ความคิดเห็นที่ 1 ตอนจะมาที่นี่ ได้บอกกับผู้ที่ค้าขายด้วยอยู่แล้วว่า..ขอมาสำรวจบอร์คโดซ์ด้วยตัวเอง ไม่ต้องการการรับรองใดๆนอกเหนือเวลางาน(หมายถึงอำนวยความสะดวก) เพราะ ต้องการดูทุกอย่างด้วยตัวเอง  ถ้าไม่เข้าใจอะไรตรงไหน ยามที่ร่วมโต๊ะอาหารก็จะนำมาคุยกัน.. เพราะเชื่อว่า ..วิธีนี้คือวิธีที่ดีที่สุด เพราะสะดวกใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย.. อย่างเรื่องการไปเที่ยว St-Emilion นี้ หมายมั่นปั้นมือมานานแล้ว..และการไปเที่ยวไม่ว่าจะเป็นที่ไหนของ บอร์คโดซ์นั้น สามารถทำได้โดยการติดต่อกับ Office de Tourisme ที่เดียว..โดยปรกติแล้ว ถ้าเป็นฤดูร้อนจะมีการนำเที่ยวไร่ไวน์ในเขตต่างๆทุกวัน แต่ถ้านอกฤดู..จะจัดอาทิตย์ละสองวัน คือ วันพุธ และ วันเสาร์ เท่านั้น..เป็นการเที่ยวแบบเกือบเต็มวัน ใช้รถโค้ชพาทะลุไปถึงไร่ไวน์ พร้อมทั้งมีการต้อนรับจากเจ้าของไร่ ให้คำอธิบาย และ เปิดไวน์ให้ชิมแบบเหลือเฟือ รวมทั้งพาเที่ยวชมเมือง..อีกทั้งเล่าถึงประวัติที่น่าสนใจ ขอบอกว่า..รายการที่ว่ามาทั้งหมดนี้..สนนราคาคือ คนละ 29 ยูโร.. และถ้าอายุเกิน 65 ลดให้อีกห้ายูโร.. แหม..ขนาดว่าตัวเองแก่ๆนี่ ยังต้องคอยไปอีกหลายปีเชียว อิอิอิ เมื่อเห็นว่าจะเป็นการเที่ยวแบบทางไกล และ เป็นเวลานานพอสมควร  รวมทั้งต้องชิมไวน์ด้วย  จึงเดินไปซื้อแซนวิช ที่แสนอร่อยเพราะใช้บาเกตต์สุกใหม่ๆ ขายตรงหัวมุมถนนในราคาที่ไม่น่าเชื่อ คือ ห้ายูโร ทั้งชุด ที่รวมหมด คือ น้ำ Evian หนึ่งขวด แซนวิชยาวขนาดเท่าแขนเด็ก ใส้แล้วแต่เราจะเลือก มีสารพัด ..และขนมอร่อยๆอีกหนึ่งชิ้น.. ทั้งหมดใส่ถุงนำติดตัวไป.. รับรองว่าถึงไหนถึงกัน.. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 11:19:54 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สำนักงานท่องเที่ยวนี้ อยู่กลางเมืองจริงๆ เพราะติดกับโรงละคร..ตรงข้ามกับสถาบันไวน์ รถ Tram ผ่านทุกสาย.. เป็นทำเลที่เหมาะมาก.. ล้อหมุนคือ เวลาบ่ายโมงครึ่ง..ขนาดนอกฤดูท่องเที่ยว ยังมีผู้สนใจที่ในไวน์บอร์คโดซ์เกือบเต็มคันรถ.. ไกด์เก่งมาก พูดได้คล่องทั้งอังกฤษ-ฝรั่งเศส และที่หล่อนเจื้อยแจ้วในเรื่องไวน์ขณะที่รถวิ่งไปนั้น..ถ้าน้องๆที่อ่านกระทู้เรื่องไวน์มาโดยตลอด จะเหมือนกับเป็นการเลคเช่อร์ซ้ำอีกครั้งเลยทีเดียว เพราะจะพูดถึงเรื่องการค้ากับอังกฤษ และ ดัทช์  และเรื่องสมัยโรมันได้นำกิ่งองุ่นเข้ามาปลูก..มาสอนให้ชาวโกลล์ได้รู้จักการทำไวน์ bla..bla..bla.. แต่ทั้งหมดนี้..คือ ความรู้ทั้งนั้น การเดินทางใช้เวลาเพียงชั่วโมงเศษๆ เราก็เข้าเขตของแซง-เตมิญอง ที่งดงามไปด้วยทิวทัศน์  แสงแดดที่ อุ่นจัดกว่าบอร์คโดซ์ซิตี้..ผ่านไร่องุ่นที่ยาวสุดลูกหูลูกตา ภาพของเมืองโบราณที่แสนสง่าในอดีตได้ปรากฏต่อสายตา.. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 11:32:02 ]

ความคิดเห็นที่ 3 และ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 11:34:19 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มีอีก.. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 11:35:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทิวทัศน์ของบ้านเมือง [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 11:37:19 ]

ความคิดเห็นที่ 6 และ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 11:39:18 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ทั้งเมืองมีแต่ร้านขายไวน์.. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 11:41:04 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 11:42:54 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตัวใครตัวมัน.. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 11:44:30 ]

ความคิดเห็นที่ 10 แหะ..แหะ... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 11:46:14 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เก็บตัง ๆ ๆ ๆ แล้วไปตอน 65 เผื่อผมจาได้ส่วนลด อีก 5 ยูโร... จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 17 ม.ค. 50 12:54:23 ]

ความคิดเห็นที่ 12 รอไปเหอะ...... นี่คุณพ่อหมี Polar Bear ...ต้องใช้เวลารอนานมากกว่าอายุจริงตอนนี้เสียอีก ...ต้องเผื่อค่าเงินเฟ้อ เงินลอยตัว....ด้วย จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 17 ม.ค. 50 13:09:46 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอกราบขอความรู้และฝากเนื้อฝากตัว ด้วยครับ ราคาไวน์ในร้านค้าที่แซงเตมิยองนี่เป็นยังไงบ้างคับ ถูกหรือแพงกว่าที่อเมริกาอ่ะคับ จากคุณ : เมาไม่ขับ แล้วจะกลับยังไง - [ 17 ม.ค. 50 14:29:25 A:58.64.87.15 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 ชมเมืองเสร็จ..ก็พาไปเยี่ยมไร่ Yon Figeac  (หนึ่งใน St-Emilion Grand Cru Classe)ที่ขนาดใหญ่พอสมควร (ผลิตปีละแสนกว่าขวด)  เนื้อที่อยู่ระหว่าง ไร่ Ch. Figeac และ Ch. Ausone พื้นที่นี้..จะปลูกองุ่นเมอร์โลต์เป็นส่วนใหญ่ เพราะอยู่ริมแม่น้ำโดโดญน์ ส่วนที่ใกล้แม่น้ำจะเป็นดินเหนียวผสมโคลน และเขาว่า..ส่วนตรงนี้มักจะปลูกองุ่นไม่ใคร่ดีนัก (จึงต้องมีตัวช่วยในทางด้านสูตรเทคนิค และเคล็ดลับมากมาย) ส่วนที่ไล่ขึ้นไปทางเนินเขา จะมีผลผลิตที่ดีกว่า..ดินแข็งกว่า ไม่มีการให้น้ำ  เพื่อที่ต้องการให้รากหยั่งไปในดินให้มากที่สุด ว่ากันว่า รากนั้นยาวถึงสี่สิบห้าสิบเมตรเชียว และไร่นี้..อยู่ใกล้แม่น้ำ..และกำลังเริ่มพัฒนาตัวเองเข้าหาตลาด..ปรับความคิดเห็นที่เคยเป็นแบบ วันแมน โชว์ มาเป็น การทำงานแบบระดมสมอง และเป็นทีม.. เพราะเมื่อถามว่า..ในขั้นตอนการสุดท้ายของการผสมสูตร กันระหว่างเมอร์โลต์ และ คาบาร์เนต์ ฟร้องค์  หรือพันธ์อะไรก็ตามที..ที่สะดวก (แยกกันหมัก นำมาผสมก่อนบรรจุขวด) ใครเป็นตัดสินใจ..ระหว่าง wine master หรือ นายทุน เขาตอบว่า..ไวน์มาสเตอร์ในแซงเตฯ นั้น แทบไม่มีแล้ว นอกจากไร่ดังๆไม่กี่ไร่..ปัจจุบันจะเป็นทีมงานของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่มีตั้งแต่อาจารย์ ศาสตราจารย์ และ ผู้เชี่ยวชาญ ที่จะวางเครือข่ายคลุมไปทั่วพื้นที่  แต่..เจ้าของไวน์ คือ ผู้ที่จะวางแนวไว้ว่าต้องการให้รสออกมาแบบนั้นแบบนี้.. ไวน์ได้ถูกรินแจก..ขอบอกว่า..ปีอื่นๆ..ก็งั้นๆ.. แต่..2003...ดีมาก  ดีจนทึ่ง.. จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 15:07:31 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ดูไร่องุ่น และ สังเกตดูดินให้ดีๆ เพราะจะมีให้เปรียบเทียบในทีหลัง.. สังเกตดูกิ่งที่เพิ่งทำการริดกิ่งเสร็จ เพราะเขาบังคับการทำโลว์ ยีลด์ โดยการเหลือติดต้นไว้แค่สอง สามกิ่ง..ไม่ต้องการให้มีมากกว่านั้น..เดี๋ยวจะดกเกิน แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 50 15:13:56 จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 15:11:05 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อ้าว..รูป.. จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 15:15:10 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ใน Chai.... เข้ามาถึงได้ร้องอ๋อ...เพราะพี่แกเล่นใช้ถังโอ๊คใหม่หมด.. เรียกว่า 100% เชียว  ใจคอคงจะแก้แค้นพี่เบิร์ต ปาร์คแกร์ ละมัง เพราะ พี่เบิร์ตเคยให้คะแนนเขาแค่ 89 เมื่อหลายปีก่อน.. คราวนี้เลยทุ่มทุนมหาศาล..ทุ่มแบบไม่อั้น.. จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 15:20:14 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ในถังหมักสเตนเลส  ข้างในจะมีแผ่นปรับอุณหภูมิที่ใช้ท่อน้ำ(อุ่น หรือ เย็น) เป็นตัวบงการ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 15:23:33 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เขาว่า..เขาทำการคัดเลือกองุ่นถึงสองครั้ง..ก่อนส่งเข้าไปบีบ ครั้งแรกคือ การเลือกเม็ดอ่อนออกให้หมด ครั้งที่สอง คือการคัดก้าน และกิ่งใบออกให้เรียบร้อยหมดจด  ด้วยเครื่องนี้.. จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 15:27:28 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เครื่องบีบ..ยังใช้ถังไม้อยู่.. จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 15:28:52 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ผลผลิต..ที่เปิดมาให้ลองหมด ตั้งแต่ 2001-2002-2003 ผลคือ 2003  ดีที่สุด มาเช๊คราคาที่อเมริกาก็พอๆกับที่แหล่งผลิต คือ ประมาณว่า 40 เหรียญ เลยไม่ซื้อมา ขี้เกียจหิ้ว.. จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 15:33:49 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อคุยถึงเรื่อง St-Emilion แล้วจะพูดถึงเรื่องไวน์อย่างเดียวไม่ได้ เพราะชื่อเสียงของแซงเตฯ นั้น ไม่ใช่เริ่มมาจากไวน์ หากแต่เป็นเพราะชื่อพระนักบุญที่ทรงศักดิ์สิทธิ นิกาย  Benedictine monastery ท่านมีนามว่า Emilian ที่มีชีวิตอยู่เมื่อศตวรรษที่แปด ที่จาริกแสวงบุญมาจากเมือง Breton อันเป็นถิ่นฐานบ้านเกิด กิตติศัพท์ความมีอิทธิฤทธิ์ของท่านนั้น เป็นที่เลี่องลือ ว่า สามารถรักษาโรคร้ายให้หาย สามารถเสกฟืนให้เป็นขนมปัง  และในช่วงท้ายๆของชีวิต ท่านได้ปริวิเวก บำเพ็ญบุญ อยู่ในถ้ำ ไม่ออกมาพบกับผู้ใด   จนกระทั่งมรณภาพไป..เมื่อวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 767 และท่านก็ได้เป็น Saint  ในพระนามว่า..Emilion พระวิหาร...จากภายนอก ที่สร้างด้วย Limestone ที่ยุ่ยง่าย ตอนนี้เลยต้องรักษาพยาบาลกันยกใหญ่ เพราะถูกจดทะเบียนเป้นมรดกโลกไปแล้ว.. จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 16:17:51 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ส่วนปฏิมากรรมทรงสูง จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 16:19:09 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ด้านหลังจะเห็นได้ชัดว่าต้องรักษากันขนานใหญ่.. จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 16:20:11 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ข้างใน..ที่จะเห็นว่าต้องเสริมคานเหล็กที่ฐาน..เพื่อไม่ให้ล้มครืนลงมา.. จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 16:21:49 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เรากำลังจะเข้าไปคารวะ ในถ้ำบำเพ็ญบุญ ที่เหมือนกับตัดขาดจากโลกภายนอก มีการเจาะปล่องวงสำหรับรับแสงแดดแบบแค่พอสว่างแบบลางเลือน ตรงส่วนนี้ เราเรียกว่า The catacombs  หรือ สุสานนักบุญ จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 16:27:33 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ลงไปลึกอีกชั้น ในที่ส่วนเฉพาะของท่านนักบุญ..ที่เป็นบันไดแคบๆ และอากาศเริ่มมีน้อยจนอึดอัด.. จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 16:31:15 ]

