ความคิดเห็นที่ 1 อิ อิ....ขำป้าครับ จากคุณ : Uncle Tee - [ 6 ต.ค. 49 07:56:10 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เคยอ่านที่คุณหญิงจำนงศรี (รัตนิน) หาญเจนลักษณ์ ท่่านเล่าว่า เมื่อครั้งที่ล๊อกซ์เล่ย์ เริ่มมีคอมพิวเตอร์ใช้นั้น ท่านไปดูแล้วไม่รู้เรื่องเลย แต่เห็นหลานเล่นได้อย่างเพลิดเพลิน ท่านก็เลยรำพึงว่า สงสัยถึงเวลา"เกษียณ"แล้วละ เป็นไงละพี่ แล้วว่าแต่ผมโลว์เทค จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 6 ต.ค. 49 08:48:22 ]

ความคิดเห็นที่ 3 วันนี้เมื่อปี 2519 ช่วงเช้าที่เมืองไทยแถวสนามหลวง กำลังตำรวจตระเวณชายแดนส่วนหนึ่งพร้อมอาวุธประจำกายและอาวุธหนักประจำหน่วยอย่างปืนไร้แรงสะท้อน ที่ปกติเอาไว้ยิงรถถัง ได้เข้ามาล้อมธรรมศาสตร์ที่ได้มีการจัดเวทีอภิปรายต่อเนื่องมาหลายวันแล้ว เพื่อต่อต้านการกลับมาของจอมพลถนอมในคราบของสามเณร ช่วงสายหน่อยได้มีการปะทะเกิดขึ้น นักศึกษาบางส่วนที่หนีออกมาทางสนามหลวง ถูกกลุ่มกระทิงแดง ค้างคาวไทย และกลุ่มจัดตั้งขวาจัดจำนวนนึงรุมซ้อมและฆ่าตายอย่างทารุณ ส่วนที่หนีไปทางแม่น้ำเจ้าพระบา ถูกสกัดโดยกองกำลังตำรวจน้ำ ส่วนหนึ่งถูกยิงจมแม่น้ำ อีกส่วนหนึ่งถูกจับได้ มีเพียงส่วนน้อยที่ข้ามไปถึงฝั่งศิริราช และตามบ้านเรือนประชาชนแถวท่าพระจันทร์ ช่วงเย็น หลังการล้อมปราบยาวนานตลอดทั้งวัน คณะปฎิรูปการปกครองแผ่นดิน นำโดยพล.ร.อ.สงัด ชลออยู่ก็ประกาศยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาล มรว.เสนีย์ ปราโมช โดยมีการให้เหตุผลในภายหลังว่า หากคณะตนไม่ทำก็จะมีอีกคณะหนึ่งทำรัฐประหารแน่ๆ จึงต้องรีบชิงทำเสียก่อน แต่ที่ปฎิเสธไม่ได้ คือ กำลังหลักที่ทำรัฐประหารครั้งนั้น คือ นายทหารรุ่น จปร. 7 ที่คุมกำลังรบอยู่ จากคุณ : ดินสอโดม (สื่อศิลป) - [ 6 ต.ค. 49 09:28:59 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เวลา 20.00 น. ที่ กรุงปักกิ่ง ด้วยภารกิจในการตรวจสอบร่างสุดท้ายของสรรนิพนธ์เหมา ฉบับที่ 5 จางชุนเฉียว เดินทางมาที่ศาลาประชาคมเพื่อร่วมประชุมกับคณะกรรมการกรมการเมือง ตามคำเชิญของหัวโก๊ะฝง นายกรัฐมนตรี เมื่อเดินทางมาถึง หัวโก๊ะฝง ได้ยืนอ่านประกาศคณะกรรมการกรมการเมือง ถึงความผิดของแก๊งค์ 4 คนว่ามีพฤติกรรมต่อต้านพรรคและประกอบอาชญากรรมอีกหลายอย่าง จึงต้องจับกุมตัวไว้สอบสวนต่อไป ถัดจากจางชุนเฉียวก็เป็นชะตากรรมของหวางหงเหวิน ด้วยวัยหนุ่มและตำแหน่งในพรรคที่สูงลิ่ว ทำให้หวางพยายามขัดขืน แต่ก็ไม่อาจต้านแรงของทหารที่เข้าจับกุมได้ เหยาเหวินหยวน คือปลาตัวสุดท้ายที่ว่ายมาติดกับดักที่เทียนอันเหมิน ขณะที่หัวโจกอย่างเจียง ชิง คณะกรรมการกรมการเมืองให้เกียรติด้วยการนำกำลังบุกเข้าจับกุมเจียง ชิง ถึงบ้านใกล้วัดเจดีย์ขาวในกรุงปักกิ่ง ซึ่งความลำบากในการปฎิบัติภารกิจนี้ของหน่วยพิเศษ คือ ต้องทนฟังเสียงด่าของเจียง ชิง ไปตลอดทางตั้งแต่บ้านยันเรือนจำเฉินฉิง จากคุณ : เทียนอันเหมิน (สื่อศิลป) - [ 6 ต.ค. 49 09:36:06 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อิ อิ ขำพี่หวานด้วยคน หนูบอกแล้วววว ให้หนีบหนูไปช่วยเรียงขวดไวน์ ถึงหนูจะเฟอะฟะแต่หนูฮายเทคนะคะ แถมขับรถให้ด้วย ตกลงมั้ยคะ ถ้าตกลง ปีหน้าหนูหอบกระเป๋าไปเลย จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 6 ต.ค. 49 09:44:37 ]

ความคิดเห็นที่ 6 เหตุการณ์ที่สนามหลวง ได้รับการเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนอย่างครบถ้วนจากฝีมือของสรรพสิริ วิริยศิริ ซึ่งได้รับรางวัลด้วยการโดนปลดไปในวันนั้นเอง ขณะที่เหตุการณ์ที่ปักกิ่ง ถูกปิดเงียบอยู่หลายวัน เนื่องจากทีมของนายพลเย่ ต้องการจะสยบเครือข่ายแก๊งค์ 4 คนให้หมดในคราวเดียว โดยเฉพาะพวกที่เตรียมตัวอยู่ในที่ตั้งที่เซี่ยงไฮ้ เตรียมเคลื่อนไหวทันทีที่ได้รับคำสั่ง แต่เนื่องจากหัวโจกทั้ง 4 ถูกรวบในคราวเดียวกัน ทำให้ขาดการติดต่อ ทางเซี่ยงไฮ้ก็ไม่กล้าเคลื่อนไหวโดยพลการ แถมยังไม่ได้ข่าวสารอะไรเลยจากแกนนำ เพราะทั้ง 4 หายเข้าปักกิ่งไปเฉยๆ ใครได้ดูเรื่อง "คนล่าจันทร์" จะเห็นฉากนึงที่ อ.เสก ฟังวิทยุรายงานข่าวเหตุการณ์ที่ธรรมศาสตร์ และกำลังจะไปแจ้งข่าวกับศูนย์การนำ แต่ปรากฎว่า ระดับนำกำลังให้ความสนใจข่าวการจับกุมแก๊งค์ 4 คนมากกว่า เรื่องจริง คือ เหตุการณ์แม้จะเกิดวันเดียวกัน แต่ข่าวไม่ได้ออกไปพร้อมกันแบบนั้น ในหนังคงต้องการสะท้อนให้เห็นถึงภาวะความขัดแย้งของขบวนการปฎิวัติไทย ที่ไม่รู้ว่ากำลังปฎิวัติประเทศไหนกันอยู่มากกว่า อีกอย่างคือในช่วงการเคลื่อนไหวอย่างหนักของขบวนนักศึกษาไทยยุคหลังนั้น มีการตั้งข้อสังเกตว่า ล้วนเกิดขึ้นในยุคแก๊งค์ 4 คน มีอิทธิพลอยู่ในพรรคทั้งนั้น ทำให้แนวทางการต่อสู้ค่อนข้างจะ "เด่นแดง" จนเกินไป จากคุณ : เซี่ยงไฮ้ (สื่อศิลป) - [ 6 ต.ค. 49 09:49:52 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เป็นอันว่าภายใต้การปฎิบัติการครั้งเดียวก็สามารถกวาดแกนนำแก๊งค์ 4 คนได้ครบถ้วน ส่วนที่หลงเหลืออย่างเหมาเหยียนเซียน หลานประธานเหมา ที่เป็นรองคอมมิสซาร์ คุมกำลังทหารได้ ก็โดนจับได้เช่นเดียวกัน ขณะที่กำลังหลบหนีไปขึ้นเครื่อง รายงานว่ามีการยิงกันเล็กน้อยเสียด้วยสิ หลานท่านประธานเหมา เลยได้แผลฝากไปเข้าคุกด้วย จากนั้น กลุ่มกองกำลังของนายพลเย่ ก็เข้าคุมสถานีโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ เครือข่ายสื่อมวลชนต่างๆ ที่แก๊งค์ 4 คน เคยมีอิทธิพลครอบงำอยู่เป็นเวลาร่วม 10 ปี เพื่อไม่ให้เผยแพร่ข่าวสารอะไรเป็นที่ขัดขวางการรัฐประหารครั้งนี้ จากคุณ : เหมา (สื่อศิลป) - [ 6 ต.ค. 49 10:30:03 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ข่าวการจับกุมแก๊งค์ 4 คน แม้ว่าจะมีข่าวลือกระจายออกมาบ้าง แต่ที่เป็นการแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากพรรคจริงๆ นั้น เหตุการณ์ก็ล่วงเลยมาจนถึงวันที่ 21 ตุลาคมแล้ว ซึ่งกว่าจะถึงวันนั้น เครือข่ายของแก๊งค์ 4 คน ก็ถูกปราบปรามจนราบคาบทั้งในปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้ และทันทีที่รู้ข่าว ประชาชนทั้งปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ก็ออกมาเฉลิมฉลองกันอย่างสนุกสนาน ถึงขนาดเหล้าขาดตลาดไปเลยทีเดียว จากคุณ : ปักกิ่ง (สื่อศิลป) - [ 6 ต.ค. 49 10:32:47 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาลงชื่อเหมือนเคยครับ ป้าวิครับแสดงว่า sticker ของป้าวิไม่ได้เป็น sticker for notebook ของผมนี่ ibm ให้ sticker ที่มีตัวเลขมาด้วย ปฏิวัติที่ปักกิ่งนี่คล้ายๆกับบ้านเราเมื่อไม่กี่วันนี่เนาะ แต่ของเรานี่กลายเป็นงานวันเด็กไป สงสัยว่าทำไมทหารที่ไปจับเจียงชิงไม่หาอะไรอุดปากซะ ทนฟังเสียงด่าทำมั้ย จากคุณ : Ronachai (amscmu) - [ 6 ต.ค. 49 11:01:46 ]

