรปที่อากาศค่อนข้างจะหนาว ผมอยากรู้ว่า อุณหภูมิ ของเขามีขึ้นลงไหมครับ อย่างเดือนหนาวๆ ไวน์ในห้องเก็บของในไร่ หรือ ในโกดังของร้านไวน์ (อาจจะอยู่ใต้ดิน) เขาต้องมีการควบคุมอุณหภูมิไหมครับ เช่นเปิด ฮีทเตอร์ อะไรอย่างเงี้ยหนะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : อากาศกำลังดี (jearjear) - [ 5 พ.ย. 49 14:24:50 ]

ความคิดเห็นที่ 65 เพิ่งกลับมาเมื่อคืนตอนดึก ครับ... วันนี้เลยนอนตื่นซะสายเลย จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 5 พ.ย. 49 15:10:45 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ไปลอยกระทงก่อนนะคับ... จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 5 พ.ย. 49 18:31:51 ]

ความคิดเห็นที่ 67 พึ่งกลับมาจากเขาใหญ่คับพี่วิและทุกๆท่าน ตอนนี้อากาศเย็นแล้วคับตอนกลางคืนประมา15-16 องศา เหมาะสำหรับทานไวน์สุดๆ ถ้าว่างก็ไปเที่ยวกันน่ะคับขับรถไม่ไกลอากาศดี เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเล่าพร้อมรูปคับ จากคุณ : ลอย ลอย กระทง (Nic Nenin) - [ 5 พ.ย. 49 21:44:11 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ...ข่าวล่าครับ "Robert Parker has hired a little-known British wine writer to present the UK perspective on his website. Neal Martin, whose website wine-journal.com started only three years ago, has achieved a cult following among the wine trade for his off-beat but knowledgeable line on wine.Martin will be joining erobertparker.com before Christmas." จากคุณ : วิโรจ ไวน์ (แดนไตร) - [ 5 พ.ย. 49 21:58:27 ]

ความคิดเห็นที่ 69 รูปภายในงาน Wine For Asia 06 ครับ สถานที่จัดงานก็เหมือน มอเตอร์โชว์บ้านเรา จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 5 พ.ย. 49 22:52:02 ]

ความคิดเห็นที่ 70 ประเทศแรกที่ พวกผมให้ความสนใจครับ... จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 5 พ.ย. 49 23:01:32 ]

ความคิดเห็นที่ 71 คุณภาพ เทียบกับราคา ผมว่า ไวน์ อาเจนติน่า ขึ้นมาสู้กับไวน์ Mass ของชิลี ได้ไม่ยากครับ... Winery แรก Eral Bravo จาก Mendosa จากคุณ : ขวดละ 60 บาท FOB (พ่อหมี Polar Bear) - [ 5 พ.ย. 49 23:10:48 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ไม่ใช่แค่ Malbec เท่านั้นนะครับ ที่ อาเจนติน่าทำไวน์ออกมาได้ดี.. สีของน้ำไวน์ที่เข้มลึก.. กลิ่น ผมไม้สุก เคอเร้นดำ และช๊อกโกแลตที่ชัดเจน บอดี้ปานกลาง แต่แทนนินแน่นและกระชับ จบก็ยาว ไม่ขมไม่หวาน.. ดูราคาพรีเมียม range ของเขาแล้วตกใจจริงๆ ครับ จากคุณ : ถูกมั๊กๆ (พ่อหมี Polar Bear) - [ 5 พ.ย. 49 23:25:13 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เจ้านี่ ทำ Syrah ได้เยี่ยมครับ..   ..กาแฟ วนิลา.. จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 5 พ.ย. 49 23:32:35 ]

ความคิดเห็นที่ 74 Move กันไปที่ประเทศ เพื่อนบ้านบ้าง Vina Carmen... จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 5 พ.ย. 49 23:46:07 ]

ความคิดเห็นที่ 75 จาก Maipo Valley ครับ... จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 5 พ.ย. 49 23:51:51 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ส่วนมากไวน์ชั้นนำจาก ชิลี ก็จะมีบริษัทนำเข้ามาจัดจำหน่ายกันหมดแล้วครับ... ก็เลย จบที่ ตัวนี้ครับ สำหรับ ไวน์ชิลี.. จากคุณ : แจ่มครับ (พ่อหมี Polar Bear) - [ 5 พ.ย. 49 23:57:06 ]

ความคิดเห็นที่ 77 มาดูทางด้านไวน์จีนบ้างครับ... Table ไวน์... Dry red ไวน์ ขอผ่านครับ.. นี่น่าสนใจกว่า คับ....Plum wine... จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 6 พ.ย. 49 00:13:54 ]

ความคิดเห็นที่ 78 Khun Por Mee, Nice picture of K. Dew na krup. Mai mee your picture bang lauy. hehehe จากคุณ : DP Wine - [ 6 พ.ย. 49 00:16:25 ]

ความคิดเห็นที่ 79 ^ ^ ข้างบนนั่นกำลังลุ้นให้ลูกท้อ ออกมาจากขวดครับ... ..หอมชื่นใจ แอลกอฮอ เบาๆที่ 6 เปอร์เซ็นต์.. จากคุณ : แต่หวานไปนิดคับ (พ่อหมี Polar Bear) - [ 6 พ.ย. 49 00:18:13 ]

ความคิดเห็นที่ 80 Dear Khun DP kub.. I guess fat dude pic would be the last thing everybody want to see kub... ha ha :) จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 6 พ.ย. 49 00:25:32 ]

ความคิดเห็นที่ 81 แต่พอขยับ ดีกรีความแรงมาเป็น 12 เปอร์เซนต์ (ขวดซ้าย)... กลับฉุนและ โฉ่งฉ่าง ครับ.. จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 6 พ.ย. 49 00:29:54 ]

ความคิดเห็นที่ 82 This Glass is espacilly for you krub..K'DP จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 6 พ.ย. 49 00:38:40 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ไปนอนแล้วครับ..พรุ่งนี้ค่อยมาต่อไวน์ ออสซี่กับ นิวซีแลนด์ ..ว่าแต่... รูปแยะ กระทู้จะรกมั๊ยคับนี่... จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 6 พ.ย. 49 00:54:21 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ไวน์... กินไม่ได้ ทานไม่ได้ รับประทานก็ไม่ได้ แต่ ดื่มได้ค่า อิอิ ป.ล. ชอบดูรูปค่ะ สนุกดี จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 6 พ.ย. 49 09:29:31 ]

ความคิดเห็นที่ 86 คุณนก... ...พี่น้อยฝากบอกว่า... ไวน์...กินไม่ได้...ทานไม่ได้...รับประทานก็ไม่ได้ แต่...แหลกล่าย...ค่า จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 6 พ.ย. 49 16:44:57 ]

ความคิดเห็นที่ 87 Wowwwww.... Bella's Garden!!!! Yak gin mung jung. DP จากคุณ : DP Wine - [ 6 พ.ย. 49 17:34:43 ]

ความคิดเห็นที่ 88 ps I just post a review of 2003 Mitolo GAM in drinklessdrinkthebest na krup. จากคุณ : DP Wine - [ 6 พ.ย. 49 17:37:25 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ก๊ากกกก.. ถูกของพี่น้อยค่ะ นกพลาดไปจริงๆ จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 6 พ.ย. 49 17:59:51 ]

ความคิดเห็นที่ 90 คุณพ่อหมีครับ งวดนี้คุณดิวตาสว่างแล้วนะครับเพราะไม่ถูกคาดตา ไปสัมมนามาครับสามวันสุดโหดไม่รู้ให้ไปทะเลทำไมเนี่ย อยู่ในห้องสัมมนาทั้งวันเลย แถมยังไม่อนุรักษ์ศิลปะวัณนธรรมไทยอีกต่างหากเพราะไปคร่อมวันลอยกระทงครับ แต่เราก็แว๊บไปร้านเจ๊เขียวพร้อมไวน์หนึ่งขวด สิ่งที่พบว่าเปลี่ยนแปลงคือรูปอดีตผู้นำที่เคยโชว์หน้าร้านหายไปแล้วครับ งวดนี้ไม่มีรูปอาหารนะครับเดี๋ยวจะโดนพี่วิอาฆาต จากคุณ : D19 - [ 6 พ.ย. 49 22:01:27 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ขยับมาทาง New Zealand บ้าง... จาก 7-8 ไวน์เนอรี่ ที่แวะ ชิม มี เจ้าเดียวที่นำเสนอ คับ... ขวดนี้ Pinot Gris ที่ ให้รสออกมาเข้ม ยังกะชาดอนเน่ แต่ พริ้วกว่าคับ... จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 6 พ.ย. 49 23:33:04 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ขวดซ้ายนี่ เป็นWine of the show สำหรับผม เลยคับ (ที่ดีกว่าก็มีครับ แต่ที่เคยดื่มแล้วไม่นับ) Gladstone Pinot Noir 04 แค่วนแก้ว อยู่ตรงหน้าอก กลิ่นเชอรี่ กุหลาบ ฟุ้งมาเตะปลายคาง เอ๊ย ปลายจมูกเลยครับ... บาลานซ์ ดีมากๆๆๆ แทนนินจับแน่น แอซิด ความหวาน แถมอโรมา ตอนจบ แฮะๆๆ บรรยายมาตั้งนาน เพิ่งนึกได้ ผมเพิ่งกินไวน์นี่นา แล้วมันจะอร่อยในความคิดคนอื่นไหม เนี่ย... ขวดขวา หมื่นสองพัน ไมล์ ชื่อตั้งมาเก๋ๆ เล่นๆ ไม่มีอะไร เจ้าของ/ไวน์เมกเกอร์ เธอมาจาก สก๊อตแลนด์ คับ ห่างไปหมื่นไมล์ ดื่มง่าย แต่ไม่จริงจังเหมือนขวดข้างๆ คับ จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 6 พ.ย. 49 23:39:13 ]

ความคิดเห็นที่ 93 มาดู Wine Of the Show Runner's up ของผม คับ... CHATEAU MARIS Syrah La Touge 2004 มาหมดครับ ผมไม้แดง ดำ ม่วง สุก ไม่สุก กาแฟคั่ว ควันไม้ บ๊วยติ๊ดๆ แน่น ตั้งกะอมยันกลืน ดูราคา แหม..... ถูกยังกะไวน์ ชิลี จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 6 พ.ย. 49 23:50:31 ]

ความคิดเห็นที่ 94 สวัสดีครับ...คุณD19 อยากไปๆๆๆๆ หัวหิน อยากไปกินเจ๊เขียวด้วยคับ... ว่าแต่ไวน์ที่หิ้วไปขวดเดียว..... พอเหรอคับ... จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 6 พ.ย. 49 23:58:13 ]

ความคิดเห็นที่ 95 มาแล้วค่ะ...สองวันนี้ยุ่งจริงๆ เพราะว่ามีงานเยอะ ช่วงก่อนเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าก็อย่างนี้ละค่ะ ใครต่อใครก็ต้องรีบขายสินค้าที่มีอยู่มือ เพราะ คริสต์มาสกำลังคืบคลานเข้ามา..งานโชว์ไวน์มีมากมาย แข่งกันจัดจนเลือกไปไม่ถูก ................................. ดูงานไวน์ของคุณพ่อหมีแล้ว..อยากทราบว่ามีผลสำเร็จเชิงบวกทางการตลาดไหมคะ มีการจัดสัมมนาให้ความรู้ในเรื่องทักษะอื่นๆหรือเปล่า.. หรือประเภทตั้งขวดโชว์แล้วรินแจกอย่างเดียว ........................................... คุณ jearjear ถามเรื่องอุณหภูมิในเซลล่าร์ ถ้าเป็นถ้ำเก็บของชาโตต่างๆในแหล่งผลิตแล้ว..มักจะอยู่มุดลงไปในดินน่ะค่ะ อากาศจะอยู่ใน 13-14 ดีกรี และจะปรับไปทีละน้อยตามฤดูกาลโดยธรรมชาติ (เพราะองุ่นก็ปลูกมาอย่างนั้น) การเก็บในเซลล่าร์ มิใช่เพียงเพื่อรักษาไวน์เพียงอย่างเดียว หากแต่มันเป็นการบ่ม เพื่อรสชาติด้วย..อุณหภูมิที่ปรับเปลี่ยนไปตามธรรมชาติ จะช่วยในการกระตุ้นรสให้กับไวน์ด้วย.. ถ้ำไวน์เก่าๆบางที่ เขาไม่ใช้แสงไฟด้วยซ้ำ ถ้าจำเป็นจะต้องมีก็น้อยแรงเทียนมาก..อาศัยจุดเทียนเอา เพราะแสงสว่าง หรือแสงแดด (UV)มีผลทางด้านลบกับไวน์ อ้อ..และขอบอกด้วยว่า..ที่ร้ายที่สุดคือแสงนีออน..ถือว่าเป็นพิษเป็นภัยกับไวน์เลยทีเดียว ถ้าร้านขายไวน์ร้านไหนใช้ไฟนีออน ก็ให้ถือว่า..ยังไม่ใช่มืออาชีพ เพราะ อำนาจของนีออนสามารถกัดสีไวน์ให้จางลงได้ เพราะมีรังสียูวีเท่าๆกับแสงแดด ................................. คุณ DP คะ..ร้านเจ๊เขียวอยู่ที่ไหน เพราะอีกหน่อยพี่ก็จะไปเป็นชาวหัวหินเหมือนกัน.. จากคุณ : WIWANDA - [ 7 พ.ย. 49 05:55:10 ]