ความคิดเห็นที่ 28 มีแท่นที่ท่านใช้ภาวนาศีล  ส่วนรูปปั้นจำลองนั้น มาทำทีหลังเมื่อศตวรรษที่ 11-12 จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 16:33:17 ]

ความคิดเห็นที่ 29 แท่นหินที่ท่านใช้เป็นเตียง อยู่ในซอกแคบๆเฉพาะตัวจริงๆ จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 16:34:54 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ถัดจากแท่นนอน..ก็เป็นบ่อน้ำธรรมชาติ ที่มีน้ำซึมมาจากใต้ดินขึ้นมาเอง  ท่านได้ใช้น้ำในบ่อนี้ประทังชีพจนกระทั่งมรณภาพ  และได้ใช้ที่นี่เป็นสุสาน (โปรดสังเกตุว่ามีคนโยนเหรียญไปในนั้นด้วย..) นับแต่บัดนั้น..จนทุกวันนี้ได้ถือว่าที่นี่คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ใครที่อยากได้อะไรก็มาขอกับท่าน.. เห็นว่า..แม่นมากในเรื่องของการ"ขอลูก" ของคนที่บุตรยาก.. จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 16:40:48 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ในศตวรรษต่อๆมา..พวกที่เคร่งศาสนาทั้งหลายก็พลอยพากันสั่งลูกสั่งหลานขอให้ฝังศพไปใน The catacombs  ด้วย เพียงเพื่อวิญญาณจะได้อยู่ในพระบารมีของ St-Emilion ฉะนั้น..ภายในสุสาน จึงเต็มไปด้วยหลุมศพนานาชนิด ทุกขนาด เรียงกันเป็นตับ..ศพเก่าสิ้นสภาพไป ศพใหม่ก็มาแทน.. จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 16:46:30 ]

ความคิดเห็นที่ 32 มีหลักฐาน คือ แท่นศิลาจารึกของชายคนหนึ่ง ชื่อว่า ลูอิส (เชื่อว่าเป็นเศรษฐีใหญ่)  ได้ทำพินัยกรรมสลักลงบนแผ่นหินขนาดยักษ์ เป็นภาษาละตินชัดเจน  แจ้งความจำนงไว้ว่า ขอให้นำศพไปฝัง ที่นั่น..เพราะความบูชา และศรัทธาที่มีต่อท่านนักบุญ จึงอยากเล่าให้พวกเราฟังไว้ว่า..เมืองแซงเตฯ นั้นมีสิ่งอื่นๆอีกหลายสิ่งที่สำคัญกว่าไวน์ และโบราณสถานสำคัญเหล่านี้..เป็นความภาคภูมิใจของชาวไวน์พื้นเมืองเป็นอย่างยิ่ง ทุกคนจะช่วยกันเล่า..และ มีความสุขต่อการเป็นชาวแซงเตมิญอง..จนปิดประกายแวววาวในดวงตาไม่มิดเชียว.. จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 16:55:49 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ดังที่บอกว่า..ประชาชนชาวเมืองเขาช่วยกันรักษาสภาพให้คงเดิมที่สุด เพราะความภาคภูมิใจที่มี..แม้กระทั่งถนน เดินยากโคดด...ถ้าไม่เตรียมรองเท้าไต่เขาไปละก้อ.. รับรองว่า..ได้ไหลปื้ดไปกองอยู่ตีนถนนแน่ๆ.. ดูซิ..กรวดแท้ๆ..ถ้ามีฝนบางๆละก้อ..ตัวใครตัวมัน.. จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 17:08:16 ]

ความคิดเห็นที่ 34 แต่ไม่นานมานี้..มีคนหาญกล้า ไม่รู้ว่าไปกินดีหมีที่ไหนมา..บังอาจแต่งร้านแบบสวิงสวาย..ที่ฝืนใจ ฝืนตาชาวบ้านส่วนใหญ่ เสียงตำหนิอื้ออึงจากคนรุ่นเก่าๆ.. แต่รุ่นใหม่..บางกลุ่มก็ชอบ.. ขออุบชื่อเจ้าของก่อน..เดี๋ยวค่อยเฉลย.. จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 17:16:37 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ถัดมา.. จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 17:17:34 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ถัดมาอีกนิด  คือ ประตูทางเข้าออฟฟิซของเจ้าของ.. สีไฟโทนเดียวกัน คือ จุมพู... จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 17:19:17 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เอ้า...ดูป้ายชื่อบริษัทเขาซิ.. แหม..นึกว่าใคร???? จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 17:21:15 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มัวแต่แปะภาพอย่างเมามันส์...เลยไม่มีโอกาสเห็นว่า มีสมาชิกใหม่เข้ามาทักทาย.. งั้นขอต้อนรับ"คุณ เมาไม่ขับ แล้วจะกลับยังไง " เข้ากระทู้เลยนะคะ.. เรื่องราคาไวน์ในฝรั่งเศสนั้น ไม่ถูกกว่าที่อเมริกาค่ะ เพราะอัตราแลกเปลี่ยนยูโรกับดอลล่าร์นั้น ต่างกันสามสิบเปอร์เซ็นต์  ไวน์ระดับมีชื่อ ที่ชาวไทยชอบๆกันแพงมหาศาล จับไม่ติด แต่ไวน์อื่นๆที่ดีๆ  ไร่เล็กไร่น้อยที่มีพื้นที่เป็น pocket แทรกระหว่างไร่ใหญ่ๆตรงนั้นตรงนี้..ยังไม่เป็นที่รู้จัก   ตอนนี้เขาใช้ถังโอ๊คใหม่ๆกันหมดแล้วค่ะ...บางชนิดยังขายแค่ยี่สิบกว่ายูโรก็ยังมี..เอาไว้อ่านไปเรื่อยๆ...เดี๋ยวก็จะเล่าถึง.. คุณวิโรจ และ คุณ Phantom คะ พี่ได้คุยเรื่อง ผงโอ๊ค ที่มีข่าวว่าไวน์ฝรั่งเศสกำลังจะอนุญาตให้ใช้แล้ว..ผลคือ.. สบายใจได้ค่ะ กฎเหล็กของ AOC ยังคงความศักดิ์สิทธิไว้อย่างเหนียวแน่น..เขากำหนดมาเลยว่า.. ใครจะใช้ก็ได้ แต่ ต้องไม่ใช่ไวน์ในเอโอซี.. และผู้ที่ใช้ จะต้องแปะป้ายให้ชัดเจนว่า..เป็น vin de table ไม่มีสิทธิจะมาใช้อย่างอื่น.. Salute !!   จากคุณ : WIWANDA - [ 17 ม.ค. 50 17:55:05 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ...แม่อีหนู๋...ทามปายด้ายยยยย ...ข้าล่ะนึกกกกกกกอยู้แล้วเชียว.... ...อ้ายทิดตุ่น..นี่เอ้ง (....ซาวด์แทร็กเสียงสุพรรณ) จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 17 ม.ค. 50 17:57:36 ]

ความคิดเห็นที่ 40 สวัสดีตอนค่ำๆครับ คุณ อา เฮ้อโล่งอกจริงๆสำหรับข่าว เรื่องโอ๊ค(ชิพ) ผมหละอยากไปบอร์คโดซ์ ใจจะขาดอยู่แล้วครับ ถ้าถึง เวลาเมื่อไหร่ ไม่พลาดแน่ครับ เอ แต่ว่าถ้าไปที่ชาโตว์ที่มีชื่อหน่อย นี่จะโดนเขาเอาไม้กวาดไล่ออกมา ไหมอะครับ จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 17 ม.ค. 50 20:58:06 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เห็นร้านของ เจ้าของ valandraud ขัดตาจิงๆคับแหมทำไปได้.........แล้วพวกอเมริกกันโอ๊คนี่aocห้ามป่ะคับอา จากคุณ : nicky (Nic Nenin) - [ 17 ม.ค. 50 22:09:07 ]

ความคิดเห็นที่ 42 สีร้านออกจะสดใสนะค่ะ เดินเข้าร้านไปแล้วคงลืมไปเลยว่าข้างนอกเก่าขนาดไหน ขอบคุณสำหรับภาพและข้อมูลค่ะ จากคุณ : horseshoes - [ 18 ม.ค. 50 00:56:14 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ตามมาต่อกระทู้ใหม่ติดๆครับ จากคุณ : LaGrandeRue - [ 18 ม.ค. 50 05:12:35 A:213.39.158.208 X: TicketID:105596 ]

