นิราศพระประธม(พระปฐมเจดีย์)เป็นอีกผลงานหนึ่ง และนกยังเป็นสีสันของคำกลอนเช่นเดิม เส้นทางเดินสายนี้ ออกจากบางกอกตัดไปแม่น้ำนครชัยศรีสู่นครปฐม นกที่พบเห็นบ่อย น่าจะเป็นนกกดกับนกกระเหว่า(กาเหว่า) เพราะเขียนถึงนกชนิดนี้ 2 ครั้ง และในผลงานนิราศก็มีลีลา"ดูนก"เช่นเคย

ดูทุ่งกว้างวางเวกหมอกเมฆมืด บรรพตพืดภูผาพนาสิณฑ์
ฝูงวิหคนกกาเที่ยวหากิน ตามที่ถิ่นเขตแคว้นทุกแดนดาว
บ้างเดินดินบินว่อนขึ้นร่อนร้อง ริมขอบหนองนกกระกรุมคุ่มดุ่มขาว
ค้อนหอยย่องมองปลาแข้งขายาว อีโก้งก้าวโก้งเก้งเขย่งตัว
กระทุงทองล่องเลื่อนดูเกลื่อนกลาด ไม่คลาคลาดคลอเคลียเหมือนเมียผัว
มีต่างต่างยางกรอกนกดอกบัว เที่ยวเดินยั้วเยี้ยย่องที่ท้องนา
นกกระจาบขาบคุ่มอีลุ้มร่อน ดูว้าว่อนเวียนเร่ในเวหา
เห็นยางเจ่าเซาจับคอยสับปลา นกกระสาซ่องซ่องค่อยย่องเดิน

ดูเหมือนว่าเส้นทางสายนี้จะมีนกมากกว่าทางอื่น เพราะบอกเล่าถึงนกหลากหลายชนิด และถัดมาไม่ไหร่ ก็กล่าวถึงนกอีกช่วงหนึ่ง

ริมลำคลองสองฝั่งสะพรั่งพฤกษ์ พินิจนึกเหมือนหนึ่งเขียนบ้างเกรียนโกร๋น
นกอีลุ้มคุ่มขาบจิบจาบโจน กระพือโผนโผผินขึ้นบินโบย
บนไม้สูงฝูงเปล้านกเค้ากู่ กระลุมพูโพระโดกเสียงโหวกโหวย
วิเวกใจได้ยินยิ่งดิ้นโดย ละห้อยโหยหาน้องในคลองลัด

คราวนี้มาดูเส้นทางสายบางกอกกับเพชรบุรีบ้างเป็นอย่างไร การเดินทางส่วนใหญ่จะเลาะชายฝั่งทะเล แต่ก็ได้เดินเท้าบ้าง

ได้ชมเพลินเดินมุ่งดูทุ่งกว้าง มีแถวทางเถื่อนท่าชลาสินธุ์
ฝูงวิหคนกกาเที่ยวหากิน บ้างโบยบินว้าว่อนบ้างร่อนเรียง
ที่ไร้คู่อยู่เดียวก็เที่ยวร้อง ประสานซองสกุณาภาษาเสียง
กินปลีเปล้าเขาไฟจับไม้เรียง กรอดเคียงคู่กรอดแล้วพลอดเพลิน

อ้อ ! เส้นทางสายเพชรบุรีก็มีนกกลุ้มให้เห็น ดังว่า

ได้ชมเล่นเห็นแต่นกวิหคกลุ้ม เที่ยวดุ่มดุ่มเดินดินกินมัจฉา
กลางสมุทรผุดโผล่ล้วนโลมา ดูหน้าตาแต่ละตัวน่ากลัวเกรง