ความคิดเห็นที่ 1 คุณ LaGrandeRue กำลังจะไปเยี่ยมเบอร์กันดี งั้นก็จะตัดฉับมาเล่าถึงเรื่องของแคว้นนี้ เมื่อหลังจากการปฏิวัติซะเลย..ว่า.. หลังจากสงครามกลางเมืองได้ผ่านไป การจัดระเบียบสังคมก็ได้เกิดขึ้น เมื่อก่อน เขาจะมีคนอยู่สามชั้น.. สูง คือกลุ่มขุนนาง มีศักดินา..กลาง คือ กลุ่ม คหบดีผู้ที่มีที่ดินเป็นของตัวเอง และชั้นล่าง..คือ กลุ่มเกษตรกร การปฏิวัติในครั้งนั้น..เกิดขึ้นเพราะ คนสองกลุ่มมารวมตัวกัน นั่นคือ กลางและล่าง..ที่ไม่ชอบใจในเรื่องของ ภาษีและ การบริหารในเรื่องเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่เปิดช่องทางให้กับคนเพียงหยิบมือ.. สาบาน..ว่ากำลังพูดถึงเรื่องฝรั่งเศสนะ..ไม่ได้ว่ากระทบใครเล๊ยย เจงเจง.. การแบ่งสันปันเค้กจึงเกิดขึ้น เพราะการริบทรัพย์สินและที่ดินกลับคืนมาจากกลุ่มศักดินาและเชื้อพระวงค์นั้น คือสาเหตุหลักของการปฏิวัติ คณะผู้ก่อการจึงต้องทำตามนโยบายที่ได้วางไว้.. ไม่งั้นเดี๋ยวเขาจะว่าเป็น ขิงแก่..แต่..ไม่เผ็ด.. ดินแดนที่มีค่าเป็นทอง อย่างเบอร์กันดี อันประกอบไปด้วย Cote de Nuits, Cote de Beaune ทั้งสองทำเลทองนี้ มีชื่อเรียกเป็นที่รู้จักว่า.. Cote d'Or ต่อลงมาจนถึง Beaujolais ดูตามภาพ.. ทั้งเส้นสายเหนือจดใต้นี้ เขาเรียกว่า..The Route des Grands Crus อันหมายถึง "road of great vineyards" (ก็ตามชื่อของ คุณ LaGrandeRue เขานั่นแหละ..) จากคุณ : WIWANDA - [ 22 พ.ย. 49 04:19:00 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เข้ามาอ่านต่อ เจอกระทู้ใหม่พอดีเลยครับ ชอบมุขพี่วิดีครับ ไวน์มีโทษ.... ไม่หัน :D ดีครับพี่วิ ได้อ่านเรื่องของเบอร์กันดี ไว้เป็นความรู้ก่อนไป จากคุณ : LaGrandeRue - [ 22 พ.ย. 49 06:17:25 A:80.171.163.231 X: TicketID:105596 ]

ความคิดเห็นที่ 3 good morning ka ค่ะ คุณวิและชาวไวน์ ... ได้สารกระตุ้นสมองแต่เช้าเลย .... ลา กรองด์ ฮรู นะคะ น่าสนใจค่ะ ..... วันพุธอีกแล้ว ... ขอแวบๆ .... จากคุณ : nijja - [ 22 พ.ย. 49 06:20:17 ]

ความคิดเห็นที่ 4 พื้นที่ในเบอร์กันดี..ที่ริบมาได้จากอาราม และ เจ้านายได้ถูกแบ่งซอยออกเป็นชิ้นใหญ่บ้าง เล็กบ้าง เพื่อที่จะนำออกประมูลให้กับชาวบ้านที่มีถิ่นฐานอยู่ในท้องที่เก่าก่อน มีนาคม ปี 1795 ในวันประมูลเพียงวันเดียว..ของหลายไร่ในละแวก Gevrey-Chambertin ที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในโลก (ตามปัจจุบัน) ได้ถูกประมูลไปโดยนาย Nicolas Defer de la Nouerre ในราคาถึง 6,625 livres หนึ่งในนั้น คือ La Romanee (ชื่อเดิม) ซึ่งมาเปลี่ยนเป็น เป็น Romanee-Conti ในทีหลัง เพื่อเป็นการรำลึกถึงเจ้าของเดิม ก่อนที่จะได้มา นั่นคือ Prince de Conti แต่ต่อมาในปี 1819 ได้เปลี่ยนมืออีกครั้ง โดยขายไปให้กับนายธนาคารผู้หนุนหลังสนับสนุนนโปเลียนในการทำสงคราม นาย Julien Ouvrard ในราคาถึง 78,000 ฟรังค์ ได้กำไรกันแบบเป็นกอบเป็นกำ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 22 พ.ย. 49 06:24:14 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นผ่านๆตา มานาน เรื่องเส้นทางไวน์ แต่ไม่ว่างที่จะอ่านเลยติดบุ๊กมาร์ค เอาไว้ก่อน พออ่านแล้วเลยติดใจ ตามไปที่บล๊อกพี่ ค่ะ กำลังคร่ำเคร่งกับเรื่อง"ฟ้องทนาย" ของพี่อยู่อย่างเมามัน อิอิอิ เลยต้องขอแอดพี่เลยนะคะ จะได้ตามรอยกลับมาอ่านต่อได้ง่ายๆ ขอบคุณนะคะ สำหรับเรื่องดีๆค่ะ จากคุณ : นางกอแบกเป้ - [ 22 พ.ย. 49 07:04:30 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เกาะติดกระทู้ใหม่ครับ ตามมาฟังว่า e-revenue เหมือนในโฆษณาหรือปล่าว จากคุณ : D19 (D19) - [ 22 พ.ย. 49 10:29:32 ]

ความคิดเห็นที่ 7 อันนี้เป็นไอเดีย ของพี่ DP ในเรื่องไวน์กับผู้บริโภค ครับ http://www.drinklessdrinkthebest.com/forum/index.php?topic=375.0 จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 22 พ.ย. 49 10:31:15 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พี่วิคับผมเองก็ทานเบอร์กันดีมาก็ไม่ได้มากมาย แต่เริ่มชอบๆ ไวน์เขตนี้แระคับ ไวน์เขตเบอร์กันดี จะมีคาร์แลตเตอร์ ตามเขตๆไปเลยหรือเปล่าคับ เช่น gevrey กลิ่นสไตล์จะคล้ายๆกันมีคาร์แลตเตอร์ของมันเอง หรือเปล่าคับ อย่างบอร์โดผมยังจะคลาดเดาว่าไวน์ที่เราทานเขตไหนจะมีลักษณะแบบใดอ่ะคับ อีกสามวันทางเวป Drinkless มีปาร์ตี้เล็กๆที่ร้าน La grotta เรียนเชิญ พี่ๆเพื่อนๆ Wiwanda Fc ด้วยน่ะคับ ถ้าว่างๆก็มาแจมๆแลกเปลี่ยนความรู้กันขำๆคับผม จากคุณ : 3 วัน Let's party (Nic Nenin) - [ 22 พ.ย. 49 10:47:36 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ข่าวคราวคับ จากคุณ : ตอน 1 (Nic Nenin) - [ 22 พ.ย. 49 10:54:43 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ข่าว จากคุณ : ตอน 2 (Nic Nenin) - [ 22 พ.ย. 49 10:57:23 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เนี่ย..เพิ่งกลับมา แว่บไปดูหนัง คาสิโน รอญาล มา.. ดูไปก็นึกชมตัวเองไปว่า..ชีวิตนี้ได้ดู Mr. Bond มาแล้วถึง หกคน..มี Sean Connery, George Lazenby, Roger Moore, Timothy Dalton, Peirce Brosnan, Daniel Craig ตาคนหลังนี่..เข้าท่าดีมาก มีเสน่ห์ลึกๆ..บางอย่างในหน้าตาของเขาทำให้คิดถึง สตีฟ แมคควีน ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เพราะมีส่วนคล้ายกันมาก แต่..ไม่มีใครมาเทียบกับ ฌอน คอนเนอรี่ ได้เลย.. ขนาดเอาแผ่นของ 007 เก่าๆมาดู ยังเห็นชัดเลยว่า พ่อฌอนได้พอกเครื่องสำอางไว้จนหน้าหนาเตอะ.. ...................... ข่าวที่คุณนิคนำมาแปะให้อ่าน..ก็เป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับ ความคิดที่คับแคบของคนกลุ่มเดียว..ที่ไม่ได้มีความรู้และไม่สนใจที่จะเสาะหาความรู้มาใส่ตัว.. ดูอย่างในหนังที่เพิ่งไปดูมานี่แหละ ทั้งเรื่องแอบโฆษณาเครื่องดื่มแบบระเบิดระเบ้อ ตั้งแต่ แชมเปญ..ไวน์..มาร์ตินี่ และ บรั่นดี เป็นพระเอกทั้งที...มันก็ต้องดื่มอะไรที่โก้ๆอย่างนี้แหละ ความจริงเจ้าของไร่เขาเสนอไวน์ของปี 1990 ให้.. แต่ผอ. ท่านไม่ยอม ท่านว่า.. "ระดับ เจมส์ บอนด์ มันต้องปี 1982 ซิยะ" เลยต้องไปงัดมาจากก้นบึ้งของเซลล่าร์มาให้.. แต่ผลก็เกินคุ้ม..Ch. Angelus ราคาพุ่งพรวดไปเลย พี่ยุ่นเหมาไปหมดแย้ววว... จากคุณ : WIWANDA - [ 22 พ.ย. 49 12:21:04 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีค่ะ คุณนางกอแบกเป้ มาขอต้อนรับเข้าสู่กระทู้ในฐานะสมาชิกใหม่นะคะ.. ในนี้เราคุยกันได้ทุกเรื่อง ..ไม่ว่าจะไวน์หรือไม่ไวน์ (เพราะยังไงก็เลี้ยวไปหาไวน์จนได้แหละ) ทำตัวตามสบายค่ะ เพื่อนๆที่นี่น่ารักทุกคน.. .................................. คุณนิค ถามเรื่องไวน์เบอร์กันดี.. มีปราชญ์ไวน์ ท่านได้กล่าวไว้ว่า..ผู้เที่เชี่ยวชาญเรื่องไวน์เบอร์กันดีนั้น จะต้องมีสมองใหญ่กว่ามนุษย์ถึงสี่เท่า เพราะจะต้องจำชื่อของไวน์และชนิด รวมถึงพื้นที่ที่นับไปแล้วเป็นหมื่นๆชื่อให้ได้ขึ้นใจ.. เหมือนกับว่า..ต้องเรียนภาษาใหม่ขึ้นมาอีกภาษาหนึ่งเชียว พี่จะเล่าให้ฟังถึงเรื่องการลองไวน์แบบบอดๆ เมื่อสามสี่ปีก่อนให้ฟัง.. หลังจากเผยให้เห็นขวด..มีตัวนี้แต่เป็นของปี 84..ราคากว่าสี่ร้อย (ในตอนนั้น) จากคุณ : WIWANDA - [ 22 พ.ย. 49 12:39:24 ]

ความคิดเห็นที่ 13 และตัวนี้..ราคาสองร้อยกว่านิดๆ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 22 พ.ย. 49 12:40:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 นี่อีก..ราคาร้อยนิดๆ จากคุณ : WIWANDA - [ 22 พ.ย. 49 12:41:46 ]

ความคิดเห็นที่ 15 สุดท้ายคือ..ราคาก็ร้อยกว่านิดๆเช่นกัน.. ส่วน..Richebourg เพิ่งลองไปไม่นานมานี้ เอามาเล่าให้ฟังแล้ว.. ไวน์ทั้งหมดในการชิมบอดที่ยกมาให้ดูนั้น..มีคะแนนไล่เลี่ยกันตั้งแต่ 91-95 ก็ไล่ชิมหากันไป.. จากคุณ : WIWANDA - [ 22 พ.ย. 49 12:47:55 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ตัวที่พี่เลือก..เพราะชอบที่สุด เพราะรสแน่น..ทรงพลัง.. มีสีเข้มกว่าปรกตินิดหนึ่ง...หอมเกรียมแผ่วๆ มีกลิ่นเปบเปอร์มาติ่งอยู่ริมจมูก ความลงตัวและสมดุลย์เหนือชั้นกว่าทั้งหมด คือไวน์ราคาร้อยกว่านิดๆ นั่นคือ HENRI DE VILLAMONT CHAMBOLLE-MUSIGNY LES BAUDES 1986 1er CRU ฉะนั้น..พอพูดถึงไวน์จากเบอร์กันดีแล้ว..พี่ขอเลือกซื้อ CHAMBOLLE-MUSIGNY (ชัมบอล-มุซิคงี) สี่ขวด มากกว่าที่จะซื้อ DOMAINE DE LA ROMANEE-CONTI ROMANEE-ST-VIVANT GRAND CRU ขวดเดียว.. เอ๊ะ..ไม่ใช่ซิ..ต้องเป็นหกขวดแล้วมัง เพราะตอนนี้ โรมาเน่ แซงค์ วิวองต์ ราคาขึ้นไปเกือบเจ็ดร้อยแล้ว.. นี่ละค่ะ ความเห็นส่วนตัว..และไม่อายที่จะเล่าให้ฟัง จากคุณ : WIWANDA - [ 22 พ.ย. 49 13:00:09 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ผมก็เห็นด้วยเหมือนกันคับ ได้ไวน์ที่ดีในราคาที่คุ้มค่านี่แฮ้ปปี้สุดๆคับ จากคุณ : Gevrey-Chambertin 2003 (Nic Nenin) - [ 22 พ.ย. 49 13:21:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 สวัสดีครับ ป้าวิ ตอกบัตร จากคุณ : Natt_ac121 - [ 22 พ.ย. 49 18:29:21 ]