ความคิดเห็นที่ 10 "เย่เจี้ยนอิง" 28/4/1897 - 22/10/1986 รูปภาพขณะเฉลิมฉลองการปราบปรามแก็งค์ 4 คน อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 1976 ณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน จากคุณ : DogRobo - [ 6 ต.ค. 49 14:21:29 ]

ความคิดเห็นที่ 11 เย่เจี้ยนอิง ขณะเคารพศพของ โจวเอินไหล ณ โรงพยาบาลปักกิ่ง วันที่ 10 มกราคม 1976 จากคุณ : DogRobo - [ 6 ต.ค. 49 14:23:56 ]

ความคิดเห็นที่ 12 งานไว้อาลัย เหมาเจ๋อตุง จากคุณ : DogRobo - [ 6 ต.ค. 49 14:27:41 ]

ความคิดเห็นที่ 13 แก็งค์ 4 คน ขณะขึ้นศาล จากคุณ : DogRobo - [ 6 ต.ค. 49 14:30:16 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อีกรูป จากซ้ายไปขวา จางชุนเฉียว - หวังหงเหวิน - เหยาเหวินหยวน - เจียงชิง จากคุณ : DogRobo - [ 6 ต.ค. 49 14:33:09 ]

ความคิดเห็นที่ 15 จตุรัสเทียนอันเหมิน เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 1976 จากคุณ : DogRobo - [ 6 ต.ค. 49 14:36:33 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ประชาชนที่มาร่วมงานเฉลิมฉลอง ณ วันที่ 24 ตุลาคม 1976 จากคุณ : DogRobo - [ 6 ต.ค. 49 14:37:55 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เจียงชิง ขณะขึ้นศาล จากคุณ : DogRobo - [ 6 ต.ค. 49 14:53:42 ]

ความคิดเห็นที่ 18 รูปเพียบบบเลยทีนี้...หลาน DogRobo หายใจรดต้นคอเธอเลยนะยะ...รีบๆเขียนหน่อยล่ะ (ล้อเล่งงงง..) จากคุณ : WIWANDA - [ 6 ต.ค. 49 15:01:07 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขณะโวยวายในศาล จากคุณ : DogRobo - [ 6 ต.ค. 49 15:06:43 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เล่าเหตุการณ์ได้ตรงกับวันนี้เลยนะครับ (๖ ตุลา) ขอบคุณครับ จากคุณ : เพราะผมไม่มี Time Machine - [ 6 ต.ค. 49 15:09:22 ]

ความคิดเห็นที่ 21 วกกลับมารูปงานศพ โจวเอินไหล จากคุณ : DogRobo - [ 6 ต.ค. 49 15:11:30 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คลื่นมหาชนหลั่งไหลไปวางพวงหรีดให้โจวเอินไหล ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน จากคุณ : DogRobo - [ 6 ต.ค. 49 15:16:52 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แหม กะจะเก็บชะตากรรมบทสุดท้ายไว้ให้เพื่อนพ้องน้องพี่เขามาช่วยกันสรุปนะสิครับ เอาเป็นว่าเดี๋ยวจะโดดข้ามไปเลยนะครับว่า สุดท้ายแล้วชะตากรรมของ 4 คนนี้เป็นอย่างไรบ้าง จะได้ฝากให้มาช่วยกันเขียนหน่อยครับ เหลืออีกนิดเดียวก็จะจบเรื่องการปฎิวัติในจีนแล้ว นึกว่ามาช่วยกันปิดแล้วกัน จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 6 ต.ค. 49 15:59:26 ]

ความคิดเห็นที่ 24 แวะมารายงานตัว และเชิญชวนชาวกระทู้กบฎฯ ไปร่วมงานเสวนา ประวัติศาสตร์แห่งชาติ “ซ่อม” ฉบับเก่า “สร้าง” ฉบับใหม่ กันครับ รายชื่ออาจารย์แต่ละท่านด้านล่างคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีนะครับ จากคุณ : คนเดินดินกินข้าวแกง - [ 6 ต.ค. 49 17:52:00 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เคยอ่านหนังสือของคุณศิลา (หรือน้าหมู จำไม่ค่อยได้ครับ) แกเขียนเล่าว่า ตอนอยู่ในป่า วันนึงได้มีการนั่งสนทนากันกับพวกสหายชาวนา มีการพูดถึงเรื่องการลงโทษแก๊งค์สี่คน สหายชาวนาได้ยินก็อุทานประมาณนี้ว่า (กรุณาทำเสียงอีสาน) "เป็นหยังโหดร้ายแท้ สมควรแล้วที่ลงโทษสถานหนัก พวกจับคนมาสี่" จำข้อความไม่ได้ครับ แต่คงประมาณนี้ กลายเป็นว่า "สี่" กันคนละเรื่องเลย จากคุณ : Dearance - [ 6 ต.ค. 49 19:05:58 ]

ความคิดเห็นที่ 27 สะบักสะบอมเป็นลูกแมวตกเหวเลยค่ะพี่วิ สำหรับหนึ่งวีคผ่านไป ที่สุวรรณภูมิ..... สุดแสนทารุณเหลือเกินค่ะ สัปดาห์นี้ หวังว่าอะไรต่อมิอะไรคงดีขึ้นบ้างค่ะ เนื่องจากเริ่มชิน กับความไม่พร้อมของเทคโนโลยีที่เคยใช้ที่ดอนเมือง หวังว่าเร็วๆนี้ คงได้มานั่งจับเข่า ถามปัญหาคาใจกับอาจารย์สื่อเหมือนเดิมสักที ถึงจะจับไข้ พูดไม่ได้ แต่คงเขียนได้นะคะ จากคุณ : กาสะลองบานแล้ว - [ 6 ต.ค. 49 22:00:13 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ลงชื่อครับ จากคุณ : Natt_ac121 - [ วันเกิด PANTIP.COM 11:00:57 ]

ความคิดเห็นที่ 29 โหดร้ายดีแท้เนอะ แก๊งค์ซี่คน ยังงี้ต้องริบของกลางดีไหม จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 8 ต.ค. 49 16:51:43 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อาจารย์สื่อ ต่อจิครับ คิดถึงๆ จากคุณ : Natt_ac121 - [ 8 ต.ค. 49 20:55:47 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อ้าว แวบไปดูเอฟซะวันเสียแล้ว นี่กำลังบี้กันเลยใช่ไหมเนี่ย ระหว่างอลองโซ กับซูมี่ ผลสนามซูซูกะออกมาเรียบร้อยแล้ว อลองโซ่ ดับฝันซูมี่เรียบร้อย เครื่องพังตั้งแต่รอบ 37 ไม่รู้เป็นแผนของซูมี่หรือเปล่า เพราะปกติเฟอรารี่เครื่องไม่ค่อยจะพัง กลัวแพ้เสียฟอร์มเลยโทษเครื่องเสียเลย จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 9 ต.ค. 49 11:31:12 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ก่อนอื่น ต้องขอขอบพระคุณเพื่อนๆๆทุกท่านครับ ได้ความรู้เยอะมากครับ แต่อยากอ่านกระทู้เก่าๆๆ นะครับ ทำอย่างไรดีครับ ขอรบกวนเพื่อนๆๆด้วยครับ จากคุณ : Drinksky - [ 9 ต.ค. 49 19:27:48 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คุณ Drinksky ครับ ตามลายแทงข้างล่างไปเลยครับ แต่ฟิตร่างกายดีๆก่อนนะครับ http://www.oocities.org/drsak/ จากคุณ : Ronachai (amscmu) - [ 9 ต.ค. 49 21:44:21 ]

ความคิดเห็นที่ 34 หวัดดีคร้าบทุกๆๆๆๆ ท่าน กลับมาแล้วคร้าบบบ หัวฟูเรย ขอเวลาอีกสองสามวันจะอัพเว็บนะครับ ขอบพระคุณพี่วิฯที่เป็นห่วงเป็นใย (เพิ่งเห็นครับ) จากคุณ : ha ha yee - [ 10 ต.ค. 49 14:50:06 ]

ความคิดเห็นที่ 35 รายงานตัวครับ ตอนนี้โดนฝนเล่นงาน แทบจะต้องพายเรือไปหาลูกค้าแล้ว กรรมจริงๆ.... จากคุณ : ryzon - [ 10 ต.ค. 49 17:14:24 ]