ความคิดเห็นที่ 44 อ้า...รู้แล้วครับว่าไปบอร์คโดซ์ฤดูร้อนดีกว่า ได้เที่ยวไร่ไวน์แบบไม่เว้นวัน แถมกลางวันยาวจนเกือบถึงสองทุ่มอีกตากหาก สงสารคุณวิแย่ คงแปะภาพเมื่อยมือเลยซีครับ คราวหน้าสนใจรับลูกมือ ไปทัวร์ด้วยไหมครับ จะได้ช่วยผ่อนแรง... จากคุณ : Einswasser - [ 18 ม.ค. 50 08:56:21 ]

ความคิดเห็นที่ 45 นกกลับชอบร้านไวน์ทิดตุ่นค่ะพี่หวาน (เรียกตามพี่วิโรจค่ะ นกไม่รู้จักหรอก) ตราบใดที่ไม่ตกแต่งตึกภายนอกให้ขัดกับตึกข้างๆ จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 18 ม.ค. 50 09:42:08 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ไฟส่องไวน์ขนาดนั้น  ไวน์จะไม่เป็นอะไรหรือ ครับ.... จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 18 ม.ค. 50 11:13:11 ]

ความคิดเห็นที่ 47 ข้างในไม่มีไวน์ของจริงมั้งครับพ่อหมี ผมยังเคยเห็นบ้านทำเลยเวลาโชว์หน้าร้าน แต่ที่แซงเตมิญองเขาคงไม่ทำงั้นมั้งเนาะ จากคุณ : Master_Indy (Master_Indy) - [ 18 ม.ค. 50 12:45:23 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ปกติร้านไวน์ใน St.-Emilion จะไม่วางไวน์จริง ๆ ไว้หน้าร้านนะครับ อยากได้อะไรก็บอกเขา แล้วเขาจะลงไปเอาในเซลล่าอีกที สำหรับร้านทิดตุ่นนั่น ผมเอาว่าไม่น่าจะมีน้ำไวน์เหมือนกัน ...น่าจะเป็นแค่ Display ...พี่หวานว่าไง จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 18 ม.ค. 50 14:22:38 ]

ความคิดเห็นที่ 49 ตาลายครับอ่านทัวร์สุดอลังการสองกระทู้ติดกัน เยี่ยมมากเลยคุณวิ บุกไปเหมือนเป็นเจ้าถิ่นเลย อาทิตย์ที่แล้วไม่อยู่อ่ะครับไปสัมมนามาทั้งอาทิตย์เลย อย่าว่ากันนะครับ จากคุณ : D19 - [ 18 ม.ค. 50 16:46:39 ]

ความคิดเห็นที่ 50 สีสันของร้านถูกใจน้องดิวมาก ๆ เลยค่า...อิอิ P.S. ถ้าแผนการไม่ผิดพลาด เดือนหน้า จะได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมประเทศนี้แล้วล่ะค่า...ทัวร์ของคุณอาวิ สุดอลังการจริง ๆ ค่ะ จะอ่านไว้เพิ่มความรู้เพื่อนำไปใช้ในโอกาสอันใกล้นี้ล่ะค่ะ ขอบคุณที่นำความรู้ + ภาพสวย ๆ มาให้ชมกันนะคะ จากคุณ : N'Dew (หมีน้อย Polar Bear) - [ 18 ม.ค. 50 22:44:43 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ตอบเรื่องร้านไวน์ของทิดตุ่นของคุณวิโรจ คือว่า คอนเซปต์เขาเป็น ไวน์บาร์ น่ะค่ะ ไม่ใช่ร้านขายไวน์ ตรงๆ..หมายถึง เขาต้องการให้เป็นแบบมีลูกค้าเข้ามาทดลองดื่มไวน์โน้นไวน์นี้แบบเป็นแก้วๆ พร้อมกับมีซอมมิเยร์มาเป็นผู้บริหาร (ทำนองเดียวกับ ที่ไวน์บาร์ของ l'Ecole du Vin) แต่จะใช้ไวน์ของแซงเตฯล้วนๆ ถ้าชอบ..จะสั่งซื้อจำนวนมากก็จะทำการจัดส่งให้ หรือ จะซื้อติดไม้ติดมือไปบ้างก็ได้   ไวน์ที่มานำเสนอก็แล้วแต่ผู้บริหารจะคัดเลือกเข้าไป.. ส่วนที่นอนแช่ไฟอยู่นั้น คือ ไวน์จริง และ ไม่ใช่เป็นไวน์ที่มีราคาอะไรมากมาย..ถือว่าเป็น display.... ไม่ได้นำมาเปิดใช้งาน..และเป็นขวดที่ซ้ำๆกัน  เขาจงใจที่จะเรียกลูกค้ากลุ่มหนุ่มสาว ชาวสมัยใหม่  (ซึ่งก็น่าอยู่หรอก เพราะร้านไวน์บาร์เท่าที่เห็น ล้วนแล้วแต่บรรยากาศน่ากลัว) และพร้อมที่จะรับนักท่องเที่ยวที่จะแห่กันมาในฤดูร้อนที่จะถึงนี้..เพราะกระแสจากหนังเรื่อง เจมส์ บอนด์ ทำให้ Ch.Angelus ไวน์ชั้นเลิศของท้องถิ่นนี้ ดังระเบิด.. ว่ากันว่า..ทัวร์เที่ยวแซงเตฯ ในฤดูต่อๆไปนี้ ยอดจองสูงขึ้นแบบพรวดพราด.. ร้านทั่วๆไปก็จะเป็นแบบเนี้ย.. แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 50 08:07:28 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 18 ม.ค. 50 23:46:03 ]

ความคิดเห็นที่ 52 ค่ะ น้องดิว..หวังว่าคงจะเที่ยวให้สนุกเต็มที่ไปเลยนะคะ เมืองสวยงามมาก... คุณพ่อหมีคะ.. ไร่ไวน์ดังๆนั้น เยี่ยมชมได้ ต้องนัดล่วงหน้าเป็นกรุ๊ปและกิจจะลักษณะ ซึ่งทาง สำนักงานท่องเที่ยวจะจัดให้ได้ ในฤดูที่เขาเปิด ซึ่งจะมีวันและเวลาที่กำหนด.. ซึ่งค่าทัวร์ก็มีราคาสูงคุ้มค่ากับไวน์ที่เราจะได้ชิม.. อย่างจะมีการไปชิมดีเคม กับ ซุด์วีโรต์..วันที่ 17 มกราคม ดูรายการในนี้นะคะ.. เสียดายที่อยู่ไม่ถึง..พลาดไปสองวัน..แม๊... แต่ราคาก็ขึ้นไปถึง 120 ยูโร แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 50 00:04:43 แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 50 00:02:42 จากคุณ : WIWANDA - [ 19 ม.ค. 50 00:01:51 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เข้าไปในซูเปอร์ มาร์เก็ต...ตาลายไปหมด.. มันเยอะจริงๆ สุดลูกหูลูกตา [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 19 ม.ค. 50 00:11:07 ]

ความคิดเห็นที่ 54 เพิ่งมีปัญญาหาทางออกจากกองงาน http://www.oocities.org/drsak/ อัพเดทแล้วครับ ทั้งเส้นทางไวน์ ทั้งยังค์เติร์ก ขอบคุณครับ จากคุณ : ha ha yee - [ 19 ม.ค. 50 07:02:04 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณคุณหมอ ha ha yee มากเลยค่ะ จากคุณ : nijja - [ 19 ม.ค. 50 08:05:22 ]

ความคิดเห็นที่ 56 คุณวิคะ ที่อเมริกา มีการทำไวน์บาร์อย่างนี้บ้างไหมคะ หรือมีเฉพาะฤดูท่องเที่ยวเท่านั้น จากคุณ : nijja - [ 19 ม.ค. 50 08:09:14 ]

ความคิดเห็นที่ 57 อรุณสวัสครับ จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 19 ม.ค. 50 10:02:43 ]

ความคิดเห็นที่ 58 สวัสดีครับ ป้าวิ และทุกๆท่าน น่าไปมากเลยครับ ตอนแรกผมมีแพลนกับเพื่อนว่าจะไปดูบอลอังกฤษ และ ต่อรถไฟไปฝรั่งเศส ( กะว่าจะไปไร่ไวน์แหละครับ เพราะเพื่อนที่ไปก็ชอบไวน์เหมือนกัน ) แต่มีอันต้องพักไว้ก่อน ไว้โอกาสมาถึงคงจะได้ไป ปล.ไม่รู้เป็นไงอ่านแล้วได้กลิ่นไวน์นะครับ หรือ อาฟเตอร์เทสมันมาได้ทาง wifi ปล.2 เที่ยวให้สนุกนะครับอาวิ ระวังลื่นนะครับ จากคุณ : ae_subdee@hotmail.com (jearjear) - [ 19 ม.ค. 50 10:56:59 ]

ความคิดเห็นที่ 59 สวัสดีค่ะแฟนๆ.. ตอนนี้มาเล่าช้าไปนิด เพราะกำลังมึนเวลาเพราะ jet lagอยู่ กลับมาถึงบ้านแล้วค่ะ  16 วันเต็มๆกับประเทศเดียวที่ยังไม่เต็มอิ่นด้วยซ้ำ (ทั้งๆที่แพลนไว้อย่างสวยหรูว่าจะไปโน่นไปนี่..) และได้ให้สัญญากับตัวเองว่า..จะต้องกลับไปสานต่อให้เสร็จตามที่ตั้งใจไว้.. อ้ะ..เล่าต่อซะทีว่า..กลับมาจากทริปแซงเต ก็พักผ่อน เพราะทุ่มกว่าๆที่บอร์คโดซ์ยามนั้นก็ค่ำมืด ทานอาหารเบาๆที่โรงแรม เตรียมตัวสำหรับวันรุ่งขึ้น ที่เขาว่าจะพาไปในงานเทสติ้ง..ที่เขาอุตส่าห์จัดให้ ห็นว่านับหลายขนานพอสมควร.. แต่ตอนเช้าก็ทำกิจวัตรเหมือนเดิม คือ เดินเที่ยวเมือง ชื่นชมกับความงดงาม..อยากจะไปขึ้นรถม้าเที่ยว แต่ก็เกรงใจม้า..กลัวมันจะหลังแอ้..พิกง พิการไปละยุ่งเชียว.. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 19 ม.ค. 50 22:40:20 ]

ความคิดเห็นที่ 60 เช้าเกินไป..ร้านขายไวน์เจ้าดัง..ยังไม่เปิด [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 19 ม.ค. 50 22:44:29 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ร้านเดียวกัน แต่เป็นตอนกลางคืน.. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 19 ม.ค. 50 22:45:39 ]

