เ  พื่  อ  เ  ด็  ก
โดย :: คุณหมอ

   

>>Home :: Varities

 


 

การพัฒนาตนเอง

    การพัฒนาตนเองโดยการฉลาดอ่าน ถ้าจะอ่านอย่างจริงจังได้สาระแล้ว 
ควรอยู่ท่ามกลางบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม 
จะนำมาซึ่งประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการอ่าน ดังนี้

                        1.การจัดสถานที่และสิ่งแวดล้อม

                        1.1สถานที่  .........ควรมีความเงียบสงบ และตัดสิ่งเร้าอื่นๆ อาทิเช่น โทรศัพท์ วิทยุ โทรทัศน์

                        1.2อุณหภูมิ..........อุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 22-25 องศาเซลเซียส
                    

                        1.3แสงสว่าง.........ควรอ่านใกล้หน้าต่างเวลากลางวันถ้าจำเป็นต้องใช้ไฟให้ส่องมาจากด้านข้าง

                        1.4โต๊ะ-เก้าอี้.......ควรจัดโต๊ะให้มีความสูงพอเหมาะ เก้าอี้พนักตรง เบาะไม่แข็งไม่นุ่ม

                        2.การจัดท่าของการอ่าน

                        2.1ท่านั่ง................ควรนั่งให้หลังตรงการนั่งที่ถูกสุขลักษณะจะทำให้สมองได้รับเลือด
                              ที่อุดมด้วยอ็อกซิเจนไปหล่อเลี้ยง ทั้งร่างกายและสมองจะตื่นตัว

                        2.2ท่าของหนังสือ.....ตำแหน่งของหนังสือควรห่างจากนัยน์ตาเรา 35-45 ซ.ม.

                 3. การจัดอุปกรณ์ช่วยอ่าน......อุปกรณ์ที่จำเป็นคือ เครื่องช่วยชี้ ดินสอ ปากกา กระดาษ

                        4.การจัดเวลาที่เหมาะสม.......ควรเวลา20.00-23.00น.หรือ05.00-06.30น.

                              ควรอ่านติดต่อกันไม่เกินครั้งละ 50 นาที  และเปลี่ยนอิริยาบถ 10 นาทีก่อนจะอ่านต่อไป

                        5.การจัดการตนเอง......การจัดการตนเองให้พร้อมสำคัญที่สุดไม่ควรละเลย

                        5.1การนอนหลับพักผ่อน....ก่อนการอ่านหนังสือ ควรมีการพักผ่อนร่างกายให้มีความพร้อม
                              ช่วยให้เกิดสมาธิและประสิทธิภาพของสมองผ่องใส ช่วยในการเพิ่มความจำ

                        5.2การดูแลสุขภาพ..."อโรคยา ปรมา ลาภา" ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
                              อาการป่วยหลายอย่างเราป้องกันได้ถ้ามีสุขนิสัยที่ดี

                        5.3การตรวจสายตา....ควรทำการตรวจสายตาอย่างน้อยปีละครั้ง

                        5.4การจัดพฤติกรรมส่วนตัว.....ก่อนอ่านต้องมีความตั้งใจและความมุ่งมั่นที่จะอ่านหนังสือทุกครั้ง
                              และไม่ควรให้ท้องว่างหรืออิ่มจนเกินไป เป็นอุปสรรคต่อสมาธิในการอ่าน

                        5.5เลี่ยงจากการถูกรบกวน......อาทิเช่น งดรับแขก งดรับโทรศัพท์ เป็นต้น......

 


(คนฉลาดอ่าน โดย ปานจิตต์ โกญจนาวรรณ,ธนิกานต์ มาฆะศิรานนท์ ฝ่ายวิชาการ EXTERNET)

>>Home :: Varities

3  oct  2001::18.47

คำถาม    ทำไมคนเรามักจะหาวตามๆกัน

คำตอบ    สัตว์หลายชนิดก็หาวเป็น แต่อาการหาวติดต่อกันเกิดขึ้นกับมนุษย์เท่านั้น
อาจเป็นเพราะคนในวงสังคม หรือครอบครัวเดียวกัน มักมีวงจรการนอนและตื่น
ตลอดจนเวลาทำงานใกล้เคียงกัน
เดสมอนด์ มอร์ริส นักสัตววิทยากล่าวว่า ชนเผ่าสมัยโบราณ อาจล้มตัวลงนอนพร้อมกัน
เพื่อให้ง่ายต่อการใช้ชีวิตเป็นกลุ่ม