ความคิดเห็นที่ 36 หวัดดีค่ะจารย์สื่อ แวะมาทักเฉยๆ ไปละ จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 11 ต.ค. 49 10:24:43 ]

ความคิดเห็นที่ 37 หายไปอีกแร๊ะ..คิดถึงนะ..เด็กฉลาดดดด... จากคุณ : WIWANDA - [ 11 ต.ค. 49 11:46:43 ]

ความคิดเห็นที่ 38 กระทู้นี้ทำไมวัยรุ่นเยอะจัง จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 11 ต.ค. 49 15:53:06 ]

ความคิดเห็นที่ 39 แหม รอตั้งหลายวัน นึกว่าจะมีผู้มีจิตเมตตามาช่วยปิดเรื่องแก๊งค์ 4 คน ภาคชะตากรรมลำเค็ญเสียหน่อย ที่ไหนได้ เงียบหายไปลุ้นเซี่ยงไฮ้ ฟอร์มูล่า วัน กันนี่เอง ไม่แวบเข้ามาช่วยกันบ้างเลย งั้นปิดเองก็ได้ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 11 ต.ค. 49 16:58:52 ]

ความคิดเห็นที่ 40 บันทึกหน้าสุดท้ายของแก๊งค์ 4 คน เขียนไว้อย่างนี้ครับว่า คนแรก เหยาเหวินหยวน เสนาธิการของเจียงชิง คนนี้ถูกพิพากษาให้จำคุก 15 ปี ตอนนี้พ้นโทษแล้ว กลับไปอยู่บ้านเกิดแบบเงียบๆ ไม่รู้ว่าข่าวอัพเดตเป็นไง ถ้าไม่ตายก็กลายเป็นคนที่สังคมลืมไปแล้วมั๊ง จางชุนเชียว คนนี้ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต หวางหงเหวิน ถูกจำคุกตลอดชีวิตเหมือนกัน แต่มาเป็นมะเร็งตายเสียก่อน และสุดท้าย หัวโจก สุดยอดสีสัน เจียง ชิง ดารานักแสดงจากเซี่ยงไฮ้ ที่เริ่มไต่ฝันของตนมาตั้งแต่ฐานที่มั่นเยนอาน จนถึงปักกิ่ง สุดท้ายก็ต้องมาแขวนคอตายในคุกเมื่อปี 1991 นี่เอง เจียงชิงนั้นโดนพิพากษาให้ประหารชีวิต แต่ได้ลดโทษเหลือแค่จำคุกตลอดชีวิต เมื่อตอนที่มีคำพิพากษานั้น สื่อมวลชนจีนบอกว่า ประชาชนอยากให้นาง "ถูกสับเป็นหมื่นๆ ชิ้น" หลังจบสิ้นแก๊งค์ 4 คน และยุคแห่งการปฎิวัติวัฒนธรรมอันเลวร้ายแล้ว เติ้งเสี่ยวผิง ในฐานะผู้แทนของนักปฎิวัติรุ่นเก่า ก็ซูฮกให้เติ้งเป็นผู้นำประเทศแทน 3 เสือที่เสียชีวิตภายในปีเดียวกัน เติ้งใช้เวลาไม่นานในการกำจัดหัวโก๊ะฝง เด็กสร้างของประธานเหมา และชูหูเย่าปัง ทส.ของตนเองขึ้นมา แต่ไม่รู้ว่าชะตากรรมของเติ้งมันเป็นยังไง สุดท้ายชีวิตเขาก็ต้องมาเผชิญกับม็อบเทียนอันเหมินอีกเหมือนเคย แต่คราวนี้ เติ้ง กลับข้างหันมายืนฝั่งตรงข้ามกับประชาชนเสียแทน ในเหตุการณ์ที่เป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก เทียนอันเหมิน ที่ประธานาธิบดีสุดหล่อของสหรัฐฯ กล่าวคำนิยามเหตุการณ์นี้ไว้ว่า "รถถังหรือจะทับความหวังของประชาชนได้" จากคุณ : เทียนอันเหมิน (สื่อศิลป) - [ 11 ต.ค. 49 17:09:54 ]

ความคิดเห็นที่ 41 น้ำท่วมซะหลายวันค่ะ เข้าเนทไม่ได้เลย ก่อนหน้าคอมก็เดี้ยง งานก็เสร็จดึก ย้อนกลับชึ้นไปอ่าน คคห ข้างบน เห็นอาจารย์สื่อใช้นามแฝง "ดินสอโดม" จำได้ว่าเป็นนามแฝงแรกที่อาจารย์สื่อใช้ ในการเขียนกระทู้นี้ เขียนมาจนเกือบจะครบร้อย เห็นนามแฝงนี้อีกครั้ง ก็ทำให้นึกถึงอดีต เมื่อพบกระทู้นี้ใหม่ๆค่ะ หรือว่าจะเลิกเขียนตอนที่ หนึ่งร้อยจริงๆคะ อ่านมาตั้งนาน ยังไม่รู้จักผู้เขียนจริงๆเลย จะเลิกเขียนเสียแล้วเหรอคะ? จากคุณ : กาสะลองบานแล้ว - [ 11 ต.ค. 49 20:25:32 ]

ความคิดเห็นที่ 42 อาจารย์สื่อ รู้จัก คาร์บอมบ์ ปะครับ ??? อิอิ อย่าเลิกนะๆๆๆๆ เด๋วสรรหาคำถามมาถามอีก จากคุณ : Natt_ac121 - [ 12 ต.ค. 49 06:45:29 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ^ ^ ก๊ากกกเจอขู่เลยวุ้ย คิดถึงนะจ๊ะแต่ไม่มีเวลาอ่าน เอ้อ อาจารย์สื่อน่าจะใช้นามปากกาว่า เฉียดโดม อิอิอิ จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 12 ต.ค. 49 10:22:03 ]

ความคิดเห็นที่ 44 เอ้า เฉียดโดมก็เฉียดโดม ชาตินี้ไม่มีวาสนา ชาติหน้าว่ากันใหม่ก็แล้วกัน เรื่องร้อยตอนจบนี่ไม่จบซะทีนะ จริงๆ ไม่มีอะไรหรอก แค่ตอนนั้นมีคนถามว่าจะจบเมื่อไร ก็คิดว่า สักร้อยตอนก็น่าจะดีนะ ตอนนี้จะร้อยแล้ว ก็ไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน คาร์บอมบ์ก็กลัว เกินร้อยก็เกรง จริงๆ แล้วเรื่องการกบฎ ปฎิวัติ รัฐประหาร ยังมีเรื่องให้เขียนอีกเยอะ แต่อีกใจก็อยากจะเขียนเรื่องอื่นแบบอื่นบ้าง ไม่ใช่จะย้ายไปหวานแหววแต๋วจ๋า เหมือนกับเจ้าของกระทู้อะไรนั่นหรอก แต่ยังมีเรื่องติดค้าง ประเภทหนังสืออ้างอิงมาตั้งนานแล้ว ก็อยากจะเอาหนังสือมาพูดบ้าง ว่าแต่ละเรื่องอ้างอิงมาจากไหนบ้าง แต่คิดไปคิดมา ไหนๆ จะเอาหนังสือมาบอกแล้ว จะแค่เขียนชื่อลงไปหรือ ก็เลยคิดว่า น่าจะเอาหนังสือที่น่าสนใจมาแนะนำ วิเคราะห์ วิจารณ์กันทีละเล่ม ทั้งใหม่ ทั้งเก่า ประเภทหนังสือในประวัติศาสตร์การเมืองไทยอะไรประมาณนั้น น่าสนุกดีไหม โดยเฉพาะหนังสือใหม่ๆ เดี๋ยวนี้แพงมาก เล่มนึงครึ่งร้อย แทบจะหยิบไม่ติด กว่าจะตัดสินใจซื้อได้ ก็น่าจะมีการวิจารณ์แบบตรงไปตรงมาเพื่อช่วยตัดสินใจหน่อยก็น่าจะดีนะ ก็เลยอยากจะปิดที่ 100 ตอน แล้วปรับที่คลังกระทู้ให้ระบุว่าตอนที่เท่าไร ถึงเท่าไร เป็นเรื่องอะไร จากนั้นก็เขียนคอนเซปใหม่ เป็นเรื่องการแนะนำหนังสือที่น่าสนใจไปทีละเล่ม เอางี้ดีไหม เพราะถึงจะเลิกตอนที่ 100 แต่ก็ไม่เลิกเขียนเสียเลยทีเดียว ถึงจะโดนคาร์บอมบ์ ก็คงประเภทมีแต่ดินระเบิดแต่ลืมจุดชนวน อะไรยังงี้แหละมั๊ง จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 12 ต.ค. 49 16:29:49 ]

ความคิดเห็นที่ 45 อยากอ่านค่ะ สื่อศิลปสื่อสาระ หนังสือ... หนังสือของอาจารย์สื่อแต่ละเล่ม ..แค่เห็นหัวก็อึ้งกิมกี่แล้ว จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 12 ต.ค. 49 17:10:46 ]