ความคิดเห็นที่ 62 แวะดื่มกาแฟที่กลางจตุรัส..กับขนมอร่อยๆ ก็ขึ้นรถแทรมกลับโรงแรม เตรียมตัวไปร่วมงานเทสติ้ง เพราะว่าเขานัดตั้งบ่ายโมง  เพราะว่า..ในบอร์คโดซ์ฤดูนี้ ท้องฟ้ายังไม่เปิดจนกว่าจะสิบเอ็ดโมงโน่นแน่ะ  แดดจึงจะเริ่มส่องเรื่อๆ ฉายแสงออกมาให้เห็น ไปในงาน..มีไวน์เข้ามาแสดงหลายเจ้า..เพื่อการเปิดตลาดใหม่ๆแต่มันก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง  ราคาต้นทุน ค่าขนส่ง ภาษี และอีกสารพัด.. เรียกว่าอยู่คุยกันจนบ่ายคล้อย..เพราะมีรายการรับเชิญต่อในเย็นนี้ด้วย.. จากคุณ : WIWANDA - [ 19 ม.ค. 50 22:57:28 ]

ความคิดเห็นที่ 63 อีกฉากหนึ่ง.. จากคุณ : WIWANDA - [ 19 ม.ค. 50 22:58:53 ]

ความคิดเห็นที่ 64 หลังจากออกจากงานไวน์เทสติ้ง..ก็ไปต่อชิมไวน์กันที่ร้าน ไวน์ที่มีถ้ำชีส..มีชีสทุกชนิดที่จะให้ลองกับไวน์ เราต่างคนต่างหมายใจจะสั่งไวน์ที่คัดเลือกมาว่าชอบที่สุด จากการลองไม่กี่วันที่ผ่านมา..แน่นอน ที่ตัวเองได้สั่งเปิด Ch. Les Omes Sorbet 2000  คนอื่นๆก็เลือกสั่งเอาของชอบของใครของมัน ห้องชีส เป็นคล้ายๆถ้า ที่ต้องไม่สว่าง เป็นห้องเย็นกระจก ที่มีความชื้นสูงขนาดน้ำหยดแหมะๆ..เราจะเริ่มจากขวาวนไปทางซ้าย เพราะเขาวางชีสไปตามความคมเข้มของรส.. เมื่อเริ่ม ..เราก็เปิดขวดที่คิดว่าสมควรจะเปิดก่อน..เรียงมาให้ดูตามรูปแล้ว..ของอิฉันเปิดเป็นขวดสุดท้าย.. จากคุณ : WIWANDA - [ 19 ม.ค. 50 23:13:26 ]

ความคิดเห็นที่ 65 อาการ Jet Lag ต้องระวังนะคะคุณอาวิ เวลาจะยืนหรือเดินก็ต้องค่อยๆนะคะ เดี๋ยวจะพลาดล้มไปล่ะแย่เลยค่ะ เพราะว่าลูกค้า ที่ ที่ทำงานน้องดิวเพิ่งเข้าโรงพยาบาลไปล่ะค่ะ เค้าเดินอยู่ดีๆ ก็ล้มหน้าคว่ำไปกับพื้นเลยค่ะ นอนพักผ่อนเยอะๆ นะคะ...ไว้ค่อยยังชั่ว สบายขึ้นแล้ว ค่อยกลับมาเล่าให้ฟังต่อก็ได้ค่ะ...เป็นห่วงนะคะ :) จากคุณ : หมีน้อย Polar Bear - [ 19 ม.ค. 50 23:14:05 ]

ความคิดเห็นที่ 66 ห้องชีส... จากคุณ : WIWANDA - [ 19 ม.ค. 50 23:14:31 ]

ความคิดเห็นที่ 67 เมื่อเลือกตัดใส่มาในจาน..โปรดสังเกตว่า..การกัดกิน ชีสนั้น..มักจะมีเครื่องเคียง เช่นลูกเดทต่างๆ ที่คอยกัดแทะนิดๆ เพื่อการเปลี่ยนรสคาวในปาก..และในยามที่เปลี่ยนรสจากชีสหนึ่งไปอีกชีสหนึ่ง.. ในชีสที่ทำจากนมแพะบางชนิด ต้องกินกับ wild cherries jam ดังที่จะเห็นเป็นสีแดงๆ  ตามด้วยไวน์..อร่อยมากจริงๆ ขอบอก.. จากคุณ : WIWANDA - [ 19 ม.ค. 50 23:22:22 ]

ความคิดเห็นที่ 68 อ่านอยู่ค่ะ (พี่หวานได้หลังไมค์ของนกหรือเปล่าคะ? เรื่องหนังสือ) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 19 ม.ค. 50 23:25:48 ]

ความคิดเห็นที่ 69 วุ๊ย..น้องดิวขา..แล็กอะไรกันหนักหนา..มาถึงตอนสามทุ่ม เพราะเครื่องดีเลย์ตามเคย..เช้าก็ไปทำงานต่อเลย..เวลาห่างกันแค่เก้าชั่วโมงเอง  เพียงแต่นอนเร็วขึ้น..สองทุ่มก็ง่วงแล้วค่ะ เอาภาพของสุนัขขึ้นไปนั่งสง่าผ่าเผยในรถแทรมมาฝาก.. น่ารักดีจริงๆ จากคุณ : WIWANDA - [ 19 ม.ค. 50 23:31:03 ]

ความคิดเห็นที่ 70 สำหรับวันเทสติ้งนี้  เต็มคราบเลยจริงๆ สารพัดชนิด กลับถึงโรงแรมได้  คลานขึ้นเตียงหลับยาวเลย.. เตรียมตัวที่จะไปทริป Sauternes และ  Graves ในวันรุ่งขึ้น.. ขอยกแผนที่มาให้ดูอีกครั้ง..ว่า..เขาอยู่ทางใต้ของบอร์คโดซ์ ที่มีอากาศผิดแผกกันไปเหมือนกับอยู่คนละประเทศ.. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 19 ม.ค. 50 23:45:16 ]

ความคิดเห็นที่ 71 คุณนิดถามเรื่องไวน์บาร์ในอเมริกา.. มีเยอะค่ะ  โดยเฉพาะในถิ่นผลิต  ในนาปา แวลลี่ย์ มีแทบทุกหัวถนน  แต่ในส่วนใหญ่ๆ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของร้านอาหาร เพราะในปัจจุบันผู้คนไม่นิยมดื่มเหล้า หรือ ค๊อกเทลกันแล้ว.. ทีนี้ขึ้นอยู่ว่า ร้านไหนจะมีรสนิยมเลือกไวน์อย่างไร ให้ดึงดูดใจลูกค้า..ราคาแก้วละ 200 เหรียญอัฟก็ยังมีให้เห็นบ่อยๆเลยค่ะ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 20 ม.ค. 50 00:03:47 ]

ความคิดเห็นที่ 72 ทีนี้มีเรื่องแทรกมาเล่าว่า..ในภาพที่เห็นข้างล่างนี้ ที่เปรียบเสมือนแคมปิ้ง กราวนด์ ขนาดใหญ่นั้น ไม่ใช่กิจกรรมอะไรหรอกนะคะ แต่มันการทำงานของภาครัฐที่จะแก้ปัญหาในเรื่องของการ"ไร้ที่อยู่" ของประชาชนชาว homeless คนประเภทนี้ มีไม่น้อยในยุโรป  ที่ทางรัฐก็หาทางช่วยเหลือ เพียงแต่เขาจะไม่เก็บพวกนี้ให้อยู่ไกลหูไกลตา.. หากแต่เอามาตั้งให้รวมกันอยู่ตามกลางเมืองใหญ่ๆ  ให้ประชาชนมีส่วนรับรู้ถึงปัญหา  เมื่อมีที่พักว่าง..ก็จะแจกกุญแจให้ย้ายกันออกจากเต้นท์ไปอยู่ และ พับเต้นท์ออกไปจากพื้นที่.. ถ้ากองทัพเต้นท์ยังอยู่ หมายถึงปัญหาของบ้านเมืองที่ยังไม่ได้แก้ไขให้เรียบร้อย.. ที่คือ ชุมชนชาวเต้นท์ของเมืองบอร์คโดซ์ ที่อยู่กันตรงสี่แยกกลางเมือง พอดี๊... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 20 ม.ค. 50 00:13:57 ]

ความคิดเห็นที่ 73 เช้าของการจะไปทริปที่ว่านี้..ก็ตื่นแต่เช้าตามเคย ไปเดินเล่นในเมือง เพราะว่า กำนดเดินทางนั้นคือบ่ายโมง.. (ดังเช่นทุกภารกิจประจำวันที่เริ่มกันตอนนั้นทุกทีไป) อากาศมืดสลัวมาก....หนาวพอประมาณ..พอสิบเอ็ดโมงก็เดินไปซื้อแซนวิชเจ้าประจำ ที่อยู่ปากทางเข้าย่าน shopping centre พอดี.. ย่านนี้เป็นถนนแคบๆ ระหว่างตึกรามตัดกลางเมือง   และมีระยะทางยาวมาก..ซึ่งไม่มีใครบ่น เนื่องจากสองข้างทางมีร้านสรรพสินค้านานาชนิด  โดนเฉพาะร้านขายรองเท้าที่มีมากมายนับสิบ..(ไม่รู้ว่าจะแข่งกันขายอะไรหนักหนา) ผู้คนคลาคล่ำ..เดินกันราวกับฝูงมด..ทั้งๆที่อากาศช่างไม่เป็นใจเอาซะเลย.. แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 50 00:25:57 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 20 ม.ค. 50 00:24:33 ]

ความคิดเห็นที่ 74 วันนี้นอนดึกคับแอบมาอ่านก่อนนอนคับผม จากคุณ : nicky (Nic Nenin) - [ 20 ม.ค. 50 01:01:30 ]

ความคิดเห็นที่ 75 โอ.... อยากกินชีสถ้ำค่ะพี่วิ หง่ำ ๆๆ จากคุณ : horseshoes - [ 20 ม.ค. 50 05:36:37 ]

ความคิดเห็นที่ 76 สองวันมานี้ไปเร่งงานที่ค้างๆไว้ให้เสร็จ..เพราะหายไปหลายวัน  แถมพอได้เวลาแค่หกโมง หรือ ทุ่มหนึ่ง ก็ดันง่วงแบบหัวโขกโต๊ะอีกต่างหาก  สังขารเอ๊ยสังขาร ทริป Sauternes และ  Graves นี้ก็จัดโดยสำนักท่องเที่ยวอีกเช่นกัน..(ก็คนอื่นไม่มีใครจัด..เขาเหมาหมดทุกรายการ)  เรามารวมตัวกันในเวลาบ่ายโมง สนนราคาก็คือ 29 ยูโร เช่นเดิม.. กำหนดการว่าจะพาไปแวะที่ไร่โซแตนส์ Ch. Guiraud (ชาโต กีโฮด์) ก่อน..เพื่อดูการทำไวน์หวาน ระยะทางก็ชั่วโมงเศษๆเช่นเคย..พอเข้าเขตของโซแตนส์ ทุกคนก็ฮือฮาด้วยความประหลาดใจ และหายข้องใจเป็นปลิดทิ้ง ว่า ทำไมองุ่นเขาจึงสุกจนได้ noble rot มาเกาะ ภูมิอากาศนั้น อุ่นจัด แดดแจ๋..ขนาดว่านี่คือฤดูหนาว เทียบกับบอร์คโดซ์ซิตี้แล้ว..ราวกับอยู่คนละประเทศ ถนนในชนบทของบ้านเมืองนี้..ก็เหมือนๆกันทุกแห่ง นั่นคือ สองเลน..แทบจะแซงกันไม่ได้เลย.. แต่ทัศนีภาพสวยงาม.. ดูแดดซิ...จ้าเชียว.. แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 50 06:28:35 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 22 ม.ค. 50 06:27:27 ]