ความคิดเห็นที่ 19 คุณวิค่ะ อ่านหนังสือประวัติศาสตร์พม่า หม่อง ทิน อ่อง เขียน ท่านบอกว่า หลังจากที่ พระเจ้าตะเบงชะเวตี้ ตรากตรำทำสงครามมานานปี ท่านได้รับชาวโปรตุเกสให้ทำงานในราชสำนัก ชาวโปรตุเกสที่ว่าได้แนะนำให้ท่านทำเครื่องดื่มมึนเมาที่ผลิตจากผลไม้ (ไม่ได้บอกว่าเป็นผลไม้อะไร) หลังจากนั้น พระเจ้าตะเบงชะเวตี้ก็ติดพระทัยในรสของเครื่องดื่มชนิดนี้ และมัวแต่ดื่มจนต้องละทิ้งภาระบริหารบ้านเมืองให้แก่ บุเรงนอง จนท่านสิ้นไป และบุเรงนองก็ขึ้นเป็นกษัตริย์ อ่านถึงตอนนี้ก็เลยเหมาเอาเองว่าแถวบ้านเราไวน์เข้ามาสู่เอเชียอาคเนย์ตั้งแต่ตอนนั้น แต่คงไม่แพร่หลายนัก เราก็เลยไม่เห็นไร่ไวน์แถวบ้านเรา ไม่งั้นเราคงได้ปลุกองุ่นทำไวน์แข่งกะยุโรปเค้าตั้งแต่ตอนนั้นนะคะ จากคุณ : horseshoes - [ 23 พ.ย. 49 01:50:14 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ก่อนที่คุณวิจะไปต่อเรื่องไวน์แถวฝรั่งเศส หนูขออนุญาติแปะภาพไร่ไวน์ Cariad นะคะ แบบว่าอายที่ว่าจะเอาให้ดูก็ไม่ทำซะที ตั้งใจจะไปดูเค้าเก็บองุ่น แต่ปรากฎว่าไปแล้วเห็นแต่องุ่นติดต้น สองสามลูก เค้าเก็บองุ่นไปแล้วค่ะ ปีนี้แดดที่อังกฤษช่วงซัมเมอร์นานกว่าทุกปี องุ่นลูกโต คาดว่าคงได้ไวน์ดี ๆ แน่ปีนี้ เราก็จะรอดื่มตอนเอาออมาขายละกัน หนูชอบไวน์ Cariad นะค่ะ ดื่มแล้วอธิบายไม่ถูก จะพูดเป็นภาษานักชิมไวน์ก็ไม่เป็น ได้แต่บอกว่า ไวน์ที่นี้ ดื่มแล้วรู้สึกว่าเธอเป็น lady มาก นุ่ม แล้วก็ Elegant จริงๆ นึกถึงผู้หญิงสวยๆ นุ่นๆ อบอุ่นๆ ขำตัวเองดื่มไวนNแล้วได้รสแบบนี้จริง ๆ จากคุณ : horseshoes - [ 23 พ.ย. 49 02:00:26 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ภาพ มองจากหลังบ้านติดเป็นฉลากที่ขวดไวน์ จากคุณ : horseshoes - [ 23 พ.ย. 49 02:04:43 ]

ความคิดเห็นที่ 22 / จากคุณ : horseshoes - [ 23 พ.ย. 49 02:05:25 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ไร่องุ่นที่นี่ต้องปลูกต้นไม้บังลมค่ะ ซ้ายมือของภาพข้างบน บังลมจากนอกไร่ จากคุณ : horseshoes - [ 23 พ.ย. 49 02:06:37 ]

ความคิดเห็นที่ 24 / จากคุณ : horseshoes - [ 23 พ.ย. 49 02:07:06 ]

ความคิดเห็นที่ 25 แล้วก็มีการทำค้างแบบนี้ จากคุณ : horseshoes - [ 23 พ.ย. 49 02:07:51 ]

ความคิดเห็นที่ 26 และแบบนี้ จากคุณ : horseshoes - [ 23 พ.ย. 49 02:08:17 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ส่วนองุ่นก็มีพันธุ์นี้ เห็นแต่ต้นนะคะ ลูกเก็บหมดแล้ว ขออภัยจะแก้ตัว crop หน้า จากคุณ : horseshoes - [ 23 พ.ย. 49 02:09:23 ]

ความคิดเห็นที่ 28 และพันธุ์นี้ จากคุณ : horseshoes - [ 23 พ.ย. 49 02:09:50 ]

ความคิดเห็นที่ 29 // จากคุณ : horseshoes - [ 23 พ.ย. 49 02:12:11 ]

ความคิดเห็นที่ 30 และได้ไวน์กลับมา จากคุณ : horseshoes - [ 23 พ.ย. 49 02:12:53 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ยังมาอ่านเรื่อยๆค่ะ ไม่ได้หายไปไหน เป็นกำลังใจคนเขียนค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ซัมเมอร์หน้าจะได้ไปดูไร่ไวน์แถวฝรั่งเศสตอนนี้ขอเก็บข้อมูลก่อน เดี่ยวไปแล้วไม่มีข้อมูลจะเที่ยวไม่สนุก ขอบคุณค่ะ จากคุณ : horseshoes - [ 23 พ.ย. 49 02:17:24 ]

ความคิดเห็นที่ 32 สวัสดีค่ะ คุณ horseshoes ดีใจจริงที่คุณแวะมาส่งข่าวเช่นเคย..เห็นไวน์สองขวดนั่นแล้ว..น่าสนใจมากค่ะ ดูเหมือนว่า ไวน์แดงจะใสเป็นแบบ claret ตามรสนิยมดั้งเดิมของชาวอังกฤษเลย.. ชิมแล้ว..ส่งข่าวด้วยนะคะ การตั้งร้านองุ่นแข็งแรงด้วยเสาหนาขนาดนั้น ก็พอมองออกแล้วค่ะ คงจะลมแรงจริงๆ ถ้าไม่แข็งแรงให้เกาะได้ องุ่นจะลัมระเนระนาด ดูไม่จืด และ การที่เขาได้ลองพันธ์องุ่นที่แปลกๆนั้น เป็นเพราะว่า เขาปลูกให้เหมาะกับดินฟ้าอากาศ เพื่อที่จะได้มีไวน์ต่างชนิด และเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ที่ไม่มีใครเหมือน ตรงนี้ละค่ะ คือ "จุดขาย" ตอนนี้กลับไปตั้งหลักที่อังกฤษหรือคะ..จะอยู่นานไหม? จากคุณ : WIWANDA - [ 23 พ.ย. 49 05:42:52 ]

ความคิดเห็นที่ 33 อ่านข่าวเรื่องการห้ามโฆษราสุราแล้ว..เศร้าใจจริงๆด้วย เพราะนี่คือการป้องกันที่ปลายเหตุจริงๆ เราได้สอนให้ลูกหลานรู้จักรับผิดชอบในตัวเองหรือเปล่า..? เรื่องนี้พูดไปก็คงยาว เพราะวัฒนธรรมบ้านเราไม่เหมือนกับบ้านไหนในการเลี้ยงลูก ที่พ่อแม่ต้องเลี้ยงกันไปจนกว่าตัวจะตาย..ส่งเสียให้เรียนเมืองนอกเมืองนา หมดไปเป็นสิบล้าน (จริงๆนะ) เพื่อที่จะกลับมาทำงานโก้ในกระทรวงดังๆ รับเงินเดือนหมื่นกว่าบาท ทำงานไปจนเกษียณก็ไม่มีวันได้ทุนกลับคืนมา.. ลูกหลานกินเหล้ากินยา ก็โทษว่าเป็นเพราะ การโฆษณาที่มีมากเกินไป ลูกหลานเรียนไม่เก่ง..ก็ โทษว่าครูไม่ดี ท่านผู้นำทั้งหลาย น่าจะไปศึกษาประวัติศาสตร์ของชาติอื่นๆเที่เขาเคยมีปัญหามาอย่างหนักหน่วง และดูด้วยว่าเขาแก้ไขอย่างไร.. พูดแล้วก็ให้หวนไปนึกถึงอเมริกาที่ต้องทำการห้ามขาดสุรา ไปสิบกว่าปี เพราะผู้คนติดเหล้ากันมาก ประเทศใหญ่ควบคุมไม่ถึง ใครใคร่ผลิต ก็ผลิต ไปทั่วทุกหมู่บ้าน แต่ผลเสียก็เกิดขึ้นตามมา..นั่นคือ ขบวนการใต้ดินที่เรียกว่ามาเฟีย..อิทธิพลมืด..การค้าของเถื่อน ดังนั้น..เขาจึงให้เวลาในช่วงสิบกว่าปีนั้น ทำกฏหมายให้แข็งแรง ไม่มีการลดหย่อน ประเภทว่า อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา.. ยิ่งเมาซิยิ่งดี จับเข้าคุกทั้งๆอย่างนั้นเลย.. บัดนี้..คนอเมริกันได้มาถึงจุดบรรลุในเรื่องของแอลกอฮอล..(และบุหรี่ด้วย) การดื่มได้ลดน้อยลงไปมาก คนเมาสะเงาะสะเงะ..ไม่มีให้เห็น หรือถ้ามี..ก็กลายเป็นตัวประหลาดที่น่าพึงรังเกียจ ถ้าถูกจับ..ในฐานะเมาแล้วขับ..นั่นหมายถึง"คุก" และการเสียอนาคตสถานเดียว..เพราะจะมีประวัติติดตัวไปจนตาย ไปสมัครงานที่ไหน ก็จะมีใบบอกหราว่า..เคยต้องโทษ ดังนั้น..ถ้าเราไม่ปลูกฝังการ"วินัย" ให้กับคนในชาติแล้ว.. จะเที่ยวไปโทษโน่นโทษนี่ก็คงไม่ได้.. จากคุณ : WIWANDA - [ 23 พ.ย. 49 05:59:40 ]

ความคิดเห็นที่ 34 เรื่องของพระเจ้าตะเบงชะเวตี้ ทรงเสวยน้ำจันจนถึงขั้นเสียพระสติ ในประวัติศาสตร์ของไทยก็ว่าไว้..ชาวโปรตุเกสได้เข้าไปในพม่าพร้อมๆกับที่เข้ามาในสยามละค่ะ คือ ใน 1600s และเรื่องการทำสุราคือเรื่องถนัด.. ที่ไหนที่มีอ้อย..หรือ ผลไม้ที่มีน้ำตาล..สามารถนำมาทำสุราได้หมด และเชื่อว่าคงต้องมีสักอย่างละน่า..ที่พระองค์ทรงโปรด บ้านเมืองออกจะอุดมสมบูรณ์ขนาดนั้น.. ในความคิดของดิฉัน..คิดว่าน่าจะเป็นพวกพลัมไวน์ ของดีๆที่มาจากเมืองจีน หอม อร่อย.. ในสมัยก่อน ความรื่นเริงบันเทิงใจ นอกจาก สุรา นารี แล้ว..ก็ไม่มีอย่างอื่นให้ไขว่คว้าอีก ............................................ พูดถึงเมืองจีน..หลาน Natt ก็แวะเข้ามาทักทายพอดี เฮลโล...สอบเสร็จแล้วเหรอ..?? จากคุณ : WIWANDA - [ 23 พ.ย. 49 06:14:25 ]

ความคิดเห็นที่ 35 รูปสวยดีคับคุณ horseshoes พี่วิคับ ผมว่ามีประเทศไทยประเทศเดียวที่ใครอยากจะเปิดร้านอาหาร(ที่ขายสุราได้)ผับ บาร์ สถานบันเทิงตรงไหนก็ได้ ปิดกี่โมงก็ได้ และกรุงเทพน่าจะเป็นเมืองที่มีแหล่งเที่ยวกลางคืนเยอะที่สุดในโลกแล้วคับ เมื่อก่อนมีคุณปุระชัยพยายามจะจัดโซนนิ่ง ยึดไปอนุญาติร้านขายสุราที่ผิดกฎหมาย ก็ทำท่าจะดีแต่ก็อย่างที่ว่าคนดี คนฉลาดมักอยู่ไม่นาน เด้งกระดอนจนท่านถอดใจไปแล้วหล่ะคับ จากคุณ : 2 day...... (Nic Nenin) - [ 23 พ.ย. 49 07:33:37 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณ คุณhorseshoes ครับ สำหรับรูป ไร่ไวน์สวยๆ ดูคล้ายๆ Des Brumes ตอนหมอกลงเลยครับ.. แต่ท่าทางหนาวกว่า จม.. จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 23 พ.ย. 49 10:04:31 ]

ความคิดเห็นที่ 37 แก้ปลายเหตุจริงๆค่ะ เรื่องโฆษณา ไม่ควรจะสุดโต่งขนาดนี้ แค่จำกัดเวลาในทีวี  จำกัดประเภทของสื่อ ... และจำกัดสถานที่ขายอย่างที่ว่าก็มากพออยู่แล้ว .... จากคุณ : nijja - [ 23 พ.ย. 49 12:19:00 ]

ความคิดเห็นที่ 38 "..ส่งเสียให้เรียนเมืองนอกเมืองนา หมดไปเป็นสิบล้าน (จริงๆนะ) เพื่อที่จะกลับมาทำงานโก้ในกระทรวงดังๆ รับเงินเดือนหมื่นกว่าบาท ทำงานไปจนเกษียณก็ไม่มีวันได้ทุนกลับคืนมา..." อันนี้นกว่าพ่อแม่คงจะไม่ได้หวังให้ลูกหาเงินให้ได้มาก คงจะมีเผื่อให้ใช้จนตายแล้วมั้งคะ เขาหวังให้ลูกหาแต่ "หน้าตา" ชื่อเสียง ยศฐาบรรดาศักิ์อะไรแบบนั้นน่ะค่ะ ตัวนกเองตอนนี้ ชั่งใจชั่งกำลังตัวเองอยู่ค่ะ เพราะถ้าส่งไปและหาเพิ่มไม่ได้มาก สุดท้ายต้องโบ๋เบ๋ ไม่มีอะไรเหลือแน่ๆ ค่ะ เลยอยากหาเงินให้ได้มากอีกหน่อยก่อน แล้วค่อยคิดอีกที นกมีญาติคนนึงค่ะ พ่อแม่มีสตางค์ มีที่ดินเยอะ ญาติคนนี้รูปหล่อมาก (แม่ครึ่งไอริช พ่อจีน) และเรียนเก่งมากกกกก (ที่หนึ่งระดับชั้นตลอดตั้งแต่เด็กค่ะ) โตมาชิงทุนไปเรียนเมืองนอกได้ (พ่อแม่มี แต่ไม่ต้องจ่าย ลูกเก่ง) กลับมา ทำราชการ กระทรวงใหญ่โตหอมหวลใครๆ ก็อยากเข้าค่ะ กระทรวงไฮโซค่ะ ในที่สุด เขาอยู่ไม่ได้ เพราะว่า พ่อไม่สนับสนุนการฟุ้งเฟ้อ แต่คนในกระทรวง เงินเดือนแบบที่พี่หวานว่า แต่ใช้จ่ายกินอยู่เหมือนเงินเดือนแสน ญาติคนนี้อยู่ไม่ได้ เพราะพ่อไม่ให้เงินสนับสนุน เขาลาออกค่ะ บอกว่า แค่เงินเดือนของเขา เขาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนอื่นในนั้นไม่ได้ค่ะ นกฟังญาตินกเล่าเรื่องให้ฟัง เพราะตกใจที่เขาลาออก ฟังแล้ว เอ๋อ ค่ะ ไม่รู้จะโทษใคร รู้สึกแต่ว่า ...เสียดาย ฟังแล้วเศร้าค่ะ สงสารเขาด้วย จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 23 พ.ย. 49 13:35:33 ]

ความคิดเห็นที่ 39 เข้ามาดม จากคุณ : Master_Indy - [ 23 พ.ย. 49 14:21:47 ]

