" วันนี้เป็นสำคัญวันหนึ่งในทางพระพุทธศาสนา คือ วันมาฆบูชา
ซึ่งเป็นวันมหาสังฆสมาคม ของพระอรหันต์รุ่นแรก 1,250 รูป ที่มารับพุทธโอวาท
ที่ว่าด้วยหลักการ วิธีการ และแนวทางปฏิบัติ เพื่อจะได้นำไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อประโยชน์สุขของมวลมนุษยชาติทั้งหลาย
มวลมนุษย์ก็จะได้สร้างบารมี ได้ดำเนินชีวิตเป็น เพราะ มนุษย์ส่วนใหญ่
ไม่รู้เลยว่าเกิดมาทำไม
และไม่รู้ว่าโลกมนุษย์นี้เป็นโลกแห่งการเกิดมาสร้างบารมี
เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง เพราะขึ้นชื่อว่าเกิดมาได้อัตภาพนี้แล้ว
ต่างก็มีวัตถุประสงค์ หรือภารกิจหลักเพื่อมาทำพระนิพพานให้แจ้ง
ผู้รู้คือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านตรัสเอาไว้ว่า
|
นิพพานัง
ปรมัง สุขัง
นิพพานเป็นบรมสุข คือสุขอย่างยิ่ง
นิพพานัง ปรมัง วทันติพุทธา
พระพุทธเจ้าทั้งหลายกล่าวว่า พระนิพพานเป็นเยี่ยม
นี้เป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกๆพระองค์
|
ซึ่งท่านผ่านประสบการณ์ชีวิตมายาวนาน ทุกระดับ ตั้งแต่จนสุด ไปรวยสุด
กระทั่งเป็นถึงพระเจ้าจักรพรรดิ์ ท่านรู้ว่าโลกใบนี้
เป็นโลกแห่งการสร้างบารมี สัมปารายภพคือโลกหน้า เป็นโลกแห่งการเสวยผล
ถ้าตอนที่เป็นมนุษย์ได้ทำบาปเอาไว้
สัมปารายภพก็เป็นทุกขคติ มีความทุกข์ทรมาณ แต่ถ้าได้สั่งสมบุญบารมีเอาไว้
ตั้งใจละชั่ว ทำความดี ทำใจให้ผ่องใส สัมปรายภพก็จะมีสุขคติเป็นที่ไป
ซึ่งความเข้าใจในพุทโธวาท ที่ทรงสอนให้ละชั่ว ทำความดี ทำใจให้ใสนี้
เป็นคำสอนที่สำคัญมาก จะบ่งบอกถึงอนาคต ที่รุ่งโรจน์ หรือร่วงโรยได้ ดังนั้น
เราต้องปฏิบัติให้ถูกหลักวิชชา
หลักวิชชาในการดำรงชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ ต้องอยู่ด้วยความไม่ประมาท ต้องสร้างบารมี
สร้างคุณงามความดีอย่างเดียว โดยมีวัตถุประสงค์ หรือเป้าหมาย คือ
ทำพระนิพพานให้แจ้ง
ฉะนั้นเราจะต้องใช้ทุกอนุวินาที สร้างบุญ สร้างบารมี
สร้างความดีให้เต็มที่ เต็มกำลัง
|
ถ้าทุ่มเททำจนหมดใจ จะไม่มีวันหมดตัว
ถ้าอดทนสร้างบารมี จะมีนิพพานเป็นที่ไป
ถ้าใจใสใส จะแก้ไขอะไรก็ได้ทุกอย่าง |
การสร้างบารมีในโลกนี้ จะมีการชิงช่วง
และช่วงชิงอยู่ตลอดเวลา ระหว่างกุศล กับอกุศล ระหว่างความตระหนี่กับการสละออก
เป็นต้น ความตระหนี่เป็นภัยในปรโลก ความประมาทในชีวิต
เป็นอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตในวัฏฏสงสาร ถ้าเราจะหนีวัฏฏะ หรือเราจะรื้อวัฏฏะ
ก็ต้องทุ่มเทสร้างบารมีกันให้สุดใจ ต้องไม่ตระหนี่เสียดายทรัพย์
เราถึงจะได้สมบัติเป็นอจินไตย สมบัติจักรพรรดิ์ตักไม่พร่อง ในภพชาติต่อๆไป
อย่าลืมว่า ความตายนั้นไม่ได้มีนิมิตหมาย ไม่มีใครรู้ว่าจะตายวันไหน เวลาไหน
สถานที่ไหน ด้วยอาการอย่างไร เพราะฉะนั้นแม้มีทรัพย์มาก แต่ถ้าไม่ได้สละออก
ก็นำเอาติดตัวไปไม่ได้
นักสร้างบารมีที่แท้จริง ต้องไม่คิดว่า เราทำบุญมามากแล้ว
คราวนี้ทำแค่นี้ พอก่อน แล้วก็หวงแหนทรัพย์เอาไว้ทำอย่างอื่น ที่ไม่เป็นเหตุ
หรือไม่เป็นทางมาแห่งบุญบารมี ถ้าเป็นยอดนักสร้างบารมีที่แท้จริง..
คำว่า
"แค่นี้พอก่อน" ก็จะไม่มีอยู่ในหัวใจของนักสร้างบารมี นักรบกองทัพธรรมเลย
แต่จะทุ่มเทเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ในการสร้างบารมี "
กลับหน้ารวมข่าวบุญ
|