ความคิดเห็นที่ 77 มาถึงสามแยกก่อนเข้าเมือง จะต้องผ่าน.. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 22 ม.ค. 50 06:32:12 ]

ความคิดเห็นที่ 78 แล้วเราก็ผ่านไร่สารพัดไร่ ที่มีป้ายติดเรียงกันไปเป็นพรืด ส่วนไร่ใหญ่สองไร่..ที่อยู่ทางขวา และ อยู่ติดๆกันซะด้วย นั้นคือ Yquem และ Suduiraut ที่ต่างมีชาโตที่ใหญ่โต ราวกับปราสาทพระราชวัง..แบบไม่น้อยหน้ากันเลย.. ส่วน ชาโต กีโฮด์ คือ ไร่ขนาดกลาง ที่อยู่คนละฝั่งกับไร่ดัง เพียงแค่ข้ามถนนแคบๆเท่านั้น  เขาทำทั้งไวน์หวาน และ ไวน์ขาวชนิดดรายด้วย..(ก็ทำอย่างอื่นไม่ได้นี่นา) เมื่อไปถึง เข้าของไร่ออกมายืนรอต้อนรับด้วยอัธยาศัย อันดี..พร้อมเชื้อเชิญให้เข้าไปนั่งคุยในห้องรับแขก อันเป็นห้องที่เราจะลองชิมไวน์ด้วย  เขาได้เล่าถึงภูมิอากาศอันสำคัญของโซแตนส์ ว่า มีฤดูร้อนที่ยาวนาน กอร์ปกับอากาศที่มีไอน้ำที่หนาแน่น ทำให้เกิดเป็นหยดน้ำเกาะไปบนองุ่น ที่ทำให้มีเชื้อราที่เจาะผิวองุ่นให้เป็นรู(ก่อนในทีแรก) ซึ่งตรงนี้ทำให้เกิดการระเหิดของน้ำให้ออกไปจากผลองุ่น คงเหลือไว้แต่น้ำตาล..และเชื้อราที่ว่านี่ ก็จะค่อยๆซึมลงไปในผลให้ลีบและคงทนด้วยน้ำตาล ดังที่เราเรียกว่า..ราขุนนาง หรือ noble rot แต่บางผล บางพวง เชื้อราไม่ได้พัฒนาไปถึงระดับ noble เพราะอาจจะชื้นจนเกินไป หรือไม่ได้รับแดดเท่าที่ควร  พวกนี้ต้องปลิดทิ้งไป..ใช้ไม่ได้ เรียกว่า grey rot  องุ่นทุกเม็ด และทุกพวง ต้องเก็บด้วยมือจากคนงานที่ชำนาญ เพื่อที่จะรู้ว่า อันไหน คือ noble  อันไหน คือ grey การเก็บนั้น ก็ต้องเก็บกันทุกวัน เพราะ กิ่งเดียวกัน แต่อาจสุกไม่พร้อมกัน..ต้องวนเวียนกลับไปกลับมา.. อยากให้ดูดิน..ของพื้นที่โซแตนส์..กรวดธรรมชาติล้วนๆ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 22 ม.ค. 50 06:50:30 ]

ความคิดเห็นที่ 79 เอาชัดๆเลยนะ.. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 22 ม.ค. 50 06:52:12 ]

ความคิดเห็นที่ 80 ในโรงผลิต..นี่คือ เครื่องบีบ.. สำหรับโซแตนส์นี้ ไม่มีการแยกก้าน เพราะว่า เขาจำเป็นต้องใช้ในส่วนนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มแทนนินส์ให้กับไวน์ ส่วนกรด หรือ แอซิดนั้น ก็ต้องอยู่ในสูตรของการผสมที่เขาจำเป็นต้องใช้องุ่นสด (ชนิดเดียวกัน คือ ส่วนที่เต่งตึง ไม่มีราเกาะ) มาเติมด้วยเพื่อปรับรสชาติ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 22 ม.ค. 50 06:58:15 ]

ความคิดเห็นที่ 81 จากเครื่องบีบ..ก็จะมีท่อส่งน้ำองุ่นไปหมักในถังใต้ดิน ที่มีการควบคุมด้วยเครื่องปรับอุณหภูมิ จากคุณ : WIWANDA - [ 22 ม.ค. 50 07:00:34 ]

ความคิดเห็นที่ 82 นี่คือเครื่องควบคุมการทำงานของการผลิตโซแตนส์ ที่ กำหนดการแกว่งคนน้ำไวน์ในถัง เพราะในแต่ละถังจะมี แท่งอลูมิเนียมใส่เอาไว้.. จากคุณ : WIWANDA - [ 22 ม.ค. 50 07:05:52 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เมื่อครบกำหนด ได้ที่..ก็จะนำไปหมักต่อในถังโอ๊ค จากคุณ : WIWANDA - [ 22 ม.ค. 50 07:07:42 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ที่วาง Pipette เครื่องมือสำหรับสูบไวน์ขึ้นมาทดลองชิมจากถัง.. จากคุณ : WIWANDA - [ 22 ม.ค. 50 07:10:36 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ถังโอ๊คที่ใช้สำหรับโซแตนส์ จะไม่เหมือนกับถังอื่นๆ นั่นคือ จะมีการวางไม้คั่นขวาง และตอกลิ่มสลักแน่นหนา เนื่องจาก ความแน่นหนักในน้ำไวน์นั้นมีมากกว่าไวน์อื่นๆ และที่ขอบถังด้านที่จะต้องมีการจับเพื่อหยิบยก ก็จะมีหวายร้อยกระชับไว้ด้วย.. และที่เห็นมีตัวเลขกำกับนั้น คือ  เครื่องหมายบอกว่าองุ่นที่ทำมานั้น มาจากล๊อตไหนของไร่ อันเป็นธรรมเนียมเหมือนกันหมดทุกไร่.. แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 50 07:16:35 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 22 ม.ค. 50 07:15:55 ]

ความคิดเห็นที่ 86 จุกถังของไวน์โวแตนส์ ไม่ใช้จุกยางเช่นไวน์ชนิดอื่นๆ แต่จะใช้จุกไม้หุ้มผ้า.. จากคุณ : WIWANDA - [ 22 ม.ค. 50 07:22:48 ]

ความคิดเห็นที่ 87 แอบไปดูเบื้องหลังการถ่ายทำ.. นี่คือส่วนที่เขานำไวน์จากถังต่างๆ ใส่ขวดมาทำการทดลอง ซึ่งต้องทำกันบ่อยมาก.. จากคุณ : WIWANDA - [ 22 ม.ค. 50 07:26:12 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เมื่อซักถามกันจนคอแห้งแล้ว..ก็ถึงเวลาชิม...ไชโย๊ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 22 ม.ค. 50 07:28:37 ]

ความคิดเห็นที่ 89 Ch. Guiraud  เป็น  1er Cru Classe ติดอันดับต้นๆของนักวิจารณ์ไวน์โซแตนส์แบบไม่เคยผิดโผ  คงคุณภาพ และ มีราคาที่เหมาะสม.. และที่สำคัญคือ เจ้าของมีความใฝ่ฝันที่จะวัดรอยเท้ากับดีเคมให้ได้ เนื่องจาก ไร่นั้นอยู่ติดกัน ดินก็ผืนเดียวกัน.. ดังที่เคยบอกมาแล้วว่า..โซแตนส์คือ ไวน์ที่มีส่วนผสมของ องุ่นหลัก Semillon และ Sauv-Blanc  ดังนั้น..คงเหลือแต่ว่า สูตรใคร เคล็ดลับของใครมันจะดีไปกว่ากัน.. ไวน์ที่นำมาให้ลอง คือ ปี 2001  ที่ออกแนว citrus, pineapple, honey แบบชัดเจนในชั้นแรก ชั้นที่สอง คือ Toasted almond, popcorn, orange peel นับว่า..มีความสุขกับการดม..มากกว่าชิม.. จากคุณ : WIWANDA - [ 22 ม.ค. 50 07:47:54 ]

ความคิดเห็นที่ 90 พจมาน หน้า บ้านทรายทอง Ch. Guiraud [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 22 ม.ค. 50 07:54:27 ]

ความคิดเห็นที่ 91 ชอบ และ ประทับใจกับกรวดของโซแตนส์มาก เม็ดเท่าๆกัน และสีสวยเชียว..แทบมองไม่เห็นดินล้วนๆเลย..มีแต่ผสมด้วยกรวดเป็นส่วนใหญ่ ภาพนี่ถ่ายมาจากถนน... [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 22 ม.ค. 50 07:58:21 ]

ความคิดเห็นที่ 92 ^ ถ้าเป็นที่นีคงถูกโกยไปขายใส่ตู้ปลาหมดแล้วค่ะพี่หวาน จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 22 ม.ค. 50 08:26:52 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ไม่แน่นะ...น้องนก ...เขาอาจมากว้านจากร้านขายปลาแถวทองหล่อ...ไปโรยไว้ก็เป็นได้นา 555 จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 22 ม.ค. 50 10:13:47 ]

ความคิดเห็นที่ 94 กรวดที่โซแตนซ์มาจากร้านปลาทองหล่อ คิดปายด๊ายยยยย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ พี่วิโรจเขียนสคริปต์ "เพชรฆาตความเครียด" ด้วยแหงเลย พี่วิโรจคะ นกลืมว่ารายงานแล้วหรือยัง Mongras อร่อยมากค่ะ นกชิมไปหน่อยเดียว ว่าจะเก็บไว้ชิมกับส้มตำซักหน่อย เพื่อนฝรั่งข้างบ้านสองคนสามีภรรยามาบ้าน เลยเทให้เขาชิม เขาฟาดเรียบเลยภายใน 1 ชม. ไม่ยักเมาด้วย หมดขวดเลยค่ะ Pineridge (Viognier) ก็ชิมแล้ว  อร่อยค่ะ นกว่าหวานกว่า Mongras ค่ะ มีเรื่องเล่าค่ะ มีญาติเพื่อน อยู่ประเทศเพื่อนบ้านเรา เขาทำค้าปลีก เขามาหาผู้ผลิตไวน์ไทยค่ะ เพื่อจะเอาน้ำไวน์ให้เขา ไปใส่ขวดปลอมไวน์แพงๆ ค่ะ ใครชอบไปซื้อชายแดนก็...ฮืม ไม่รู้จะได้อะไรกลับมาละทีนี้ จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 22 ม.ค. 50 10:56:04 ]

ความคิดเห็นที่ 95 พี่นกครับ... ไม่แน่ คนที่ไปซื้อตามชายแดน อาจได้ ชิม Penfolds ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น เหมือนอยู่บน "ภูเรือ" หรือ "เขาใหญ่" ก็ได้ครับ จากคุณ : พ่อหมี Polar Bear - [ 22 ม.ค. 50 12:28:26 ]