ความคิดเห็นที่ 40 แวะมาทักครับ ตอนนี้ทำงานเพิ่มขึ้นสองเท่า จะแอบเข้ามาอ่านกับเก็บกระทู้เป็นระยะๆครับ จากคุณ : ha ha yee - [ 23 พ.ย. 49 16:14:37 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณทุกท่านที่ชมเรื่องรูปค่ะ วันที่ไปไร่ไวน์ ไม่มีแดดเลยค่ะ ภาพเลยออกมาเหมือนดูมีหมอก ก็แบบนนี้แหล่ะค่ะ ที่นี่ โดนเฉพาะที่เวลส์ที่ตั้งของไร่ไวน์ ฝนตกทั้งปี ถ้าวันไหนฝนไม่ตกคนก็แปลกใจ เจ้าของไร่คงต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะรักษาต้นองุ่นให้รอดในสภาพแบบนี้ นอกจากไวน์จะรสชาติดี ยิ่งคิดถึงตอนเค้าทำนุบำรุงต้นไวน์ ตัวเองก้ได้แต่ปลื้ม ไวน์ก็อร่อยยิ่งขึ้น ที่เวลส์มี book town ที่มีชื่อเสียงมาก ชื่อ hay on Wye หมู่บ้านเฮย์บนแม่น้ำไวน์ เป็นเมืองเล็กๆ แต่ทุกร้านเป้นร้านหนังสือมือสองถูกแสนถูก แต่บางเล่มก็แพง ซื้อไม่ลงได้แต่ลูบๆ คลำๆ ไปทีไรนึกถึงคุณวิทุกที ปีที่แล้ว มีนิทรรศการหนังสือ hay on wye เปิดตัวหนังสือ ของคุณบิล คลินตัน ท่านก็อุตส่าห์มา ถ้าเห็นขนาดเมืองที่เล็ก สไตล์อังกฤษบ้านนอกและความไกลของการเดินทางไป แล้วจะแปลกใจ แต่เป็นเมืองหนังสือในฝัน ใหญ่ที่สุดใน ยูเค (มีอีกที่ที่ยอร์ค แต่ยังไม่เคยไปค่ะ)และฝันว่าเมื่อไหร่เมืองไทยจะมีแบบนี้ก็เค้าซะที หนูฝันไปมั้ยนี่ (ขออนุญาตนอกเรื่องค่ะ เห็นบ่นเรื่องเมืองไทย อิอิ) ที่นี่ส่งเสริมคนอ่านหนังสือมาก ถ้าขึ้นรถไฟหรืออันเดอร์กราวน์ แล้วไม่เจอคนอื่นหนังสือ แสดงว่าไม่ใช่อังกฤษ ในหนึ่งตู้จะมีซัก ห้าเปอร์เซ็นต์ที่ไม่มีหนังสือติดมือ ดุแล้วขำๆ เพระนั่งเด๋อๆ ด๋าๆ จริงๆ ยังอยู่ที่นี่อีก สองหนาวกะสองซัมเมอร์ค่ะ คุณวิ จากคุณ : horseshoes - [ 23 พ.ย. 49 17:32:09 ]

ความคิดเห็นที่ 42 คุณวิค่ะ ขวดแดงๆ ใสๆ นั้นคือ ROSE ค่ะ จำชื่อพันธุ์องุ่นไม่ได้ ขอติดการบ้านค่ะ จากคุณ : horseshoes - [ 23 พ.ย. 49 17:47:13 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ตามอ่านอยู่ห่างๆ ช่วงก่อนหน้างานยุ่งมากเลยไม่มีตามกระทู้ป้าหวานและพี่ๆ แต่ตอนนี้งานซาลง พร้อมกับหน้าที่การงานอาจมีการเปลี่ยนแปลง ยังไม่ใช่ที่ใหม่นะครับ ที่เดิมแต่เปลี่ยนตำแหน่งงาน เรื่องส่วนตัวอัพเดตถึงป้าหวานหน่อยว่า ที่บ้านตอนนี้แฮปปี้ดีครับ พ่อเลี้ยง กำลังเดินเรื่องขอสัญชาติ คงยากแต่แกมั่นใจแล้วว่าคงตายในเมืองไทยเนี่ย ตัวผมกำลังสอบเตรียมต่อโทครับ วันอาทิตย์นี้ก็มีสอบตอนเช้า หนังสือหนังหา ไม่ได้อ่านเลย - -" แย่เนอะป้าหลานคนนี้ เอาไว้ต่อที่ไหนได้จะแจ้งข่าวอีกทีครับป้าหวาน จากคุณ : Ace striker - [ 23 พ.ย. 49 22:47:23 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เจอของดีราคาถูกอย่างกระัทันหันครับ เลยขออนุญาติโพสโน๊ตที่กระทู้พี่วิซักครั้ง Domaine de La tour Penedesses, Montee des Gres Clos de Magrignan 2001: Coteaux du Languedoc Deep opaque colour, a blend of 90% shiraz and 10% grenache exhibited the usual aroma of blueberry and spices as well as a touch of caramel. It has full-bodied, along with a rich level of fruit, though not overripe, silky tannin...จบยาวแบบรำเพลงกระบี่หลายกระบวนท่า 93 PP ในราคาไม่ถึงหนึ่งพันบาท ได้ยินหลายคนพูดถึงไวน์จากแคว้น Languedoc ว่ากำลังพุ่งขึ้นมา ดื่มขวดนี้แล้วก็เห็นจะจริงครับ ขนาดผมไม่ค่อยถูกกะ Shiraz ยังตื่นเต้นเมื่อได้ดื่ม คุณนกครับ อยากจะแนะนำให้ลองหาทุนประเภทไม่ผูกมัดดูสิครับ เดี๋ยวนี้ก็มีอยู่พอสมควรเลยครับ แต่จริงๆแล้ว เรื่องเรียนเมืองนอกเนี่ย ผมว่าขึ้นอยู่กะตัวเด็กล้วนๆเลยครับ บางคน มาตัวเปล่า กับความมุ่งมั่นว่าจะไม่ขอเงินพ่อแม่ ก็ทำงานพาร์ทไทม์ ละก็สามารถส่งเสียตัวเองจนจบได้ มีไม่น้อยเลยนะครับ พี่วิครับ เห็นด้วยมากๆครับ กับเรื่องประวัติศาสตร์เกี่ยวกับกฎหมายห้ามขายสุราของอเมริกา สงสัยอยู่ว่าทำไมผู้มีอำนาจในเมืองไทยไม่ศึกษากรณีนี้ว่า ตัวบทกฎหมาย ยังไงก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ แถมอาจจะทำให้มันแย่ลงไปอีก สำคัญที่สุดคือการพัฒนาคนให้ดีต่างหาก จากคุณ : LaGrandeRue - [ 24 พ.ย. 49 02:46:27 A:80.171.155.22 X: TicketID:105596 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ไวน์เขต Languedoc มีดีหลายตัวเรยคับเป็นที่คุ้มเกินราคามาก ล่าสุดผมก็ได้มาขวดหนึ่งเหมือนกัน Domaine de la Grange des Peres Vin de Pays de l'Herault ปี 2000 ไว้ทานแล้วจะมาเล่าให้ฟังคับ ปล.เมื่อวานเจอเรื่องตลกขอบ้านเราอีกเรื่องคับ ทางรัฐบาลเราจะงดไม่ให้มีถ่ายทอด ประกาศรางวัลฉลากกินแบ่งทางทีวีช่องไอทีวีทุกๆ วันที่ 1 และ16 ของทุกเดือน เพราะเป็นการโฆษณาจูงใจให้เล่นหวยคับ ฟังแล้วตลกสุดๆแต่น้ำตาไหลน่ะคับ จากคุณ : พรุ่งนี้มีความสุข (Nic Nenin) - [ 24 พ.ย. 49 14:21:32 ]

ความคิดเห็นที่ 46 พี่วิขา หนูเคยอ่านเอกสารฝรั่งเศส Le journal du voyage au Siam น่ะค่ะ บาทหลวงเดอ ชัวซี เคยเล่าไว้ว่า วันแรกที่เหยียบพระนคร มีขุนนางเอาไวน์มาเลี้ยงรับรอง แต่ไม่ได้บอกว่า ไวน์อะไร บอกแค่ว่า รสชาติดีมาก คิดว่า คงเป็นไวน์ที่อิมพอร์ตเข้ามาน่ะค่ะ พี่วิพูดถึง ไวน์พลัม เล่นเอาหนูน้ำลายไหล คิดถึงเหล้าลิ้นจี่ ของจีนฮ่อ บนดอยแม่สลอง ซัดเข้าไปหลายแก้ว เมาซะ.... คุณแม่หนูจะชอบดื่มไวน์ จาก Baujolais ,Cote du Rhone และ Chateau neuf du Pape ค่ะ ส่วนหนูน่ะ ได้หมด ไวน์ที่อร่อย คือไวน์ฟรี พี่วิเห็นด้วยไหมคะ อิอิอิ จากคุณ : นางกอแบกเป้ - [ 24 พ.ย. 49 15:26:58 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เข้ามาสวัสดีป้าวิครับ จากคุณ : มัทนะพาธา - [ 24 พ.ย. 49 16:21:28 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ขอทักทายแฟนรุ่นเก๋าก่อน..ตา Ace striker ดีใจด้วยนะ ที่ครอบครัวเริ่มลงตัว ขอฝากความปรารถนาดีไปยังคุณแม่ด้วย.. เรื่องเรียนก็ไม่ต้องเร่งรีบอะไรนี่..อย่าไปตั้งค่า และเงื่อนไขเวลา ให้กับตัวเองมากนัก เรายังมีเวลาอีกมาก..ค่อยคิดค่อยเรียน.. ................... คุณ horseshoes ที่รัก.. ถ้าผ่านตาไปพบปะหนังสือ ตามรายชื่อต่อไปนี้.. กรุณาแจ้งให้ทราบด้วยนะคะ (จะรีบโอนเงินไปให้ซื้อให้หน่อย...อิอิอิอิ) 1. BURMA’S MILITARY SECRETS. Signals Intelligence (SIGINT) from the Second World War to Civil War and Cyber Warfare (Ball, Desmond) 2. BURMESE PALACE TALES (Fielding-Hall, Harold) 3. KING THEBAW AND THE ECOLOGICAL RAPE OF BURMA: THE POLITICAL AND COMMERCIAL STRUGGLE BETWEEN BRITISH INDIA AND FRENCH INDO-CHINA IN BURMA 1878-1886 (Keeton, C. L.) 4. HISTORY OF the MISSION OF SIAM - 1662-1811 by Adrien Launay 5. IMPOSSIBLE MISSION MADE - THE SECOND FRENCH EMBASSY TO SIAM 1687 by Michael Smithies 6. HISTORICAL STUDIES ON the RELATIONS OF FRANCE AND the KINGDOM OF SIAM OF 1662 To 1703 by Lucien Lanier 7. The FALCON OF SIAM by Axel Aylwen - Translation Editions Anne Carrière - 1990 นี่แค่เบาะๆนะคะ..โพยที่จดเอาไว้ ยังมีอีกยาวเฟื้อยเลย.. ถ้าเดินผ่านๆก็แอบชำเลืองหางตาไปดูมั่งละกัน..นะคะ นะคะ.. ................................................... คุณกอฯ ที่รัก หนังสือ Journal du voyage de siam fait en 1685- 1686. โดยท่านบาดหลวงแห่งซัวซี นั่นคือตำแหน่ง (de Choisy, Abbe) ความจริงท่านชื่อว่า..Francois Timoleon หนังสือเล่มนี้เคยซื้อค่ะ หลายปีเต็มที แต่ไม่มีปัญญาอ่าน เพราะเป็นภาษาฝรั่งเศสล้วนๆ (เลยส่งไปให้กับคุณปีแอร์) เป็นบันทึกรายเดือน ว่าไปทำอะไรที่ไหน..พบกับใครบ้าง ส่วนเรื่องไวน์นั้น..จะสรุปให้ทราบว่า.. ท่านบาดหลวงแห่งซัวซี ได้เข้ามาสยามเมื่อปี 1685-1686 เชื่อว่าตอนนั้นยังไม่มีไวน์ (จากองุ่น) ที่สามารถเดินทางฝ่าคลื่นฝ่าลมโดยไม่บูด ไม่เน่าก่อนได้.. (ตอนนั้นยังไม่รู้จักการใช้สารกันบูด) นอกจากจะเป็นเครื่องมึนเมาชนิดอื่น..ที่ทำมาจากผลไม้ ในภูมิลำเนาไทย หรือ ใกล้เคียง.. และที่จะยืนยันในเรื่องนี้ได้ นั่นคือ จดหมายเหตุของ ท่านเซอร์ จอห์น เบาริ่ง..ที่เข้ามาในสยามเมื่อปี 1855 (เกือบสองร้อยปีต่อมา) ท่านได้บันทึกไว้ว่า.. "สงสารพวกบาดหลวงที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์นัก เพราะต้องอยู่อย่างอดอยากปากแห้ง ไม่มีไวน์ ไม่มีขนมปังจะกิน" อ้อ...แล้วตะเอง..อ่านหลังไมค์ด้วยนะคะ.. .................................................... และสุดท้าย..ขอต้อนรับคุณ มัทนะพาธา เข้ากระทู้ไวน์ด้วยค่ะ..ไม่ได้เจอกันนานแล้วนะคะ..แอบอ่านมานานหรือยังเอ่ยยยย...??? ...................................... ป.ล. หนังสือ Journal du voyage de siam fait en 1685- 1686 หน้าตาเป็นแบบนี้ค่ะ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 25 พ.ย. 49 08:50:48 ]

ความคิดเห็นที่ 49 สองสามวันที่ผ่านมา..งานเยอะเลยค่ะ เพราะเป็นวันขอบคุณพระเจ้า ที่ต้องไปชุมนุมกินไก่งวง แฮม..และเครื่องเคียงสารพัด รวมทั้งไวน์ด้วย.. พอวันศุกร์ คือเมื่อเช้านี้..เขาเรียกว่า Black Friday อันหมายถึงวันรุ่งขึ้นต่อมาของวันขอบคุณพระเจ้า คือวันศุกร์ ที่ใครต่อใครก็แหกขี้ตาไปชอปปิ้ง หาซื้อของขวัญสำหรับวันคริสต์มาส พวกห้างร้าน..เปิดตั้งแต่ ตีสี่ตีห้า.. เช้าขนาดนั้น ก็ยังไม่พอ..ผู้คนไปยืนเข้าแถวคอยเพราะว่าเขามีรายการเซล มหาเซล ประเภทเครื่องคอมพ์ตั้งโต๊ะ ที่มีคีย์บอร์ด แถมมาด้วย แต่ไม่มีมอนิเตอร์ ราคา ร้อยกว่าเหรียญเอง.. ตัวเองไม่ได้ไปซื้ออะไรกับเขาหรอกค่ะ..ไม่เคยซื้ออยู่ดีนั่นแหละ ให้แต่ไวน์อยู่แล้ว..แถมมีคิวตีกอล์ฟติดต่อกันสามวันเลย..แบบว่า..เป็นเชิงธุรกิจรับแขกต่างเมือง อากาศก็ไม่เป็นใจเล๊ย..หนาวโคดดด.. จากคุณ : WIWANDA - [ 25 พ.ย. 49 10:24:44 ]

ความคิดเห็นที่ 50 พี่หวานคะ! นกว่านกเห็นที่ซีเอ็ดเมื่อสองวันก่อน มีคนแปลเป็นไทยแล้ว เดี๋ยวจะไปดูให้อีกทีค่ะ ไม่รู้จำผิดหรือเปล่า แต่เป็นหนังสือประวัติศาสตร์แปลจากฝรั่งเศสเป็นไทยแน่ๆ ค่ะ จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 25 พ.ย. 49 11:00:48 ]