ความคิดเห็นที่ 96 กลับมาแล้วครับ หลังจากพักเหนื่อยได้สองวัน ก็พร้อมมารายงานตัวที่เวบอีกครั้งครับ ยังไม่ได้อ่านอะไรเท่าไหร่ แต่เห็นอันสุดท้ายพอดี ว่าพี่วิจะไปเป็นชาวหัวหินแล้วหรอครับ ไปเที่ยวนี้ได้ลองชิมไวน์ท้องถิ่ินของจอร์แดนด้วยครับ จัดอยู่ในระดับธรรมดามากๆ และมีอยู่ไม่กี่ยี่ห้อด้วยครับ แต่หลังจากบู๊งานอย่างหนักสามวันติด ก็ได้เพลิดเพลินกับการนอนบนน้ำที่ทะเลแห่งความตาย เป็นความรู้สึกที่มหัศจรรย์ล้ำลึกจริงๆครับ มีเรื่องมาเล่าให้พี่วิฟังด้วยครับ คุยกะคนขับแท๊กซี่คนนึง แกพอทราบว่าพวกเรามาจากเยอรมนี แกก็พูดใหญ่ ว่าโอ้ ฮิตเลอร์ๆ กู๊ดๆ อิสราเอล แบ๊ดๆ พร้อมกับทำท่าเอามือเชือดคอยามพูดถึงอิสราเอลทีเดียวเลยครับ และอารมณ์แบบนี้ยังเป็นกับหลายๆคนที่ผมพบทีีนี่เลย และเชื่อมั้ยครับ ว่าศาสตราจารย์ของปาเลสไตน์และนักวิจัยหลายคน ไม่สามารถมาร่วมงานได้ เพียงเพราะอิสราเอลไม่ยอมให้ผ่านแดนครับ ว่าแล้วก็ขอตัวไปนอนละครับ เดี๋ยวไว้วันสองวันจะค่อยๆทยอยอ่านตั้งแต่ตอนยี่สิบเจ็ดขึ้นมาครับ จากคุณ : LaGrandeRue - [ 7 พ.ย. 49 07:15:17 A:213.39.211.154 X: TicketID:131193 ]

ความคิดเห็นที่ 97 ขอย้อนกลับไปเรื่องแม่จัน ไวน์เนอรี่ที่คุณวิโรจไปเที่ยวมาก่อน พอได้อ่านคำบอกเล่าและได้เห็นภาพแล้ว.. พี่นึกถึงไวน์จากฮังการีขึ้นมาในสมองทันที..รีบไปเอาไวน์ ตัวอย่างที่ได้เคยไปชิมมา..เปิด..และ..ชิมอีกครั้งทันที ไม่เคยคิดจะเล่าเรื่องนี้ แต่..ถ้าบังเอิญไปเจอเข้าละก้อ.. ซื้อเถอะ..เพราะ เป็นไวน์รสที่ใครดื่มก็ต้องชอบ (ขนาดตัวเองที่ค่อนข้างจู้จี้..ก็ยังไม่ปฏิเสธ) เขาคือ BalatonboglarI Merlot semi-sweet อธิบาย... BalatonboglarI คือชื่อ มาจากดินแดนทำไวน์ชื่อว่า Balatonboglar (บาลาตอนโบกลา) Merlot คือ พันธ์องุ่น semi-sweet คือ รสออกหวานลิ้นแบบไวน์ขาว spatlese wine ของเยอรมัน แต่หอมองุ่นแดงมากกว่า.. สีแดงทับทิมสวย..รสนุ่ม..หอมพลัมสุกแซมน้ำตาลอ้อย รื่นคอ..จบระยะพอสมควร.. ทีนี้มาดูว่า..ไวน์ฮังการีมายังไง.. เขาทำไวน์มาหลายพันปีแล้วนะ..หากแต่บ้านเมืองต้องผ่านศึกสงครามเพราะอยู่กลางระหว่างมหาอำนาจทั้งหลาย ชาวประชาหญ้าแพรกอย่างฮังกาเรียนก็ไม่ได้เจริญเติบโตไปไหนต่อไหนกับเขาเสียที แต่..พื้นที่ของเขาคือดินทรายร่วน ที่ทำให้องุ่นโตเร็ว สุกเร็ว ที่พื้นที่ของ Balatonboglar ก็มีทะเลสาปที่มีชื่อเสียงคือ Balaton ที่มีการอาบน้ำแร่อุ่นที่มีชื่อเสียงของโลก ที่สามารถสมานและรักษาโรคไขข้อได้ เป็นตาของน้ำพุที่มีความร้อนกว่า 80 องศา.. ฟังแล้วเหมือนพื้นที่ของเชียงรายม๊ะ.. เอาแผนที่ของเขตทำไวน์ฮังเกเรียนมาให้ดูก่อน จากคุณ : WIWANDA - [ 7 พ.ย. 49 07:42:07 ]

ความคิดเห็นที่ 98 จากแผนที่ก็พอทราบว่า เขาได้ทำไวน์กันไปทั่วพื้นที่ และเรื่องนี้ก็ได้โยงไปถึงเรื่องของปราชญ์ไวน์ในยุคบุกเบิกของอเมริกาที่ได้เล่ามากระทู้ต้นๆ นั่นคือ เกอจิช มิลเชงโก และ อังเดร เทรลิสต์เชฟ ว่าพวกเขาก็มาจากแถวๆนี้กันทั้งนั้น.. เปิดไวน์..BalatonboglarI ก็ต้องทำจมูกย่นเล็กน้อย เพราะว่าเป็นจุกคอร์คเทียม.. แต่เมื่อชิมแล้ว..ก็ดีดังที่บอกมา..เป็นไวน์ที่ทำจากองุ่นเมอร์โลต์ที่สุกจนเกือบงอม และเชื่อว่า เหล่าสาวๆกลุ่มน้องสาว เช่น สาวทวีตี้..สาวกาสะลอง..สาวน้องนิด หรือกลุ่มเหล่าแฟนๆของน้องชาย หลานชายทั้งหลายต้องชอบ งานนี้..พี่ขอเอาชื่อวิวันดาเป็นประกัน..ราคาก็แสนประทับใจ เพราะยุติธรรมมาก คุณพ่อหมีฯ น่าจะลองให้เจ้านายสั่งมาขายบ้าง.. การขายไวน์..ถ้ามีประวัติในการผลิตที่ดี และ มีชื่อเสียงแต่เก่าก่อน น่าจะจับมาเล่นได้ไม่ยาก จากคุณ : WIWANDA - [ 7 พ.ย. 49 08:14:24 ]

ความคิดเห็นที่ 99 สวัสดีค่ะ คุณ LaGrandeRue กำลังจะบ่นถึงทีเดียว เพราะหายไปพักใหญ่แล้วนะคะ แต่ไปเที่ยวมา..ฟังแล้วน่าสนุกจริงๆ ไปนอนผึ่งลอยพุงมาในทะเลเกลือหรือคะ...?? เรื่องที่จะกลายเป็นชาวหัวหิน เพราะว่า..ครอบครัวฝ่ายของคุณพ่อของลูกชาย..(ฟังแล้ว..อย่าเป็นงงล่ะ ลำดับให้ดีๆ) เขาย้ายจากกรุงเทพไปอยู่ริมทะเลหัวหินกันหมดแล้ว ก็เลยต้องไปซื้อคอนโดริมทะเล(ขนาดเท่ารูหนู)..ตามไปอยู่ด้วย เพราะจะได้อยู่ใกล้ๆลูก..ถ้าเมื่อถึงวันที่เรา (สองแม่ลูก)จะย้ายกลับไปเมืองไทยถาวรในไม่กี่ปีข้างหน้า (หวังว่าคงไม่นาน) จากคุณ : WIWANDA - [ 7 พ.ย. 49 08:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 100 สระน้ำพุร้อน..สถานที่บำบัดโรคภัยของฮังการี ที่อยู่ใกล้ๆกับพื้นที่ทำไวน์มีดอกบัวชนิดเดียวกับของเราขึ้นเต็ม..ดูแล้วเหมือนอยู่ในเมืองไทยเลย.. จากคุณ : WIWANDA - [ 7 พ.ย. 49 08:27:05 ]

ความคิดเห็นที่ 101 มาแซวพี่วิครับ คราวที่แล้วทัก DP เป็น D19 งวดนี้ D19 เป็น DP สงสัยชื่อคล้ายกันเกินไป เจ๊เขียวอยู่ทางไปเขาตะเกียบครับ จากคุณ : D19 (D19) - [ 7 พ.ย. 49 09:32:59 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ขอโต๊ดดดทีค่ะ คุณ D19 เรียกผิดเรียกถูกอยู่นั่นแหละ ป้า..เอ๊ย..พี่เนี่ยย..อย่าถือสาคนแก่นะพ่อนะ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 7 พ.ย. 49 10:51:36 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ขอฝากเว็บไซต์ www.surathai.net ไว้ด้วยครับ คุยเรื่องการผลิต และแวดวงของผู้ผลิตไวน์และสุราในบ้านเราครับ มีภาพที่ไปเยี่ยมโรงไวน์ไทย ทุกแห่งครับ จากคุณ : สุรไทย - [ 7 พ.ย. 49 10:53:14 A:158.108.209.3 X: ]

ความคิดเห็นที่ 104 สวัสดีครับคุณอาวิวันดา.. สำหรับไวน์ฮังการีครับ นอกจากโทคัย แล้ว มองหน้ากันเจ้านายลูกน้อง... ไม่รู้ช่องทางติดต่อเลยครับ.. Wine For Asia มีจัดสัมนาครับ James Halliday ก็มา แต่ที่มีจำกัดมาก (เพราะชาวสิงคโปรแห่ไปถามแต้ม) ที่แวบๆ ไปร่วมด้วยก็มี Master class จาก นิตยสาร Decanter ครับ นอกจากนี้ ยังต้องไปให้คอมเม้นกับไวน์เนอรี่ใหม่ๆ จาก Aussie ที่ทาง Austrade หิ้วมาร่วมขบวนครับ ไวน์เนอรี่เหล่านี้ มาด้วยความหวังที่ว่า ไวน์ของตนสามารถเข้าตลาดไวน์เมืองไทย ด้วยความได้เปรียบเรื่อง FTA โดยไม่รู้ว่า...ยังมีอุปสรรคอีก........เพียบ จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 7 พ.ย. 49 11:24:22 ]

ความคิดเห็นที่ 105 เจ้เขียวอยู่ทางขึ้นเขาตะเกียบครับ แต่ถ้าเลยต่อไปอีกหน่อย ตีนเขาตะเกียบเป็นร้าน จิตรา ครับ ร้านนี้สำหรับตัวผมอร่อยมาก ข้าวผัดปู กับ ปูม้านึ่ง และ หอยตลับผัดฉ่า อร่อยมาก ( ในอดีตเคยแขวนภาพลูกชายอดีตผู้นำ ถ่ายคู่เจ้าของร้าน แต่ตอนนี้เหลือแต่ ภาพอดีตแฟนลูกชายอดีตผู้นำครับ งงไหมครับเลียนแบบป้าวิ อิ อิ) ป้าวิครับแล้วอย่างนี้ตู้เก็บไวน์ที่เขาขายอยู่ทั่วไป ใช้หลอดอะไรอะครับ หลอดนีออนนี่ใช่หลอดดาวน์ไลท์ ทีมันหรี่ไฟได้หรือเปล่า (ความคิดผมน่าจะใช่หลอดดาวน์ไลท์ เพราะหลอดนี้มันร้อน และตู้ไวน์ก็มักจะใช้หลอดฟูลออเรสเซนท์ แสงสีขาว) ขอบคุณครับ จากคุณ : jearjear - [ 7 พ.ย. 49 11:27:17 ]