ความคิดเห็นที่ 46 งั้นเป็นอันตกลงตามนี้ โดยถือเสียงข้างมาก (ผมเสียงนึง กะคุณทวีทตี้ที่บังเอิญผ่านมาอ่านอีก 1 รวมกันเป็นเสียงข้าง มากยามนี้พอดี) งั้นเอาเป็นว่า เรื่องของจีน จะต่อไปถึงเหตุการณ์เทียนอันเหมินอีกหน่อยแล้วจะจบ จากนั้น ก็จะว่าด้วยเรื่องการปฎิวัติอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการปฎิวัติที่ทำให้พวกยุโรปก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าอาณานิคม ครองโลก สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายให้กับประเทศแถบโลกที่ 3 กันเป็นแถว ก่อนจะเอาคืนในช่วงสหัสวรรษ ที่พวกอดีตเจ้าอาณานิคมเหล่านี้ ต้องมาแบกรับภาระชนผิวสีกันแบบเจ๊กอัก ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศสที่เร็วๆ นี้ ก็ถึงขั้นเผาบ้านเผาเมือง หรืออังกฤษที่เต็มไปด้วย "ลิตเติ้ล อินเดีย" อเมริกานั่นไม่ต้องห่วง ผิวดำอดีตทาส แทบจะกลายเป็นเจ้าของประเทศอยู่แล้ว หลังจากที่ทำหน้าที่เป็นหน้าเป็นตาให้อเมริกาทั้งด้านดารา นักร้อง นักแสดง กันมาหลายปี ส่วน "มารดาแห่งการปฎิวัติ" ผมว่ามันสุดจะแพร่หลายแล้ว คงไม่ต้องละมั๊ง คนแถวนี้คงจะรู้จักคุกบาสติลกันหมดแล้วละ กะว่าเอาให้ครบร้อยแล้วจะเริ่มซีรี่ย์ใหม่ แนะนำหนังสือมันส์ๆ กันดีกว่า นะครับ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 12 ต.ค. 49 19:08:41 ]

ความคิดเห็นที่ 47 มาเห็นด้วยตามความเห็นที่ 46 ของอาจารย์สื่อฯ ขอตัวพายเรือไปหาลูกค้าก่อน จากคุณ : ryzon - [ 12 ต.ค. 49 20:02:20 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ลงชื่อเห็นด้วยหนึ่งเสียงครับ จากคุณ : Natt_ac121 - [ 12 ต.ค. 49 21:33:20 ]

ความคิดเห็นที่ 49 จะตามไปอ่านต่อครับ จากคุณ : @(-_-)@ - [ 12 ต.ค. 49 23:06:38 ]

ความคิดเห็นที่ 50 มาติดตามทุกกระทู้ครับผม จากคุณ : หมาเห่าดาวเทียม - [ 13 ต.ค. 49 00:13:28 ]

ความคิดเห็นที่ 51 เชิญสมาชิกยังเติร์กทั้งหลาย..ส่งชื่อที่จะใช้สำหรับกระทู้ใหม่เข้าประกวดค่ะ.. และให้อาจารย์สื่อเป็นคนตัดสินใจเลือก..ว่าอันไหนเหมาะสุดๆ ผู้ชนะ..มีรางวัลค่ะ.. ไปรับได้ที่วิวันดา..... จากคุณ : WIWANDA - [ 13 ต.ค. 49 01:53:00 ]

ความคิดเห็นที่ 52 อ่านมานานแล้วครับ แต่ไม่เคยแสดง ตัว ขออนุญาต แสดงตัวว่า เห็นด้วยนะครับ จากคุณ : ตรีกาล - [ 13 ต.ค. 49 06:46:49 ]

ความคิดเห็นที่ 53 เคยได้ยินคำว่า "พิมพ์พิจารณ์" จากไหนจำไม่ได้ค่ะ ชอบการเล่นพยัญชนะและความหมาย เอามาส่งประกวดได้หรือเปล่าคะ? จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 13 ต.ค. 49 08:56:47 ]

ความคิดเห็นที่ 54 น้องขา .. พี่ให้ตั้งชื่อกระทู้นะคะ ไม่ใช่มาตั้งชื่อลูกคุณสื่อศิลป (ที่ยังไม่มี) ประเภทแนวอย่างนี้... สื่อสาระ..จากอดีต...หรือ เล่าเรื่อง..การเมืองไทย อารายทำนองนั้นน่ะ... จากคุณ : WIWANDA - [ 13 ต.ค. 49 09:10:10 ]

ความคิดเห็นที่ 55 ขอส่งด้วยครับ วิพากษ์อักษร จากคุณ : Natt_ac121 - [ 13 ต.ค. 49 12:21:04 ]

ความคิดเห็นที่ 56 ขอเหนอหน้าด้วยนะ... "วิพากษ์ตำราตามประสาสื่อศิลป" หรือ "หนังสืออ้างอิง(ประวัตศาสตร์และการเมือง)...เรื่องจริงที่ต้องค้นหา"โดย สื่อศิลป ปล.รู้สึกไม่ค่อยจะเข้าท่า รอท่านต่อๆไปดีกว่าครับ จากคุณ : Uncle Tee - [ 13 ต.ค. 49 14:01:10 ]

ความคิดเห็นที่ 57 เอ่อ รู้สึกแต่ละชื่อจะออกแนวหนังสือเรียน "อักษรประโยค สังโยคพิธาน ไวพจน์พิจารณ์ พิศาลการันต์" งั้นผมขออนุญาตเสนอ Reader digest - -" จากคุณ : เพราะผมไม่มี Time Machine - [ 13 ต.ค. 49 14:03:40 ]

ความคิดเห็นที่ 58 เอ้า เอาใหม่ "สื่อศิลปสื่อสาระหนังสือ" เหมือนที่ว่าไว้เดิมใน คคห 45 ค่ะ ส่งประกวดอีกที :) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 13 ต.ค. 49 16:43:28 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ขอเสนอด้วยครับ "ถกตำรา..ประสาคอไวน์ ภาคประวัติศาสตร์การเมืองไทย เล่มที่ ...." ตั้งไว้เผื่อหนังสือเรื่องอื่นด้วยเลยครับ อิอิ "เปิดกรุตำรา เอามาขยาย" "ตามรอยประวัติศาสตร์การเมืองไทย จากในหนังสือ" แหะๆ คิดออกแค่นี้ครับ จากคุณ : DogRobo - [ 13 ต.ค. 49 21:32:13 ]

ความคิดเห็นที่ 60 อยากสอบถามหน่อยครับ ที่เขตปลอดทหารเกาหลีเหนือ-ใต้ ทำไมทหารเกาหลีใต้ต้องใส่แว่นตากันแดดอันโตๆด้วยครับ จากคุณ : หมาเห่าดาวเทียม - [ 13 ต.ค. 49 21:53:13 ]

ความคิดเห็นที่ 61 ชื่อลูกเลยหรือ เข้าท่าดีแฮะ ขอเก็บเอาไว้เผื่ออนาคตแล้วกัน ช่วงนี้ขอห่างเหินนิด (เดียว) พอดีมีงานใหม่เข้ามา วุ่นวายนิดหน่อย แต่เดี๋ยวก็อู้ได้เหมือนเดิม จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 15 ต.ค. 49 18:05:08 ]

ความคิดเห็นที่ 62 ขอส่งอีกชื่อได้ปะครับ อยากให้มันเหมือน รายการทีวีอะ สื่อศิลป์'s The Series, Episode 01 จากคุณ : Natt_ac121 - [ 15 ต.ค. 49 23:40:40 ]

ความคิดเห็นที่ 63 กบฏยังเติร์ก ภาคเปิดตำรากบฏ เล่มที่ ... จากคุณ : @(-_-)@ - [ 16 ต.ค. 49 11:14:27 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขอแสดงความเห็นหน่อยครับ คือ อย่าใส่ชื่อผมลงไปในชื่อกระทู้เลยครับ เพราะขอยึดหลักว่านี่เป็นกระทู้ของคุณพี่วิวันดาเขาเหมือนเดิม ผมเป็นคนที่เข้ามาเขียนคนนึงเท่านั้น และหมายความว่าท่านอื่นๆ ก็เป็นผู้มีสิทธิเข้ามาเขียนร่วมด้วยเช่นเดียวกัน ดีไหม จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 16 ต.ค. 49 13:58:19 ]

ความคิดเห็นที่ 65 โอเค ไม่มีชื่อ กระทู้ "อ่านเงียบๆ ... คิดดังๆ" ข้อแม้เยอะก็เหลือแต่อะไรทื่อๆ ยังงี้แหละ คิดไม่ออกแล้วววววว จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 16 ต.ค. 49 21:52:33 ]

ความคิดเห็นที่ 66 จะเปลี่ยนเป็นแบบเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่หรือเปล่าคะ น่าเสียดายจังค่ะ กระทู้นี้อยู่คู่ห้องสมุดมาตั้งร้อยภาค เกือบจะครบสี่ปีอยู่แล้วค่ะ ถ้าเปลี่ยนชื่อ ก็ขอให้เปลี่ยนแบบยังเหลือเยื่อใยของเก่าอยู่บ้างก็ดีนะคะ ส่วนเนื้อหาภายใน ไม่ทราบว่าจะสงวนไว้สำหรับเรื่องวิจารณ์หนังสืออย่างเดียวหรือเปล่า หากวันดีคืนร้าย อาจจะมีคำถามเกี่ยวกับการเมืองโลก ที่ส่งผลกระทบกับการค้า และจำเป็นต้องศึกษาถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของประเทศนั้นๆ อาจจะต้องเข้ามาตั้งคำถาม เพื่อหาคำตอบบ้างก็ได้ค่ะ ขอทราบคอนเซปที่ชัดเจนอีกครั้งค่ะ แล้วจะมาชิงรางวัลตั้งชื่อแบบกิ๊บเก๋ จ๊าบแบบสมวัยคนเขียน จากคุณ : กาสะลองบานแล้ว - [ 16 ต.ค. 49 22:05:44 ]