ความคิดเห็นที่ 51 คุณอาวิที่เคารพรัก MISSION MADE IMPOSSIBLE: THE SECOND FRENCH EMBASSY TO SIAM 1687 http://www.chulabook.com/cgi-bin/main/2003/description.asp?barcode=9789747551617 BURMESE PALACE TALES http://www.chulabook.com/cgi-bin/main/2003/description.asp?barcode=9789748496948 The FALCON OF SIAM http://www.dco.co.th/product_info.php?products_id=576 จากคุณ : sofatboy - [ 25 พ.ย. 49 16:54:25 ]

ความคิดเห็นที่ 52 KING THEBAW AND THE ECOLOGICAL RAPE OF BURMA BURMA'S MILITARY SECRETS คุณอาดูในหน้าเว็บ ... เลื่อนลงมาเรื่อยๆ จะเจอครับ http://www.thailine.com/lotus/burma/burma.htm จากคุณ : sofatboy - [ 25 พ.ย. 49 17:17:39 ]

ความคิดเห็นที่ 53 สวัสดีคับพี่ วิ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสำหรับ ch. Gazin ที่เป็นขอขวัญสำหรับงานปาร์ตี้ drinklesdrinkthebest no.1 พวกเราแฮ้ปปี้มากๆ และไวน์พี่ก็หมดเป็นขวดแรกอีกตามเคย อิอิ มีพี่ๆเดินไกลมางานนี้หลายท่าน ขอบคุณทุกท่าน รวมทั้งเหล่า พี่วิวันดาแฟนคลับ ด้วยน่ะคับ ปล.ภาพบรรยากาศจะมาเร็วๆนี้คับ จากคุณ : มึน...................... (Nic Nenin) - [ 26 พ.ย. 49 10:38:37 ]

ความคิดเห็นที่ 54 ไปดูหนังสือให้พี่หวานอีกรอบแล้วค่ะ ปรากฎว่าไม่ใช่ มันเป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์ นกเลยซื้อพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับหมอบรัดเลให้แทนค่ะ จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 26 พ.ย. 49 11:50:51 ]

ความคิดเห็นที่ 55 มีงาน French Fair ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ 30 พย ถึง 3 ธค นะครับ มีไวน์ ชีส และของฝรั่งเศสอื่นๆขายครับ ปีที่แล้วมีไวน์ให้ชิมเพียบเลย ซื้อของแล้วมีจับรางวัลด้วยครับ จากคุณ : D19 - [ 26 พ.ย. 49 13:16:41 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ...งานนี้น่าไปครับ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 26 พ.ย. 49 17:26:28 ]

ความคิดเห็นที่ 57 มีออกบ๊ทชิมไวน์จากเจ้าของโดเมนเหล่านี้ครับ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 26 พ.ย. 49 17:27:40 ]

ความคิดเห็นที่ 58 ...คุณนก...ไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวฉี่เหลือง ...งานนี้ต้องไปครับ ไปลองว่า...เบอกันดีนั้นเป็นยังไง ...ผมจะไปประชุมสัมนาตอนวันที่ 30 ...ตอนบ่ายครึ่ง...คงเสร็จตอนสี่โมงเย็น ...ใครสนใจไปเจอกันตอนเย็นครับ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 26 พ.ย. 49 17:32:39 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ช่วยแปะอีกใบครับ จากคุณ : D19 - [ 26 พ.ย. 49 19:41:48 ]

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณป้าวิมากๆครับ ขอบคุณทุกๆท่านคร้าบ อบอุ่นมากๆครับ จากคุณ : อิ่มไวน์ (jearjear) - [ 26 พ.ย. 49 22:49:22 ]

ความคิดเห็นที่ 61 I will have a look and let you know as soon ka.. pleasure .. จากคุณ : horseshoes - [ 27 พ.ย. 49 02:30:31 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ภาพนี้ดูแล้วขัดตานะคะ เพราะท่าทางหล่อนเหมือนคนติดยา ก้นลีบ หลังโกง กำแก้วไวน์เหมือนจับไมโครโฟนคาราโอเกะ แบบว่าตอนกำลังเมาได้ที่ ผมเผ้ารุงรัง ไม่มีบุคลิกของการกินไวน์เอาเลย ใครนะที่คิดออกแบบมา คุณวิโรจไปติงหน่อยได้ไหม สามวันนี้รับแขกน่ะค่ะ พาไปตีกอล์ฟกลางสายฝนพรำๆเมื่อตอนบ่าย ตกเย็นก็ขอลากลับมาก่อน ปล่อยไปหาที่กินกันเอาเอง ไม่ไหวแล้วว้อย..เหนื่อยชะมัด งานนี้น้องนกต้องไปนะคะ เพราะเบอร์กันดีเป็นไวน์ที่น่าสนใจมาก รสชาติอาจนุ่มใกล้เคียงกัน หรือ อาจสุดโต่งออกไปทางฉุนแหลมแบบน้ำส้มนิดๆก็เป็นไปได้ แต่นั่นคือลักษณะของไวน์ ไปลองให้หลากหลาย เพราะ โกสอย่างนี้ไม่มีเกิดขึ้นมาบ่อยๆ อีกหน่อยคงจัดแบบนี้ไม่ได้ กฏหมายกำลังตึง ในเรื่องของการโฆษณา จากคุณ : WIWANDA - [ 27 พ.ย. 49 08:22:14 ]

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณทั้งน้องนกและคุณ horseshoes (อ่านหลังไมค์ด้วยค่ะ)ในเรื่องช่วยหาหนังสือให้ ไม่ต้องรีบ..แบบว่าไปเดินช้อปก็ช่วยส่ายตาหาเผื่อๆให้ด้วย พรรคพวกจากงานชิมไวน์ยังไม่ฟื้นกันเลยหรือคะเนี่ย พี่กำลังรอฟังผลการชิมอยู่นะ.. หลาน sofat เอ๋ย.. ขอบใจหลายๆเด้อ ที่เป็นธุระให้ ป้าได้สั่งการไปยังน้องชายแล้ว ให้ช่วยไปซื้อเก็บมาให้หมด แต่น่าเสียดายที่พิมพ์ออกมาเป็นปกอ่อน สีสันปกออกจะดูเป็นสไตล์ ป. อินทรปาลิต ไปหน่อย แต่..ก็สั่งซื้อทั้งหมด ไม่เกี่ยงเลยจริงๆ จากคุณ : WIWANDA - [ 27 พ.ย. 49 08:51:31 ]

ความคิดเห็นที่ 64 รับปะติ๊บัดคับพ้ม! (ตะแรกว่าจะเลิกแล้วนะคะ ดื่มอะไรก็ไม่อร่อยกะเขาซ้ากกกกที) แต่วันที่ 1 ไปไม่ได้ ต้องไปงานแต่งเจ้าระค่ะพี่หวาน ไปวันที่ 30 ก็น่าจะดีแล้วเพราะจะได้ไปทำความรำคาญให้พี่วิโรจ (แบบถามไม่หยุดไม่หย่อนน่ะค่ะ อิอิ) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 27 พ.ย. 49 08:55:16 ]

ความคิดเห็นที่ 65 ภาพบรรยากาศงาน Drinklessdrinkthebest No.1 คับผม http://www.drinklessdrinkthebest.com/forum/index.php?topic จากคุณ : ขอบคุณคับ (Nic Nenin) - [ 27 พ.ย. 49 09:50:25 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ...สหายไวน์ทุกท่าน ...คืนนี้เวลาสองทุ่ม เชิญชม National Geograhic ..."Inside:Battle of Wines" ทาง UBC 24 ...ลองดูครับ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 27 พ.ย. 49 11:33:45 ]

ความคิดเห็นที่ 67 สวัสดีตอนเย็นอันแปรปรวนครับ เย็นนี้คงพลาดไม่ได้ดูรายการ อะครับ ที่ๆอยู่คืนนี้ไม่มีให้ดูอะ จากคุณ : อยากดูมั๊กๆ (Phantom of the Cellar) - [ 27 พ.ย. 49 16:41:03 ]

ความคิดเห็นที่ 68 ว้าย เกือบลืม จวนสองทุ่มแล้ว จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 27 พ.ย. 49 19:39:09 ]

ความคิดเห็นที่ 69 เชียร์คุณทอม เซลส์ฟิชค่ะ แต่ไม่ได้รางวัลใหญ่ (พี่หวานต้องรู้จักแน่เลย) เจ้ามิคกี้นั่งดูด้วยจนจบค่ะ เลยเอาชีราสให้ดม เขาบอกว่าหอม ก็เลยให้จิบนิดนึง บอกว่าอร่อยอีก ...สงสัยจะรุ่งกว่าแม่แฮะ อิอิ จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 27 พ.ย. 49 21:25:58 ]

ความคิดเห็นที่ 70 K'Phantom ครับ เมื่อคืนผมก็ไม่ได้ดู ครับ.. กะว่า จะลองไปเปิด UBC mag ดู เผื่อว่าจะมี rerun หลายรอบ.. จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 28 พ.ย. 49 10:07:53 ]

ความคิดเห็นที่ 71 Dear I Wi, ผมหายไปหลายวัน ตอนนี้ทำงานไม่ทัน ปาตี้ก็ไม่ได้ไป มีแต่งานงานงาน :(เดี้ยวจะกลับมาย้อนอ่านนะครับ DP จากคุณ : DP Wine - [ 28 พ.ย. 49 11:26:49 ]

ความคิดเห็นที่ 72 อัพเดตข่าวคราวให้ป้าหวานรับทราบครับ คะแนนสำหรับต่อโทออกมาหมดแล้ว CU-TEP ได้ 62 จาก 120 (หลานป้าคนนี้อังกฤษแย่มาก T-T) CU-BEST ได้321 จาก 500 (ตกเลขครับป้า T-T) MBA ภาคปกติผ่านเกณฑ์แล้วครับ แต่ลุ้น Aviation อยู่ครับ ว่าส่งไปแล้วจะผ่านคัดเลือก 200 คนแรกไหม ลุ้นๆ... จากคุณ : Ace striker - [ 28 พ.ย. 49 13:31:06 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เข้ามาดม เมื่อวานหยิบหนังเก่ามาดู เรื่อง A walk in the cloud. คีนู รีฟ หน้าตายังใสๆ พ่อของนางเอกเป็นกสิกรไวน์ แต่ไม่แน่ใจว่าสัญชาติอะไร ในยุคนั้นชาวต่างชาติเริ่มเข้าไปทำไร่องุ่นในอเมริกากันแล้วใช่มั้ยครับ ดูจากหนังแล้ว เริ่มอยากรู้ว่าสมัยนั้นกสิกรไวน์มีชีวิตเหมือนในหนังจริงๆรึเปล่า. จากคุณ : Master_Indy - [ 28 พ.ย. 49 20:16:21 ]

ความคิดเห็นที่ 74 เพิ่งกลับจากชิมไวน์มาครับของบ.แคลิฟอร์เนียไวน์ พอดีคุณ S. Smooth โทรมาชวน ได้เจอคุณวิโรจน์ คุณวาริชเวชม์ และอีกสองสามท่านโดยมิได้นัดหมายครับ งานนี้มีไวน์ให้ชิม 25 ตัวครับ ผมชิมไปประมาณ 20 ตัว แต่วนๆอยู่แถว Cab Sav กับ Zin อยู่อย่างละหลายรอบครับ ตัดสินใจอยู่นานเหมือนกันระหว่าง pine ridge กับ Far niente เพราะแฟนเชียร์ PR ผมกลับชอบ FN อีกขวดก็ Zin ของ storybook ที่ไปชิมๆอยู่หลายรอบแหละครับ ถูกด้วยแค่ 1500 สุดท้ายก็ได้สองขวดนี้แหละครับ เขตนี้คงต้องให้คุณวิแนะนำแล้วล่ะครับ จากคุณ : D19 - [ 28 พ.ย. 49 22:47:25 ]

ความคิดเห็นที่ 75 โอ้โห....ไวจริงๆ ดั่ง...กามนิต...กะ...วาสิฐถี จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 28 พ.ย. 49 23:21:08 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ต้อง Far Niente แน่นอนพ่อเอ๋ย...จะเอาไปเทียบกับ Zinfandel ไม่ได้หรอก มันคนละเกรด ถึงแม้ใครจะว่า ซินของนาปาดีเลิศอย่างไรก็ตาม มันก็เหมือนเป็นตัวสำรองอย่างไรก็ไม่รู้ รสชาติหาดีๆแบบชัดเจนยังไม่ค่อยได้ ตอนนี้ห่างๆกระทู้ไปนิดนะคะ เพราะต้องทำงาน ก่อนที่ไวน์รุ้นใหม่จะเข้ามา ของเก่ายังทำบัญชีไม่เรียบร้อยเลย ยินดีด้วยกับผลสอบของตา AS หวังว่าทุกอย่างคงราบรื่น ....................................... ที่คุณ Master_Indy ถามเรื่องหนัง.. คนที่เป็นพ่อเล่นโดยดาราชื่อดังค่ะ Anthony Quinn เป็นชาวกสิกรไวน์หัวโบราณพื้นบ้านของอเมริกัน หน้าตาของแอนโทนี่ ก็ให้กับบทบาทเหลือเกิน คือ จะเป็นอิตาเลี่ยนก็ได้ สแปนิชหรือเม๊กซิกันก็ได้ A walk in the cloud ต้องไปหามาดูใหม่แล้ว..มันนานมากจนชักเลือนๆ จากคุณ : WIWANDA - [ 29 พ.ย. 49 03:31:01 ]