ความคิดเห็นที่ 106 ขอต้อนรับคุณสุรไทยค่ะ ทำลิ้งค์ให้ด้วยเลย..เชิญผู้สนใจเข้าไปอ่านได้ที่นี่ค่ะ http://www.surathai.net/ ................................................ คุณ jearjear คะ ตู้เก็บไวน์ของอเมริกาไม่มีการใช้หลอดไฟนีออนค่ะ แต่ละเป็นหลอดไฟขนาดเล็กแบบของตู้เย็นธรรมดา ที่เวลาเปิดประตูจึงจะเรืองแสงขึ้น แต่ถ้าเป็นตู้โชว์แบบขนาดใหญ่ที่บรรจุนับสิบๆขวด..ก็จะเป็นหลอดไฟเล็กที่จะติดเป็นจุดๆ เรียกว่า Interior Light เป็นชนิดเดียวกับที่เขาใช้สำหรับส่องภาพวาดบนฝาผนัง.. แต่ไม่ใช่ไฟนีออน... อ้อ...แต่อย่าลืมว่า..บริษัทผู้ผลิตตู้เย็นไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ การผลิตไวน์..ฉะนั้น..เขาคงไม่ใส่ใจ หรืออาจจะคิดว่า ไวน์คงไม่อยู่นานพอถึงขนาดที่จะเสียหายได้กระมัง.. จากคุณ : WIWANDA - [ 7 พ.ย. 49 12:06:52 ]

ความคิดเห็นที่ 107 เคยไปทานร้านเปิ้ลกันหรือยังคับ....ทุกท่าน จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 7 พ.ย. 49 12:15:06 ]

ความคิดเห็นที่ 108 คุณพ่อหมีคะ.. ที่น่าจะติดต่อที่สุดคือ..สถานทูตฮังการี ฝ่ายพานิชย์ได้เลย..เขาคงยินดีเป็นอย่างยิ่งเชียว แต่..ตอนนี้เข้าไปอ่าน ที่เวบนี้ไปพลางๆก่อน.. http://www.magyarborokhaza.hu/index.php?selectlang=EN อ้อ..ขอบคุณสำหรับข้อมูลเรื่องร้านเจ๊เขียวค่ะ คุณ jearjear ..ทำเครื่องหมายไว้แล้ว..ว่าจะต้องไปชิมให้ได้เชียว... จากคุณ : WIWANDA - [ 7 พ.ย. 49 12:17:01 ]

ความคิดเห็นที่ 109 หวัดดีคับหาไป2-3 วัน ไวน์เนอรี่ที่แม่จันที่พี่วิโรจไป ที่ว่ารากของมันจะออกเป็นแนวราบ พี่ที่สนิทผมเคยฟังฝรั่งที่สวิสเล่าว่า องุ่นบางที่ต้องเลี้ยงแบบให้มันดิ้นรนหาอาหาร เองบ้าง รากมันจะพยายามชอนใชลงลึกเพื่อแสวงหาแหล่งน้ำหรือแร่ธาตุ แต่อย่างที่แม่จัน ผมเดาน่ะคับว่า มันใกล้อ่างเก็บน้ำใหญ่ รากต้นองุ่นก็เลยวิ่งหาแหล่งน้ำหมด เพราะบนผิวก็เจอน้ำแล้วไม้ต้องดิ้นรนชอนใชหา บวกกับปัจจัยของดินที่พี่วโรจได้กล่าวมาข้างต้น รากเรยไม่ไปในแนวดิ่งอ่ะคับ พี่วิพี่วิโรจและเพื่อนๆคับ แซงโจเซป ขวดนี้ดีมากๆเรยหล่ะคับ ไ ปล.เห็นรูปพ่อหมีแล้วอยากทานไวน์เรยหล่ะคับ เห็นรูปในนี้เยอกลัวจะโหลดกันช้าเรยเอาลิ้งค์มาแปะคับ http://www.drinklessdrinkthebest.com/forum/index.php?topic=323.0 จากคุณ : Nic Nenin - [ 7 พ.ย. 49 12:57:12 ]

ความคิดเห็นที่ 110 มิน่าเห็นเคยอ่านว่า พี่เล็กแกใช้ ไฟฉาย ส่องเวลาไปหาไวน์ที่ตู้ที่บ้าน เป็นจากอย่างนี้นี่เอง ขอบคุณป้าวิสำหรับข้อมูลครับ พี่นิคครับ เห็นแล้วหิวครับ จากคุณ : ท้องกิ่ว (jearjear) - [ 7 พ.ย. 49 14:09:07 ]

ความคิดเห็นที่ 111 สวัสดีค่ะ วานนี้กลางวัน เข้ามาโพสต์เป็น คห ที่ 85 เย็นมาดู หายไปทั้งอันเลยค่ะ รอจนเช้านี้ก็ยังไม่กลับมา ไม่ทราบเกิดขึ้นได้อย่างไร เนื้อหาก็ไม่มีอะไรพิเศษ เล่าว่า พลัมไวน์ในรูปงานจากสิงคโปร์ อุเมะชูว ขวดฝาสีขาวใหญ่นั้นอร่อย ใส่น้ำแข็งทานก่อนนอน สมัยก่อนแม่บ้านต้องทำทุกบ้านตอนต้นฤดูใบไม้ผลิ แล้ว ก็ชมแก้วไวน์ของคุณนก ... ลองโพสท์ใหม่นะคะ เที่ยวนี้ จากคุณ : nijja - [ 7 พ.ย. 49 14:42:28 ]

ความคิดเห็นที่ 112 K. Jearjear, I like ร้าน จิตรา very much too krup! Their fried Gao Fish is one of the best in the country! DP จากคุณ : DP Wine - [ 7 พ.ย. 49 22:43:32 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ร้านนี้ผมกินมาหลายปีอยู่ พ่อครัวคนเดิมตลอดครับ ปลาเก๋าก็อร่อย น้ำจิ้มทะเลอร่อยมาก ปูม้าสดมากๆ ร้านนี้ดูบรรยากาศร้านแล้ว บ้านๆ มากๆ ครับ แต่ฝีมือนี่ระดับโรงแรม ห้าดาวยังต้องถอย ผมชอบทานข้าวผัด มี 2 ร้านในดวงใจ ร้านแรก ข้าวผัดรวมมิตร ที่ร้านอร่อยแถววงเวียนใหญ่ ร้านที่สอง ข้าวผัดปูจิตรา สองร้านนี้ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารแพงแค่ไหน โรงแรมห้าดาว ร้านดังฮ่องกง รับรองสองร้านนี้ไม่มีแพ้ เต็มที่ก็เสมอ อร่อยคนหละแบบ ฟันธง จากคุณ : หิวตอนดึก (jearjear) - [ 8 พ.ย. 49 00:17:27 ]

ความคิดเห็นที่ 114 เหนื่อยสุดๆ คับถึงบ้าน เที่ยงคืน... แต่เพื่อ แชมเปญวันศุกร์..สู้ตายครับ จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 8 พ.ย. 49 00:37:18 ]

ความคิดเห็นที่ 115 สวัสดีครับพี่วิ อ่านที่พี่วิเขียนแล้วเป็นเง็งเล็กน้อยครับ แต่ไม่เป็นไร ครับ ตอนที่ไปก็มีเผื่อเวลาเที่ยวไว้ด้วยเหมือนกันครับ เลยสามารถไปนอนลอยอยู่ในน้ำทะเลได้ครับ จากกระทู้ที่แล้ว ไม่รู้สายเกินไปรึยัง ขอบคุณสำหรับโน๊ตนะครับพี่วิโรจ ผมก็กะว่าจะไม่เปิดดื่มปีนี้ครับ ไว้ดื่มปี 2007 เลย จะไล่ไปทีละปีจนหมดลังครับ แต่แปลกใจเหมือนกัน ว่าเค้าทำมาสุดแค่วินเทจ 2002 หลังจากนั้นไม่เห็นเลยครับ ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไม เห็นด้วยเหมือนกันครับ ว่าน่าจะเป็นไวน์ที่ยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต คุณ Nic Nenin ครับ ไม่แปลกเลยครับ ที่มันจะเป็นยังงั้น ถ้าสังเกตุที่ขวดจะพบไอคอนเล็กๆ เลข 1 พร้อมลูกองุ่นทางขวา แปลได้ว่ามันคือ Grosses Gewaechs นั่นเองครับ ถ้าพอจะจำได้จากที่เคยเขียนไปก็คือไวน์ดรายแน่ๆ ยิ่งมาจากทางใต้ลงไปอย่าง Pfalz อีก (เสริมนิดนึงครับ ถึงแม้ว่า classification นี้จะเริ่มใช้ปีนี้ บาง estate เค้าก็ได้ทำการใช้มาก่อนล่วงหน้าแล้วครับ เช่นของ Georg Mosbacher นี่ก็มีตั้งแต่วินเทจ 2002) ถ้าคุณนิกชอบแบบวันปาร์ตี้ คงต้องหาพวก Spaetlese จาก Mosel มาดื่มครับ จากคุณ : LaGrandeRue - [ 8 พ.ย. 49 01:05:24 A:134.28.141.4 X: TicketID:105596 ]

ความคิดเห็นที่ 116 คุณ LaGrandeRue ขา.. แหม..พี่ก็หมายใจว่าคุณคงจะนอนเล่นอย่างสบายใจใน Dead Sea อย่างในภาพ..นี่ไงคะ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 8 พ.ย. 49 02:40:37 ]

ความคิดเห็นที่ 117 โหพี่วิครับ น่าเสียดาย วันนั้นไม่ได้หยิบนสพ.ไป เลยอดได้ทดลองเลยครับ แต่การนอนบนทะเลนี่ มันช่างสบายกายและใจจริงๆนะครับ แวะมาเล็งก่อนไปนอนครับ สั้นๆละกันครับ ราตรีสวัสดิ์ครับ จากคุณ : LaGrandeRue - [ 8 พ.ย. 49 05:37:32 A:213.39.219.73 X: TicketID:105596 ]

ความคิดเห็นที่ 118 เอ... สงสัยพี่หวานไม่ได้หลังไมค์นกอีกแล้ว (เอ็มวีท่านผู้นำน่ะค่ะ ได้มั้ยคะ?) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 8 พ.ย. 49 23:12:33 ]

ความคิดเห็นที่ 119 น้องทวีตี้ที่รัก เข้าไปดูแล้วค่ะ ..ขำกลิ้งไปสองสามตลบ ขอบคุณมาก พี่เพิ่งผ่านหายนะมาหยกๆ..คือ..ดันโง่แล้วขยัน.. (ถ้าเกิดในสมัยนาซี..รับรองว่าฮิตเล่อร์ส่งไปรมแก๊สเป็นรุ่นแรกเลย) ไปลบไฟล์ที่คิดว่าไม่ใช้ในคอมพ์เครื่องใหม่ (ที่ติดตั้งไปไม่นานมานี้) ปรากฏว่า..เดี้ยงไปเลย..ทุกอย่างเป็นอัมพาต สีกลายเป็นมัวและลางเลือน.. ก็เลยต้องส่งไปซ่อม เพราะยังมีประกันอยู่.. ช่างงี้..ค้อนขวับเลย..มองแบบสมเพช..ตวัดเสียงบอกว่า ทิ้งไว้ที่นี่แหละ..อาจต้องใช้เวลาสองสามวัน..ถ้าเธอโชคดีนะ..!!! จากคุณ : WIWANDA - [ 9 พ.ย. 49 08:21:38 ]

ความคิดเห็นที่ 120 มาสวัสดีครับ ขออภัยที่หายหน้าไปนานครับ จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 9 พ.ย. 49 08:38:23 ]

ความคิดเห็นที่ 121 สวัสดีครับ.. คอมพ์ที่บ้าน เจ๊งเหมือนกันเลยครับ.... จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 9 พ.ย. 49 11:35:55 ]

ความคิดเห็นที่ 122 สวัสดีครับทุกๆท่าน ช่างที่อเมริกา ยโสโอหังเหลือเกิน ไม่มี service mind เลย ถ้าเป็นช่างที่นี่นะ พี่ไปหาอะไรกินก่อนเดี๋ยวเดินกลับมารับนะคับ แป็ปนึง ถ้าเธอโชคดีนะ ถ้าช่างซ่อมเป็น แต่เธอจะโชคไม่ดีนะ ถ้าซ่อมไม่เป็น จากคุณ : จับหมกใต้ถุนเลยครับ (jearjear) - [ 9 พ.ย. 49 11:48:53 ]

