September 23-24, 2003 ... Part |1| |2| |3|

หลังจากพวกเราสะบักสะบอมกับการเดินทางไปดูงานที่เหมืองทองคำ จังหวัดพิจิตร แต่โชคดีหน่อยครับที่ฝนไม่ตกเลย พวกเราก็นั่งรถตู้ขึ้นเหนือต่อไปยังจังหวัดพิษณุโลกเพื่อไปพักยังที่นั่น ทำไมเราไม่พักที่ิืพิจิตรเหรอครับ....คำตอบก็คือจังหวัดพิจิตรนั้นเป็นจังหวัดเล็กๆหาโรงแรมยากครับ เรียกได้ว่าจังหวัดพิษณุโลกที่อยู่ใกล้กว่ามีโรงแรมให้พักมากกว่า จึงเป็นจุดหมายปลายทางของเราในยามเย็นของวันที่ 23 กันยายน 46

เรามาถึงโรงแรมที่ตั้งอยู่กลางใจเมืองพิษณุโลกตอนประมาณห้าโมงครึ่ง ใช้เวลาขับรถจากพิจิตรแค่ครึ่งชั่วโมง ผมได้ห้องริมขวาสุดชั้น 3 เป็นเตียงคู่ครับ

สภาพภายในห้องสะอาด ดูดีครับ มีโทรทัศน์ ตู้เย็นพร้อมเครื่องดื่มภายใน

ภายในห้องน้ำสะอาดพอควร แต่น้ำร้อนนี่เวลาเปิดรู้สึกจะร้อนช้าไปหน่อยนะครับ (อาบจนจะเลิกอยู่แล้วเพิ่งมาร้อน)

วิวที่มองออกไปภายนอกห้องพัก ซึ่งออกจะรกๆไปหน่อยครับ

ซูมออกไปเห็นรุ้งกินน้ำเลยเก็บภาพมาฝาก

เดินเข้าไปจะเจอกับประตูทางเข้าซึ่งเขียนไว้ว่าพระพุทธชินสีห์

พระพุทธชินสีห์อีกรูปหนึ่งครับ

หลังจากนั้นพวกเราก็เดินไปรอบๆ ด้านก่อนทางเข้าจะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่หลายองค์

ที่เห็นในรูปเป็นทางเข้าไปในโบสถ์ โดยมีพระพุทธชินราชประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่ภายใน...เราเข้ากันไปเลยครับ

เมื่อเข้ามาภายในโบสถ์รู้สึกเลยว่าพุทธลักษณะท่านงดงามจริงๆ

ผมขอนำข้อมูลย่อๆมาดังนี้ครับ "หน้าตักกว้าง ๕ ศอก คืบ ๕ นิ้ว
ผันพระพักตร์ไปทางแม่น้ำ พระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปสำคัญ ซึ่งพระมหากษัตริย์ไทยทรงเคารพนับถือสักการะบูชา
มาแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา ดังมีรายพระนามที่ปรากฎในพงศาวดาร คือ สมเด็จพระราเมศวร สมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ สมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูร สมเด็จพระมหาธรรมราชา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมเด็จพระเพทราชา พระเจ้าบรมโกฐ พระเจ้ากรุงธนบุรี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรี องค์ต่อ ๆ มาเกือบทุกพระองค์
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสรรเสริญไว้ว่า พระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศาสดา ทั้ง ๓ พระองค์ เป็นพระพุทธปฏิมากรดีล้ำเลิศ ประกอบไปด้วยพุทธลักษณะอันประเสริฐ มีสิริอันเทพยดาหากอภิบาลรักษา ย่อมเป็นที่สักการะบูชานับถือแต่โบราณ"