ความคิดเห็นที่ 67 ข่าวดี http://www.oocities.org/drsak/ อัพเดทแล้วครับ รวมกระทู้ยังค์เติร์ก + เส้นทางไวน์ + ผลงานเก่าๆ ของพี่วิวันดาครบชุดครับ มาทันตั้งชื่อเปิดตำนานใหม่พอดี ขอแจมด้วย "จิบไวน์น้ำลายกระเซ็น..." อักขระวิพากษ์ โดยทีมงานกบฏยังค์เติร์ก คิดนานมาก ได้แค่เนี้ย ๕ ๕ ๕ ๕ จากคุณ : ha ha yee - [ 17 ต.ค. 49 08:47:27 ]

ความคิดเห็นที่ 68 มัน "อัพ" ตรงไหนเหรอพี่หมอ เรื่องเขียนกระทู้มันก็จับฉ่ายหม้อเดิมนั่นแหละครับ ก็แค่เปลี่ยนชื่อให้หายจำเจเท่านั้นแหละ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 17 ต.ค. 49 10:09:34 ]

ความคิดเห็นที่ 69 อัพ ตรงที่ผมไม่ได้อัพเดทโฮมเพจตั้งเกือบเดือนน่ะสิครับ ก็แม่ขาสั้นคอซองของผมน่ะ เอาเอกสารมาให้แปลปึกใหญ่ๆเลย (ถ้าไม่แปลให้ เธอแปลเองได้ แต่ผมต้องเลี้ยงลูก) เลยหายหน้าไปตั้งนาน เพิ่งหัวฟูกลับมาเนี่ย กลับมาไล่อ่านกระทู้ยังเติร์กกับไวน์ หัวฟูอีกรอบ... จากคุณ : ha ha yee - [ 17 ต.ค. 49 11:36:14 ]

ความคิดเห็นที่ 70 กบฏยังเติร์ก episode 2 เป็นไงครับ กลิ่นอายเดิมๆ พอครบร้อย ก็เปลี่ยนเป็น episode 3 จากคุณ : Ronachai (amscmu) - [ 17 ต.ค. 49 15:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ชื่อแบบข้างบน .... ไม่เอาได้ไหมคะ เหมือนดูสตาร์วอร์เลยอ่ะ ตั้งใหม่นะคะ ของพี่หมอ เข้าท่าดีค่ะ แต่หนูว่า อยู่กระทู้นี้ ไม่ต้องจิบไวน์ น้ำลายก็กระเซ็นได้ค่ะ เพราะทุกวันนี้ ขนาดยังไม่จิบไวน์ ยังโม้ได้น้ำไหลไฟดับถึงเพียงนี้ ถ้าจิบไวน์เข้าไปอีกหน่อย อาจจะต้องขอร้องให้เลิก จากคุณ : กาสะลองบานแล้ว - [ 17 ต.ค. 49 21:01:06 ]

ความคิดเห็นที่ 72 อาาาา..จานนนนนน..สื่ออออออออ....(ตะโกนดังๆ) เลือกกกก ด้ายยยยย รื้ออออ ยางงงงงง (ตะโกนดังๆ อีก) (กระซิบ) จะได้แบ่งรางวัลให้ครึ่งนึง (คิกๆๆๆ) จากคุณ : Tweety สี่ตา - [ 18 ต.ค. 49 22:02:45 ]

ความคิดเห็นที่ 73 ระหว่างรออาจารย์สื่อฯ เลือกชื่อเรื่อง ขอเพิ่มเติมนิดนึงครับ "จางชุนเฉียว" หนึ่งในแก๊งค์สี่คน ได้รับลดหย่อนโทษให้เหลือจำคุก 18 ปี เมื่อธันวาคม 1997 และได้รับอนุญาตให้ออกมารักษาตัวข้างนอก แถวๆ ชานเมืองเซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนมกราคม 1998 จางเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2005 รวมอายุ 88 ปี "เหยาเหวินหยวน" แก๊งค์สี่คนคนสุดท้าย พ้นโทษ 15 ปี เมื่อเดือนตุลาคม 1996 และปัจจุบันเสียชีวิตแล้วด้วยโรคเบาหวาน เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2005 ปลายปีที่แล้วนี่เองครับ เป็นการปิดฉากแก๊งค์สี่คนโดยสมบูรณ์เมื่ออายุ 74 ปี ส่วนอีกคนที่โลดแล่นในประวัติศาสตร์ยุคปฏิวัติของจีน และเพิ่งจะจากโลกนี้ไปเมื่อไม่กี่วันนี้เอง ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นตำนานที่มีสีสันที่สุดคนหนึ่งของจีนในศตวรรษที่ 20 ผู้ซึ่งได้รับการขนานนามว่า ราชินีแห่งคณิตศาสตร์ หญิงจีนคนแรกที่ได้ปริญญาโทด้านฟิสิกส์อะตอมมิค เคยได้รับการยกย่องเป็นภริยาอันดับ 1 ของจีน นักโทษการเมือง 12 ปีฯลฯ "หวังกวงเหม่ย" ภริยาของ "หลิงเซ่าฉี" เสียชีวิตแล้ว ด้วยโรคมะเร็ง ที่ปักกิ่ง เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2006 รวมอายุได้ 85 ปี Rest in peace จากคุณ : DogRobo - [ 18 ต.ค. 49 23:26:14 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ยังเหลืออีก 3 ภาคจะครบ100 อยากให้อาจารย์สื่อศิลป์ เล่าเรื่องของจีนกับสงครามเกาหลี ต่ออีกสักนิดนะครับ จากคุณ : Mamew - [ 19 ต.ค. 49 01:08:07 ]

ความคิดเห็นที่ 75 โผมมมมมมมมมมมมไม่ใช่คนตัดสินใจคร๊าบบบบบบบบบบบบ (ตะโกนดังกว่า) ถามคุณพี่เจ๊วิวันดาเอาเองครับ ว่าคุณท่านจะเลือกชื่อไหน ยังไงผมก็เขียนได้อยู่แล้ว เรื่องของ หวังกวงเม่ย อัพเดตจริงๆ ครับ เหมือนเรากำลังย้อนกลับไปในตำนานตั้งน๊านนาน แต่ตัวละครพึ่งตายเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง ส่วนเรื่องจีนกับสงครามเกาหลี ผมเคยเขียนไว้ในภาคเกาหลีแล้วครับ ส่วนว่าอยู่ตอนไหน คงต้องรอให้พี่หมอฮันนิบาล แกมา "อัพ แอนด์ ดาวน์" รวมกระทู้ด้วยความภาคภูมิใจอีกครั้ง ก็ไม่นานหรอกครับ ประมาณ หวังกวงเม่ย แกกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งนั่นแหละ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 19 ต.ค. 49 01:32:13 ]

ความคิดเห็นที่ 76 ผมตั้งบ้าง ให้เลือกเอานะ อักขระวิธี วจีวิพากษ์ วากยสัมพันธ์ ฉันทลักษณ์ ใครชอบและเลือก 1 ใน 4 ชื่อนี้ แสดงว่า อื้อหือ.แ.....................จัง แต่ถ้าใครเห็นตัวเลือกแล้วเซ็งๆ ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แสดงว่าคุณมีวัยใกล้เคียงกับคนข้างๆ ของคุณหมอฮานิบาลครับ. จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 19 ต.ค. 49 01:36:27 ]

ความคิดเห็นที่ 77 ลงชื่อครับ อยากกลับไทย เฮ้อ จากคุณ : Natt_ac121 - [ 19 ต.ค. 49 05:48:22 ]

ความคิดเห็นที่ 78 อืมม์ จานสื่อคงแอบเห็นผมกับน้องขาสั้นคอซองคนนั้นจริงๆแฮะ รู้ไปหมด อิ อิ ลบตามคำขอ... จากคุณ : ha ha yee - [ 19 ต.ค. 49 07:07:59 ]

ความคิดเห็นที่ 79 แง้ว มะคืนกำลังนั่งอ่านภาคอักขรวิธีอยู่เลยครับ ของพระยาอุปกิตฯ ใช่บ่ อิอิอิอิ จากคุณ : คนเดินดินกินข้าวแกง - [ 19 ต.ค. 49 10:15:27 ]

ความคิดเห็นที่ 80 พี่หมอ ล่อแหลมมาก ลบด่วน จากคุณ : Natt_ac121 - [ 19 ต.ค. 49 15:38:13 ]

ความคิดเห็นที่ 81 พี่หมอขา ลบด่วนค่ะ เยาวชนขอร้อง จากคุณ : กาสะลองบานแล้ว - [ 19 ต.ค. 49 19:41:16 ]

ความคิดเห็นที่ 82 อยากสารภาพว่า เห็นสี่ชื่อของท่านสื่อแล้ว รู้สึกเซ็งๆ เพราะไม่เก๊ต กลัวโดนเหมาว่าเป็นวัยเดียวกับน้องคนข้างตัวพี่หมอจัง แต่ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทั้งสี่ชื่อนั้น แปลเป็นไทยว่าอะไรค่ะ แค่ชื่อกระทู้ยังสำบัดสำนวนถึงเพียงนี้ ถ้าถึงตอนวิพากษ์จริงๆ จะสะเด็ดสักเพียงไหนหนอ เข้าไปที่ซีเอ็ดบุ๊ค เห็นหนังสือปกดำเล่มนึง ตัวหนังสือสีแดง ชื่อว่า หัวใจกบฏ...... กรี๊ดดดดด....ชอบชื่อนี้ค่ะ จากคุณ : กาสะลองบานแล้ว - [ 19 ต.ค. 49 19:49:16 ]

