
สายสัญญาณ เป็นอุปกรณ์หนึ่งในระบบเครือข่ายที่ใช้เป็นทางเดินของข้อมูลโดย
สายสัญญาณนั้น จะมีอยู่หลายชนิดด้วยกันให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสมโดยใน
การเลือกใช้สายสัญญาณนี้ จะต้องคำนึงองค์ประกอบต่างๆ เช่น ชนิดของสานสัญญาณ
และชนิดของระบบเครือข่ายที่ใชงานอยู่ เป็นต้น โดยชนิดของสายสัญญาณในแต่ละชนิด
ก็จะมีจุดเด่น ราคา และคุณภาพแตกต่างกันไป
ชนิดของสายสัญญาณ
1.สายคู่บิดเกลียว
(Twisted pair Cable )
2.สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable )
3.สายเส้นใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Cable
)
ตัวกลางหรือสายเชื่อมโยง เป็นส่วนที่ทำให้เกิดการเชื่อมต่อระหย่างอุปกรณ์
ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งลักษณะของตัวกลางต่าง ๆ มีดังต่อไปนี้
1) สายคู่บิดเกลียว
สายคู่บิดเกลียว
(twisted pair) แต่ละคู่สายทองแดงจะถูกพันกันตามมาตรฐานเพื่อลดการรบกวน
จากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากคู่สายข้างเคียงภายในเคเบิลเดียวกันหรือจากภายนอก
เนื่องจากสายคู่บิดเกลียว
นี้ยอมให้สัญญาณไฟฟ้าความถี่สูงผ่านได้ถึง 10Hzหรือ10Hzเช่นสายคู่บิดเกลี่ยว1คู่จะสามารถส่งสัญญาณ
เสียงได้ถึง12 ช่องทางสำหรับอัตราการส่งข้อมูลผ่านสายคู่บิดเกลียวจะขึ้นอยู่กับความหนาของสายด้วย
คือ
สายทองแดงที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว้าง จะสามารถส่งสัญญาณไฟฟ้ากำลังแรงได้
ทำให้ สามารถส่งข้อมูล
ด้วยอัตราส่วนสูง โดยทั่วไปแล้ว สำหรับการส่งข้อมูลแบบดิจทัลสัญญาณที่ส่งเป็นลักษณะคลื่นสี่เหลี่ยมสาย
คู่บิดเกลียวสามารถใช้ส่งข้อมูลได้หลายเมกะบิตต่อวินาทีในระยะทางได้ไกลหลายกิโลเมตร
เนื่องจากสาย
คู่บิดเกลียว มีราคาไม่แพงมาก ใช้ส่งข้อมูลได้ดี
แล้วน้ำหนักเบาง่ายต่อการติดตั้งจึงถูกใช้งานอย่างกว้างขวาง
ตัวอย่าง คือ สายโทรศัพท์ สายแบบนี้มี 2 ชนิดคือ
ก.
สายคู่บิดเกลียวชนิดหุ้มฉนวน (Shielded Twisted Pair : STP)
เป็นสายคู่บิดเกลียวที่หุ้มด้วยฉนวนชั้นนอกที่หนาอีกชั้นดังรูป
เพื่อป้องกันการรบกวนของคลื่น
แม่เหล็กไฟฟ้า
ข. สายคู่บิดเกลียวชนิดไม่หุ้มฉนวน
(Unshielded Twisted Pair :UTP)
เป็นสายคู่บิดเกลียวที่หุ้มด้วยฉนวนชั้นนอกที่บางอีกชั้นดังรูปทำให้สะดวกในการโค้งงอแต่สามารถ
ป้องกันการรบกวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าได้น้อยกว่าชนิดแรก
2) สายโคแอกเชียล
สายโคแอกเชียลเป็นตัวกลางเชื่อมโยงที่มีลักษณะเช่นเดียวกับสายทีวีที่มีการใช้งานกันมาก
ไม่ว่าในระบบเครือข่ายเฉพาะที่ ในการส่งข้อมูลระยะไกลระหว่างชุมสายโทรศัพท
หรือการส่งข้อมูล
สัญญาณวีดิทัศน์ สายโคแอกเชียลที่ใช้ทั่วไปมี 2 ชนิด คือ 50 โอห์ม ซึ่งใช้ส่งข้อมูลแบบดิจิทัล
และ
ชนิด 75 โอห์มซึ่งใช้ส่งข้อมูลสัญญาณแอนะล็อก
สายโคแอกเชียลจะมีฉนวนหุ้มป้องกันการรบกวนของ
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและสัญญาณรบกวนอื่นๆซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สายแบบนี้มีช่วงความถี่ที่สัญญาณ
ไฟฟ้าสามารถผ่านได้กว้างถึง 500 Mhzจึงสามารถส่งข้อมูลด้วยอัตราส่งสูง
ข้อดี
1.มีประสิทธิภาพ
2.มีความต้านทานในการรบกวนสูง
3.เชื่อมต่อในระยะที่ไกล ๆได้
ข้อเสีย
1.ราคาแพง
2.เกิดความผิดพลาดได้ง่าย
เมื่อใช้กับโทโบโลยีแบบ บัส
3.การติดตั้งทำได้ยาก
3) เส้นใยนำแสง
เส้นใยนำแสง
(fiber optic) เป็นการใช้แสงเคลื่อนที่ไปในท่อแก้ว ซึ่งสามารถส่งข้อมูลด้วยอัตรา
ความหนาแน่นของสัญญาณข้อมูลสูงมาก ปัจจุบันถ้าใช้เส้นใยนำแสงกับระบบอีเธอร์เน็ตจะใช้ได้ด้วยความ
เร็ว 10 เมกะบิตถ้าใช้กับ FDDI จะใช้ได้ด้วยความเร็วสูงถึง 100 เมกะบิตเส้นใยนำแสงมีลักษณะพิเศษที่
ใช้สำหรับเชื่อมโยงแบบจุดไปจุดดังนั้นจึงเหมาะที่จะใช้กับการเชื่อมโยงระหว่างอาคารกับอาคารระยะความ
ยาวของเส้นใยนำแสงแต่ละเส้นใช้ความยาวได้ถึง2 กิโลเมตร เส้นใยนำแสงจึงถูกนำไปใช้เป็นสายแกนหลัก
เส้นใยนำแสงนี้จะมีบทบาทมากขึ้น เพราะมีแนวโน้มที่จะให้ความเร็วที่สูงมาก

|