ความคิดเห็นที่ 123 ต้องใช้ macintosh แบบผมไม่มีเจ๋งคร้าบบบบบ ปล. ทราบข่าวมาว่าทาง granmonte ได้ออกไวน์ตัวใหม่มาสามตัว ได้แก่ (จากขวาไปซ้าย) -2005 " Fiori " Unfiltered Syrah -2006 " Primavera " Unwooded Chenin Blanc Colombard -2006 " Fiori " Unwooded Chenin Blanc เป็นไวน์แดง 1 ตัว ไวน์ขาว 2 ตัว ไวน์ขวาคาดว่าจะวางจำหน่ายกลางเดือน พฤศจิกายนนี้ ส่วนไวน์แดง ปลายเดือนมกราคมปีหน้าคับผม จากคุณ : drink less (Nic Nenin) - [ 9 พ.ย. 49 12:49:20 ]

ความคิดเห็นที่ 124 2/11/2549, แม่จันไวน์เนอรี่, เชียงราย GranMonte 2006, Primavera, Chenin blanc 60%, Colombard 40% Rate: 84 ...สีเหลืองทองออกมาทางบางปานกลาง ...หอมสดชื่นด้วยกลิ่นฝรั่งสุก ...โครงเนื้อหนาปานกลาง ให้ความสุกฉ่ำของผลไม้สุกอิ่ม ...นุ่มนวล สมดุล...แอซิดิตี้...และความลงตัวดีพอใช้ ...จบยาวปานกลาง ดื่มได้ไม่ต้องรอ...ในไม่เกินสองปี ...เป็น Primavera ที่หน้าตาแปลก ...เธอเปลี่ยนไป...สวยขึ้นมั๊ง GranMonte 2006, Monte Fiori, Chenin Blanc Rate: 82 ...สีเหลืองทองเข้มลึกปานกลาง ...ให้กลิ่นหอมของผลไม้เมืองร้อน สับปะรดสุก ดราย ...โครงเนื้อหนาเต็ม สมดุลดีปานกลาง ...แอซิดิตี้และความลงตัวดีพอใช้ ช่วงจบยาวและแน่น ...รีบดื่ม...ไม่ต้องเก็บนาน ...เป็นมิติใหม่ของไวน์ขาวจาก GranMonte ...ที่ดีขึ้น...เมื่อไม่มีโอ๊กมากวนใจ GranMonte 2005, Monte Fiori, Shiraz Rate: 85 ...แดงสด เข้ม ทึบ ลึก ส่งกลิ่นผลไม้แดงดำสด...สุก ...พริกไทสด ไม้เขียว ...โครงเนื้อหนาเต็ม แอซิดิตี้ดี สมดุลดีพอใช้ ...มีความชัดลึก จบยาวปานกลาง ...เป็นไวน์แดง Experience ใหม่...ที่น่าลอง ...รักไวน์...รักไวน์ไทย...ด้วยครับ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 9 พ.ย. 49 13:07:48 ]

ความคิดเห็นที่ 125 Most expensive champagne http://www.nzherald.co.nz/search/story.cfm?storyid=00089F0C-6700-1551-9D8983027AF1012B จากคุณ : EMI - [ 9 พ.ย. 49 18:15:23 A:222.153.245.35 X: ]

ความคิดเห็นที่ 126 French wines and spirits group Pernod Ricard says it will soon offer the world's most expensive champagne, which will cost about NZ$2000. จากคุณ : EMI - [ 9 พ.ย. 49 18:16:36 A:222.153.245.35 X: ]

ความคิดเห็นที่ 127 พี่หวานมาเที่ยวบ้านเมื่อไหร่นกขอเวลาพี่หวานแค่ 3 ชั่วโมงนะคะ นกจะล้างเครื่อง+ลงวินโดว์ให้ดู แล้วก็ให้พี่หวานทำเองด้วย คราวนี้พี่หวานไปเชิดหน้าใส่ช่างนั่นได้เลยค่ะ จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 9 พ.ย. 49 18:23:23 ]

ความคิดเห็นที่ 128 เข้ามาทักทาย คุณวิ และชาวไวน์ค่ะ ก่อนอื่น ขอบอกว่า ไวน์กรานมองเต้ ทั้งสาม น่าทานมากๆ เอ จะชาตินิยมไปหน่อยไหมคะ เนี่ย วันนี้มีหลายประชุมค่ะ เลยเพลียและง่วงหงุบหงับตลอดบ่าย เหตุเพราะนอนดึก ดึกเพราะ ตื่นตกใจ พบว่า .... (อ่านแล้ว ขอลบทิ้งนะค้า ....) อ้อ เมื่อเย็นก็เลยไปหา พลัมไวน์มาค่ะ เห็นรูปแล้วอยากทาน เดี๋ยวคืนนี้จะลอง ทานก่อนนอน ๑๔ ดีกรีค่ะ ไม่ใช่ หกดรีกรีอย่างที่เค้าโชว์ที่ งานที่สิงคโปร์ นะคะ จากคุณ : nijja - [ 9 พ.ย. 49 22:26:11 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ลงชื่อ ตามอ่านครับผม แนะนำอีกร้านครับ ไปหัวหินคงผ่านนะครับ ร้านปากคลอง สุดหาดชะอำ ครับ อร่อยดี ปล. พลัมไวน์ ผสม สไปรท์ สุดยอดดดด ครับ ไปอ่านหนังสื่อต่อหละครับ จากคุณ : Natt_ac121 - [ 9 พ.ย. 49 22:50:06 ]

ความคิดเห็นที่ 130 อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้เดินได้ ขยับหน้าได้บ้างนิดหน่อยแล้วครับ อาการดีขึ้นเป็นลำดับ อยู่บ้านเฉยๆไม่ไหวแล้วครับ วันนี้จะออกไปดูงานที่ออฟฟิซซักหน่อย ห้องไวน์ของผมยังอยู่ดีรึเปล่าหนอ ^_^ จากคุณ : สู้ตาย (Master_Indy) - [ 10 พ.ย. 49 06:59:50 ]

ความคิดเห็นที่ 131 เยๆ อาการดีขึ้นเรื่อยๆน่ะคับคุณ Master_Indy แต่อย่าเพิ่งทานไวน์น่ะคับ อดเปรี้ยวไว้ทานหวาน คร้าบบบ จากคุณ : good new (Nic Nenin) - [ 10 พ.ย. 49 07:52:44 ]

ความคิดเห็นที่ 132 มาร่วมดีใจกับคุณ Master_Indy ด้วยค่ะ ที่เริ่มหายจากอาการเจ็บแล้ว..ขอให้ดีขึ้นเรื่อยๆนะคะ เอาใจช่วยเสมอ ................................................... น้องนกที่รัก พี่มันเป็นคนไม่เอาไหนแบบนี้แหละ เรื่องเครื่องจักร เรื่องเครื่องกลไกทุกชนิด สมองฝ่อตีบเอาเสียจริงๆ ทุกวันนี้ ยังใช้รีโมตชนิดกดหาโน่นได้ หานี่ได้ ไม่เป็นเลย.. แค่เปิดช่อง กับ ปิดเปิดเสียง ได้แค่นั้นเอง.. ช่างใช้เวลาสองวันเต็ม เพิ่งไปเอามาเมื่อเช้า.. เห็นว่าต้องใช้เวลามากมาย.. .............................................. สวัสดีค่ะ คุณ EMI ขอต้อนรับเข้าสู่กระทู้ด้วย..แต่ขอเรียนให้ทราบนิดหนึ่งว่า โดยเจตนาของผู้เขียน..ไม่อยากให้มุ่งไปที่ราคาแพงเป็นหลัก ถ้าเรายังไม่มีพื้นฐานของการรู้จักไวน์(หรือแชมเปญ)ที่แน่นพอ.. และถึงจะรู้จักแล้วเป็นอย่างดี..ก็ควรหาของดีราคาที่เหมาะสม(กับสภาพเศรษฐกิจ)มาเชยชม เพราะกลยุทธของตลาดไวน์มันเป็น Myth ที่เราต้องพยายามดึงตัวเองไม่ให้ หลุดไปในวังวนของมัน.. ขอเล่าให้ฟังเรื่องหนึ่ง..คือเรื่องของไวน์ Screaming Eagle ของโปรดของบ๊อบที่เคยเทคะแนนให้เต็ม 100 และจัดว่าเป็นอันดับหนึ่งของ cult wine เปิดตัวออกมาด้วยราคาขวดละ $1250.00 ขายเฉพาะสมาชิก ที่ต้องจองกันแบบยาวเหยียด ปัจจุบัน..วินเทจ 2003 แต้มตกมาเหลือ 88 โดย WS และ WA คือ บ๊อบ..ให้คะแนน 96 (แบบว่าเกรงใจ) ราคาก็ร่วงมาถึง 500.00 สำหรับสมาชิก ที่นำมาปั่นต่อในท้องตลาด เป็นราคาขวดละ 900 แต่..ไม่มีใครซื้อ เพราะตอนนี้ออกมาล้นในเวบขายไวน์ต่างๆ เรียกว่ากำลังเอาชื่อเสียงเก่ามาขายกินนั่นแหละ ในรุ่นแรกๆที่ขายออกมาเป็นขวดพันกว่าแก่ๆนั้น มีคนกักตุนไว้เยอะ เทขายออกกันยังกะหุ้นอสมท.ในปัจจุบันเชียว จากคุณ : WIWANDA - [ 10 พ.ย. 49 08:29:01 ]

ความคิดเห็นที่ 133 อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณ Master_Indy ดีๆๆ ลุกได้ก็ลุกไปเดินเล่นบ้างค่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวเฉาตาย ห้องไวน์เขากระจุ๋งกระจิ๋งกันทุกวัน พี่วิวันดา พี่วิโรจ และพี่น้องผู้ขมังไวน์ทั้งหลายเฝ้าฟูมฟักให้มือใหม่หัดดื่มได้หัวฟูเป็นอย่างดีค่ะ ขอถามว่าอาการรับกลิ่นเป็นอย่างไรบ้างคะ? ดมโจ๊กหอมบ้างมั้ยคะ? (ยังไม่ต้องดมไวน์นะจ๊ะ) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 10 พ.ย. 49 08:38:08 ]

ความคิดเห็นที่ 134 พี่หวานมาพอดี สวัสดีค่ะ วันนี้ไปไหนมาคะ ช่างเอาเครื่องพี่หวานไปดองต่อคิวมากกว่าค่ะ ทำจริงๆ ไม่นานอย่างนั้นหรอกค่ะ อย่าตำหนิตัวเองเรื่องเทคโนโลยีเลยค่ะ ของแบบนี้ ทางใครทางมัน ใครจะไปรู้หมดทุกอย่างได้ล่ะคะ ใครถนัดอะไรก็ทำอย่างนั้นไป ตัวนกเองก็ไม่ใช่เก่งค่ะ พอเอาตัวรอดได้บางเวลา ไปเรียนประกอบคอมพิวเตอร์ตอนมิคกี้เพิ่งเข้าโรงเรียนค่ะ ตอนนั้นไม่ได้ทำงานอะไรว่างจัดเกินไป สาเหตุมันเนื่องมาจากรู้สึกว่าตัวเองต้องพึ่งพาพ่อนายมิคกี้อยู่เรื่อยเวลาเครื่องมีปัญหา เบื่อตัวเองในการต้องตะโกนเรียกเขามาดูเครื่องน่ะค่ะ ............................................ นกมีปัญหาค่ะ พี่หวานคะ ไวน์ที่พี่หวานว่าไม่แพง ก็ยังแพงไปสำหรับนกน่ะค่ะ แล้วแถวๆ นี้ไม่เห็นมีไวน์กล่องเล็กๆ เลย ซื้อเป็นขวด ดื่มไปไม่ถึงครึ่งขวดก็ถึงเวลาต้องทิ้งแล้วค่ะ :( (เมื่อวานไปร้านไวน์แคร์ค่ะ ไปหา Sancerre ม่ายยยยมี สงสัยจะไม่มีขายที่นี่ค่ะ) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 10 พ.ย. 49 08:49:58 ]