ความคิดเห็นที่ 77 (((แอบย่องๆๆๆๆเข้ากระทู้))) หลังจากหายไปทั้งตัวนานมาก ขอโทษค่ะป้าขา จากคุณ : หมาน้อยพุงกาง - [ 29 พ.ย. 49 09:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 78 NEW LABEL Chateau Mouton-Rothschild 2004 คับพี่วิ ผู้ดีไซด์ก็คือ Prince Charles นี่ผมไม่แน่ว่าเป็นเจ้าฟ้าชายชาร์ล หรือเปล่าคับ จากคุณ : mouton new (Nic Nenin) - [ 29 พ.ย. 49 15:33:09 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เข้ามารายงานตัวตอนบ่ายค่ะ จะมาขอบคุณคุณวิที่กรุณาส่ง Pomerol (spl?) มาเป็นขวัญลิ้น ขวัญประสาทรับกลิ่นของผู้ร่วมงานดม ดื่ม ปลื้ม ครั้งแรกของชาว .... ดริ๊งเลสฯ โหย ขนาดดื่มหมดไปตั้งนานแล้ว ...กลิ่นนะคะ ยังอบอวลยวนจมูกอยู่ในแก้ว .... เพิ่งประจักษ์ค่ะ ....เสน่ห์ทิ้งท้าย หรือ เสน่ห์บั้นท้าย .... คล้ายๆหนุ่มตกตุ่มน้ำหอมมาหมาดๆแล้วเดินผ่านเราไป ตัวลับหายไปโน่นแล้ว ร่องรอยยังไม่ยอมจาง .... บรรยากาศเด่นของงาน ทำให่นึกถึงคำแนะนำของคุณวิเมื่อเร็วๆนี้ที่ว่า .... ปรกติก็ทานไวน์ระดับที่เหมาะแก่ลิ้นแก่กระเป๋าของเรา โอกาสลิ้มลองอะไรพิเศษๆนั้นเปรียบเหมือน +ส้มหล่น+ .... ตรงนี้ล่ะค่ะ ทั้งขวดของคุณวิ และของใครต่อใคร เช่น +ลิ้นบาด หกลิตร+ของคุณเล็ก โหย ....ส้มอะไรเอ่ย ต้องว่าขนาด ส้มโอค่ะ ... โดนหล่นตุ้บมาทั้งพวงเลย .... บรรยากาศงานนี้ สำหรับใครบางคนอย่างดิชั้นคือ คือ งานพวงส้มโอหล่นค่ะ ..... ไปบ่อยๆ หัว(ใจ)น่วมแน่ๆ ..... คือว่า เล่นเอามึนข้ามคืน (เพราะอดนอนด้วยไงคะ) จนรุ่งเช้าตัดสินใจ ต้องทิ้งทัวร์เที่ยววัดราชบุรีค่ะ เพราะทัวร์นั้นเล่นพูดอังกฤษล้วน ..... แล้วเราก็ช่างซักถาม ... เดี๋ยวไปทำเค้าทัวร์แตก .... อุ อุ อุ คุณวิ ดูรูปแล้วคงเดาได้นะคะ ว่าใครเป็นใคร หน้าใหม่ๆ รอ ๆ คุณนกอยู่ค่ะ ตอนที่ทราบว่ามาถึงแล้วยังวนรถหาที่จอดอยู่ก็เริ่มจับเวลา พักใหญ่เห็นสุภาพสตรีหวานเก๋มานั่งอยู่หัวโต๊ะ จะเข้าไปทึกทักแล้วค่ะ โชคดีแอบถามชื่อกับใครซะก่อน เค้าบอกเธอชื่อคุณส้ม (คนละส้มกับหลานสาวค่ะ) อ้าวกลายเป็นแฟนคุณกานต์ .... วันหลังเราคงได้เจอกันนะคะ ..... ขอบคุณคุณวิอีกครั้งค่ะสำหรับความเอื้ออาทรชาวไวน์ในดริ๊งเลสฯ จากคุณ : nijja - [ 30 พ.ย. 49 15:24:46 ]

ความคิดเห็นที่ 80 เคยอ่านเจอผ่านๆ ว่า เหล้าองุ่น เข้ามาในสมัยอยุธยา โดยพ่อค้าชาวเปอร์เซีย แต่ไม่รู้ว่า เหล้าองุ่นกับไวน์นี่มันตัวเดียวกันหรือเปล่านะสิ ส่วนหนังสือที่แปลจากฝรั่งเศสนั้น ชื่อว่า "รุกสยามในนามของพระเจ้า" แปลโดยคุณกรรณิกา จรรย์แสง จาก pour la plus grande gloire de dieu เป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับที่ฝรั่งเศสอยากจะยึดไทยในสมัยพระนารายณ์ครับ แต่บังเอิญ โดนเข้าขุนทอง วัดโบถส์ ขี่ม้าเทศเอากริชไปไล่แทงฝรั่งเสียก่อน คนไทยเลยไม่ไดใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาประจำชาติ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 1 ธ.ค. 49 02:47:29 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ค่ะ คุณนิค ป้ายใหม่ของ Chateau Mouton-Rothschild 2004 เป็นฝีมือของเจ้าฟ้าชายชารลส์จริงค่ะ ท่านโปรดการวาดทิวทิศน์ เคยเขียนเล่าไว้ในเรื่อง รักร้าวๆของเจ้านาย ที่เล่าว่า ตอนพระองค์เสด็จไปฮันนีมูนกับ ไดอะน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ในเรือพระที่นั่ง บริตเตนเนีย ก็ทรงใช้เวลาส่วนใหญ่ทรงพระอักษร อ่านหนังสือ และ วาดภาพ (ปัจจุบันนำมาประมูลกันเอิกเกริก ได้ราคาแพงมาก แม้แต่พระองค์ยังตกพระทัย) อย่างรูปนี้ ได้ราคาหลายพันปอนด์.. จากคุณ : WIWANDA - [ 1 ธ.ค. 49 03:09:48 ]

ความคิดเห็นที่ 82 สวัสดีค่ะ คุณนิด ตอนนี้รู้หรือยังว่า อาการถูก"ส้มหล่น" ทับทั้งเข่งน่ะเป็น ยางงายยย.. นี่คือเหตุผลที่นำเสนออย่างเสมอๆว่า การชิมไวน์ต้องนัดชิมเป็นกลุ่ม มาแบ่งมาปันกัน ถึงจะส่งผลต่อสมองและจิตใจ(ให้รักไวน์มากขึ้น) เมื่อแก่วิชามากขึ้น ขอให้จัดเป็นรายการไป ว่า คราวนี้คือไวน์ขาวนะ..ก็เอามาแต่ไวน์ขาว..มาทดลองกัน อีกหน่อยก็สับย่อยลงมาอีก ว่า ไวน์ขาวจากออสซี่นะ.. ไวน์ขาวจากฝรั่งเศสนะ.. พอเข้าข่ายเกาะชายเสื้อเกจิละก้อ..ละเอียดได้ลงมาถึง ไวน์ขาวจากรีเจี่ยนนี้เท่านั้นนะ.. ไวน์แดงก็ทำเหมือนกันค่ะ เพราะ มันเป็นการพลิกตำราขั้นปฏิบัติได้ล้ำลึกยิ่งขึ้น.. อย่างนี้เขาเรียกว่า ชิมเพื่อการเรียนรู้.. จากคุณ : WIWANDA - [ 1 ธ.ค. 49 03:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ตาสื่อศิลปที่รัก ไวน์จากเปอร์เซียที่ว่ามานั้น เป็นการเติมด้วยน้ำผึ้งจนกลายเป็นไวน์เชื่อมเข้มข้น ยามจะกินเป็นเหล้าก็เอามาผสมกับเหล้า(พื้นเมือง) จะเอามาทำขนมก็ได้ จิ้มโรตีกินก็ได้ ทำได้สารพัด บางชนิดเติมน้ำส้มหมักด้วย..เพื่อไม่ให้บูด.. เรื่องเปอร์เซียไวน์นี้ คือรากเง่าของไวน์ในประวัติศาสตร์ โบราณ แม้แต่ในบทกวีของรุไบยาตก็กล่าวถึง ทางเรา..(ฝั่งอเมริกา) ก็ต้องศึกษาเหมือนกัน ข้อความได้สะท้อนให้เห็นถึงการเดินทางของไวน์ข้ามทวีปดังในหนังสือเล่มนี้ .. จากคุณ : WIWANDA - [ 1 ธ.ค. 49 03:37:30 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ตาสื่อศิลป..(อีกที) ไปซื้อหนังสือ รุกสยาม มาเก็บไว้ให้ด้วยนะ..อยากอ่าน เล่มข้างล่างนี้อ่านแล้ว..กว่าจะหาได้เลือดตาแทบกระเด็นแต่สนุกจนอยากเอามาเขียนเป็นนิยายให้นางเอกเป็นคนไทย พระเอกเป็นโกโกริเชื้อชาติฝรั่งเศสเชียวแกเอ๋ย.. รับรองว่าเขียนได้พรั่งพรู..อารมณ์ตัวพระกับตัวนาง แถมเอาไวน์มาแทรก..ไม่ต้องไปหาข้อมูลที่ไหน เพราะอยู่รอบๆตัวนี่เอง...ตั้งชื่อเรื่องเตรียมไว้เลยว่า "คู่เวร" (เพ้อเจ้อไปป่าววุ้ยเนี่ยยย..) จากคุณ : WIWANDA - [ 1 ธ.ค. 49 03:52:40 ]

ความคิดเห็นที่ 85 อ้าว พี่หวานอยากได้เหรอคะ นกเห็นเป็นนิยาย ก็เลยไม่ได้ซื้อให้ ส่งของเรียบร้อยแล้วนะคะ และซื้อของที่สั่งเรียบร้อยหมดแล้วค่ะพี่หวาน อาทิตย์หน้าจะเอาให้น้องต่อ เมื่อวาน ชิมไวน์ที่ French Fair สนุกดีค่ะพี่หวาน ได้ชิมไวน์อร่อยมากอยู่ 2 ชนิด คอนญัค 1 ชนิด (แต่ได้ไปชิมของดีก่อน ที่บู้ธของ French trader ค่ะ พอมาบู้ธขายของที่เขานำเข้าแล้ว เลยเจอแต่ อี๋ๆ น้ำล้างถ้วย ไม่ค่อยมีของดีๆ มีก็ไม่เปิด) พี่วิโรจกับพี่น้อยติวเข้มส่วนตัวให้นกค่ะ ได้ความรู้มาเยอะ แลกกับนกนินทาพี่หวานให้พี่ๆ เค้าฟังค่ะ พี่นิดคะ นกขอโทษที่ทำให้รอนะคะ วันนั้นหมดอารมณ์ค่ะ ถูกบังคับมากไป รับไม่ได้ ดื่มอะไรก็ไม่อร่อยแล้ว แถมจะพ่นไฟได้ด้วยค่ะ เพราะวันนั้น sacrified ไปหลายอย่างมาก กว่าจะไปได้ เอาไว้เจอกันตอนอารมณ์ดีๆ ... สบาย สบายยยยย ดีกว่านะคะ (จะหลังไมค์เบอร์โทรไปนะคะ) วันนั้นก็เลยหอบกลับไปเปิดดื่มกับอาจารย์สื่อศิลป ชื่นมื่น (แปลว่า เมา) กันไปค่ะ อิอิอิ จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 1 ธ.ค. 49 10:06:44 ]

ความคิดเห็นที่ 86 สวัสดีครับ ป้าวิ และทุกๆท่านครับ จากคุณ : jearjear - [ 1 ธ.ค. 49 10:31:32 ]

ความคิดเห็นที่ 87 สวัสดีเช่นกันครับ จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 1 ธ.ค. 49 11:51:30 ]

ความคิดเห็นที่ 88 จากคุณ : nijja - [ 1 ธ.ค. 49 15:10:13 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ...พี่หวานและสหายไวน์ทุกท่าน ...ช่วงนี้วุ่นวายอยู่กับเวปไวน์ส่วนตัว...ซึ่งเบาลงแล้ว ...แล้วก็แปลกที่ตลอดทั้งสัปดาห์...วุ่นวายอยู่กับชิมไวน์แคลิฟอร์เนีย ...แต่สุดยอด...ยอดสุด...คือตัวนี้ครับ Bryant Family 2003 Cabernet Sauvignon, Napa Valley Rate: 96 ...สีเนื้อแดงอมดำ สวยงามน่ากลัว ...ส่งกลิ่นหอมหวานของเครื่องเทศ พริกไทสด กล่องซิการ์ ...โครงเนื้อหนาเต็มเหยียด ให้สมดุลดีมากๆ ความลงตัวดี ...แต่แอซิดนี่เอง...สดชื่นสมบูรณ์แบบเหลือเกิน ...ตรงกลิ่นก็ดีแบบงั้นๆ ในเนื้อน้ำกลับเผยความซับซ้อนไว้ให้ตกใจ ...ช่วงจบท้ายให้ความหอมหวานตราตรึงยาวนาน และติดปลายขมอมหวาน ...เป็นหนุ่มใหญ่ หล่อ นิ่ง สุภาพ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 1 ธ.ค. 49 19:08:46 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ...รองลงมาก็เป็นตัวนี้ครับ Harlan Estate 1999 Rate: 94 ...พี่น้องครับ ...สีไวน์นั้นแดงสด เข้ม ทึบ ลึก สะพรึงใจ ...กลิ่นค่อนข้างปิดเล็กน้อย แต่ก็ยังได้กลิ่นคาวอ่อนๆ และลังไม้สนสด ...โครงเนื้อหนาเต็ม ให้แอซิดดีมาก ให้ความสดชื่นและเร้าใจในที ...ให้สมดุลและความลงตัวดีมาก ...กลิ่นชะเอมโผล่ขึ้นมาในโพรงจมูก ...ช่วงจบยาว เร้าอารมณ์ในระดับดี ... เป็นผู้ชายหน้าตาดีแต่ขาดเสน่ห์ ...เป็น Smart office man ที่สาวๆ มักหลงไหล จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 1 ธ.ค. 49 19:26:25 ]

ความคิดเห็นที่ 91 โอ้วววว ..... ถูกใจสาวน้อยใหญ่ทั่วหน้า ..... ไวน์คุณวิโรจนี่... หนุ่มๆ ... ทั้งนั้นเรย .... คริ คริ ... จากคุณ : nijja - [ 1 ธ.ค. 49 21:49:20 ]

ความคิดเห็นที่ 92 เปรียบเทียบได้ใจมากครับ จากคุณ : jearjear - [ 2 ธ.ค. 49 13:22:17 ]

ความคิดเห็นที่ 93 สวัสดียามเที่ยงวันอาทิตย์ครับ จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 3 ธ.ค. 49 12:04:35 ]

ความคิดเห็นที่ 94 พี่วิโรจคะ นกไปเรียนทำสบู่เหลวกับครีมทาตัวมา อ้าวแล้วมันเกี่ยวกับไวน์ยังไง? ก็จะทำแบบไม่ใส่กลิ่นให้พี่กับพี่น้อยใช้ไงคะ จมูกจะได้เป็นกลางสุดๆ เวลาไป wine tasting จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 3 ธ.ค. 49 12:56:28 ]

ความคิดเห็นที่ 95 พี่วิครับ ล่าสุดนี้เห็นอีตาParker ให้แต้มของแชมเปญ L.R.Cristal ไว้สูงถึง98แต้มเลยอะครับ เลยอยากทราบว่าตอนนี้ความเคลื่อน ไหวในตลาดของแชมเปญตัวนี้เป็น ไงบ้างอะครับ จากคุณ : มันต้องแพงแน่ๆ (Phantom of the Cellar) - [ 3 ธ.ค. 49 13:18:22 ]

ความคิดเห็นที่ 96 ขออภัยค่ะ ถามผิดเรื่องค่ะ จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 3 ธ.ค. 49 19:22:47 ]

ความคิดเห็นที่ 97 คุณนก....หลังไมค์ครับ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 3 ธ.ค. 49 21:16:16 ]

