| 
 ปีที่ 1 ฉบับที่ 10 เดือน กันยายน 2543 ISSN 1513-4288 | ||
|   
 สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดงานสัปดาห์ วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประจำปี 2543 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิต์ เมื่อ 18 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 |   
 กระทรวงกลาโหม โดยสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทหารกลาโหม เข้าร่วมจัดนิทรรศการสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ปี ๔๓ ร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ ๑๘–๒๔ ส.ค.๔๓ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนำผลงานวิจัยดีเด่นของกองทัพ ที่สามารถขยายผลนำไปใช้งานหรือแก้ปัญหาของกองทัพมาร่วมจัดแสดงดังนี้ โครงการอาวุธปล่อยนำวิถี 
 โครงการวิจัยพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของ กห. 
 
 เป็นการนำเสนอวิธีการรักษาความปลอดภัยข้อมูลด้วยกุญแจรหัสอิเล็กทรอนิกส์ ควบคุมการทำงานด้วยระบบไมโครโปรเซสเซอร์ที่มีความปลอดภัยสูง สร้างความมั่นใจให้กับผู้บังคับบัญชา และผู้ปฏิบัติงานได้อย่างดี โครงการวิจัยพัฒนาระบบภูมิศาสตร์สารสนเทศเพื่อใช้ในกิจการทหาร 
 
 
 
 เป็นการนำข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียมที่มีรายละเอียดสูงมาสนับสนุนภารกิจทางทหาร โดยแสดงเป็นภาพ ๓ มิติ และสามารถแสดงสถานการณ์แบบ Real Time ได้ มีการสาธิตการพิสูจน์ทราบเป้าหมายทางภาคพื้นดินให้ชมเป็นตัวอย่างด้วย โครงการพัฒนาเสบียงสำเร็จรูปแบบใหม่ 
 
 
 เสบียงของกองทัพได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้กำลัง พลพกติดตัวนำไปรับประทานขณะปฏิบัติภารกิจพิเศษ ซึ่งสามารถเปิดรับประทานได้ง่ายมีขนาดเบาสะดวกต่อการพกพา เก็บไว้ได้นานมากกว่า ๑ปีขึ้นไปนอกจากนี้ยังมีรายการอาหาร มากมาย ให้เลือก และมีปริมาณสารอาหาร ที่เพียงพอต่อความ ต้องการของร่างกายในแต่ละวัน โครงการพัฒนาแบบจำลองอุโมงค์ลมทางดิ่งเพื่อจำลองการดิ่งพสุธา 
 
 
 
 
 ใช้ในการศึกษาเพื่อลดอันตรายจากการฝึกดิ่งพสุธาโดยอากาศยาน มีประโยชน์ต่อการฝึกการดิ่งพสุธา สามารถฝึกได้ในทุกสภาพอากาศ ผู้ฝึกจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากครูฝึก นอกจากจะช่วยลด อันตรายจากการฝึกแล้ว ยังประหยัดค่า ใช้จ่ายและช่วยลดเวลา ในการฝึกได้เป็นอย่างดี โครงการวิจัยเครื่องยนต์ดีเซลขนาด ๒๐–๓๐๐ แรงม้า 
 
 
 กรมอู่ทหารเรือ ได้ทดลองศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด ๒๐๐ แรงม้า โดยใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตได้ในประเทศ เพื่อแสวงหาเทคโนโลยีในการผลิตและถ่ายทอดให้ โรงงานขนาดเล็กและขนาดกลางเป็นผู้รับช่วงการผลิตต่อไป 
 โครงการพัฒนา ปลย.๑๑ (HK 33) ชนิดสั้น 
 
 โครงการวิจัยลูกระเบิดยิงจากปืนเล็กแบบ ๒๒ ชนิดสังหารทำลาย 
 
 ลูกระเบิดยิงจากปืนเล็ก ๒๒ ชนิดสังหารทำลายนี้ กรมสรรพวุธทหารบกได้พัฒนาขึ้นมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๐ โดยปรับปรุงหัวรบให้มีอำนาจทำลายมากกว่าลูกระเบิดยิงชนิดสังหารบุคคลถึง ๓ เท่า ปรับปรุงชนวนและระบบนิรภัยโดยใช้ปลอกพาลสติกใส่ ให้ผู้ใช้สังเกตดูความเรียบร้อยของชนวนก่อนนำไปใช้งานได้ นอกจากนี้ยังมีขนาดเล็กพกพาสะดวก การใช้งานง่ายและปลอดภัยเพราะมีระบบนิรภัยถึง ๓ ชั้นด้วยกัน ได้ทำการทดสอบและได้รับการรับรองมาตรฐานจากกองทัพบกแล้ว 
 โครงการวิจัยลูกระเบิดขว้างสังหารแบบพลาสติก 
 
 
 เป็นลูกระเบิดขว้างที่มีเปลือกทำด้วยพลาสติก ภายในมีลูกปรายเหล็กขนาดเล็ก จำนวน ๒,๐๐๐ เม็ด มีอำนาจการทำลายได้ดีในรัศมี ๑๐ เมตร ถึง ๑๕ เมตร มีขนาดเบา ไม่เป็นสนิมเมื่อเก็บรักษาไว้เป็นเวลานาน ผลงานวิจัยนี้ได้รับรางวัลชมเชยผลงานคิดค้นหรือสิ่งประดิษฐ์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประจำปี ๒๕๓๖ สาขาวิศวกรรมศาสตร์และอุตสาหกรรมวิจัย จาก สภาวิจัยแห่งชาติ 
 โครงการวิจัยลูกระเบิดยิงจากปืนเล็กแบบ ๒๒ ชนิดสังหารบุคคล 
 
 
 เป็นลูกระเบิดยิงสังหารบุคคลทรงตัวด้วยแพนหาง สำหรับใช้ยิงจาก ปลย.เอ็ม ๑๖ และ ปลย.๑๑ ด้วยกระสุนขนาด ๕.๕๖มม.ใช้สวมเข้ากับปลอกป้องกันแสงของปืน ภายในหัวรบบรรจุลูกปรายเหล็กขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๓.๒ มม. จำนวน ๓๐๐ เม็ด เป็นโครงการซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประเทศ และได้รับรางวัลจากสภาวิจัยแห่งชาติ โครงการวิจัยรักษาโรคมะเร็งด้วยเลเซอร์ 
 
 การรักษามะเร็งด้วยเลเซอร์เป็นการรักษามะเร็งวิธีการใหม่ที่สามารถทำลายเฉพาะเซลมะเร็ง แต่ไม่ทำลายเซลปกติ ซึ่งจะสามารถลดผลแทรกซ้อนในการรักษาโรคมะเร็งลงได้ เช่น ความพิการจากการผ่าตัดเนื้อเยื่อบางส่วนออกไป หรือแม้แต่อาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ผมร่วง ผิวไหม้เกรียม และอ่อนเพลียจากการฉายรังสี หรือการใช้ยาเคมีบำบัด เป็นต้นโครงการวิจัยรักษามะเร็งด้วยเลเซอร์ ดำเนินการโดย ศูนย์วิจัยทางการแพทย์ ร.พ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ผลของความร่วมมือในการจัดนิทรรศการของ กห. ครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างส่วนราชการ ภาคพลเรือน และประชาชนทั่วไปแล้ว ยังเป็นการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดีของ กห. โดยรวม ในการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้พัฒนากองทัพ แสดงวิสัยทัศน์ของการวิจัยในอนาคตที่มุ่งเสริมขีดความสามารถด้านการป้องกันประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ โดยยึดหลักการพึ่งพาตนเองมากที่สุด 
 
 | |