ความคิดเห็นที่ 135 ที่คุณนิคได้บอกมาในคคห.ที่ 123 นั่น -2005 " Fiori " Unfiltered Syrah -2006 " Primavera " Unwooded Chenin Blanc Colombard -2006 " Fiori " Unwooded Chenin Blanc อธิบายนะคะ..ว่า..Unfiltered หมายถึงไวน์ที่บรรจุลงขวด โดยไม่ผ่านการกรองในชั้นสุดท้าย..จะมาเศษผงๆของเนื้อองุ่นติดมาบ้าง..ก็ถือว่าเข้มข้นดีไปอีกแบบหนึ่ง..(บ๊อบชอบ) อ้อ..และจะใช้กับไวน์แดงเท่านั้น..เนื่องจาก ไวน์แดงผ่านการหมักพร้อมกับกากองุ่น..จึงต้องมีการกรองกันหลายชั้น.. Unwooded ที่ใช้กับไวน์ขาว เพื่อจะได้บอกให้ผู้บริโภคทราบว่า ไวน์นี้ควรจะมีรสชาติเช่นใด ไม่ต้องไปส่ายจมูกดมหากลิ่นโอ๊คให้เหนื่อย เพราะ มันไม่มี.. เขาหมักในถังสเตนเลสล้วนๆ และลงบรรจุขวดเลยเมื่อหมักได้ที่ การหมักไวน์แบบนี้..ที่ไม่ผ่านถังไม้ รสชาติจะแหลม และ จัดจ้านจี๊ดจ๊าดกว่า..หรือจะออกกลิ่นเขียวๆมากกว่า.. โดยปรกติเขาจะใช้กับ ไวน์ชาร์ดอนเนย์ ที่จำเป็นต้องใช้เวลาปรับนุ่มในถังโอ๊ค แต่..บางคนก็เบื่อกลิ่นโอ๊ค..เพราะมันกลายเป็นโอ๊คจริงมั่ง ปลอมมั่ง..เลยเรียกหากันแบบชนิดที่ไม่ต้องใช้.. ปัจจุบันก็ใช้กันเกลื่อน.. จากคุณ : WIWANDA - [ 10 พ.ย. 49 09:01:27 ]

ความคิดเห็นที่ 136 น้องนกที่รัก.. พี่ถึงได้บอกว่าพยายามเข้ากลุ่มหน่อย อย่าดื่มคนเดียว.. เหงาแย่..แล้วจะหันไปปรึกษากับใครกันเล่า เอาเถอะ..จะหา Sancerre ไปให้ในวันหนึ่งข้างหน้า.. มาดูการบ้านพี่นี่..เปิดไปแล้วห้าขวด..เหลืออีกเพียบ.. นี่คือไวน์ตัวอย่างล้วนๆ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 10 พ.ย. 49 09:51:26 ]

ความคิดเห็นที่ 137 พูดถึงหาเพื่อน หากลุ่มดื่ม วัยอย่างผมนี่หาเพื่อนดื่มไวน์ยากจริงเลยครับ (ฮ่าฮ๋าแสดงว่ายังเอ๊าะ) เพื่อนฝูงหันหน้าเข้าหากันเป็นคู่ บ้างยกขาข้างเดียว เพื่อนกลุ่มใหญ่ๆก็ไปเป็นสาวกลุงจอห์นนี่เดินถือไม้เท้ากันหมด.... ครั้นจะชวนเพื่อนฝูงเปิดไวน์ เพื่อนก็พากันค่อนแคะ "นั่งผับเหล่หญิง ดื่มไวน์แก่ตายชาก" <<<<< (ผมไม่ได้พูดนะคราบ) ก็ได้แต่นั่งดมอยู่บ้านคนเดียว สะอื้น... จะว่าไปแล้วในงบประมาณ 1000-2000 ดื่มเหล้ามันถูกกว่าจริงๆล่ะเนาะ แล้วเราจะไปหารุกกี้หน้าใหม่วัยกระเตาะมาเป็นเพื่อนดื่มมันยากจริงหนอ ป้าวิมีความเห็นว่าว่าไงบ้างครับผม จากคุณ : Master_Indy - [ 10 พ.ย. 49 10:47:26 ]

ความคิดเห็นที่ 138 ไม่ต้องไปหาที่ไปไหน..อยู่เชียงใหม่นั่นแหละดีแล้ว..เอาขวดไปดื่มในร้านแบบว่าใกล้ๆกับไนท์บาร์ซาร์ ฝรั่งเดินผ่านมา ชวนดื่มเลย(ด้วยท่าทีที่เป็นมิตร)..เอาวัยที่ใกล้ๆกับเราน่ะ รับรองว่าไม่มีรายไหนปฏิเสธ.. เมื่อกี้ไปอ่านหนังสือพิมพ์แนวหน้า.. ข้อความนี้..http://www.naewna.com/news.asp?ID=34831#news เขาพูดถึงบริษัทตัวแทนขายไวน์ยักษ์ใหญ่ นามว่า Pernod-Ricard แต่เขียนว่า..เพอร์นอด ริการ์ด ซึ่งผิดทั้งสองคำ..ต้องอ่านว่า..เปอร์โนด์-ริการด์ เปอร์โนด์นี้..มีชื่อเสียงด้วยเหล้ากลิ่น anise (หรือที่เรารู้จักในนามว่าโป๊ยกั๊ก แปดกลีบ)ที่ฉุนเฉียว นามว่า Ricard Pastis (ริการด์ ปาสตี้ส์) แอลกอฮอลปาเข้าไปสี่สิบ ห้าสิบโน่น.. เวลาดื่มเขาต้องผสมน้ำถึงสี่ห้าส่วน..พอผสมเข้าไปแล้ว..มันจะออกสีขาวขุ่นๆ..ดังที่องค์รักษ์ของไดอะน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ดื่มกันที่บาร์ก่อนที่จะพาพระองค์ไปถึงจุดจบ นักข่าวได้นำมาเขียนว่า.. พวกเขาไม่ได้ดื่มเหล้าหรือไวน์ หากแต่..ดื่มน้ำผลไม้..ที่ดูคล้ายๆกับน้ำสัปประรด... นั่นแหละ..มันเป็น Ricard Pastis ที่ชาวฝรั่งเศสนิยมกันหนักหนา เพราะมัน"แรง"ได้ใจดี.. (ดังในภาพ) จากคุณ : WIWANDA - [ 10 พ.ย. 49 11:15:00 ]

ความคิดเห็นที่ 139 ผมโหวดไม่เห็นด้วยกับการใช้ฝาเกลียวคนแรกเรยคับ ทำให้ไวน์ไม่ได้พัฒนาตัวเอง จากคุณ : นิคกี้ (Nic Nenin) - [ 10 พ.ย. 49 12:27:25 ]

ความคิดเห็นที่ 140 เข้ามาตอกบัตรค่ะ บ่ายสามกว่าแล้ว เพิ่งเสร็จงานประจำวัน จะเรียกว่า TGIF ก็คงได้แล้วค่ะ ดีใจที่คุณ มาสเตอร์อินดี้ มีอาการดีขึ้น ทานวิตามินประจำนะคะ หลังปีใหม่คงได้พบกันค่ะ จะแนะนำสาวเชียงใหม่ที่ชอบไวน์ให้รู้จักค่ะ ตกลงยังไม่ได้เปิด พลัมไวน์เลยค่ะ ง่วงมากหลับซะก่อน แถมตื่นสาย ขอบคุณที่ให้ไอเดียค่ะ คุณ Natt_ac121 คืนนี้ว่าจะลองทาน วิโญเญ่ ค่ะ กลับมาแก้ไขและเติม คือออกไปข้างนอกมาค่ะ ว่าจะไปหา สไปร์ท ที่คุณ เเนทฯ บอก ... แหะๆ ลืมสนิท เพราะดันไปแวะร้านไวน์ค่ะ เลยได้อย่างอื่น ... เดาได้นะคะ (Dr Loosen 2003 ไวน์ขาว ของเยอรมัน 9.5 degree เท่านั้น คุณ Mr Right bank ใน DLDB แนะนำ) http://www.wine-club-central.com/detail.aspx?ID=6611 จากคุณ : nijja - [ 10 พ.ย. 49 13:26:48 ]

ความคิดเห็นที่ 141 Dear P Wi (refer to your comment #132 na krup), To be fair to Screaming Eagle, I looked up in WineSpectator database with the following information collected: Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Napa Valley 1999 97 $250 Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Napa Valley 1996 96 $125 Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Napa Valley 1992 96 $50 Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Napa Valley 1997 95 $125 Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Oakville 2002 95 $300 Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Napa Valley 1998 92 $250 Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Napa Valley 2001 92 $300 Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Napa Valley 1994 92 $75 Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Napa Valley 1993 91 $75 Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Oakville 2003 88 $500 Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Napa Valley 1995 87 $100 In a decade work of Screaming Eagle, there are only 2 vintages that fell below 90 points. And the relase price of $50 for the 1992 vintage. I'm not sure where you see $1,250 release price, but I believe that information in WS is accurate as this is the release price of the winery (not retailer). But I do agree with you that $500 for 88 point wine (2003 vintage) is hefty to ask. And the owner of Screaming Eagle had just changed hands. So we will have to wait and see whether the new owner can restore past glory. Also note about 2003 vintage in Napa. Not even the regular cults (Harlan 90 points, Bond 91&90, Araujo 91 , Colgin 91&90) did not do so well... Some readers even said Laube has a "palate change." I did not taste these wine, so I can't comment krup. DP จากคุณ : DP Wine - [ 10 พ.ย. 49 17:33:43 ]

ความคิดเห็นที่ 142 ps. There is no Screaming Eagle 2000 as the owner decide the grape is not up to her Standard and sell grape as bulk... จากคุณ : DP Wine - [ 10 พ.ย. 49 17:35:18 ]

ความคิดเห็นที่ 143 ผมว่ากลับมาทานบอร์โด หรือโรนกันดีกว่ามั้ง DP nijja คับสาวที่ชอบทานไวนหายากจิงๆคับ จากคุณ : เด็กตาดำๆ (Nic Nenin) - [ 10 พ.ย. 49 20:36:11 ]

ความคิดเห็นที่ 144 Dear P Nick, At this price, I don't have any Screaming Eagle or other expensive cults either krup. I'd rather buy 2nd growth bordeaux, 1er cru burg, or lesser know CA Cab. For Rhone, I still don't drink them enough to understand what's the fuss is all about. If you have La La wines (E. Guigal) may be you can help enlight me krup :) hehehe จากคุณ : DP Wine - [ 10 พ.ย. 49 21:30:19 ]