ความคิดเห็นที่ 98 แหม..พอเข้ามาในกระทู้ก็เจอแต่"ดอกฟ้า" ทั้งนั้นเลย.. Bryant Family งี้... Harlan ..งี้.... ล้วนแล้วแต่เป็นกล่องดวงใจของบ๊อบท้างน้าน.. แต่ตอนนี้สองตระกูลนี้กำลังเสียรังวัดให้กับ Sloan ค่ะ เขามาแรงแซงโค้ง..ในอเมริกากลุ่มที่นิยมของหายาก กำลังกว้านหากันตัวเป็นเกลียว.. และมาถึงรายการที่ถามถึง...Louis Roederer Cristal Champagne ซึ่งความจริงในอดีตก็เป็นแชมเปญชั้นสูง เพระเป็นที่นิยมในราชสำนักของซาร์แห่งรัสเซียมาตั้งแต่ ปี 1876 และได้รับคำสั่งจากซาร์ให้ทำขึ้นมาพิเศษชนิดบรรจุในขวดคริสตัล จะได้ไม่ซ้ำแบบใคร จะคิดราคาเท่าไหร่ก็ไม่ว่า.. ขอให้เข้าใจว่า ตอนนั้นในราชสำนักได้มีเจ้านายหลายฝ่าย ทั้งวังหน้า วังหลัง ....ถ้าอ่านประวัติศาสตร์ จะทราบว่า ขนาดวังหน้า คือ ซาร์(Alexander II)และซารินา ที่มีอำนาจสูงสุดได้โอบอุ้มและเลี้ยงดู เอาอกเอาใจรัสปูตินยังกับเทวดา..วังหลัง (Prince Felix Felixovich Yusupov) เห็นท่าไม่ดี ไอ้หมอนี่ชักจะมีอำนาจมากไปเสียแล้ว..เลยลวงไปฆ่าทิ้งซะเลย... เมื่อมีหลายสำนัก ..ต่างล้วนแต่มีอำนาจ แต่ละซุ้มก็ต้องแข่งกันให้ลงไปในเบื้องหน้าและเบื้องลึก ว่า..ซุ้มไหนมีรสนิยมอย่างไร จะกินจะอยู่ต้องเลอเลิศเหนือกันแค่ไหน จึงเป็นที่มาของแชมเปญ,โซแตนส์, คาเวียร์.. ต้องเป็นหนึ่ง..ไม่มีสอง Louis Roederer Cristal Champagne ก็เช่นกัน.. เมื่อก่อนก็ขายในระดับราคาธรรมดา แพงกว่า Krug หน่อยนึง เพราะขวดเอาไปทำประโยชน์ได้ แต่เมื่อไม่นานมานี้ เหล่าดาราฮอลลีวู๊ด พวกนักเพลงผิวดำ หันมานิยมกันอย่างหน้ามืดตามัว (ข่าววงในเขาเล่ามาว่า.. ซดแชมเปญนี้ ตามด้วยโคเคน จะมีอารมณ์เหมือนขึ้นสวรรค์) ความนิยมก็ขึ้นสูงปรี๊ด ไปๆมาๆ เลยตกขวดละ 400 เหรียญไปแล้ว.. เหล่าดารานั้นขนหน้าแข้งไม่ร่วง เพราะ เล่นหนังเรื่องหนึ่งรับไป 15-16 ล้าน..ขืนไม่กินแชมเปญแพงๆ ซื้อของแพงๆ ละก้อ.. จะเอาอะไรไปหักภาษีเล่า..?? จากคุณ : WIWANDA - [ 4 ธ.ค. 49 11:23:01 ]

ความคิดเห็นที่ 99 เพิ่งกลับเข้ามาจากงานที่ยุ่งตุงนังสี่วันติดๆ และมีโอกาสไปอ่านในเวบดริ้งค์เลส ได้ดูภาพของเหล่าหลานๆ ..เอ๊ย..ม่ายช่าย... น้องๆน่ะ โถ..หน้าตาละอ่อนกันแต้ๆ..อย่างนี้คงต้องเรียกว่า.. กลุ่ม cadet de vin เห็นจะเหมาะ ท่าทางสนุกสนานกันดีนะคะ นึกว่าจะมีคนมาเล่าเรื่องงานไวน์ฝรั่งเศส รวมทั้งภาพของงาน แต่ไม่ยักกะมี.. อยากรู้จริงๆว่า ผู้ประกอบการค้าไวน์ต่างชาติ เขามีความเห็นว่าอย่างไรกับเรื่องกฏหมายใหม่ที่จะออกมาเนี่ย จากคุณ : WIWANDA - [ 4 ธ.ค. 49 11:43:20 ]

ความคิดเห็นที่ 100 มัวแต่ฝอย..ลืมรูปไปเลย..Louis Roederer Cristal Champagne จากคุณ : WIWANDA - [ 4 ธ.ค. 49 11:52:08 ]

ความคิดเห็นที่ 101 มาสวัสดีครับ งานไวน์ฝรั่งเศสที่ผ่านมา ผมก็อยากรายงานประกอบภาพจริงๆ แต่จนใจที่ผมหาสายลิงค์จากมือถือลง คอมไม่เจอเลยยังไม่ได้เล่าซักที จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 4 ธ.ค. 49 12:22:45 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ในงานผู้ประกอบการจากฝรั่งเศส ต่างบ่นกันอุบกับตาข่ายรั้วหนาม ทางภาษี ทุกคนต่างสลดไปตามๆกัน จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 4 ธ.ค. 49 12:24:06 ]

ความคิดเห็นที่ 103 ในงานผมได้ชิมไวน์จากทุกบูธ และมีหนึ่งบูธที่โดนใจผมสุดๆนั่น ก็คือ บู๊ทของโดเมน Alain Geoffroy ผู้ผลิตไวน์ขาวชาบลีย์ ซึ่งทำไวน์ออกมา ในสไตล์ที่ค่อนข้างละมุนแอซิดไม่คมเกิน ทำให้มประทับใจมากกับโดเมนนี้ ไวน์เขาดีทุกตัวเลยอะครับ จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 4 ธ.ค. 49 12:26:49 ]

ความคิดเห็นที่ 104 แชมเปญ L.R. นั้น ผมได้ชิมของปี 96 ไปแล้วอะครับ แล้ว ผมก็ติดใจมันมาก เป็นแชมเปญที่เรียก ได้ว่าสมบูรณ์แบบจริงๆ จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 4 ธ.ค. 49 12:28:30 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ปลายปีนี้พี่วิคงได้ตรวจเทสโน้ตกันเยอะแน่ๆคับใกล้เทศกาล อิอิ งานไวน์ฝรั่งเศสที่ผ่านมา ผมได้ไปวันศุกร์ได้ชิมไวน์เบอร์กันดีสองสามตัวดีคับแต่ไม่มีขายคับ และไม่มีใครนำเข้ามาขายเจอภาษีบ้านเราเข้าไปส่ายหน้าเป็นแถบๆ ส่วนงานที่เหลือก็เดิมๆมีผู้นำเข้าร้านเดิมๆไวน์เดิมๆเห็นมาหลายปีแระ มาขายกันถูกบ้างแพงบ้างคับ ตอนซื้อก็เหมือนต้องลุ้นแบบหวยเรยคับ ตาดีได้ตาร้ายเสียแต่ก็สนุกดีคับผม จากคุณ : nicky (Nic Nenin) - [ 4 ธ.ค. 49 12:41:18 ]

ความคิดเห็นที่ 106 เมื่อกี้แวะไปอ่านกระทู้ในห้องเหลิมไทยมา..ติดตามข่าวเอเชี่ยนเกมส์น่ะ เพราะอเมริกาไม่มีการถ่ายทอดโทรทัศน์ ไม่มีใครรู้จัก และไม่สนใจ เนื่องจากตอนนี้คือ ฤดูของอเมริกันฟุตบอล เข้าไปอ่านบางกระทู้เขาพูดถึง Sheikh หนุ่มที่ขี่ม้าในพิธีเปิดกันอย่างชื่นชม ว่า หล่อเข้ม หล่อโคดด เท่านั้นไม่พอ ยังยกย่องใช้ราชาศัพท์กันรุงรังไปหมด เลยต้องแวะมาบอกชาวไวน์ ว่า Sheikh หรือที่เราเรียกว่า เชค (ไม่ใช่ชีค) นั้นมีหลายกลุ่มหลายกอง บางนิกายในมุสลิม จะเรียกชายทุกคนว่าเชค หรือ พวกอาหรับ เมื่อมีอายุมากขึ้น..เขาก็จะเรียกว่า เชค นำหน้า เป็นการแสดงความเคารพในอาวุโส เมื่อเป็นการแสดงความคารพ..เชค จึงเป็นคำที่สุภาพและ เป็นเครดิต ชาวอาหรับในกลุ่มประเทศใหม่ๆ(ที่ร่ำรวยด้วยน้ำมัน) จะเป็นเศรษฐีใหม่ เศรษฐีเก่า ก็เป็นเชคทั้งนั้น หรือข้าราชการระดับสูงอย่างผู้ว่า ปลัด ก็เป็นเชค.. ส่วนพ่อหนุ่มน้อยจ๊อคกี้รูปหล่อนั่น..เป็นลูกของผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง จึงคำนำหน้าว่า เชค แต่ไม่ใช่เชื้อพระวงค์.. ถ้าเป็นเชื้อพระวงค์ ต้องใช้อย่างประเทศดูไบ ที่มีการกำกับให้ชัดเจนลงไปว่า.. Vice President and Prime Minister and Ruler of Dubai His Highness Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum หรือ His Highness the Crown Prince Sheikh Nawaf Al-Ahmed Al-Jaber Al-Sabah แห่ง คูเวต ถ้าเป็นเชคเฉยๆ...ไม่ต้องมีการใช้ราชาศัพท์ ในภาษาฝรั่ง ก็ใช้ลงท้ายว่า sir, เท่านั้นพอ.. ฝากบอกต่อๆกันไปด้วย..ไม่กล้าไปบอกเอง กระแสกำลังแรง.......... กลัวเขาด่าเอา.. จากคุณ : WIWANDA - [ 4 ธ.ค. 49 13:50:59 ]

ความคิดเห็นที่ 107 สวัสดีคร้าบบ จากคุณ : jearjear - [ 4 ธ.ค. 49 16:48:15 ]

ความคิดเห็นที่ 108 คุณวิคะ ...ใน คห ๑๐๖ ขอนำไปถ่ายทอดให้เพื่อนที่เป็น ผอ ที่ อสมท อ่านได้ไหมคะ ..... เพื่อนบอกว่ากลุ้มมมมมม ใจกะคนอ่านข่าวเขียนข่าวสมัยนี้มาก นี่เคยท้วงไปค่ะ พวกใช้ราชาศัพท์ผิด อ่านผิด เช่น สรยุทธ์อ่านว่า ราชอ(ะ)ริยาบทอยู่ได้เป็นเดือนไม่มีใครติง .... ขอบคุณค่ะ จากคุณ : nijja - [ วันพ่อแห่งชาติ 08:42:29 ]

ความคิดเห็นที่ 109 แล้วต้องใช้คำว่าอะไรคะพี่นิด? พระจริยาวัตร หรือเปล่าคะ? (นกไม่ค่อยรู้นะคะ อาจจะผิด เลยถามดู) นี่เลยเกิดไอเดียค่ะ ต้องโทรไปบอกพี่หน่าธงทอง แกน่าจะเขียนหนังสือหรือทำรายการเรื่องการใช้ภาษากับเจ้านะคะ สวัสดีพี่หวานค่ะ ถ้าพี่หวานจามติดๆกันสามสี่ครั้ง ก็แปลว่า นกเองกำลังคิดถึงอย่างแรงค่ะ อากาศเป็นไงบ้างคะ? ได้ข่าวว่าหนาวพิลึกกึกกือ จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ วันพ่อแห่งชาติ 13:30:44 ]

ความคิดเห็นที่ 110 ".....นึกว่าจะมีคนมาเล่าเรื่องงานไวน์ฝรั่งเศส รวมทั้งภาพของงาน แต่ไม่ยักกะมี......" พี่หวานครับ... ...ก็ว่าจะเล่าเรื่อง Bonjour Bougogne ให้ฟังตั้งแต่วันนั้นแล้ว ...แต่ติดงานหลวงงานราษฎร์...จนลืมไปเลย ...มีเรื่องเล่าให้ฟังอยู่เหมือนกัน จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ วันพ่อแห่งชาติ 18:19:36 ]

ความคิดเห็นที่ 111 ...งาน Bonjour Bourgogne ที่จัดขึ้นนี้ อย่างที่ทราบว่า ...โดยแกนหลักของงานนี้ จัดขึ้นโดยความร่วมมือสามส่วน ...คือ French Embassy ...Economic Department Franco-Thai Chamber ...และ Sopexa Thailand ...โดยเนื้อหาหลักๆ เพื่อสนับสนุนสินค้าบริโภคอุปโภคฝรั่งเศส ...นอกเหนือจากสินค้าเสื้อผ้า อาหารแล้ว ...ในส่วนของไวน์ฝรั่งเศส มีตัวแทนจาก Domaine ต่างๆ ในเบอกันดีมาเสนอหน้า ...เผื่อว่าจะมีใครอยากเป็นตัวแทนจำหน่ายที่เมืองไทย ...แต่ถ้าแก้ผ้ามาอย่างนั้นก็ดูเป็นการประเจิดประเจ้ออยู่สักหน่อย ...เลยมีงานสัมนาไวน์เบอกันดีปะหน้าไว้เสียหน่อย ...แล้วก็เชิญบุคคลที่ควรจะเกี่ยวข้องกับไวน์ทั่วหน้ามาร่วมฟัง ...ซึ่งเนื้อหาที่บรรยายนั้น...ในส่วนตัวผมแล้วถือว่า...อ่อนมาก ...เพราะผู้ดำเนินการสัมนาขาดความพร้อม ...และเป็นเพียงหนึ่งในผู้นำไวน์มาเสนอหน้าในงาน ...มิได้เป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากองค์กรเฉพาะแต่อย่างใด จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ วันพ่อแห่งชาติ 18:35:40 ]

ความคิดเห็นที่ 112 ...หน้าตาของผู้เข้าฟัง...ที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ วันพ่อแห่งชาติ 18:37:58 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ในช่วงสัมนาก็มีการเทสต์ไวน์เบอกันดีระดับธรรมดาๆ แก้เลี่ยนด้วย จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ วันพ่อแห่งชาติ 18:49:33 ]

ความคิดเห็นที่ 114 ...หลังจบการสัมนาด้วยเนื้อหาที่ไม่ได้อะไรใหม่มากนัก ...ก็ออกมาเดินดูตามบูทไวน์ซึ่งแยกออกเป็นสองส่วน ...คือส่วนที่ตัวแทนไวน์จากเบอกันดี ...กับบูทขายไวน์จากบริษัทไวน์ในประเทศ ...ที่ขนไวน์มาให้เทสต์พร้อมขายในสนนราคาเหมือนน่าสนใจ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ วันพ่อแห่งชาติ 19:01:36 ]