ความคิดเห็นที่ 83 ไม่เข้าใจทั้งสี่ชื่อเลยครับ ดีใจจัง คุณหมอครับ ขอรูปเต็มด่วนครับ ;) จากคุณ : Ronachai (amscmu) - [ 19 ต.ค. 49 21:15:37 ]

ความคิดเห็นที่ 84 คุณหมอ ผมขอแบบคอซอง ไม่ใช่ไม่มีคอปกแบบนี้............. อึ๊ย จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 19 ต.ค. 49 22:10:34 ]

ความคิดเห็นที่ 85 ช่วงนี้ขออนุญาตไร้สาระสักพัก ขอเคลียร์เรื่องงานวุ่นๆ ให้ลงตัวก่อน แล้วค่อยว่ากันนะ ดังนั้น พลพรรคทั้งหลายช่วยมากู้หน้ากันหน่อยนะ จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ 19 ต.ค. 49 22:18:46 ]

ความคิดเห็นที่ 86 หลังจากทู้ 99 ก็เป็นทู้ 99.1 99.2 ไปเรี่อยๆสิครับ ไม่ยากๆ :> จากคุณ : หนุ่มนอก - [ 20 ต.ค. 49 06:22:44 ]

ความคิดเห็นที่ 87 จารย์สื่อฯกะพี่ด๊อกเตอร์ครับ คุณหมอกำลังยุ่ง อัลบั้มนั้นหนะ เอาหลังไมค์มั้ยครับ??? ผมมีครบเลย ปล.ฮาๆๆ แซวเล่นนะคับ ป๊าวิอย่าวางพินัลตี้ น้า จากคุณ : Natt_ac121 - [ 20 ต.ค. 49 06:36:16 ]

ความคิดเห็นที่ 88 เข้ามาทำประโยชน์ นิดหน่อยครับ กลัวอาจารย์เบี้ยว เริ่มเองดีกว่า เมื่อจตุรัสใจกลางของโลก กลายเป็นสีแดง ปี 2532 นั้น นับได้ว่าเป็นปีๆหนึ่งที่ มี ความหมาย ยิ่งใหญ่ต่อประวัติศาสตร์ โลก เป็น ปีที่ครบรอบ 200 ปีของการปฏิวัติฝรั่งเศส ครบรอบ 70 ปีของการปฏิวัติระบบการเมืองจีน และ เป็นปีที่40 ของ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน เช่นเดียวกัน เป็นปีที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์จีนยุคใหม่อย่างยิ่ง ซึ่งได้แก่ เหตุการณ์ การฆาตกรรม ณ จตุรัสประตูสันติภาพสววรค์ แห่ง อาณาจักรกลางของโลก สถานการณ์เริ่มต้นจาก ความหวังดี ของ นักเขียน นักคิด อย่าง ฟางหลี่จือ และ เป้ยเต๋า ที่ได้เขียนสาส์นปิดผนึก ส่งไปถึงผู้นำพรรค เพื่อขอร้องให้ คลายการควบคุมทางความคิด และ เปิดประตูอำนาจให้แก่ประชาชนบ้าง เพื่อให้มีระบบที่ยืดหยุ่น และ โปร่งใสขึ้นจากระบบพรรคอันคร่ำครึโบราณ ในขณะเดียวกัน ก็ได้มีการขอร้องจากประชาชนให้ปล่อยตัวคนที่ พรรค นับว่าเป็น กบฎ เช่น เว่ยจิงเซิง ช่างไฟฟ้าที่บังอาจตำหนิผู้นำพรรค และ สมัชชาแห่งชาติ แต่ผู้นำพรรคอย่างเติ้งเสี่ยวผิง จ้าวจื่อหยาง และ หลี่ผิง กลับไม่ให้ความสนใจต่อเหตุการณ์ต่างๆ โดย จัดให้ผู้นำพรรคระดับรอง ออกไปปะทะคารม กับ นักวิชาการเท่านั้น ซึ่งพูดได้ว่า ประชาชนและ นักวิชาการ ไม่พอใจอย่างยิ่ง เพราะ มีการใช้คำดูถูกต่างๆนาๆ เช่น "ยุยงให้เกิดความไม่สงบ" บ้าง "จีนไม่มีนักโทษการเมือง" บ้าง ผลที่ตามมาคือความไม่พอใจได้ กระจายไปยังชนหมู่มากดังโรคระบาด ซึ่งโรคระบาดดังกล่าวสามารถแพร่พันธุ์ได้เกินความนึกคิดของผู้นำพรรค เพราะประชาชนนั้น ดุจดั่งร่างกายที่อ่อนแอ จาก จำนวนการคอรัปชั่นที่ มหึมา ปัญหาทางสังคม และ ปัญหาทางเศรษฐกิจ ที่เน่าเฟะ กล่าวได้ว่า ในเรื่องของการคอรัปชั่นนั้น ทางพรรคเคยได้ตรวจสอบก่อนหน้า มาแล้ว ผลออกมาคือ มีเจ้าหน้าที่ ที่มีความผิดร้ายแรงถึง สองหมื่นห้าพันคน ขณะผู้ที่ได้รับการตัดสินว่าผิดจริงนั้น มีมากมายถึงแสนห้าหมื่นคน ซึ่งปัญหา ดังกล่าวนั้นเกิดจากผลพวงการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ซึ่ง การพัฒนา ของระบบสังคมตามไม่ทัน การพัฒนาเศรษกิจ อย่างรวดเร็ว นั้นเข้ากันได้ดีกับด้านมืดของสังคมจีน อย่างการจิ้มก้อง หรือ กวานซี่ ในภาษาจีนกลาง มีความหมายว่า การพึ่งพาช่วยเหลือกันของ ราชการและส่วนบุคคล หรือ ผู้ใหญ่และ ผู้น้อย โดย ทั้งคู่หวังผลตอบแทน ซึ่งกันและกัน ผลที่ตามมาคือ การคอรัปชั่นอย่าง มหาศาล เช่นเดียวกันกับปัญหาคอรัปชั่น ปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจ นั้น เกิดจาก การปรับตัวของประชาชน ต่อ เหตุการณ์ปัจจุบัน สังคมจีน เป็นสังคมที่ค่อนข้างมีความคิดอนุรักษ์นิยม และ ในขณะเดียวกัน ก็เป็น ด้ามขวาน จากรูปแบบการปกครองของคอมมิวนิส ผลของการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ย่อม ทำให้เกิดการผิดพลาด ทางสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การพัฒนาเศรษกิจอย่างรวดเร็ว หรือ อาจจะ เร็วเกินไป ทำให้ช่องว่างระหว่าง คนที่ได้รับโอกาส ขโมยโอกาส หรือ โอกาสตกใส่ ทาง ธุรกิจ ร่ำรวยมหาศาล แต่ในขณะที่ผู้พลาดรับโอกาส หรือ ผู้ที่ไม่มีทางได้รับโอกาส นั้น ยังยืนอยู่ที่เดิมในสถาพเดิมๆ ก่อนการปฏิรูป ยกตัวอย่างเช่น อาจารย์มหาลัย มีรายได้น้อยกว่าช่างตัดผม ยิ่งน้อยกว่าเป็นร้อยเป็นพันเท่า ถ้าเทียบกับ เจ้าของธุรกิจเกิดใหม่บางแห่งซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากทางราชการ หรือ อีกหนึ่งตัวอย่างเช่น ตัวเลขคนไม่รู้หนังสือในชนบท ที่นับวันยิ่งพุ่งติดจรวดพอๆกับตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ในอีกส่วนนึงของปัญหา คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ตัวเลขเงินเฟ้อในปี 2531 นั้น นับได้ว่าน่ากลัวมากคือ มีสองหลักตลอดปี รวมถึงดุลการค้าที่ติดลบต่อกันมาหลายๆปีด้วย การลงทุนของต่างชาติ ก็ ได้รับความลำบากจากความไม่เข้าใจและไม่เข้าถึงของนายจ้างฝรั่งต่อ ลูกจ้างที่แสนจะเจ้าเลห์ชาวจีน เช่น การลงทุนของจี๊ปในจีน ที่มีปัญหามากมายก่ายกอง ปัญหาต่างๆดังกล่าวได้สร้างรอแผลลึกในใจแก่อาจารย์ นักศึกษามหาลัย และผู้อื่น อาชีพอื่นที่ได้รับผลกระทบจากความไม่พอเพียงในเศรษฐกิจ ความไม่พอใจต่างๆได้เริ่มเกิดขึ้นไปทุกหัวระแหง จนกระทั่งเกินขีดจำกัดของสังคม ในปี 2532 เริ่มต้นด้วยการตายกระทันหันของ หูเย่าปัง อดีตกรรมการประจำกรมการเมือง ในวันที่ 15 เมษายน 2532 ซึ่งนักศึกษา และ ผู้ไม่พอใจรัฐบาล หวังจะได้ใช้โอกาสดังกล่าวในการประท้วงรัฐบาล ดังในปี 1976 ที่โจวเอินไหลตาย จากคุณ : เด็กน้อย (Natt_ac121) - [ 20 ต.ค. 49 17:08:42 ]