ความคิดเห็นที่ 145 คุณ DP Wine ขา.. ดีใจนะคะ. ที่คุณอ่านและเชื่อถือในข้อมูลของ wine spectator อย่างจริงใจ และ สมควรจะเป็นเช่นนั้น เนื่องจาก WS คือสถาบันไวน์ที่ถือความเป็น conservative อย่างเคร่งครัด นโยบายของเขา คือการให้แต้มอย่างเป็นกิจจะลักษณะ.. และ ราคาที่ quote คือ "ราคาที่ควรจะเป็น" ราคาที่"ควรจะเป็น"หมายถึง ราคาที่เกิดจากต้นทุนการผลิต บวก ภาษี บวกกำไร และเป็นราคาที่แหล่งผู้ผลิตได้แจ้งประเมินไว้กับสรรพากร เมื่อมาพูดถึงต้นทุนการผลิต..ซึ่งความจริงได้พูดไปแล้วในคคห.ที่สอง แต่จะยกข้อความบางตอนมาให้อ่าน สำหรับผู้ที่ย้อนไปไม่ถึง.. ความคิดเห็นที่ 28 งานของ AVA (American Viticultural Areas)หรือเปรียบได้กับเป็น ไวน์ CIA นั้น ไม่ใช่แค่นั่งโต๊ะ กระดิกเท้าอ่านฉลากไวน์อย่างเดียวเสียเมื่อไหร่ บทบู๊ของพวกเขาก็มีเยอะ เรื่องจับทุจริตองุ่นนี่แหละ อ่านไปจะขำไป แต่ได้ความรู้ด้วยนะ คราวนี้ คือ บริษัทไวน์ Franzia รู้สึกว่าจะมีขายที่เมืองไทย เขาจะทำไวน์กล่องขายไปทั่วโลก เป็นบริษัทใหญ่โต ที่ใช้การยัดใส้แบบน่าเกลียด..กล่าวคือ ใช้องุ่นราคาถูกมาปลอมปน.. ไวน์ที่ชื่ออะไรก็ตาม จะต้องใช้องุ่นตามชื่อนั้น กว่า 75 % ตามที่ได้เล่ามาแล้วว่าเป็นกฏหมาย อีกทั้งมีการตกแต่งเอกสาร โดยการทำการจัดซื้อองุ่นจาก"นอมินี่"บริษัทปลอมๆขึ้นมา เพื่อยามที่ถูกจับได้จะได้อ้างว่า ไอ้ปื๊ด..มันทำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น..ก็ไม่รอด บุกเข้าจับได้ขณะที่รถบรรทุกกำลังนำองุ่นไปเข้าเครื่องบดเลยเชียว และรถน่ะ ไม่ใช่คันเดียว เพราะเขามากันเป็นขบวนคาราวาน ราคาไวน์นะคะ ที่เรากินๆอยู่นี่ ตัวกำหนดราคา คือ ราคาขององุ่นที่ถือว่าเป็นต้นทุนใหญ่ อันมีราคาตามเผ่าพันธุ์ แตกต่างกันดังนี้.. Cabernet Sauvignon 380-400 (เหรียญ สรอ.) Zinfandel 350-375 หมายถึง อัตราต่อหนึ่งตัน ส่วนองุ่นอื่นๆ อย่าง Carigane หรือ Grenache ได้ 200 ก็บุญโข งานนี้ Franzia รับไปอ่วม.. """""""""""""""""""""""""""""" ความคิดเห็นที่ 7 จากข้อมูลของสถาบันการบัญชีชื่อดัง ได้เปิดเผยตัวเลขของกำไรไวน์แต่ละขวด (ตามความเป็นจริง เพราะมันคืองายงานที่มอบให้รัฐบาล) ว่า.. ไวน์คาลิฟอร์เนียที่แพงที่สุด (ราคาขอสงวน แต่ขอย้ำว่าแพงที่สุด) และราคาองุ่นที่กล่าวมานี้ หมายถึง ตันละหลักพันๆขึ้นไป.. เขาแยกว่ามีค่าใช้จ่ายในการผลิตดังนี้ grape                        6.00 bottle                          0.50 cork                            0.25 foil                              0.12 label                            0.25 Bottling, corking            0.25 รวมแล้วคือ                 $  7.37 ทีนี้มาดูไวน์ราคาที่ถูกที่สุด....ว่า ต่างกันตรงไหน grape                     0.50 bottle                     0.20 cork                       0.08 foil                         0.00 label                      0.02 bottling & corking    0.17 รวมแล้วคือ               0.97 รับรองว่าอ่านต่อไปถึงราคากำหนดขาย แล้วท่านๆคอไวน์ ที่จ่ายเงินเป็นหมื่นเป็นแสน  จะสะอึกออกมาเป็นโลหิต เย็นๆค่ำๆ..จะกลับมาเขียนต่อเล่าต่อค่ะ จากคุณ : WIWANDA   - [ 6 ก.พ. 49 23:55:09 ] """""""""""""""""""""""""""""""" ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณหลายๆเด้อ ที่มาเล่าเรื่องภาษีไวน์ไทยให้ฟัง เพราะ ตรงนี้ไม่มีความรู้เลย ว่าทำไมมันถึงแพง แต่จำได้เหมือนกันว่า มูตอง คาเดต์ เคยตกขวดละ หกร้อย เจ็ดร้อย ยังคิดเหมือนกันว่าไม่แพง เพราะที่นี่ ขวดละ $5.99 บวกภาษีแล้วก็ $6.42 ประมาณนั้น แต่ถ้าพันเจ็ด..เห็นท่าจะรับประทานไม่ลง.. ทีนี้จะอธิบายให้ฟังว่า องุ่นตันหนึ่งนั้น ทำไวน์ได้ 60 ลัง หรือ 720 ขวด ถ้าราคา grape ที่ให้มาข้างต้น คือ $6.00 เท่ากับว่า..เขาคิดราคาองุ่น ตันนั้น 4,320.00 ก็องุ่นจากไร่เขานั่นแหละ (ปลูกในสวนอีเดนมั้ง?) ในขณะที่ราคาซื้อขายองุ่นโดยทั่วๆแล้ว ราคาอยู่ในหลักร้อย ดูตัวอย่างราคาของไวน์ราคาถูกที่ยกมา..ค่าองุ่น..$0.50 หมายถึงองุ่นนั้น ตกตันละ $360.00 อันเป็นราคาที่รับซื้อรับขายจากกสิกรจากไร่ทั่วๆไป ในพื้นที่อื่นๆของ คาลิฟอร์เนีย ไอ้แพงๆที่ว่านั่น คือ เขต นาปา แผ่นดินที่ปูด้วยทองในยามนี้และจะเล่าให้ฟังทีหลังว่าต้นสายปลายเหตุมายังไง.. จากคุณ : WIWANDA - [ 7 ก.พ. 49 20:16:43 ] """""""""""""""""""""""""""""""""""""" ทีนี้มาดูว่า..ทำไมจากต้นทุนแค่ เจ็ดแปดเหรียญ เขาจึงขายขวดละร้อย หรือ ร้อยอัฟๆๆๆๆ profit                 41.50 {ตรงนี้ mark-up ได้ตามกระแสความนิยม} income taxes        15.50    (โดยประมาณต่อขวด) interest                  1.00 Administration        3.50 Marketing/sales      3.50 product {wine}       7.37  (ยกยอดมาจากข้างบน) รวมเท่ากับ              72.37 นี่คือ ราคาขวดละร้อยเหรียญอัฟ แอนด์ อัฟที่ขายๆอยู่ในตลาด ไม่ว่าจะเป็น โอปัส เพนโฟลส์ หรือ ดอมินุส.. จะมีการแตกออกมาได้ตามข้อมูลที่ยกมา... จากคุณ : WIWANDA - [ 7 ก.พ. 49 20:29:59 ] """"""""""""""""""""""""""""""""""" ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อต้นทุนเขากำหนดมาว่า เป็นเจ็ดสิบกว่าเหรียญ หรือ แปดร้อยกว่า ต่อลัง.. มาถึงมือ Wholesaler ต่อด้วย Retailer อีตานักข่าวสื่อศิลปเอ๋ย...พระเจ้ายอร์จของเธอก็ต้องร้องจ๊ากสสส์ เขาบวกกันกระหน่ำ มันเป็นกำไรซ้ำซ้อน เพราะไวน์ราคาขนาดนี้ เขาซื้อกันเงินสดๆ ไม่มีเครดิต ซื้อแล้ว ซื้อเลย..ขายได้หรือไม่ได้ ก็เรื่องของเอ็ง และงานนี้มันเป็นการกระทำแบบร่วมมือ..เพราะราคาเขาจะไม่หนีถอยไปกว่ากันมากมายนัก ทุกบริษัทจะขายในราคาใกล้เคียง แต่อาจซื้อได้ถูกไปนิดหน่อย ตาม Costco แต่ไวน์ในลักษณะนี้ หมายถึง มีชื่อเสียงแล้ว มาจากไร่เล็กๆที่ ผลิตได้ปีละประมาณว่า สามพันลัง(อย่างน้อย)..หรือ เท่ากับ 36,000 ขวด.. มีแฟนๆขาประจำเป็นลูกค้าเข้าคิวจ่อรอซื้อยาวเหยียด เขาจะส่งให้ Wholesaler/ retailer ไปขายแค่ 25 % หมายถึง 9,000 ขวด คิดดูว่า กำไร ขวดละ 41.50 จะมีรายได้ 373,000 เหรียญ และ ที่เหลือเก็บไว้ขายเองในรายการ waiting list ไม่ต้องจ่ายค่า W/R จะกำไรเท่าไหร่ เอาคร่าวๆนะ ว่ารับอีก 1.7 ล้านเหรียญ ตอนนี้เห็นยัง..ว่าทำไมธุรกิจไวน์มันถึงได้มาแรงนัก ไม่นับรวมว่า ค่าที่ดินในการทำไวน์ได้จนประสบความสำเร็จนั้น ทะยานพุ่งขึ้นราวกับปูด้วยทองคำ จากคุณ : WIWANDA - [ 7 ก.พ. 49 21:02:34 ] """"""""""""""""""""""""""""" ความคิดเห็นที่ 21 แล้วไวน์ราคาถูกที่ว่านี้..คือราคา ระดับ 5-6 เหรียญ ที่ยกมาให้ดูว่า ราคาทุนนั้นตก ขวดละ 0.97 ซึ่งยังต้องมองในด้านอื่นๆอีกหลายด้าน โดยสังเกตว่า ไม่มีค่า foil เพราะ ในปัจจุบัน หลายไร่กำลังอ้างว่า การใช้สารตะกั่วอาจเป็นพิษต่อร่างกาย จึงเลี่ยงไม่ใช้ ใส่จุกและปิดครั่งมาให้ข้างบนหน่อยนึง ถืออาจมีพลาสติกใสพันมาแทน.. แท้จริงแล้ว..คือการเลี่ยงใช้ foil ที่ราคาแพง เนื่องจากต้องสั่งทำ ต้องย้อมสี ตกแล้วก็สิบกว่าเซ็นต์ หรือ จุกไม้ก็อก ที่ราคา เกือบสิบเซ็นต์นั้น หลายๆเจ้าได้หันไปใช้จุกไม้ก็อกเทียมที่ทำจากพลาสติค ที่ราคาถูกกว่ากันมาก ตรงนี้..ถ้าเข้าใจแล้ว สามารถประเมินราคาไวน์ได้ก่อนซื้อ เท่ากับว่า ก่อนซื้อไวน์ ดูด้วยว่า ขั้นตอนและราคาต้นทุน นั้น ควรจะสักเท่าใด สมควรซื้อด้วยราคานั้นหรือไม่.. ทีนี้จะเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ซะทีได้ยัง.. จากคุณ : WIWANDA - [ 7 ก.พ. 49 21:27:17 ] """""""""""""""""""""""""""""""" ความคิดเห็นที่ 23 เฮ้ย..ไม่ต้องเสียใจ เพราะในอเมริกา เขาก็ขาย 5-6 เหรียญแล้วไง คนที่นี่แท้ๆยังโดนบวกสารพัด ไหนจะ sales tax อีก เพียงแต่เรามีตัวเลือกมากมาย ในการที่จะหาของดีราคาถูก ไปขายเมืองไทย ราคา 10 กว่าเหรียญ (หมายถึงสี่ร้อยกว่าบาท) ก็ทำใจน่า..เพราะตัวเลือกมันน้อยนัก.. ทีนี้ก็ลองส่ายตาหาดูไวน์ฝรั่งเศส(ถูกๆก็มีไม่ใช่เร๊อะ) หรือ ไวน์ชิลีเอาก็แล้วกัน.. จากคุณ : WIWANDA - [ 7 ก.พ. 49 22:10:58 ] จากคุณ : WIWANDA - [ 11 พ.ย. 49 01:40:03 ]

ความคิดเห็นที่ 146 และที่ว่า.. ""ทีนี้จะอธิบายให้ฟังว่า องุ่นตันหนึ่งนั้น ทำไวน์ได้ 60 ลัง หรือ 720 ขวด ถ้าราคา grape ที่ให้มาข้างต้น คือ $6.00 เท่ากับว่า..เขาคิดราคาองุ่น ตันนั้น 4,320.00 ก็องุ่นจากไร่เขานั่นแหละ (ปลูกในสวนอีเดนมั้ง?)" คำตอบคือ ไวน์ของ Screaming Eagle นั้น เป็นที่รู้กันว่า เขาจ่ายค่าองุ่น(ของเขาเอง) ในราคาตันละ $4,500 จากข้อความส่วนหนึ่งในนี้.. "As harvest time approaches each year, Barrett gets tense. "Screaming Eagle grapes are $4,500 a ton," she says, compared with $2,000 a ton for a typical Napa vineyard. "You have got to get the harvest date correct. Then you're halfway there." Screaming Eagle is blended from six to eight lots of Cabernet Sauvignon. Smaller amounts of Merlot and Cabernet Franc are added. When the grapes are picked and crushed, Barrett must decide what kind of yeast to add and how long to leave the juice to ferment. She likes to work on her own, which is why she keeps her vintages small. After 18 months in oak barrels, the wine is blended before being bottled. "I do it with a taste test with a count of six," during which the different grape tastes should hit the drinker's palate. "I want all those stages, one through six, to be seamless and full." And Barrett usually gets what she wants.T.M " ไปอ่านเต็มๆได้ที่นี่.. http://www.amusebouchewine.com/time.html จากคุณ : WIWANDA - [ 11 พ.ย. 49 01:47:58 ]