ความคิดเห็นที่ 96 แวะมาหวัดดีปีใหม่ป้าอ้วนซะหน่อย...เที่ยวสนุกเลยนะครับ เมษานี้อาจเดินทางอีกรอบไล่ตั้งแต่ดีซีลงมาเวกัสและอาจจะมีโอกาสแวะแถบตะวันตก จะไปชิมไวน์แถวม่อนทะเล......เจ้าของบ้านเขาจะต้อนรับไหมน้าาา....? จากคุณ : Uncle Tee - [ 22 ม.ค. 50 15:19:08 ]

ความคิดเห็นที่ 97 สวัสดีครับผม จากคุณ : Phantom of the Cellar - [ 22 ม.ค. 50 18:52:22 ]

ความคิดเห็นที่ 98 Ch. Guiraud ขวดใหญ่หุ้มคลั่งเลยเหรอคับ เท่ห์จัง จากคุณ : nicky (Nic Nenin) - [ 22 ม.ค. 50 21:46:38 ]

ความคิดเห็นที่ 99 ยี่สิบเก้ายูโร อื้อมมมม จากคุณ : horseshoes - [ 22 ม.ค. 50 23:48:26 ]

ความคิดเห็นที่ 100 คุณ horseshoes ขา.. 29 ยูโร ถือว่าเป็นราคาที่สุดคุ้มจนน่าตกใจ...ยิ่งเมื่อเทียบกับความรู้ของไกด์แล้ว ที่อธิบายเรื่องราวอย่างละเอียด และแม่นตำราแล้ว..ยิ่งทึ่งใหญ่เลยค่ะ คนอื่นอาจไม่สนใจฟัง แต่ ตัวเองน่ะ เอียงหูฟังติด เพราะบอกตรงๆว่า ตั้งใจจะ"จับผิด" เขาน่ะ  อยากรู้ว่าจะมีการ"มั่ว"มั่งหรือปล่าว.. แต่..ไม่เจอเลยค่ะ ต้องขอยกนิ้วให้..เพราะเขา"รู้จริง" เลยทำให้ในแต่ละทริป น่าสนุก และ มีคุณค่าทางด้านวิชาการจริงๆ จากคุณ : WIWANDA - [ 23 ม.ค. 50 09:42:14 ]

ความคิดเห็นที่ 101 ย้ายคณะออกมาโซแตนส์ได้ ก็มุ่งหน้าทางเหนือไป Graves ที่อยู่ห่างออกไปประมาณว่าจตุจักร-ดอนเมือง..แต่ระยะทางที่ผ่านมาก็ไม่มีอะไรอื่น นอกจาก ไร่องุ่นที่ติดกันไปเป็นพรืด.. จากคุณ : WIWANDA - [ 23 ม.ค. 50 11:10:45 ]

ความคิดเห็นที่ 102 และเราก็ไปถึงไร่..Chateau de Chantegrive  ที่เป็นไร่ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของกร๊าฟส์  ผลิตทั้งไวน์ขาว จากองุ่น Semillon, Sauvignon, Muscadelle และแดง จากองุ่น Cabernet Sauvignon,  Merlot  และ Cabernet Franc แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 50 11:58:02 จากคุณ : WIWANDA - [ 23 ม.ค. 50 11:22:54 ]

ความคิดเห็นที่ 103 การพาชมไร่ก็เกิดขึ้น..ดินที่นี่ปนด้วยกรวดก้อนเท่าอิฐ.. ไม่ใช่กรวดเม็ดน่าเอ็นดูอย่างของโซแตนส์   ตามภาพ [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 23 ม.ค. 50 11:24:31 ]

ความคิดเห็นที่ 104 ดูใกล้ๆอีกนิด.. [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : WIWANDA - [ 23 ม.ค. 50 11:26:07 ]

ความคิดเห็นที่ 105 เขาพาเดินดูทั้งแผนกไวน์ขาว.. จากคุณ : WIWANDA - [ 23 ม.ค. 50 11:28:12 ]

ความคิดเห็นที่ 106 โรงผลิต.. จากคุณ : WIWANDA - [ 23 ม.ค. 50 11:29:26 ]

ความคิดเห็นที่ 107 และ..ไวน์แดงที่ทุ่มทุนด้วยถังใหม่ๆ..ล้วนๆ  เดินเข้าไปกลิ่นโอ๊คหอมตลบ.. อ้อ..ลืมบอกไปว่า..สีแดงที่ป้ายกลางถังไวน์นั้น คือ สีของน้ำไวน์ค่ะ เขาเอามาทาให้ผิดแผกไปจากถังของไวน์ขาว เพื่อความสวยงาม.. จากคุณ : WIWANDA - [ 23 ม.ค. 50 11:33:03 ]

ความคิดเห็นที่ 108 ผลผลิต..พร้อมออกสู่ตลาด จากคุณ : WIWANDA - [ 23 ม.ค. 50 11:34:28 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ผลผลิต...พร้อมชิม.. ไวน์ขาวของชาโต เดอ ฌองเตอะกรีฟ นี่..พอจิบเข้าไป คิดถึง oyster สดๆขึ้นมาอย่างจับใจ..มันช่าง"ดราย"จนบาดคอ ไวน์แดงที่นำมาเปิด คือ ของดีชนิดพิเศษ เรียกว่า “Cuvee Caroline”  ปี 2000 องุ่นคัดสรร สุกจัด โอ๊คใหม่.. กลิ่นแรกที่โชยมาปะทะจมูก คือ ช๊อคโกแล๊ต (dark) นำมาก่อนใคร ตามด้วย กลิ่นฟาง  กลิ่น licorice จบยาวพอสมควร แต่..บาดคอนิดๆตามประสาบุคลิกไวน์ของกร๊าฟส์ทั่วๆไป ที่ขัดใจนักคือ..ไร่ไวน์นี้..กำลังใช้เทคนิคใหม่ๆอย่างเดียวกับไวน์ของอเมริกา..ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอยากจะเพิ่มสกอร์ หรืออยากจะฉีกแนวเพื่อการตลาด.. ไม่ว่าจะเป็นเหตผลใดก็ตาม..ก็น่าเสียดายไปทั้งสิ้น ชาโต เดอ ฌองเตอะกรีฟ  ทุ่มทุนขนาดนั้น..ทั้งถังโอ๊คใหม่ที่มีมากมายมหาศาล  ยังขายในราคาแค่ขวดละ ยี่สิบ สามสิบยูโรเอง.. เขาก็เหมือนกับไร่อื่นๆอีกมากมาย..ที่กำลังเตรียมตัวให้พร้อม รอว่า เมื่อไหร่เทวดามาชิม  ได้สกอร์ดีๆ จะได้ขึ้นราคาเรียกทุนคืนให้หนำใจ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 23 ม.ค. 50 11:56:18 ]

ความคิดเห็นที่ 110 สวัสดีครับทุกๆท่าน ผมมีโอกาสได้ชิมไวน์หวานมาไม่เยอะ แต่ชั่วโมงนี้ยกให้Ch. Guiraud เป็นพระเอกครับ แถมราคาน่ารักน่าชังอีกต่างหาก ป้าวิครับ มีคำถามนิดหน่อยครับ หากเราเก็บไวน์ที่อุณหภูมิ 0 องศาจะเป็นยังไงครับ เห็นรู้แต่ว่าเก็บ ร้อนเกิน 30 องศา ไม่ได้ แล้วถ้าหนาวเกินหละครับ จะเป็นยังไง พอดีมีเรื่องเกี่ยวกับ 0 องศานิดหน่อยหนะครับ เลยอยากจะรบกวนถามป้าวิหน่อยครับ ปล.ขอโทษด้วยครับ ที่ลืมวันครูไป  สวัสดีครับคุณครูวิวันดา ให้คุณครูมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงนะครับ จากคุณ : ลูกศิษย์ขี้ลืม (jearjear) - [ 23 ม.ค. 50 13:13:43 ]

ความคิดเห็นที่ 111 0 องศา Celsius  หรือ  Fahrenheit (เท่ากับ 32 ) คือจุดเยือกแข็งทั้งนั้น..คุณ jearjear อยากจะทำไวน์ ไอติมแท่งแจกเพื่อนๆหรือคะ.. พี่เคยเล่าในเรื่องไวน์ ไวน์มาแล้วว่า.. ครั้งที่เยอรมันได้เข้ายึดครอง รีดส่วยไวน์จากฝรั่งเศส ได้มีการส่งไวน์ไปให้ทหารที่อยู่แนวหน้ารัสเซีย.. กว่ารถไฟจะส่งพัสดุที่ว่านี้ไปถึง..ปรากฏว่า ไวน์ทั้งหมดนับหมื่นๆขวดได้กลายเป็น wine popsicle หรือ ไอติมแท่ง ที่ดันขึ้นมาจนขวดระเบิดแตกออกเป็นเสี่ยงๆ การเก็บไวน์ที่ดี  อุณหภูมิจะต้องนิ่ง....ไม่มีแสงสว่าง...ไม่มีการสะเทือน  เดี๋ยวนี้ยิ่งง่ายใหญ่ เพราะมีตู้เก็บไวน์ขายกันเกลื่อน.. จากคุณ : WIWANDA - [ 23 ม.ค. 50 14:18:14 ]

ความคิดเห็นที่ 112 กลับไปอ่านคำถามของคุณ ลูกศิษย์ขี้ลืม (jearjear) ใหม่ที่ว่า.. "หากเราเก็บไวน์ที่อุณหภูมิ 0 องศาจะเป็นยังไงครับ เห็นรู้แต่ว่าเก็บ ร้อนเกิน 30 องศา ไม่ได้ " 30 องศาไหนคะ..เพราะว่า ไวน์(แดง)เราควรจะเก็บที่ 55-59 องศา F  เท่ากับ 15 องศา C โดยประมาณ คงหมายถึง 30 องศา C  เพราะว่า..ปรับจาก Celsius  มาเป็น   Fahrenheit  คือ เอา 30 ตั้ง คูณด้วย 9 หารด้วย 5  บวกด้วย 32  (30x9=270/5=54+32=86) ในสมัยหนึ่ง(นานมาแล้ว) ผู้คนเชื่อว่าการเก็บไวน์ในที่ที่มีอากาศร้อนเกินกว่า 90 องศา F นั้น จะทำให้ไวน์ aged เร็วขึ้นมาอีกหลายปี  แต่..บทเรียนนั้นได้ทำให้หลายๆคนทราบว่า..มันผิด และทำให้เสียของโดยใช่เหตุ ส่วนในเรื่องของความเย็น ไม่ควรจะเย็นเกินไปกว่า..49 F เพราะไวน์นั้นควรรักษาให้ใกล้เคียงกับภูมิอากาศของแหล่งผลิตให้มากที่สุด.. เอาภาพปรอทมาให้ดูเปรียบเทียบ.. แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 50 15:02:24 แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 50 14:48:27 แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 50 14:46:25 จากคุณ : WIWANDA - [ 23 ม.ค. 50 14:44:33 ]