คำถาม    ใครเป็นต้นคิด อินเตอร์เน็ต

คำตอบ    ทางด่วนข้อมูลถือว่ากำเนิดในช่วงสงครามเย็น พ.ศ. 2512 หน่วยงานหนึ่งของ
กระทรวงกลาโหมสหรัฐ สร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขึ้นเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลของที่มั่นทาง
ทหารกับศูนย์วิจัยต่างๆ เมื่อต้นปีค.ศ.1970 เครือข่ายคอมพิวเตอร์ดังกล่าว เชื่อมข้อมูลของ
มหาวิทยาลัยและศูนย์วิจัยของรัฐบาล 23 แห่ง โดยมีการคิดค้นกระบวนการเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล
ให้ทั่วถึงกันระหว่างเครือข่าย (Inter connected network) เมื่อความต้องการข้อมูลเพิ่มขึ้น
มหาศาล สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติของสหรัฐ จึงให้ทุนสนับสนุนการจัดตั้งเครือข่ายคอมพิวเตอร์
เรียกว่า NSF Net  และเปิดให้บริการแก่สาธารณชน ในนาม  Internet ในปีพ.ศ. 2535

(รีดเดอร์ไดเจสท์ มีนาคม 2001)


>>Home::Varities

 

9 ตุลาคม 2544

วิธีเลี้ยงเด็ก

พ่อแม่กับลูกผู้เงียบขรึม

ถ้าลูกวัยรุ่นของคุณมีบุคลิกแบบเก็บตัวแล้วบอกกับแกว่า "ออกไปเที่ยวข้างนอกบ้างซิ"
คุณกำลังประเมินบุคลิกภาพไปในทางลบ คุณกำลังรู้สึกว่าลูกไม่ปกติ แต่วิธีที่ดีกว่านั้น
คุณควรสนใจในกิจกรรมที่ลูกทำ และแนะนำให้เข้าเป็นสมาชิกชมรมที่เขาชอบ
เพื่อเปิดโอกาสให้พบเพื่อนที่มีงานอดิเรกเดียวกัน และยังได้พบผู้คนมากขึ้นด้วย
ประเด็นสำคัญที่ลืมไม่ได้ ซึ่งนำไปใช้กับเด็กเก็บตัว คือ

1.ปล่อยให้แกทำสิ่งในสิ่งที่พอใจตามสบาย อย่าเคี่ยวเข็ญให้แก "ออกข้างนอก"มากนักเลย

2.ส่งเสริมงานอดิเรกของลูก กระตุ้นด้วยความสนใจในสิ่งที่เขาชอบ ชมเชย ให้กำลังใจ
 ซึ่งจะทำให้เขาเกิดความมั่นใจ และมีความคิดสร้างสรรค์

3.อย่าปล่อยให้โลกส่วนตัวของเขาปิดตาย เลือกใช้วิธีมอบหมายงานบ้านให้ลูกทุกคน
เพื่อให้แกออกมาทำอะไรนอกห้องบ้าง และคุณต้องเข้าใจความแตกต่างของเด็กแต่ละคน

4.ถ้าคุณรู้สึกว่าเขาเหงา หรือโดดเดี่ยวเกินไป หาวิธีที่แนบเนียน ชักจูงให้พบปะกับเด็กอื่นๆบ้าง
แต่อย่าพยายามไปเปลี่ยนบุคลิกภาพขั้นพื้นฐานของเขา
เด็กๆจะเก็บตัวน้อยลง ถ้ามั่นใจในตนเองมากขึ้น ในขณะที่แกอยู่ท่ามกลางคนแปลกหน้า
จนเขาชอบ จนกระทั่งทำตัวได้ตามสบาย กลมกลืนไปกับบรรยากาศใหม่ๆ

5.ไม่ใช่เรื่องแปลก มีคนขี้อายออกเยอะไป ดังนั้น ถ้อยคำที่อ่อนหวานนุ่มนวล
 เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ ไม่มีท่าทีกดข่มหรือบีบคั้นมากเกินไป
จะทำให้บรรยากาศดีขึ้น เด็กๆจะรู้จักเอาชนะความอาย เพราะมิตรภาพนั้นมีเสน่ห์มาก
เมื่อคุณกระตุ้นแกเพียงเล็กน้อย เด็กก็พร้อมจะออกจากโลกส่วนตัวในที่สุด
 ไมตรีจิตมิตรภาพขั้นแรกอาจจะฉาบฉวย แต่ในที่สุดมันก็จะลึกซึ้งไปเอง