ความคิดเห็นที่ 89 ความคิดริเริ่มดังกล่าว กล่าวกันว่าได้มาจาก บรรดานักศึกษา คณะประวัติศาสตร์ ของ มหาวิทยาลัยประชาชน ในปักกิ่ง ที่นับได้ว่าเป้นมหาลัยของพรรคโดยตรง บรรดานักศึกษานั้น ก็เป็นลูกท่านหลานเธอเกือบทั้งหมด โดยการเริ่มต้นความคิดประท้วง ได้รับการสนับสนุนแล้วร่วมมือจาก นักศึกษามหาลัยที่อื่นๆมาร่วมด้วยเช่นกัน ในวันที่ 17 เมษายน เป็นวันแรกที่นักศึกษาเริ่มการเรียกร้องโดย มาชุมนุมไว้อาลัยหูเย่าปัง และเรียกร้อง ให้พรรคดำเนินการปฏิรูปแก้ไขความผิดพลาด ทางเศรษฐกิจและโดยด่วน รวมไปถึง มีการปิดใบประชาสัมพันธ์(โปสเตอร์) ตามกำแพงต่างๆในที่สาธารณะและมหาวิทยาลัย ซึ่งการปิดใบประชาสัมพันธ์ นั้น เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ในวันที่ 18 การชุมนุมของนักศึกษาได้เริ่มมีการท้าทายพรรค โดย ได้ไปชุมนุมประท้วงกันหน้า ทำเนียบ จงหนานไห่ และ มหาศาลาประชาชน ในขณะเดียวกัน ทางพรรคก็ได้แก้เกมส์โดย ประกาศให้วันที่ 22 เป็นวันไว้อาลัย และ พิธีศพ หูเหย่าปัง อย่างเป็นทางการ และ ที่สำคัญ ห้ามมีการชุมนุมโดยเด็ดขาด แต่พอถึงในวันที่ 22 นั้น ทางฝั่งนักศึกษา ได้ บุกทะลวงเข้าไปประท้วงถึงใน จตุรัสเทียนอันเหมินก่อน ที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยในพิธีการจะเคลื่อนพลมาถึง นักศึกษาบางคนได้ทำถึงกระทั่ง คุกเข่าหน้ามหาศาลาประชาชน เพื่อ ขอร้องให้ นายกรัฐมนตรีหลี่ผิง ออกมาเจรจาด้วย แต่ นักศึกษานั้นไม่ได้เห็นแม้กระทั่งเงาของหลี่ผิง จนกระทั่งถึ่งวันที่ 24 นักศึกษาทั่ว ปักกิ่งได้สไตรค์ ไม่เข้าห้องเรียนทั้งหมด เพื่อกดดันให้ผู้นำพรรค หันมาให้ความสนใจในข้อเรียกร้อง แต่ผลที่ตามมาคือ หนังสือพิมพ์ ประชาชน ของพรรค ได้ออกมาโจมตี นักศึกษา ว่าเป็นการแอนตี้พรรคและบ่อนทำลายอย่างยิ่ง ซึ่งคาดคะเนว่าเป็นไปตามคำสั่งของคนตัวเตี้ยชื่อเติ้ง พอจ้าวจื่อหยางกลับมาจากเกาหลีเหนือก็โวยวายเละเทะ เกี่ยวกับหนังสือพิมพ์ที่ไม่ได้ทำตามนโยบายตน ในฐานะที่เป็นเลขาธิการใหญ่ของพรรค ต้องไปละครับเดี๋ยวมาต่อ จากคุณ : เดี๋ยวดึกๆมาต่อครับ (Natt_ac121) - [ 20 ต.ค. 49 17:34:41 ]

ความคิดเห็นที่ 90 อะฮ้า อนุญาตให้อาจาร์สื่อพักยาวได้สองสัปดาห์ค่ะ เดี่ยวมือสอง กะลังมันส์มือ อยากอ่านอยู่พอดีค่ะ ว่าแต่น้อง Natt สอบเสร็จแล้วหรือคะ ถ้ายังติดสอบอยู่ ก็อย่าเข้ามาบ่อยนักนะคะ ประเดี๋ยวจะ "ห้าปีเต็ม" เหมือนพี่ด๊อกเตอร์ข้างบนนั่น! คุณหนุ่มนอกหายไปนานนะคะ....กลับมาคราวนี้ เสนอไอเดียได้บรรเจิดจริงค่ะ ^-^ จากคุณ : กาสะลองบานแล้ว - [ 20 ต.ค. 49 20:16:03 ]

ความคิดเห็นที่ 91 เชิญเลยครับ กำลังรอเรื่องเทียนอันเหมินมาปิดฉากประวัติศาสตร์จีนยุคปฎิวัติครั้งสุดท้ายก่อนกลายมาเป็นประเทศสองระบบที่มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมากที่สุดในโลกอยู่ในขณะนี้ (หลังจากปล่อยให้ไต้หวันแซงทางโค้งไปเมื่อยุคปฎิวัติวัฒนธรรม) การก่อเกิดของความไม่พอใจนี่ มีปัจจัยภายนอกเข้ามาผสม ก็คือนโยบายเปเรสตอยก้า และกลาสนอส ของพ่อหัวแผนที่ ซึ่งส่งผลให้โซเวียตง่อนแง่นจนล้มสลายไปในที่สุด ขณะเดียวกันก็จุดประกายให้หนุ่มสาวชาวจีนที่กำลังเซ็งกับระบบคอมมิวนิสต์ ที่ไม่มีอนาคต เมื่อเทียบกับนายทุนหน่ออ่อนที่ผุดขึ้นมาจากระบบเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น ที่เป็นรูปธรรมของนโยบายสี่ทันสมัยของเติ้ง มรดกชิ้นสุดท้ายของโจวเอินไหล หนุ่มสาวชาวมหาวิทยาลัยจึงเริ่มตั้งคำถามกับนักปฎิวัติรุ่นพ่อรุ่นแม่ว่า จริงๆ แล้วสายลมแห่งชิวเทียนมิอาจเปลี่ยนทิศได้จริงหรือ จากคุณ : ฟางลี่อ (สื่อศิลป) - [ 21 ต.ค. 49 00:43:29 ]

ความคิดเห็นที่ 92 อะแฮ่ม ห้าปีนั่นไม่อยากจะบอกว่าเร็วที่สุดแล้วนะครับในหมู่นร.ไทยที่ภาควิชานั้น มีอยู่หกคนจบกันที่ ห้าปี กับห้าปีครึ่ง ทั้งน้าน เรื่องชื่อกระทู้นั่นถ้ยังไม่ลงตัวก็ต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบสองร้อย แล้วค่อยมาว่ากันใหม่ ดีมั้ยครับ เพิ่งกลับมาจากดอยอ่างขางครับ อากาศเย็นดี จากคุณ : Ronachai (amscmu) - [ 21 ต.ค. 49 22:45:51 ]

ความคิดเห็นที่ 93 ยังส่งชื่อร่วมประกวดทันไหมครับ ขอนำเสนอ "สัพเพเหระสบายๆ สไตล์สื่อศิลปและคณะ" อ่านความเห็นข้างบนแล้วรับทราบว่าอาจารย์สื่อฯ ไม่อยากให้มีชื่อตัวเองลง แต่ผมมองว่า อาจารย์สื่อฯเป็นคนเขียนหลัก บรรดามิตรรักแฟนเพลง ติดใจสำนวนการเขียนของ อาจารย์สื่อฯ จึงเลือกชื่อนี้ หรือถ้าลำบากใจก็ขอส่งชื่อนี้ครับ "วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ เรื่อยๆเปื่อยๆ" โดยทีมงานกระทู้ยังค์เติร์ก หรือผมว่า ที่คุณ Ronachai (amscmu) เสนอก็ไม่เลวนะครับ เป็นภาคๆไปเลย ภาคละ 100 ตอน ขอตัวไปทำงานต่อละครับ กรรมครับงานเยอะเจงๆ วันอาทิตย์ยังต้องมาทำงานเลย ปล.ต้องวิดน้าด้วย กรรมจริงๆ........ จากคุณ : ryzon - [ 22 ต.ค. 49 10:46:23 ]

ความคิดเห็นที่ 94 ขอผลัดวันประกันพรุ่งไปก่อนครับ คืนวันศุกร์ เข้าไม่ได้เฉยเลย ตอนนี้มีธุระครับ จากคุณ : Natt_ac121 - [ 22 ต.ค. 49 12:11:10 ]

ความคิดเห็นที่ 95 ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอต่อเรื่องเทียนอันเหมินให้จบไปเลยเนอะ อย่างที่ว่าไว้แล้วว่า เมื่อเติ้งสถาปนาอำนาจให้ตัวเองจนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เดินหน้าพัฒนา สี่ ทันสมัยตามมรดกที่โจวทิ้งไว้ให้ รูปธรรมแรกคือเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น ที่มีทั้งด้านดีและด้านลบ ด้านดี คือ ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวไปได้ และดูเหมือนจะดีกว่ายุคก้าวกระโดดใหญ่ของเหมาเสียอีก แต่ด้านไม่ดี คือ เกิดภาวะซ้อนทางเศรษฐกิจขึ้น เพราะฝั่งที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ก็ต้องทนทุกขระทมกับอัตราค่าแรงหรือเงินเดือนที่แสนจะต่ำต้อย ขณะที่ฝั่งโน้น ค่าแรงผลตอบแทนดูจะสมน้ำสมเนื้อมากกว่า อีกแบบ คือ คำร่ำลือถึงเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ถึงขนาดที่เติ้งเอิงชาต้องเดินทางไปดูด้วยตัวเอง สถานการณ์ภายนอกก็ไม่เป็นใจ ความวุ่นวายในยุโรปตะวันออก โดยเฉพาะสายลมที่เปลี่ยนทิศที่มอสโคว์ ทำให้คนชักมองว่า หากจีนปฎิรูปการเมืองแบบโซเวียตอาจจะดีก็ได้ และสถานการณ์สุกงอมสุดท้ายของเหตุการณ์นี้คือ การเสียชีวิตของหูเย่าปังด้วยอาการหัวใจวาย เมื่อวันที่ 15 เมษายน 1989 ทำให้นักศึกษาที่มีแนวคิดที่จะเรียกร้องให้มีการปฎิรูปได้เดินตามแนวทางสมัยเมื่อครั้งโจวเอินไหลตาย คือ อาศัยสถานการณ์นี้มาชุมนุมที่เทียนอันเหมิน โดยเริ่มที่นักศึกษาคณะประวัติศาสร์ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง แล้วจึงขยายไปสู่มหาวิทยาลัยอื่นๆ จากคุณ : เย่าปัง (สื่อศิลป) - [ วันปิยมหาราช 22:58:24 ]