ความคิดเห็นที่ 113 ไวน์เนื้อดีๆบางชนิด สามารถเก็บได้ในอากาศที่อุ่นจัดกว่าธรรมดา คือได้ถึง 70-72 องศา F  อย่างในตู้เสื้อผ้านี่สบายมาก  หมายถึงเมืองที่พี่อยู่เนี่ยค่ะ เพระอากาศนิ่ง หน้าร้อนก็ไม่ค่อยร้อน  หน้าหนาวก็เย็นเหมือนอยู่ในห้องแอร์  เลยไม่มีปัญหาเรื่องการเก็บไวน์   ไปกดอะไรก็ไม่รู้ภาพปรอทหายไปเลย.. เอามาแปะให้ใหม่นะคะ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 23 ม.ค. 50 15:00:49 ]

ความคิดเห็นที่ 114 30 องศา เซลเซียสที่ผมหมายถึงคือว่า  ได้ยินมาว่า ห้ามเก็บไวน์เกินอุณหภูมินี้ครับ   ก็เลยอยากรู้ว่า แล้ว อุณหภูมิที่ต่ำหละมีกำหนดไหมว่าห้ามต่ำกว่าไหน  เพราะไม่เห็นเคยได้ยินเลย และยิ่งช่วงนี้มีเหตุการณ์ส่วนตัวทำนองนี้ด้วยเลย ถามหนะครับ คือเรื่องมันมีอย่างนี้ครับ ป้าวิ ผมสั่งไวน์จาก new york มา ca  แต่ทางร้านที่สั่งบอกว่าไม่สามารถส่งให้ได้ในขณะนี้ ผมก็นึกว่ามันร้อนไปหรือเปล่าเพราะจากระยะทางจาก ny มา ca ก็ไกลโขอยู่ เลยสอบถามไปเลยได้ความว่า ไม่ใช่ร้อนไปแต่เป็นเย็นไป เพราะตอนนี้ที่ ny หนาวมาก ไปดูก็เห็นว่าตอนนี้มัน -1 เลยนี่ ผมก็เลยสั่งให้ส่งแบบ 2 day มา ก็เลยอยากจะถามหนะครับ ส่วนอีกเรื่องก็คือ ตู้ไวน์ที่บ้านเพื่อน  ตัวคุมอุณหภูมิมันไม่ทำงาน ทำให้คอมมันทำงานไม่ยอมตัด ทำให้อุณหภูมิในตุ้ไปถึง -1 เลยอยากรู้ว่ามันจะเป็นไรไหมครับ กลับไวน์ที่อยู่ในอุณหภูมิ -1 ทั้งคืนหนะครับ ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 50 23:15:27 จากคุณ : sf 2 องศา หนาวน่าดูครับป้าวิ (jearjear) - [ 23 ม.ค. 50 23:13:44 ]

ความคิดเห็นที่ 115 อิ่มความรู้ ถ้าคุณครูยืนยันว่าเก็บในที่อุหภูมิคงที่ได้ งั้นขอเก็บในตู้เสื้อผ้าไว้ก่อนละกิน อิอิ.. จากคุณ : horseshoes - [ 24 ม.ค. 50 00:22:06 ]

ความคิดเห็นที่ 116 คุณ jearjear ใจถึงมากที่สั่งไวน์ข้ามฟากรัฐในฤดูนี้.. ความจริง..ถ้าไม่มีอุปสรรคใดๆ ก็ไม่มีปัญหา เพราะ บริษัทไวน์ที่จัดส่งเขารู้งานอยู่แล้ว ว่า จะต้องส่งตอนไหน ถึงสนามบินตอนไหน และ เครื่องออกในช่วงเวลาเท่าใด สมัยนี้ เขาโหลดของ cargo กันแทบจะพร้อมกับผู้โดยสารเลยละค่ะ ไวน์ไม่ได้นอนแช่นิ่งอยู่ข้างนอกนาน.. แต่..อุปสรรคที่ว่านี้คือ..อัตราเสี่ยงของบทบาทฟ้าดินนั้น เป็นเรื่องที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้.. บ่อยครั้ง ที่เครื่องพร้อมจะบิน แท๊กซี่ออกไปแล้ว.. ไปจ่ออยู่บนลานบิน พร้อมรอรับสัญญาณบิน..แต่ต้องไปติดแหง็ก เพราะ สภาพอากาศไม่อำนวย..ยังไม่ปลอดภัย ต่อให้ผู้โดยสารอยู่เต็มลำเป็นร้อยๆคน..ก็ไม่เลี้ยวเครื่องกลับ..เพราะเครื่องอื่นๆก็มาจ่อรอคิวอยู่ข้างหลังเป็นหาง ตัวเองเคยติดอยู่ในกับดักเช่นนี้ ที่สนามบินชิคาโก  นานถึงสี่ชั่วโมงครึ่ง..หิมะเกาะที่เครื่อง..หนาจนเขาต้องเอาน้ำยาสีส้มๆมาพ่นที่ตัวเครื่องเป็นระยะๆ  เพื่อละลายน้ำแข็งออกไป.. ถ้าไวน์คุณต้องมาเจอสภาพแบบนี้..ไม่ใช่ไอติมก็ใกล้เคียง ละค่ะ ส่วนที่บ้านเพื่อนที่ แอลเอ นั้น ตู้เสียก็ไม่ต้องใช้ตู้ ไม่จำเป็นอะไรเลย เอาใส่กล่องใส่ไวน์ที่มีปลอกโฟมวางไว้ในห้องเฉยๆก็ได้ อากาศในฤดูนี้ของ Ca กำลังเย็นสบายๆ อย่าลืมว่า..รัฐแคลิฟอร์เนีย คือแหล่งผลิตไวน์นะคะ ส่วนที่ถามว่า ความเย็นนั้น ควรจะเย็นสุดในระดับไหน ก็ไม่ควรจะต่ำกว่า 13 องศา C  เพราะนั่นคือความเย็นที่วัดมาจากระดับเย็นสุดของ cave ที่เก็บไวน์ในยุโรป ....................................... คุณ horseshoes ที่รัก อยู่อังกฤษ..เก็บในตู้เสื้อผ้าในห้องนอนน่ะค่ะ ดีแล้ว.. แต่ขอแนะนำให้ใส่ในกล่องไวน์..ชนิดมีโฟม ดังที่ได้เคยนำรูปมาโชว์แล้วครั้งหนึ่ง..และ..วางในแนวนอนค่ะ.. จากคุณ : WIWANDA - [ 24 ม.ค. 50 03:07:16 ]

ความคิดเห็นที่ 117 สวัสดีครับคุณวิ และทุกๆ ท่าน จากคุณ : Einswasser - [ 24 ม.ค. 50 06:16:24 ]

ความคิดเห็นที่ 118 ขอขอบคุณคำอวยพรของคุณ jearjear ค่ะ แต่อยากเรียกว่าครูเลย..(คุณhorseshoes ด้วย)ไม่บังอาจคิดว่าตัวเองมีความสามารถถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ.. เรื่องซื้อไวน์จากที่อื่น..แล้วเอาไปแปะฉลากนี่..ความจริงเป็นเรื่องปรกติ ในหลายๆบริษัทของไวน์แคลิฟอร์เนียก็ทำ..อย่างพวกไวน์ตุ่ม ไวน์ไห หรือไวน์ระดับล่าง ที่ผลิตออกมาเป็นล้านๆขวด แต่..ไม่ใช่เอาไปปลอมฉลาก ทำเป็นไวน์มีชื่อเสียง ประเภทสวมรอย  อย่างนี้ไม่มีสิทธิทำได้ เพราะมาตรการ ขั้นตอนการผลิตนั้น ถูกควบคุมแน่นหนามากโดย ABC ( Alcoholic Beverage Control ) ที่อยู่ภายใต้การบริหารของกรม ATF (The Bureau of Alcohol, Tobacco, Firearms ) พอๆกับ AOC ที่อยู่ภายใต้การบริหารขององค์การ INAO (Institut National des Appellations d'Origine ) ที่ชาวไวน์ฝรั่งเศสทุกคนต่างพูดกันเป็นเสียงเดียว ว่า หินสุดๆ เพราะ..เขากำหนดให้ทุกอย่าง..ว่า พื้นที่ไหนต้องปลูกองุ่นอะไร และเป็นจำนวนเท่าไร.. ปุ๋ยต้องเป็นชนิดนั้นชนิดนี้.. ไม่มีการแหกคอก..หรือ ทำตามอำเภอใจได้.. จากคุณ : WIWANDA - [ 24 ม.ค. 50 06:55:05 ]

ความคิดเห็นที่ 119 "ไม่บังอาจคิดว่าตัวเองมีความสามารถถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ.." ^ ^ ขอส่ายหัวค่ะพี่หวาน นกว่าในประเทศไทยนี่ไม่มีใครรู้มากกว่าพี่หวานแล้วค่ะ พี่น่าจะมาเปิดโรงเรียนสอนพวกเศรษฐีที่นี่นะคะ แบบ..finishing school สำหรับไฮโซน่ะค่ะ จะได้ดื่มเป็น สมกับที่มีเงินซื้อไวน์แพงๆ อิอิ (บางทีไปปาร์ตี้ เขาดื่มไวน์กัน ก็ได้เห็นได้ยินอะไรที่... พี่หวานต้องร้องกรี๊ดแน่ๆ เลย  ถ้านกไม่มาตามหาพี่หวานจนเจอกระทู้นี้ นกก็คงงมโข่งเหมือนเขาแหละค่ะ) ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 24 ม.ค. 50 09:18:38 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ช้าก่อน..น้องนกที่รัก เรื่องไวน์..พี่ขอบอกได้เลยว่า ไม่มีใครสามารถเรียนจบ หรือรู้เท่าทันเขาไปทั้งหมด เพราะทุกวันนี้ ผู้บริโภคอย่างเราๆคือ "เหยื่อ" ของผู้ผลิต ที่มีกลไก สลับสูตรผสมสารพัดในการผลิต ปรุงแต่งไวน์ให้ออกมาถูกปากตลาด   ในด้านกลิ่น รส อันเป็นปฏิกิริยาทางเคมี นั้น คือตัวที่มาช่วยจรุงในจินตนาการของผู้ดื่ม  ให้มีความกำซาบซ่าน ไปกับเนื้อเมรัย..มีความภูมิใจที่ได้มีโอกาสลิ้มรส"ของดี" ที่โลกยกย่อง  เป็น"ศาสตร์"ที่สังคมยอมรับและเชิดชู.. บางทีหลายๆอย่างที่ยกมานี้ ทำให้คนเราเกิดความ"กระหยิ่ม" และ "ลำพอง" ต่อการเสพไวน์ เอามาละเมอเพ้อพก เก็บไว้คอย"เบิ้ล"กับเพื่อนๆ จนลืมในเจตนาพื้นฐาน ว่า มันก็คือเครื่องดื่มชนิดหนึ่ง..ที่มีความลี้ลับในทุกมาตรฐาน ไม่ว่าจะถูกหรือแพง เพียงแต่เราต้องมีความรู้มากพอที่จะตั้งใจรับ ว่า  ควรคาดหวังไว้อย่างไรกับมาตรฐานและสถานะของมัน.. ควรจะมีความรู้มากพอว่า..ควรจะจ่ายเงินซื้อเท่าไหร่กับ"ค่าตัว"ของมัน.. ไม่หลงคารมไปกับคำโฆษณาชวนเชื่อ และอย่าทำใจเอนเอียงไปกับ"ใบบอก" หรือ คำชี้แนะว่า รสชาติควรจะเป็นเช่นนั้นเช่นนี้.. การที่จะเป็นตัวของตัวเองได้ฉะนี้..ก็ต้องใฝ่หาความรู้ ทั้งอ่าน และ ฟัง  ใฝ่ทดลองลิ้ม  ทุ่มเททรัพย์(เท่าที่ฐานะอำนวย) นักไวน์ ก็เหมือนกับนักกอล์ฟละค่ะ ทุกคนมีแคนดิแคป มีชั่วโมงบินต่างกัน จะ"โว" หรือ จะ"ฟุ้ง" อะไรก็ต้องระวัง เพราะเหนือฟ้ามักมีฟ้าเสมอ... สังเกตได้เลยว่า..พวกแฮนดิแคปต่ำๆ มักไม่ค่อยกล้าคุย ชวนเล่นพนันทีไร มักจะมีข้ออ้างก่อนลงสนามเสมอ เมื่อวานท้องเสีย..เมื่อคืนไม่ได้นอน..วันนี้คงตีไม่ออก.. ผิดกับพวก rookies ที่ชอบคุยนัก ว่า เมื่อวานตีเบรคเก้าสิบ เมื่อวานซืนไดร์ฟไกลกว่าสามร้อยหลา  เมื่อกี้นี้เกือบได้อีเกิ้ล.. (พวกนี้แหละ..แหลกมาเยอะแล้ว) น้องนก..ก็คงรู้ดี เพราะวงการเดียวกัน สำหรับเรื่องไวน์..อย่างน้องนก..ก็คือ ตัวอย่างที่ดี ที่เสาะหาความเป็นตัวของตัวเอง จนเกือบจะพบแล้ว.. อ้อ..ว่าแต่...ลอง Pineridge (Viognier) ไปแล้ว  เป็นไงบ้าง ไม่เห็นเอามาเล่าเลย..?? จากคุณ : WIWANDA - [ 24 ม.ค. 50 10:45:05 ]