ความคิดเห็นที่ 115 ...ในส่วนของบูทตัวแทนไวน์จากเบอกันดีที่ผู้คนทั่วไปไม่มีสิทธิ์ชิม ...และจำกัดไว้สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นตัวแทนไวน์ในประเทศเท่านั้น ...ส่วนนี้ผมถือว่า Fail อย่างหาที่ติมิได้ครับ ...บรรยากาศรอบบูทค่อนข้างเย็นชา ...ตัวแทนไวน์เกือบทั้งหมดแสดงความรู้สึกชัดเจนว่า...ไม่ต้อนรับและเฉยเมย ...นอกจากตัวแทนไวน์คนนี้ที่แปลกแยกออกมา ...เพราะไวน์ของเขาเป็น Bordeaux และ Rhone จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ วันพ่อแห่งชาติ 19:12:20 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ...พอช่วงตกเย็นใกล้ค่ำ ...พวกตัวแทนไวน์ทั้งหมดต่างเก็บข้าวของ ...ทั้งที่ผู้คนเดินไปมาขวักไขว่ ...มาทราบทีหลังว่า พวกเขาเตรียมตัวไปงานที่ท่านฑูตฝรั่งเศสจัดเลี้ยงให้ ...ก็มีแต่นายคนนี้ ทั้งที่เก็บของแล้ว พอเห็นเราเดินเข้าไปหา ...ก็งัดเอาไวน์ของเขาออกมาประเคนให้เราชิมโดยเฉพาะ จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ วันพ่อแห่งชาติ 19:31:38 ]

ความคิดเห็นที่ 117 ...สรุปแล้ว...งานนี้ไปไม่ถึงดวงดาวกันทุกฝ่าย ...คนเอาไวน์มาเสนอ...ก็ไม่อยู่ในอารมณ์ขาย ...แค่รู้เรื่องกฏเกณฑ์ภาษีของพระอาจารย์ดวงใจ ...กับ พรบ.ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ...เขาก็คงนึกว่า จะมาขายไวน์อะไรที่บ้านป่าเมืองเถื่อนแบบนี้ ...ตัวแทนไวน์บ้านเราก็ไม่อยู่ในอารมณ์ แค่เอาตัวให้รอดยังแย่เลย ...เห็นจะมีก็แต่นายคนนี้ที่เดินเล่นแอคคอเดียนไปเรื่อยเปื่อย ...จนน้องนกของเรากระวนกระวายหาซื้อซีดีของนายคนนี้ในงาน จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ วันพ่อแห่งชาติ 20:13:05 ]

ความคิดเห็นที่ 118 มาสวัสดีตอนค่ำครับ จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ วันพ่อแห่งชาติ 21:46:18 ]

ความคิดเห็นที่ 119 รูป 115 116 117 กล้องพี่วิโรจ แต่นกเป็นคนถ่ายเองค่ะ เลยไม่ค่อยชัด อิอิ ไวน์ Cote du Rhone ที่ได้ชิมที่บู้ธนี้ อร่อยค่ะพี่หวาน นกจำรายละเอียดของชื่อ ยี่ห้อ ไม่ได้ค่ะ ทำให้ลิ้นนกรับไวน์อื่นๆที่เขาขายในงานไม่ได้เลยค่ะ ที่เหลือเลยเหมือนน้ำล้างถ้วยไปหมดเลย จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ วันพ่อแห่งชาติ 22:25:49 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ขออนุญาตแทรกนิดนึงนะคะ รายงานการสำรวจหนังสือค่ะ เล่มนี้ค่ะพี่วิที่พุดถึง จากคุณ : horseshoes - [ 6 ธ.ค. 49 05:34:55 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ขอโชว์รูปhay on Wye ค่ะ จากคุณ : horseshoes - [ 6 ธ.ค. 49 05:36:35 ]

ความคิดเห็นที่ 122 ร้านหนังสือ จากคุณ : horseshoes - [ 6 ธ.ค. 49 05:37:11 ]

ความคิดเห็นที่ 123 หนังสือ จากคุณ : horseshoes - [ 6 ธ.ค. 49 05:37:45 ]

ความคิดเห็นที่ 124 ๆๆ จากคุณ : horseshoes - [ 6 ธ.ค. 49 05:38:58 ]

ความคิดเห็นที่ 125 เมือง จากคุณ : horseshoes - [ 6 ธ.ค. 49 05:39:45 ]

ความคิดเห็นที่ 126 เล่มที่พี่วิฝากนั้นหายังไม่เจอค่ะ แต่ก็ยังไม่ละความพยายามค่ะ ^__^ จากคุณ : horseshoes - [ 6 ธ.ค. 49 05:41:49 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ตอนนี้ระเห็จมานั่งพิมพ์อยู่ร้านกาแฟ..เพราะละแวกถิ่นที่อยู่ ไฟดับแทบทั้งเมือง โชคดีที่เป็นวันนี้ เพราะเมื่อสองวันก่อนนอนซม ทั้งไอและจามดังที่น้องนกว่าไว้ไม่มีผิด ทำงานดึกติดๆกันหลายคืน..เลยร่วงซะตามระเบียบ ขอบคุณคุณวิโรจมากค่ะ ที่มาเล่าเรื่องไวน์และภาพประกอบ พี่พอเข้าใจดี ว่า..ทำไมบริษัทตัวแทนถึงไม่มีความกระตือรือล้นต่อการโฆษณา เขาคงมองเห็นแล้วว่า อนาคตข้างหน้านั้นมืดมิด น่าเสียดาย.. เล่าให้คุณปีแอร์ฟัง..เขาแทบไม่เชื่อหู เขาว่า..ขนาดฝรั่งเศสทำไวน์ได้อย่างมากมายมหาศาล ยังไม่มีการสกัดกั้นการนำเข้าจากประเทศอื่นๆ อย่างเด่นชัด เพราะ ในเส้นทางสายนี้ยังไปอีกยาวไกล เขายังต้องการที่จะเรียนรู้ไวน์จากต่างถิ่นต่างแดนด้วย.. คุณ horseshoes คะ อ่านหลังไมค์ด้วย ขอบคุณมากค่ะ น้องนกที่รัก ชอบไวน์ของ Cote du Rhone ก็ดีแล้ว หาซื้อได้ง่ายดี กระทู้เก่าๆพี่เคยพูดถึงไวน์จากโรห์นไว้แล้ว..แต่เล่าใหม่ก็ได้ว่า ไวน์ โกต์ ดู โรห์น หมายถึง ไวน์ที่มาจาก(องุ่น)แคว้นโรห์นแท้ๆ จะมาจากส่วนไหน เหนือ กลาง หรือใต้ ไม่สำคัญ เอามาผสมกันสารพัดชนิดก็ได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องกฏเกณฑ์ของ AOC เพราะประทับตราว่า Cote du Rhone ซะอย่าง..ออกขายได้เลย เพียงแต่จะมาเรียกร้องราคาแพงๆไม่ได้เท่านั้น.. ชอบตัวนี้..ก็ชิมไปเรื่อยๆให้ชำนาญลิ้น อีกหน่อยก็ปรับไปหาระดับ Chateauneuf du Pape มาทดลองเปรียบเทียบ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 6 ธ.ค. 49 10:15:07 ]

ความคิดเห็นที่ 128 สองวันที่นอนซม..ได้แต่อ่านอย่างเดียว พิมพ์ไม่ถนัด และต้องขอขอบคุณ คุณนางกอแบกเป้ ที่ได้เข้าไปบล๊อกของคุณด้วยความเพลิดเพลินใจเป็นอย่างมาก อ่านแบบติดหนึบเชียวค่ะ เลยอยากแนะนำเพื่อนๆน้องๆ เข้าไปอ่านด้วย..ลองยกตัวอย่างความมันส์มาเป็น preview สักเรื่องหนึ่ง (ขออนุญาตเจ้าตัวเรียบร้อยแล้ว..) ............. เป็นไกด์...ดีจริงหรือ "พี่เป็นไกด์เหรอ โห เก่งจัง " "เค้าว่าเป็นไกด์นี่เงินดีใช่ไหมครับ" "แหม..อิจฉาคนเป็นไกด์เนอะ ได้เที่ยว เงินก็ดี พูดๆก็ได้ตังค์" "หูยยย เป็นอาชีพในความฝันเลยค่ะ เป็นไกด์ งานสบาย เงินดี ไม่เหนื่อย...." ค่ะ...เป็นประโยคที่ได้ยินบ่อยมากตลอดชีวิตการทำงานที่ผ่านมา แล้วมันสบายจริงไหม เงินดีจริงไหม เป็นอาชีพในความฝันหรือเปล่า โบ๊ะหน้าฉ่ำ แต่งองค์ทรงเครื่องสวยแล้ว ตามอิฉันมาหน้าจอเลยค่ะ ก่อนอื่นจะต้องเข้าใจคำว่าไกด์ กันก่อน ว่าหมายความว่าอะไร Guide ตามพจนานุกรม อังกฤษไทย ของ สอ เศรษฐบุตร (นามสกุลเดียวกับอดีตพระเอกตาตี่ที่อิฉันเคยหลงใหลสมัยเริ่มแต่กวัยชรา) ท่านให้ความหมายเอาไว้ว่า คนนำทาง เครื่องนำทางคนให้คำแนะนำ แล้วคำนี้ในภาษาฝรั่งเศสล่ะ จากฉบับของ นาวาเอก ศิริ พงศ์ทัต ท่านแปลว่า มัคคุเทศก์ ผู้แนะแนว หนังสือแนะนำก็ได้ เอ๊ แล้วคำว่ามัคคุเทศก์ล่ะ ในภาษาไทย คือ คนนำทาง ที่มักนำเที่ยวและอธิบายประกอบ เป็นคำสมาส หรือ สนธิ (คำหลังนี่กลัววโดน คนรักทักษิณแบนจัง) ก็ไม่รู้ละ อิฉันตกภาษาไทย มาจากภาษาบาลีว่า มคค + อุทเทสก เห็นไหมคะ...ทุกความหมายล้วนแล้วแต่บ่งชี้ว่า เป็นผู้นำทาง ผู้ชี้แนวทาง ผู้แนะนำทั้งนั้นเลย..... แต่จริงๆแล้ว คนที่อยู่ในวงการจะรู้เลยว่ามันหนักหนาสาหัสกว่าคำจำกัดความ...เพราะเราต้องรับผิดชอบหมด ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ ตั้งแต่วันแรกรับเข้า ไปจนถึงวันส่งออก จนเช็คกระเป๋า เช็คตั๋ว ผ่านต.ม.ไปเรียบร้อยแล้ว นั่นแหละค่ะ เป็นอันจบหน้าที่.... แล้วช่วงเวลานี้แหละ..ลูกทัวร์มีอะไรก็จะเรียกหาแต่เรา ไกด์รุ่นพี่นางหนึ่ง ที่เป็นไกด์ฝรั่งเศสมาตั้งแต่สาวๆหน้าใสเด้ง สวยปิ๊ง ทำมาจนเดี๋ยวนี้ เธอกลายเป็นโบราณบุคคล ทั้งตะไคร่ทั้งรา ทั้งเพรียง เกาะเขียวปึ้ด ให้รุ่นน้องยกมือไหว้เป็นเจว็ดศาลพระภูมิ "หวัดดีค่ะ คุณทวด" เคยบอกว่า "อุ๊ย...นังแขกพวกนี้น่ะนะ อึไม่ออก ฉี่ไม่เป็น ก็เรียกหาแต่ไกด์ๆๆๆๆ" นอกจากจะเป็นผู้นำทางแล้ว ยังต้องมีวิญญาณความเป็นครู ช่างพูด ช่างอธิบาย แล้วยังต้อง อัญเชิญ องค์ของความเป็นเจ้าบ้านที่ดี ยิ้มแย้มแจ่มใสมาประทับด้วย องค์ เจ้าแม่กาลี ทุรคา หรือ องค...อื่นๆนั้น ถ้าไม่จำเป็นให้เอาเก็บไว้ที่บ้าน เป็นนักวางแผน และ นักบริหารเวลา ต้องเตรียมการสองชั้นสามชั้น เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า งานนี้ก้อนสมองทำงานมากกว่า คณะ ร.ม.ต. และ ส.ว.อีกนะคะ จะบอกให้ เพราะเหตุการณ์เฉพาะหน้าเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เช่น รถเสีย ฝนตกรถติด อุบัติหตุ แขกกวนประสาทฯลฯ บางจังหวะเวลาก็ต้องแปลงกายเป็น ซุปเปอร์แมน ถ้าไกด์ ชะนีก็ต้องเป็น น้องอร สู้โว้ย หรือ หากเป็นเกเก้ แปลงกายเป็นน้องแรมฯ(ชื่อเต็มว่าแรมโบริณี) ก็ไม่ผิดแต่อย่างใด เพราะหลายครั้ง ที่มีกรุ๊ปเช็คเอาต์ออกเวลาเดียวกัน โหลดกระเป๋าไม่ทัน นังไกด์นี่แหละค่ะ ที่ต้องช่วย เด็กรถ ช่วยเบลล์บอย ยกกระเป๋า ไม่อย่างนั้น มีหวังออกทัวร์สาย ทำโปรแกรมไม่ทัน บริษัทจะโดนพวกแขกรู้มากฟ้องเอา แต่บริษัทแค่เสียเวลา คนจ่ายจริงๆคือ นังไกด์ทั้งหลาย... นางพยาบาลจำเป็น...ในกรณีที่เกิดป่วยฉุกเฉิน ก็จะต้องพอรู้สมมุติฐานโรค เพื่อ คุยกับหมอ(จริงๆ) บางครั้งให้เกลียดโรงพยาบาลขนาดไหน ก็ต้องไปนั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อ เป็นล่ามคอยคุย ซักถามอาการให้ คุณหมอ จนแอบปิ๊งหมอไปก็หลายคนแล้ว (เคยมีหมอมาปิ๊งด้วยนะคะ อิฉันน่ะ แต่กลัวโดนจับสแกนหาเชื้อโรคก่อนขึ้นเตียง กว่าจะสแกนเสร็จ ทั้งหมดอยาก ทั้งเสียเวลาทำมาหากิน เลยต้องบ๊ายบายกันไป) และ..ณ บัดนี้ ด้วยความตกต่ำของวงการทัวร์ประเทศเราที่โดนปู้ยี่ปู้ยำซะจนแทบไม่เหลือดี (ถ้าเป็นหญิงสาว อิฉันขอยกตำแหน่ง คณะปลอบใจทหารในหนังสือ"ทาสกาม"ไปเลย) ราคาค่าทัวร์มาบ้านเราจะถูกมาก ถูกสุดๆ ถูกกว่าของแบกะดินด้วยซ้ำ ถูกจนเหมือนของไม่มีค่า ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง เห็นราคาแล้ว ต้องถามว่า บริษัททัวร์ได้กำไรเหรอ คำตอบคือ ไม่ได้หรอกค่ะ.... ดังนั้นหน้าที่ที่เพิ่มมาอีกหนึ่งของบรรดานังไกด์ทั้งหลายแหล่ คือ ทั้งกระเดียด ทั้งหาบ ทั้งคอน เอาโปรแกรมมาเร่ขายบนรถ แต่แทนที่จะร้องว่า "มาแล้วจ้า ขนมจีนแม่วัลลา น้ำยาพระอภัย" มาเป็น "มาแล้วจ้า optional tour ร้อนๆ มาแล้วค่ะ อุดหนุนหน่อยนะคะ จะได้มีเงินทำทัวร์ต่อ " (เคสนี้เฉพาะบางบริษัทนะคะ หลายๆบริษัทที่ยังดีๆอยู่ รักษาราคามาตรฐานเอาไว้ไม่เป็นค่ะ) เคยมีคนบอกว่า งานแบบนี้ดีนะ อิสระดี...อิสระ เหรอ สะกดไงคะ อิฉันลืมไปแล้ว... อิสระตรงที่คุณเลือกรับงานได้ แต่ถ้าเลือกมาก เรื่องมาก บริษัทเค้าก็ไม่เอาคุณนะคะ ขอบอก เพราะในวงการ ไม่ได้มีไกด์แค่เพียงคนเดียว เวลาทำงาน หมายถึงเวลาที่ลูกทัวร์อยู่ในมือคุณประสาท สมอง สัมผัส เรียกว่า ทวารทั้งห้า ต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา แม้แต่กลางคืน หลังจากที่ไล่ลูกทัวร์เข้าห้องไปแล้วก็ตามที หลายๆท่าน อาจจะแย้งว่า เมื่อถึงโรงแรมแล้ว เข้าห้องแล้ว ก็น่าจะเป็นเวลาพัก จะทำอะไรก็ได้ ใช่ค่ะ แต่ก็ต้องเตรียมงานเผื่อวันรุ่งขึ้น อ่านหนังสือ หาข้อมูลเตรียมพากย์ พักผ่อนให้เต็มที่เพราะส่วนใหญ่ เราจะต้องตืนเช้าตลอด จะมาทำตัวเป็น คุณนายตื่นสาย หรือ คิดว่า เดี๋ยวไปหลับเอาแรงบนรถแล้วกัน ไม่ได้นะคะ เสียภาพพจน์หมด เกิดหลับ อ้าปากล่ะ ต๊าย จากนางงาม เป็นนางงอมไปเลย แล้วแขกที่ซื้อทัวร์มา เค้าก็หวังที่จะได้รับคำอธิบายจากเราค่ะ อย่าลืมว่า การที่เค้ามาเที่ยว คือ การมาดูความแตกต่าง ดังนั้น เราต้องอธิบายให้ได้ว่า ต่างกันยังไง ศาสนา ความเชื่อที่มีผลต่อสถาปัตยกรรม ชีวิตความเป็นอยู่ฯลฯ อีกอย่าง การที่เราอยู่ในห้อง เกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา เช่น แขก ดจร.ไปกินเหล้าหน้าโรงแรม เดินข้ามถนน ตัดหน้ารถสิบล้อ โดนบี้หัวแบะ ทางโรงแรม เค้าก็จะตามหาไกด์ ก่อนแหละค่ะ ไม่ใช่ แขกเข้าห้องดับจิตไปแล้ว บริษัทรู้เรื่องแล้ว ไกด์ยังหน้าแฉล้มเลือกห่อหมกอยู่ในบาร์ละก็ อย่างนี้ ถือว่า บกพร่อง คุณไปทำงานนะคะ ไม่ได้ไปเที่ยว.... อะไรอีกนะคะ...แหม...ช่างสงสัยกันเสียเหลือเกินนะ...ว่าไงนะคะ อ๋อ ที่ว่า อิสระเนี่ย คือ ช่วงไหนไม่อยากทำงาน ก็ไม่รับงานได้ ใช่ค่ะ...แต่ไม่มีเงินเข้ากระเป๋านะคะ เพราะรายได้ไกด์ ได้เป็นรายวัน ถ้าคุณคิดว่าจะทำมั่งไม่ทำมั่ง ก็ได้ค่ะ แต่บริษัทเค้าอาจจะไม่ค่อย แฮปปี้กับคุณเท่าไหร่ ค่าที่ไม่รู้ว่า เมื่อไหร่ คุณนายจะ อยากนั่งหน้าสวยอยู่กับบ้าน เมื่อไหร่คุณนายเกิดจะอยากกางจ้องลงดำนา...หลายบริษัท ไม่เอาเลยนะคะ พวกตุ๊ดตู่ ในรูกระบอก เด๋วผลุบ เด๋วโผล่ เนี่ยแหละค่ะ ความเป็นจริงของขุมทองที่เรียกว่า "วงการทัวร์" อันนี้ ยังแค่เบาๆนะคะ ยังไม่ถึงหลากหลายเรื่องราวที่ต้องเจอระหว่างทริป ที่อิฉันจะเล่าให้ฟังในภายภาคหน้า หากไม่โดนเพื่อนไกด์ด้วยกัน ตบตายไปซะก่อน จากเนื้อหาจาบจ้วงของบล๊อกวันนี้ อ้อ..ถ้าเกิดเหตุการณ์โดนตบ เนี่ยะนะคะ รบกวน ช่วยเอาไวน์ใส่บาตร เขียนข้างขวดถึงอิฉันซักขวด แก้เปรี้ยวปาก จะเป็นพระคุณยิ่งค่ะ.... ไปละค่ะ...ตอนนี้กำลังเบื่อวงการทัวร์ขนาดหนัก ขอตัวไปเอาอกเอาใจผู้พันก่อนนะคะ เผื่อว่า บุญพาวาสนาส่งจะได้หลุดจากวงการ โดยมีผู้พันหาเลี้ยง...... มีตำแหน่งคุณหญิง โดยไม่ต้องรอบ่าวตั้ง ตั้งตัวเองก็ได้(วะ)..... จากคุณ : WIWANDA - [ 6 ธ.ค. 49 10:29:41 ]