ความคิดเห็นที่ 96 วันที่ 22 เมษายน รัฐบาลประกาศให้เป็นวันจัดงานศพหูเย่าปัง พร้อมกับประกาศห้ามการเดินขบวนด้วย แต่นักศึกษาไม่สนใจ และเข้ายึดพื้นที่เทียนอันเหมิน พร้อมกับเริ่มเรียกร้องรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีหลี่เผิง ให้ออกมาเจรจากันในเรื่องของการปฎิรูปเศรษฐกิจให้อยู่ดีกินดีขึ้น นอกจากจะไม่เจรจาแล้ว หนังสือพิมพ์ของรัฐยังลงบทบรรณาธิการประนามการชุมนุมของนักศึกษาที่ตอนนี้มีจำนวนกว่าห้าแสนคนแล้วว่าเป็นพวกค้านพรรค แต่เมื่อจ้าวจื่อหยางเดินทางกลับมาจากการเยือนเกาหลีเหนือ จ้าวก็พูดแย้งหนังสือพิมพ์เองว่ารัฐบาลไม่ได้มองนักศึกษาอย่างนั้น และพร้อมจะเจรจา ที่สำคัญ คือ มีการซุบซิบกันว่า บทบรรณาธิการที่กล่าวประณามนักศึกษาที่มาชุมนุมกันนั้น เป็นคำสั่งของเติ้งเสี่ยวผิงเอง แรงกดดันของรัฐบาลจีนอีกประการนึงคือในช่วงวันที่ 15 พ.ค.หรืออีกครึ่งเดือนข้างหน้านั้น กอร์บาชอฟ เจ้าของนโยบายพลิกโลก มีกำหนดการเดินทางมาเจรจากับเติ้งเสี่ยวผิง ซึ่งไม่ค่อยเป็นผลดีกับรัฐบาลจีนที่ไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนนโยบายแบบโซเวียต แถมนักศึกษายังชุมนุมประจานรัฐบาลจีนที่มีสื่อมวลชนเสนอข่าวออกไปทั่วโลก สุดท้ายกอร์บาชอฟก็ได้เดินทางมาปักกิ่ง พร้อมกับได้รับการต้อนรับอย่างดีจากนักศึกษาที่ชุมนุมที่เทียนอันเหมิน เพื่อเป็นการสะท้อนทรรศนะที่จีนต้องการนโยบายเสรีแบบกอร์บาชอฟ และเพื่อเพิ่มความกดดันให้รัฐบาล นักศึกษากว่า 3 พันคนก็เริ่มอดอาหารประท้วง รวมทั้งมีตัวแทนจากทุกสาขาอาชีพเริ่มเดินทางมาชุมนุมและเป็นกำลังใจให้กับนักศึกษา พร้อมกันนั้นเติ้งก็เริ่มเดินสายเงียบๆ เพื่อไปพบกับผู้บัญชาการเหล่าทัพในแต่ละภาค ซึ่งตอนนั้นก็ไม่มีใครรู้ว่า สิ่งที่เติ้งไปคุยคืออะไร จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ใช้กำลังทหาร ตจว.เข้าปราบปรามนักศึกษา จึงคาดว่าเติ้งเดินทางไปเพื่อประสานงานกับทหารต่างจังหวัดให้เข้ามาจัดการกับนักศึกษากลางเมืองนั่นเอง ข้างฝ่ายนักศึกษาก็รุกอีกขั้น เมื่อทราบว่าการชุมนุมครั้งนี้ได้รับการเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนออกไปทั่วโลก จึงได้ทำเทพีสันติภาพจำลอง เป็นรูปผู้หญิงถือคบไฟ สูงกว่า 30 ฟุต เอามาติดตั้งที่เทียนอันเหมิน เพื่อสื่อความหมายออกไปยังสื่อต่างๆ และเจ้าเทพีนีเองที่ทำให้รัฐบาลปักกิ่งทนเห็นภาพแสลงตาไม่ไหว คำสั่งเคลื่อนกำลังทหารจึงออกมาในคืนวันที่ 30 พ.ค.นั้นเอง เป็นกองทัพที่ 27 และกองทัพที่ 38 ซึ่งเป็นกองทัพชั้นยอดของกองทัพปลดแอก เริ่มเคลื่อนทัพเข้ามาที่เทียนอันเหมินในคืนวันที่ 3 มิถุนายน เวลา 24.00 น. และเมื่อเริ่มนาทีแรกของวันที่ 4 มิถุนายน ทหารที่นำโดยรถถังและรถหุ้มเกราะก็เริ่มตะลุยเข้าไปในฝูงชนที่ชุมนุมอยู่ พร้อมยิงและบดขยี้ทุกอย่างที่ขวางหน้าจนย่อยยับ นักศึกษาและชาวปักกิ่งที่อยู่ในบริเวณนั้นพยายามสู้เท่าที่จะทำได้ ซึ่งมีเพียงระเบิดโมโลตอฟ คอกเทล เท่านั้นที่มีประสิทธิภาพพอที่จะทำให้ทหารชะงักลงบ้าง แต่ท้ายที่สุด ทุกอย่างก็จบลงเพียงในเวลาไม่กี่ชั่วโมง พร้อมชีวิตของผู้ชุมนุมที่ไม่เคยเปิดเผย และไม่เคยปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีจำนวนเท่าไรกันแน่ หลังเหตุการณ์ครั้งนั้น ผู้นำนักศึกษาจำนวนนึงถูกจับคุก บางส่วนหนีไปได้และลี้ภัยอยู่ในสหรัฐฯ (เขาว่าโดยการช่วยเหลือจากซีไอเอ) และมีบทบาทในการให้สัมภาษณ์โจมตีรัฐบาลจีนอยู่พักนึง ก่อนจะเงียบหายไป เติ้งเสี่ยวผิงในฐานะผู้นำได้ออกแถลงการณ์ถึงเหตุการณ์นี้เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน โดยยังคงยืนยันความถูกต้องของรัฐบาลและประนามการกระทำของนักศึกษา และปลายเดือนนั้น จ้าวจื่อหยาง ที่แสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจนักศึกษา ก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งเลขาธิการใหญ่ โดยเติ้งเลือกเอาเจียงเจ๋อหมิน อดีตเลขาธิการพรรคเซี่ยงไฮ้ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน และคนนี้ก็ได้เดินทางมาจนถึงตำแหน่งประธานาธิบดี อย่างที่ทราบกันดี และหลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าท้าทายอำนาจเติ้งเสี่ยวผิงอีก จนกระทั่งก่อนหน้าที่จะมีการมอบเกาะฮ่องกงคืนให้กับจีนได้ไม่นาน เติ้งเสี่ยวผิง ผู้นำจีนคนสุดท้ายที่เคยร่วมเดินทัพทางไกลมาร่วมกับสหายหลายๆ คน เพื่อปลดปล่อยประเทศจีน ก็ได้เดินทางไปพบกับเหมาเจ๋อตุง โจวเอินไหล จูเต๋อ และเจียงชิงบนสวรรค์ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อมาเจอกันอีกครั้ง สหายเหล่านี้จะถกเถียงกันเรื่องของแผนการเดินทัพทางไกล หรือว่าแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ ดีไม่ดี อาจจะหมดเวลาไปกับการถกเถียงว่า การใช้กำลังทหารปลดแอกเข้าปราบปรามประชาชนนั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ ขณะที่แผ่นดินจีนที่สหายเหล่านี้อุทิศเลือดเนื้อและชีวิตนำการปฎิวัติแนวทางสังคมนิยมและคอมมิวนิสต์มามอบให้ด้วยความยากลำบาก กำลังเดินหน้าไปสู่ประเทศทุนนิยมอย่างเต็มสตรีม เริ่มต้นจากการเข้าร่วม wto และสร้างปรากฎการณ์เป็นประเทศที่มีทุนสำรองมากที่สุดในโลก และเป็นประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐฯมากมายมหาศาลโดยยังไม่ได้ยิงกระสุนแม้แต่นัดเดียว จากคุณ : WTO (สื่อศิลป) - [ วันปิยมหาราช 23:26:29 ]

ความคิดเห็นที่ 97 อีก 3 โพสต์ พลพรรคเข้ามาช่วยปิดให้เต็มร้อยครับ จะได้ขอเจ๊แกขึ้นกระทู้ใหม่ เรื่องใหม่สักที จากคุณ : สื่อศิลป (สื่อศิลป) - [ วันปิยมหาราช 23:29:05 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ไม่รอแล้วย่ะ ขึ้นกระทู้ใหม่เลย เพราะ มันอืดแล้ว และรอ คคห. ที่ 98 เพื่อจะขึ้นตอนที่ 98 ไงล่ะ ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ K4818163 จากคุณ : WIWANDA - [ 24 ต.ค. 49 07:00:49 ]