ความคิดเห็นที่ 121 สวัสดีค่ะ คุณ Einswasser หายไปไหนมา.. เรียนหนักหรือคะ? จากคุณ : WIWANDA - [ 24 ม.ค. 50 10:56:52 ]

ความคิดเห็นที่ 122 นกดื่ม Pineridge (Viognier) 2 วัน (ไม่ติดกันนะคะ) ดื่มแล้วเมาปวดหัวเหมือนมีอะไรหนักๆ อยู่ในหัวทั้งสองครั้งค่ะ ก็ไม่ทราบว่าทำไม ครั้งแรกดื่มกับสปาเก็ตตี้ผัดไข่กุ้งแบบญี่ปุ่นค่ะ ครั้งที่สองดื่มกับเกี๊ยวกุ้งน้ำซุปแบบจีนค่ะ ส่วนรสชาติของไวน์..  แหะๆ ก็ยังอธิบายไม่ถูกอยู่เหมือนเดิมค่ะ ก็..หอมผลไม้  แล้วก็รสองุ่นสีเขียวน่ะค่ะ หวานๆ เปรี้ยวๆ อร่อยดีค่ะ อิอิอิ จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 24 ม.ค. 50 20:18:44 ]

ความคิดเห็นที่ 123 หากท่านเล่าซือ วิวันดา มิใคร่รับข้าน้อยเป็นศิษย์ ข้าน้อยจะคุกเข่ามิยอมลุกขึ้นโดยเด็ดขาด จริงๆแล้ว ไวน์ที่ผ่านหนาวมามิใช่ไวน์ของเพื่อนหรอกครับแต่เป็นไวน์ของผมเอง แต่ทีแรกที่มิกล้าบอกไปตรงๆกลัวจะไปดิสเครดิตตู้ที่ผมใช้อยู่หนะครับ คือเรื่องเป็นอย่างนี้ครับ  เช้าวันจันทร์ตื่นมา ก็มีอันพบเห็นว่าน้ำนองเอ่อล้นหน้าตู้ และกระจกหน้าตู้ฝ้าขึ้นเต็มหมด และแผงควบคุมหน้าตู้มิมีไฟติดและตัวเลขแสดงอุณหภูมิแต่อย่างใด แต่เสียงคอมเพรสเซอรืยังทำงานอยู่ รีบเช็ดน้ำ ดูตัววัดอุณหภูมิที่เสียบไว้ในตู้ผลปรากฎว่า 0 องศาเซลเซียสครับ ได้เห็นดังนั้น จึงรีบนำไวน์ออกมา เพราะตู้นี้เห็นเป็นของดีมียี่ห้อ เลยเก็บแต่ไวน์ที่ตัวเองมี แบบราคาค่อนข้างสูงสำหรับตัวเองหน่อย พอครั้นนำไวน์ออกมาปรากฎว่าฉลากไวน์เปียกไปหมดครับ ละอองน้ำเกาะขวดไวน์เต็มไปหมด ไวน์ตัวไหนฉลากกระดาษบางหน่อย ก็เกิดอาการพองน้ำตามริมขอบอย่างเห็นได้ชัด เช็ดๆๆๆๆ แล้วนำไปไว้ในตู้อีกตู้นึง ที่ราคาถูกกว่าเยอะ แต่เชื่อใจได้มากกว่า เฮ้อ ตู้นี้ตั้งแต่ซื้อมา ยังมิถึง สี่เดือนดี มีปัญหาตลอด แจ้งไปทางศูนย์ว่าผมคงรับกับมันไม่ไหวแล้ว ตู้ก็มิต้องมาเปลี่ยนหรอก เคลมเงินคืนอย่างเดียวงานนี้ หากมิเป็นไปตามนี้คงต้องใช้ plan B หากใครอยากทดลองกินไวน์ที่ผ่านหนาวมา กริ้งกร้างมาเลยครับ เคยแต่กินไวน์ที่ผ่านร้อนมา มิทราบว่ามีท่านใดเคยทานไวน์ที่ผ่านหนาวมาไหมครับ อยากรู้หนะครับ ว่าจะเป็นอย่างไร ไวน์จะเสียไหมครับ จากคุณ : ยังคุกเข่าอยู่ (jearjear) - [ 24 ม.ค. 50 20:26:26 ]

ความคิดเห็นที่ 124 กลัวพี่วิไม่รับเป็นศิษย์เหรอค่ะ คุกเข่าไม่ยอมลุก  ^___^ แซวค่ะ จากคุณ : horseshoes - [ 24 ม.ค. 50 21:02:16 ]

ความคิดเห็นที่ 125 ไวน์ผ่านร้อนผมก็ทานมาเยอะเหมือนกัน แต่ไวน์ผ่านหนาว.........น่าสนเดี๋ยวไว้ไปหาที่บ้านเรยน่ะ น้องjear ลองไวน์ผ่านหนาวหน่อยคับ...แกล้มส้มตำสูตรเดิมก็ไม่เลวน่ะ ฮึฮึ ตู้ไวน์นั้นตัวตู้เล็กช่ายป่ะคับ เสียใจด้วยน่ะคับผม แต่ผมว่าไม่น่ะจะเสียอ่ะคับ จากคุณ : Nicky (Nic Nenin) - [ 24 ม.ค. 50 22:21:38 ]

ความคิดเห็นที่ 126 ตู้เล็กนั้นเลยครับพี่นิค   กินแล้วนึกว่า ice wine แล้วกันนะครับ ส้มตำรออยู่นะครับพี่ จากคุณ : ยังคุกเข่าอยู่ (jearjear) - [ 24 ม.ค. 50 22:33:43 ]

ความคิดเห็นที่ 127 ฉลองกระทู้ครบรอบ 1 ปีครับ ขอให้คุณวิ มีพลังเขียนเรื่องดีๆ ให้ความรู้แก่ผู้นิยมไวน์ต่อไปเรื่อยๆ นะครับ ผมยังตามกระทู้อยู่เสมอครับ แค่โดนพายุเฮอริเคน Kyrill พัดปลิว เฉไปหน่อยเองครับ แต่ตอนนี้คลำทางกลับกระทู้ได้แล้วครับ..ฮิ ฮิ จากคุณ : Einswasser - [ 25 ม.ค. 50 03:46:12 ]

ความคิดเห็นที่ 128 …ในเย็นวันที่ไร้นัดหมาย ...อาหารเย็นตระเตรียมไว้เพียบพร้อม ...เว้นเพียง Chateaux de Salle 1990 ที่ยังเย็นไม่ได้อย่างใจ ...ความคิดชั่วแล่น...จึงบังเกิด ...จับยัดในช่องแช่แข็ง...แค่หวังจะวางแค่ห้านาที “ของพวกนี้...ก็แค่ทำให้ชีวิต...พอเพลิน ๆ” ...เพื่อนบ้านผู้เคร่งธรรม...แวะมาทักทาย ...แถมถือวิสาสะเดินพิจารณาตู้ไวน์ ...พร้อมบรรยายธรรมบานปลายกว่าครึ่งชั่วโมง ...พระคุณเจ้า ! ...นี่เวลาล่วงเลยกว่าสิบปี ยังจำอาหารเย็นเลิศรส ...ที่เสริฟพร้อมไวน์วุ้นรสเลิศนั้นได้อย่างแม่นยำ ...เป็น Pomerol ที่หลังละลาย ...แอลกอฮอล์มลายหายสิ้น ...ความเป็นผลไม้สูญสลาย ...สารแขวนลอยล่วงหล่นที่ก้นขวด ...โครงสร้างทั้งหมดถูกฉีกขาด ...เช่นเดียวกับเพื่อนผู้สนทนาธรรมผู้นั้น ...ซึ่งบัดนี้...อยู่ในสมณะเพศแล้ว จากคุณ : วิโรจ (แดนไตร) - [ 25 ม.ค. 50 07:47:01 ]

ความคิดเห็นที่ 129 ว้าว...ถ้าเป็นแบบพี่วิโรจว่าก็น่าเสียดาย ไม่รู้โดนไปกี่ขวด ไม่เป็นไร ice wine ก็ ice wine ถือว่าดื่มเพื่อสุขภาพหล่ะคับ ของแสดงความยินดีกับอาวิด้วยคับกระทู้ครบหนึ่งปี ยัง คงตามอ่านเหมือนกิจวัตรประจำวันคับอา จากคุณ : Nicky (Nic Nenin) - [ 25 ม.ค. 50 08:47:52 ]

ความคิดเห็นที่ 130 แหม..คุณวิโรจก้อ..ไวน์กับสนทนาธรรม เข้ากั๊น เข้ากันนะคะ.. คุณ JJ อ่านหลังไมค์ด้วยค่ะ.. ขึ้นกระทู้ใหม่นะคะ เพราะมีเรื่องจะพูดมากมาย..เกี่ยวกับกรณีตู้แช่ไวน์ของคุณ jearjear ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ K5077938 จากคุณ : WIWANDA - [ 25 ม.ค. 50 09:37:05 ]