ความคิดเห็นที่ 129 สวัสดีตอนสายๆครับทุกคน จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 6 ธ.ค. 49 10:59:46 ]

ความคิดเห็นที่ 130 สวัสดีค่ะ คุณ Phantom พี่ได้ไปอ่านคอลัมน์นี้มาจาก นสพ.แนวหน้า และเห็นว่าเป็นข้อเขียน ข้อคิด ที่เข้าท่าที่สุด เลยขอนำมาให้อ่านกัน.. "กวนน้ำให้ใส" ต้องปฏิรูปภาษีสุรา เพื่อควบคุมการบริโภคสุราอย่างได้ผล ขณะนี้ คณะรัฐมนตรีได้เลื่อนเส้นตายการห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออกไปก่อน เพื่อรอให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่า คณะกรรมการอาหารและยา(อย.) มีอำนาจห้ามโฆษณาได้หรือไม่ แต่อย่าเข้าใจผิด อย่าหลงประเด็น ! เพราะเรื่องนี้ เป้าหมายสำคัญที่สุด คือ ควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ใช่แค่ควบคุมการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านสื่อตลอด ๒๔ ชั่วโมง ย่อมจะมีส่วนช่วยในการควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็จริงอยู่ แต่ที่ผ่านมา เห็นภาครัฐมุ่งเน้นแต่จะเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ จนดูเหมือนว่าจะลืม หรือแกล้งลืม การดำเนินการเพื่อควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในด้านที่สำคัญไปอย่างน่าเป็นห่วง นั่นคือ มาตรการด้านภาษี สุรา ก็เป็นสินค้าชนิดหนึ่ง คนจะตัดสินใจซื้อสุรา ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ที่สำคัญๆ คือ ๑) ความต้องการที่จะบริโภค และ ๒) ราคา การห้ามโฆษณาเหล้า อาจจะช่วยลดความต้องการบริโภคภายในตัวของประชาชนลงไปได้บ้าง เพราะไม่ถูกยั่วยุ ถูกกระตุ้นผ่านสื่อ โดยโฆษณาเหล้าทั้งหลาย ตัวกระตุ้นที่ยังเหลืออยู่ก็ในส่วนของค่านิยมสังคม วัฒนธรรมของสังคม ที่ยังส่งเสริมและการดื่มสุราผ่านวิถีชีวิตโดยตรง เช่น งานเลี้ยงก็ต้องมีสุราไว้ต้อนรับ ไม่อย่างนั้นเจ้าภาพก็เสียหน้า หรือถ้าไปงานเลี้ยงแล้วก็ต้องดื่มเหล้า ต้องชนแก้ว ไม่อย่างนั้นก็จะเสียหน้า ถูกมองว่าไม่แมน หรือไม่เป็นสากล เป็นต้น การห้ามโฆษณาสุรา จึงช่วยลดความต้องการบริโภคสุราลงไปได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ปัจจัยที่จะได้ผลชะงัด และมีผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคโดยตรงมากกว่าโฆษณา คือ ราคาเหล้า ถ้าเมื่อไหร่ เหล้าทุกชนิดมีราคาแพงมากขึ้น ก็จะมีคนบริโภคเหล้าน้อยลงอย่างแน่นอน ลองคิดดู ต่อให้มีค่านิยม หรือมีโฆษณาเหล้าเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมืองแค่ไหน ถ้าเหล้ามีราคาแพงหูฉี่ซะอย่าง ถึงจะอยากดื่ม อยากโก้ อยากแมน แต่ก็ติดตรงที่มันหนักกระเป๋าสตางค์ ก็ต้องจำยอมลดปริมาณการดื่มลงไม่มากก็น้อย แต่ขณะนี้ ภาครัฐยังไม่ได้ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าใดนัก ทั้งๆ ที่ วิธีการทำให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีราคาแพงมากขึ้นก็ง่ายนิดเดียว มิหนำซ้ำ รัฐยังได้เงินเสียอีก นั่นคือ การขึ้นภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น่าแปลกใจ การจัดเก็บภาษีสุราทุกวันนี้ ไม่ส่งเสริมให้คนลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์สูง แล้วหันไปดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่ำๆ แต่เป็นการส่งเสริมให้คนหันไปดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีราคาถูก ซึ่งมีดีกรีแอลกอฮอล์สูงๆ แทน ลองคิดดู เมื่อเหล้ามีราคาต่างกัน ถูกเก็บภาษีแตกต่างกัน ปัจจุบันเก็บภาษีเหล้าขาวถูกที่สุด ผู้บริโภคที่มีรายได้จำกัดก็จะเลือกซื้อเหล้าที่มีราคาถูกมาบริโภค พยายามเลือกราคาถูกที่สุด และเมาเร็วที่สุด เพราะได้จ่ายเงินน้อย แต่ดื่มแก้วเดียวเมา ด้วยเหตุนี้ จึงมีคนดื่มเหล้าขาวที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์แรงที่สุด มากกว่าเหล้าทุกชนิด คนกินเหล้าขาวหนึ่งขวด กับกินเบียร์หรือไวน์หนึ่งขวด จะเมาไม่เท่ากัน ได้รับปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เท่ากัน นั่นก็เพราะเหล้าขาวมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์มากกว่าเบียร์หรือไวน์ อันที่จริง เมื่อรัฐเห็นว่าสุราเป็นเครื่องดื่มที่มีพิษภัยต่อผู้ดื่ม ตรงที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ โดยสุราที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์เข้มข้น ก็มีพิษภัยร้ายแรงเข้มข้น ย่อมสมควรจะต้องควบคุมอย่างเข้มข้น จากข้อเท็จจริงตรงนี้ ถ้าคิดตรงไปตรงมา ก็ต้องยอมรับว่า หล้าขาว เบียร์ ไวน์และเหล้าทุกชนิดเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ควรจะถูกควบคุม แต่เหล้าขาวควรจะถูกควบคุมเข้มข้นยิ่งกว่าเบียร์หรือไวน์ เพราะในปริมาณที่บรรจุขวดเท่ากัน เหล้าขาวมีอันตรายร้ายแรงกว่า การควบคุมโดยใช้ภาษีเป็นเครื่องมือก็เช่นกัน จะต้องทำให้เหล้าทุกชนิดมีราคาแพงมากขึ้น และควรจะต้องเก็บภาษีจากเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮล์เข้มข้นในอัตราแพงกว่าเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล์เจือจาง เพื่อว่า จะทำให้เหล้าที่มีตามความเข้มข้นของแอลกอฮล์มาก มีราคาแพงกว่าเหล้าที่มีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์น้อยกว่า คนจะได้ลดการดื่มสุรา หรือเมื่อจะดื่มจริงๆ คนก็จะดื่มได้ปริมาณแอลกอฮอล์น้อยลง ทำลายสุขภาพน้อยลง ทั้งหมดนี้ เป็นห่วงว่า ถ้ารัฐขืนมัวแต่ไปทำเรื่องห้ามโฆษณาอย่างเดียว ผู้ผลิตเหล้าได้ประหยัดงบโฆษณา แล้วจะหันมาเล่นสงครามราคา เพื่อแย่งชิงผู้บริโภคเหล้า ในที่สุด คนในสังคมก็จะเลือกดื่มเหล้าตามราคา เมื่อเหล้าดีกรีแรงอย่างเหล้าขาวได้จ่ายภาษีต่ำ คนก็จะหันไปดื่มเหล้าขาวมากขึ้น กลายเป็นคุณต่อเหล้าขาว ทั้งๆ ที่เหล้าขาวทำลายสุขภาพอย่างเข้มข้นกว่าเหล้าชนิดอื่นๆ ได้เวลา ปฏิรูปภาษีสุรา เพื่อควบคุมการบริโภคสุราอย่างได้ผล ! สารส้ม จากคุณ : WIWANDA - [ 6 ธ.ค. 49 14:27:50 ]

ความคิดเห็นที่ 131 ขอบคุณค่ะคุณวิ ทั้งเรื่องงานไกด์ เเละเรื่องภาษี ที่นำมาถ่ายทอด อ่านแล้วได้แต่ส่ายหน้ากลอกตาค่ะ...... วันพุธขอไม่คุยนะคะ ... เหนื่อยมั่กๆ แถมหนาวอีกต่างหาก ..... จากคุณ : nijja - [ 6 ธ.ค. 49 16:17:59 ]

ความคิดเห็นที่ 132 ที่บู้ธเดียวกันนั้น เขาให้ชิม Chateauneuf du Pape ด้วยค่ะ อร่อยค่ะ ชอบ แต่ต่างกันอย่างไร นกลืมไปแล้วค่ะ แฮ่ๆๆ (โดนหยิกแหงๆ) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 6 ธ.ค. 49 19:33:44 ]

ความคิดเห็นที่ 133 หวัดดีค่ะ คุณนิด และ น้องนก.. ใกล้สิ้นปี ทุกคนงานยุ่งกันไปหมด รวมทั้งดิฉันด้วย ไม่มีเวลานั่งติดที่แบบชนิดสมองโล่งๆสักชั่วโมงเลย ตอนนี้อากาศดี ทุกคนต้องรีบเร่งมือ เร่งงาน เร่งส่งของให้ลูกค้า เพราะว่า ฝนจะมาเยือนในอีกไม่นานนี้แล้ว.. โดยปรกติ..สถิติของปีที่แล้ว ฝนตกแทบทุกวัน แต่..ปีนี้ แดดดีเชียว จะหนาวก็แต่ตอนเช้าตรู่ กับ กลางคืนเท่านั้น.. เอ้า..ขึ้นกระทู้ใหม่ซะที.. ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้K4941853 จากคุณ : WIWANDA - [ 7 ธ.ค. 49 10:51:26 ]