ความคิดเห็นที่ 147 ทีนี้มาพูดถึงราคา.. ตามที่ WS ให้มานั้นถูกต้อง คือเขาให้ตามราคาของความที่ควรจะเป็น.. แต่..เขาไม่ได้บอกคุณว่า ราคานี้มีขายที่ไหน หรือ ไปซื้อได้ที่ใคร..มันเป็นคำบอกเล่าลอยๆ..ตามข้อมูลจากสรรพากรและบวกกำไรให้อีกนิดหน่อย.. ของจริงอยู่นี่ค่ะ..ตามแหล่งที่ให้มาข้างล่างนี้..มีไวน์ของ Screaming Eagle อยู่ในมือจริง..และมีคนซื้อขายกันในราคานี้จริง..ขอราคาต่ำที่สุดมาให้ดูก่อน.. .. - WINE AUCTION PRICES FOR SCREAMING EAGLE CABERNET Special Thanks to THE CHICAGO WINE COMPANY (www.tcwc.com) for these auction hammer prices. . ___________________________ Vintage 1992 _____________________________ Date Wine Vintage Price Package 1999.12 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY 1992 $850 BT 1999.12 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY 1992 $740 BT 2002.11 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY 1992 $1550 BT 2002.11 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY 1992 $1750 BT . ___________________________ Vintage 1993 _____________________________ Date Wine Vintage Price Package 1998.02 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY - In 3-pack wood case. 1993 $500 BT 1999.12 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY 1993 $625 BT 1999.12 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY 1993 $640 BT 2002.11 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY 1993 $840 BT 2002.11 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY 1993 $840 BT 2002.11 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY (VSLC) 1993 $820 BT . ___________________________ Vintage 1994 _____________________________ Date Wine Vintage Price Package 1998.02 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY - In 3-Pack wood case 1994 $516 BT 1999.12 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY 1994 $750 BT 1999.12 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY 1994 $820 BT 2002.11 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY 1994 $980 BT 2002.11 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY 1994 $980 BT 2002.11 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY (VSLC) 1994 $980 BT . ___________________________ Vintage 1995 _____________________________ Date Wine Vintage Price Package 1999.04 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY (OWC) 1995 $833 BT 1999.12 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY 1995 $720 BT 1999.12 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY 1995 $850 BT 2002.11 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY 1995 $975 BT 2002.11 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY 1995 $960 BT . ___________________________ Vintage 1996 _____________________________ Date Wine Vintage Price Package 1999.12 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY 1996 $750 BT 1999.12 SCREAMING EAGLE CABERNET SAUVIGNON, NAPA VALLEY 1996 $740 BT We attempt to present accurate information but we do not warrant the accuracy of the data presented here. ... Go to California Auction Properties Page จากคุณ : WIWANDA - [ 11 พ.ย. 49 01:53:25 ]

ความคิดเห็นที่ 148 ที่เหลือ..คือเวบการซื้อขายมีความเชื่อถือในเรื่องของชื่อเสียง ลองเข้าไปอ่านดูทั้ง tasting note และ ราคา http://www.klwines.com/product.asp?sku=1016451 http://www.klwines.com/product.asp?sku=995568 http://www.winecommune.com/lot.cfm/wine/2003-Screaming-Eagle-Cabernet-Sauvignon-Napa/lotID/1331778.html http://www.cellarnotes.net/screamingeagle.shtml http://www.wine-searcher.com/find/Screaming+Eagle+Cabernet+Sauvignon/1997/-/USD/A/-/0 http://www.wine-club-central.com/detail.aspx?ID=5735 ไม่มีหรอกค่ะ..ราคาที่ทาง WS ที่ให้มา.. เพราะตอนนี้มันมาถึงเรื่องของ ดีมานด์ กับ ซัพพลาย แล้ว..อีกทั้งสาวกของบ๊อบนั้นมีเยอะมาก แต่ละคนกระเป๋าหนักทั้งนั้น ราคาสู้กันไม่อั้น.. ยิ่งเป็นชาวญี่ปุ่น เขาหาซื้อกันยกลัง..ไม่เกี่ยงราคาเลย คิดดูก็แล้วกันว่า..มีไวน์ที่ไหนถูกประมูลไปในราคา ห้าแสนเหรียญ ต่อ หกขวด.. ก็มีเขานี่แหละ..SCREAMING EAGLE !! จากคุณ : WIWANDA - [ 11 พ.ย. 49 02:01:54 ]

ความคิดเห็นที่ 149 อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณวิ .... ตามอ่านอยู่ค่ะ ไม่ค่อยปะติดปะต่อเพราะ.....(อ่านแล้ว ขอลบค่ะ) เรื่องราคาไวน์ค่ะ น่าสนใจจัง... (ยังกะพวก คอสเมติค แต่ยิ่งกว่าเพราะราคาไม่ฟิกซ์ เหมือนแอนตี๊ค มังคะ) และที่คุณวิเขียนไว้ใน คห 145 //คราวนี้ คือ บริษัทไวน์ Franzia ......// มีค่ะ วานนี้ เห็นที่ร้านเค้าจัดวางสวยงาม กล่องละคิดว่า สองลิตร(ไม่ต่ำกว่า 1.5) แถมจานเล็กๆใส่อีกกล่องด้วยเช่นกัน ติดแนบกันมา ราคาประมาณสองร้อยบาทนิดๆเท่านั้น พลิกอ่านดูรอบกล่อง ชื่อองุ่นไม่มี แต่พิมพ์บอกว่า California Red เอ ... หรือจะเป็น คุ้กกิ้งไวน์ .... คือ ออสเตรเลียเค้านำร่องขายไวน์กล่องมาราวๆสองสามปีแล้ว โดย ยามาย่า เอาของ บานร้อค สเตชั่น มาเปิดตัว ชีราส ซึ่งขายดีเหมือนเททิ้ง ขาดตลาดมากๆเลย (เเรกๆกล่องละสามร้อยกว่าบาท เดี๋ยวนี้พอติดตลาด ราคาอัพอีกราว ๒๐ เปอร์เซนต์) จากนั้นไวน์กล่องก็มาจากทั่วโลก ...... เรื่องราคานะคะ ไวน์ชิลีตัวนึง ยังไม่ได้เปิดลอง ขายที่นี่ ประมาณสามสี่ร้อยบาท แต่ในเวบเห็นตั้งไว้แพง เลยจะไปซื้อเพิ่ม เค้าขายหมดไปแล้วค่ะ เนี่ยค่ะ ขวดที่ห่มผ้ากระสอบ ซ้ายมือ ~Los Portones de San Francisco Sauvignon Blanc Chile Soft yellow color, aromas of melon, white peach and a hint of lime. Good finish with a touch of spice and minerals. http://www.sussexwine.com/sku020736.html ถามคุณวิว่าการห่มผ้าให้อย่างนั้น มีความหมายไหมคะ ..... จากคุณ : nijja - [ 11 พ.ย. 49 08:59:53 ]

ความคิดเห็นที่ 150 ไวน์ต่างๆมาถึงมือมารอย่างผมก็ถูกบวกเลอะเทะ แล้วเจอกับภาษีเมืองไทยเข้าไปอีกโอย..........น่วม จากคุณ : นิค (Nic Nenin) - [ 11 พ.ย. 49 09:32:46 ]

ความคิดเห็นที่ 151 Dear P Wi (comment #145), WineSpectator always qoute the price of wine sold at cellar door of the winery (for most CA and domestic wine), a price of wine appeared on mailing list (for Screaming Eagle for example), or the price they bought the wine for (for many imported wine). They do not qoute price as "ราคาที่ควรจะเป็น" na krup. So, for 1992 & 2003 Screaming Eagle, the people who were on their mailing for that vintages actually get a chance to buy wine at $50 and $500 respectively. And these prices are not updated to reflect the current selling price krup, so we are looking at history in WS database for 1992 price as you mention that nowsday we have to pay hundreds of dollars. And yes, for many imported wines, it is less clear where their price come from, so WS kinda use the price that they bought the wine. So, sometimes, you can find the wine in retail that is much cheaper or much more expensive. จากคุณ : DP Wine - [ 11 พ.ย. 49 09:44:36 ]

ความคิดเห็นที่ 152 มาแถลงให้ฟังเรื่องของ"ราคาที่ควรจะเป็น" คำว่าควรนั้น หมายถึง ความควรของทางผู้ผลิต ที่หารบวกลบค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมกำไรที่ต้องการ..ปล่อยออกสู่ตลาด นั่นคือ"ความควรที่จะเป็น" ดังที่ยกตัวอย่างมาให้ชม ว่า ค่าใช้จ่ายหลักๆมีอะไรบ้าง..บางครั้งบางบริษัทต้องทำบริษัทนอมินีขึ้นมาจัดจำหน่าย เพื่อรับกำไรไปในชั้นแรกอีกครั้ง.. ก่อนที่จะส่งออกสู่ตลาด.. ไวน์อย่าง SE ในชั้นแรก..ยังไม่มีชื่อเสียงอะไร เพราะบ๊อบยังไม่มาชิม..ก็ออกมาขายแต่สมาชิกที่มีจำนวนอยู่น้อยนิด คือขวดละไม่กี่สิบเหรียญ ตอนนั้นยังแทบจะต้องไล่แจก เสียด้วยซ้ำ  แต่นั่นคือราคาที่ควรจะเป็น  เพราะนับจากต้นทุน และค่าใช้จ่ายเรียบร้อย..อีกทั้ง..เป็นจำนวนที่โพสต์ไว้กับกรมสรรพากร   และขอให้คิดดูว่า..ถ้าขายไม่ออก..จะต้องจ่ายภาษีอยู่ดี เป็นจำนวนไม่น้อย.. แต่หลังจากที่ได้รับการโปรโมทจากบ๊อบ ..จากห้าสิบเหรียญมันก็มากลายเป็นอย่างที่เห็น.. องุ่นก็องุ่นเดิม..พื้นที่ปลูกก็พื้นที่เดิม..คนทำไวน์ก็คนเดิม.. แต่มันต่างกันจนแทบไม่น่าเชื่อ ..ขอยกตัวอย่างของ WS มาให้พิจารณา.. Winery/Wine Vintage Score Price Select Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Napa Valley 1999 97 $250   Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Napa Valley 1996 96 $125   Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Napa Valley 1992 96 $50   Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Napa Valley 1997 95 $125   Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Oakville 2002 95 $300   Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Napa Valley 1998 92 $250   Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Napa Valley 2001 92 $300   Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Napa Valley 1994 92 $75   Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Napa Valley 1993 91 $75   Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Oakville 2003 88 $500   Screaming Eagle Cabernet Sauvignon Napa Valley 1995 87 $100   ........................................................ แรกๆก็ราคาจำนวนสิบอยู่ดี..จากปี 95 ขึ้นไป..ราคาถีบไปอย่างไม่หยุดยั้ง..สมาชิกที่มีอยู่จำนวนเพียงสองหรือสามร้อย ซื้อได้คนละ สองขวด..จากผลผลิต ปีละ 500-600 ลัง..(เท่ากับ 6-7000 ขวด) และเขาหยุดรับสมาชิกใหม่มานานหลายปีแล้ว พอปี 03 ทั้งที่ได้สกอร์แค่ 88  ก็ยังขายขวดละ 500 เพราะว่ากลุ่มสมาชิกที่ซื้อไป นำไปปล่อยต่อได้กำไรคนละมหาศาล ดังนั้น ทางไร่จึงจำเป็นต้องขายในราคาที่ไร้เหตุผล  ราคาที่เกินกว่าต้นทุนการผลิตอย่างมากมาย แต่ไม่เป็นไร..เพราะมาถึงตอนนี้ เขาไม่กังวลกับเรื่องของภาษีที่จะโดนกับไวน์ค้างสต๊อคแล้ว..เพราะไอ้ราคา 500 ที่ขายให้กับสมาชิกไปนั่น สามารถจ่ายภาษีให้กับไวน์ได้ทั้งเซลล่าร์ จากคุณ : WIWANDA - [ 11 พ.ย. 49 10:27:32 ]

ความคิดเห็นที่ 153 บริษัทไวน์ถ้าไม่แน่จริง..ไม่กล้าตั้งราคาซี้ซั๊วหรอกค่ะ เพราะสรรพากรคิดภาษีรายขวด และ ตามเปอร์เซนต์ของแอลกอฮอลอีกต่างหาก (เคยเล่าให้ฟังแล้ว) สมมุติว่า.. ไวน์ขวดหนึ่ง ต้นทุนการผลิต 8.00 แต่ขาย 50.00 ต้องเสียภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วยของ 42.00 ภายในสิ้นปี ของการออกสู่ตลาด ถ้าขายไม่ออกในสามสี่ปี สามารถเรียกคืนกลับมาขายเลหลังให้กับกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ตมือสอง ตอนนั้น ค่อยมาขอปรับกำแพงภาษีใหม่ ซึ่งขั้นตอนตรงนี้ก็แสนทรหดนัก เพราะจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องมาโดนค่าวิชากับกลุ่มตัวกลางอีกเพียบ.. กลับไปเรื่องของไวน์ SE อีกครั้ง (ทั้งๆที่ไม่อยากจะพูดถึงเลยเชียว..ช่างสุดเอื้อมเสียจริง) ดังที่เห็นว่า ตั้งราคามา 500 นี่ เพราะเป็นความเห็นชอบของเจ้าของใหม่ ที่เพิ่งซื้อไร่นี้มาด้วยราคามหาศาล นั่นคือ เกือบสี่สิบล้านเหรียญ ตั้งแต่เขาเข้ามา..ในฐานะที่เป็นเศรษฐีที่ค่อนข้างจะส่งเสียงดัง คิดจะทำโน่นทำนี่ แต่ไม่มีความรู้เรื่องไวน์มาเลย..ใช้เงินจ้างที่ปรึกษาที่มีชื่อเสียงอยู่ในวงการไวน์ของนาปาเป็นทีม..และได้ประกาศตั้งแต่ก่อนที่องุ่นจะผลิดอกว่า..เขาต้องการราคาออกจากไร่เท่านั้นเท่านี้.. จะว่าไปแล้ว..ก็ถือว่าเป็น"ราคาที่ควรจะเป็น" เพราะ ต้นทุนที่สูงจนจับไม่ลง และจะต้องขายไปอย่างนี้อีกหลายปีหน่อย..กว่าจะได้สี่สิบล้านกลับคืนมา นับว่า..น่าสนใจมากต่อการติดตามดูอนาคตของไร่นี้ จากคุณ : WIWANDA - [ 11 พ.ย. 49 10:41:24 ]

ความคิดเห็นที่ 154 สวัสดีค่ะ คุณ nijja เรื่องห่มผ้า คือการเรียกร้องความสนใจ และเป็นการง่ายต่อการจดจำ ซึ่งทางบริษัทอยากจะให้เป็นสัญญลักษณ์ แบบไวน เกียนติ ของอิตาเลี่ยนก็เป็นได้ ที่มีการห่อ ขวดครึ่งล่างด้วยฟาง..เห็นที่ไหนก็รู้ถึงที่มา.. ที่เห็นว่า California Red นั้น หมายถึงองุ่นลูกผสมค่ะ เขาเอามารวมกัน ไม่จำกัดพันธ์โน้นพันธ์นี้ เพราะกฏหมายมีห้ามไว้ ว่า จะเรียกได้ต่อเมื่อองุ่นหลักจะต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่า 75 % ถ้าไม่ถึง จะจับแพะชนแกะอย่างไรก็ได้ ให้ใช้คำว่า red table wine ถ้าเป็น California Red หมายถึงว่า ต้องผลิตด้วยองุ่นที่ปลูกใน California ล้วนๆ.. แต่จะมาจากตรงไหนแล้วเอามารวมกันก็ได้.. จริงค่ะ..ไวน์ประเภทนี้ คือชนิดที่เอามาทำเป็น cooking wine ในร้านอาหารส่วนใหญ่ ซึ่งไม่ผิดอะไรนะคะ เพราะว่า ถ้าใช้ไวน์ชนิดที่ดีหน่อย อาหารก็จะมีรสชาติดีขึ้น เดี๋ยวนี้ตามร้านอาหารดังๆ เขาใช้ไวน์ราคากลางมาปรุงกันทั้งนั้น..ไม่มีชนิดต๊อกต๋อยแล้ว.. จากคุณ : WIWANDA - [ 11 พ.ย. 49 11:13:45 ]

ความคิดเห็นที่ 155 Dear P Wi บริษัทไวน์ถ้าไม่แน่จริง..ไม่กล้าตั้งราคาซี้ซั๊วหรอกค่ะ.. >>>>>>>>>>>>>>>> Exactly krup. Even at rediculusly high price at $500, they still sold out, and those who is on mailing can sell it even higher for profit. That's say something about the demand of this wine. Are they speculator? I'm sure some of them are, but for some other people "price is no object.". Economic 101 is in full play here. If you buy $50 dollars SC in 1992 (come out in let's say 1995), and sell it today for $1,000. You make 20 folds in 10 years!!!! That easily beat any stock index. Well, how would you know that your pick will worth so much is remained the question. If you buy Cisco stock in 1990. You will make 10x money in 10 years too. :) จากคุณ : DP Wine - [ 11 พ.ย. 49 11:44:29 ]

ความคิดเห็นที่ 156 คุณ DP Wine ก็ลองหาไวน์ในชื่อเหล่านี้ดูนะคะ.. ตามหน้าเวบ..อันไหนราคาประมาณว่าสองร้อย (ถ้าหาเจอ) ก็รีบจัดการซื้อซะ..เพราะ พวกนี้คือ cult wine อันเป็นที่หมายปองของชาวประชา เมื่อก่อนมีแค่ 11 ราย ไม่กี่เดือนเอง ขึ้นมาเป็น 16 แล้ว.. อย่าง Grace Family ที่ผลิตได้เพียงสองร้อยลัง เจ้าของธรรมมะธรรมโมมาก..มักจะนำออกมาประมูลให้กับวัด บางทีเจอในรายการประมูล..ที่คนมักไม่รู้จักว่าเป็นของดี ราคาเลยแค่สองร้อยนิดๆเอง..คนใกล้ๆตัวพี่นี่เอง ที่คว้าไปเลย.. Araujo, Bryant Family, Caymus, Colgin, Dalla Valle Maya, Diamond Creek, Dominus, Dunn Howell Mountain, Grace Family, Harlan, Husic, Kistler, Marcassin, Screaming Eagle, Blankiet, and Vineyard 29. จากคุณ : WIWANDA - [ 11 พ.ย. 49 12:04:09 ]

ความคิดเห็นที่ 157 Dear P Wi, As much I want to buy wine from your list (especially Mascassin), I don't have that kind of money unfortunately :(Maybe a new vintage of Dominus is not so expensive yet.... Also, there are a handful of "new cult" or "cult wannabe" that are not so expensive yet (some of them at least)... Lewis, David Arthur, Colgin, Kobalt, Delectus, Gemstone, Buoncristiani, Hundred Acre What's your opinion on Opus One krup? I know a few Thai people that go crazy about this wine, but what I read is that the newer vintage 2000 to 2003 are not that impressive. จากคุณ : DP Wine - [ 11 พ.ย. 49 14:09:47 ]

ความคิดเห็นที่ 158 มาสวัสดีตอนเย็นๆครับ ขอแสดงความยินดีกับพี่ master_indyด้วยนะครับ ขอให้หายวันหายคืนครับ จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 12 พ.ย. 49 20:21:18 ]

ความคิดเห็นที่ 159 มาสวัสดียามก่อนเที่ยงครับ จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 13 พ.ย. 49 11:33:55 ]

ความคิดเห็นที่ 160 สวัสดีตอนบ่าย ครับ... จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 13 พ.ย. 49 13:02:23 ]

ความคิดเห็นที่ 161 ผลัดกันเข้ามาสวัสดีตั้งแต่เช้าจนบ่ายเลยหรือคะ? สวัสดีต้วยค่ะ..วันนี้และสองวันที่ผ่านมาต้องทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำเชียว เพราะมีงานใหญ่..เห็นทีจะอธิบายได้ไม่หมด ไปอ่านรายการเอาเองละกัน..สามวันยาวเหยียด http://www.montereywines.org/wine_events_the_great_wine_escape_weekend.html สลบเหมือดไปเลย คุณ DP Wine ถามถึงเรื่องไวน์โอปัส วัน.. ว่ามีความเห็นอย่างไร.. ตอบตรงๆเลยนะคะ ว่าใหม่ๆออกมานั้น เห่อมาก.. เพราะเห็นว่าจะเป็นชื่อเสียงให้กับไวน์นาปาให้ขจรไปไกลในโลกกว้าง.... ชิมแล้วก็ว่า..เยี่ยม.. แต่คนฝรั่งเศสข้างเคียงกาย บอกว่า....ไม่เห็นจะเข้าท่า โฆษณาเกินจริง ต้นองุ่นที่ลำต้นเล็กกว่าข้อมือ..รากชอนไปแค่ไม้จิ้มฟัน ประโคมปุ๋ยแบบถาโถม..เก็บไว้หลอกกันเองเหอะ.. ตอนนั้น..ก็ทะเลาะกันไป ต่าฝคนต่างมีทัศนะความเห็นไม่ตรงกัน.. แต่ต่อมา..วิชาเริ่มแก่กล้าขึ้น..พอมองเห็นรูปการณ์ได้แจ่มแจ๋วขึ้น ว่า..ฟีลลีป เดอ รอธส์ไชลด์ จำเป็นที่จะต้องหาดินแดนแห่งใหม่ในการผลิต เนื่องจากที่ฝรั่งเศสนั้นถึงทางตันไปอย่างเรียบร้อย ทั้งในด้านภาษี กฏหมายแรงงาน สหภาพ และ ความชำนาญของคนงาน การล่าอาณานิคม (ทำไวน์) จึงได้เกิดขึ้น ตอนนั้น ประจวบเหมาะ ที่นาปา ที่มีตัวกลางประสานคือ มอนดาวี(ที่ออกเป็นคนขี้เห่ออยู่สักหน่อย) ต้องการชื่อเสียงของมูตองเข้ามาขยายตลาดโลก.. เมื่อนายทุนยักษ์ใหญ่มาเจอกัน..โอปัส วัน ก็เกิดขึ้นมา คุณภาพ..ก็ดีในระดับหนึ่ง..(ระยะแรกๆ) แต่..โอปัส วัน ไม่ได้รักษาระดับให้อยู่อย่างเสมอต้นเสมอปลาย บางปี..เทียบกับ Stag's Leap cabernet รุ่นธรรมดาๆไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะเหตุนี้เอง ราคาของโอปัส วัน ก็ยังอยู่ยงคงกระพัน เคยออกมาขาย 80-90 เมื่อสิบกว่าปีก่อน เดี๋ยวนี้ก็ขึ้นไปนิดหน่อย ร้อยกว่าๆตามค่าของเงิน หาซื้อได้ตามร้ายขายไวน์ทั่วไป.. เหมาะสำหรับนักไวน์มือใหม่..ที่ชอบอิง"ยี่ห้อ" เพื่อการรักษาหน้า และเป็นการประกาศให้คนรู้ว่า..มีมาตรฐานรสนิยมของการดื่มไวน์(นะว้อย) จากคุณ : WIWANDA - [ 13 พ.ย. 49 14:12:11 ]

ความคิดเห็นที่ 162 เอาวีดีโอ ของ มอนเทอเรย์ไวน์มาให้ดูกัน.. http://www.montereywines.org/mcvga_video_wm_256kbps.html นี่ละค่ะ..ชีวิตที่อยู่รอบๆตัวในทุกๆวัน... จากคุณ : WIWANDA - [ 13 พ.ย. 49 14:26:10 ]

ความคิดเห็นที่ 163 Dear P Wi, Thank you very much krup for your honest opinion. Although I've never tasted Opus One, I also shared your view from what I read on the internet. I have been telling a few Thai people that their money is better spent else where, and some do listen but some don't. จากคุณ : DP Wine - [ 13 พ.ย. 49 16:35:06 ]

ความคิดเห็นที่ 164 สวัสดีตอนเย็นๆค่ะคุณวิ กำลังจะเลิกงาน .... ทุ่มแล้วค่ะ (กำหนดเวลางานเอง) ดูวิดีโอ มอนเทอเรย์แล้ว สวยจังเลยค่ะ ทำงานอยู่ในธรรมชาติ ในโลกสีเขียว .. ที่ผลิตอะไร อร่อยๆออกมาได้ มหัศจรรย์ค่ะ เทคแคร์นะคะ .... จากคุณ : nijja - [ 13 พ.ย. 49 16:58:02 ]

ความคิดเห็นที่ 165 แวะมาสวัสดีตอนเย็นๆครับ จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 13 พ.ย. 49 17:51:06 ]

ความคิดเห็นที่ 166 สวัสดีตอนหัวค่ำครับ จากคุณ : jearjear - [ 13 พ.ย. 49 19:22:24 ]

ความคิดเห็นที่ 167 หวัดดีคับพี่ วิ พักผ่อนบ้างน่ะคับพี่ จากคุณ : นิคกี้ (Nic Nenin) - [ 13 พ.ย. 49 19:34:26 ]

ความคิดเห็นที่ 168 เฝ้าเช้าเฝ้าเย็นค่ะ แต่ไม่ได้แปะ เห็นพี่หวานหายไป ดูวิดีโอแล้วค่ะ คิดถึงจังค่ะ บรรยายฟังง่ายดี (พักนี้ไปเจอสำเนียงแขกกับอังกฤษบ่อย ...เหนื่อยค่ะ ฟังไม่ออก) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 13 พ.ย. 49 20:19:12 ]