1.การระเหย คือ กระบวนการที่อนุภาคของของเหลวเคลื่อนที่มาชนกันมีการถ่ายเทพลังงานให้กัน อนุภาคของของเหลวมีการเคลื่อนที่ตลอดเวลา ซึ่งแต่ละอนุภาคจะมีพลังงานจลน์อยู่ เมื่ออนุภาคชนกันพลังงานจะมีการถ่ายเทให้อนุภาคที่ถูกชน ถ้าอนุภาคที่อยู่ที่ผิวหน้าของของเหลวได้รับพลังงานจนมีพลังงานจลน์สูงกว่าแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค อนุภาคนั้นก็จะหลุดออกไปกลายเป็นก๊าซหรือเรียกว่าระเหย
อนุภาคบนผิวหน้าที่ถูกชนแล้วหลุดออกไปจากของเหลวคือระเหย
2.การระเหย จะเกิดเฉพาะผิวหน้าของของเหลวเท่านั้น อนุภาคบนผิวหน้าเท่านั้นที่สามารถจะหลุดออกไปได้
3.การระเหย จะเป็นการดูดพลังงานไปใช้ในการเปลี่ยนสถานะเป็นก๊าซ ดังนั้นจะทำให้อุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมลดลง
เช่นๆๆ เวลา เอาเมทิลแฮลกอฮอล์ ( แอลกอฮอล์ที่ใช้ทาแผล ) มาทาบนตัวจะรู้สึกเย็น
เพราะเมทิลแอลกอฮอล์ระเหยง่ายและเร็วมาก เมื่อมันระเหยออกไปมันจะดูดพลังงานความร้อนเข้าไปใช้ในกระบวนการระเหย ตัวเราจึงรู้สึกเย็น ยิ่งระเหยเร็วเราก็ยิ่งรู้สึกเย็น
ตู้เย็น และ แอร์ ที่มันเย็นได้ก็เพราะมีสารระเหย CFC สารนี้จะระเหยเร็วมากๆๆๆๆ
ทำให้อุณหภูมิรอบๆลดลงมาก จึงนำ CFC มาใช้ในแอร์กับตู้เย็น แต่ปัจจุบันแอร์ไม่ใช้ CFC แล้ว เปลี่ยนเป็นสารอื่นแทนซึ่งแพงกว่า CFC แน่ๆ แต่ไม่ส่งผลต่อ โอโซนของโลก สุดยอดเลย
4.ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการระเหย
1.ชนิดของสาร à ของเหลวที่มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคมากจะระเหยยากกว่าของเหลวที่มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค น้อย เพราะการระเหยจะต้องทำลายแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคออก และถ้ามีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคมากจะทำให้อนุภาคเคลื่อนที่ยากพลังงานจลน์ก็จะมีน้อยการชนกันก็น้อย อัตราการระเหยก็จะช้า ถ้ามีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคน้อย อนุภาคก็จะเคลื่อนที่ง่าย เร็ว จะมีพลังงานจลน์มากและมีการชนกันมาก จึงระเหยได้เร็ว
แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคแปรผกผันกับอัตราการระเหย
เช่นๆๆ
ถ้าเปรียบเทียบน้ำกับน้ำมัน จะเห็นว่า น้ำมีอัตราการระเหยสูงกว่าน้ำมัน เพราะแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคของน้ำมันมากกว่าน้ำ ถึงแม้ว่าน้ำมันจะเป็นแรงลอนดอนแต่ว่ามีมวลโมเลกุลมากจึงทำให้แรงลอนดอนนั้นมากกว่าพันธะไฮโดรเจนของน้ำ
(ความรู้เก่าเรื่องพันธะเคมี)
*** ถ้าเป็นพัธะโควาเลนซ์เราจะดูที่แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล ไม่ใช่ดูที่แรงยึดเหนี่ยวภายในโมเลกุล ยกเว้นพันธะโควาเลนต์แบบโครงผลึกร่างตาข่าย แต่โดยทั่วไป พันธะโควาเลนซ์แบบโครงผลึกร่างตาข่ายจะเป็นของแข็ง ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องของเหลว
ดังนั้น แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคของน้ำมันจึงมีมากกว่าน้ำ อัตราการระเหยจึงช้ากว่า
พิสูจน์ได้นะ ลองเทน้ำกับน้ำมัน วางไว้เฉยๆ อันไหนจะระเหยหมดก่อนกัน ??
น้ำ -------------------------------------------------------------น้ำมัน
แต่ๆๆ น้ำมันเบนซินบางชนิดก็มีการระเหยที่เร็วกว่าน้ำ เพราะมีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคน้อยกว่าน้ำ คือยึดด้วยแรงลอนดอนโดยที่มีมวลโมเลกุลเล็ก จึงเป็นไปได้ที่น้ำมันเบนซินที่มีมวลโมเลกุลเบาๆ จะมีอัตราการระเหยเร็วกว่าน้ำ
ถ้าเปรียบเทียบระหว่างน้ำกับเอทานอล จะพบว่า เอทานอลระเหยเร็วกว่าน้ำมาก
เพราะ เอทานอลยึดด้วยแรงระหว่างขั้ว C 2 H 5 OH น้ำยึดด้วยพันธะไฮโดรเจน
พันธะไฮโดรเจนจะแรงกว่าแรงระหว่างขั้ว
2.อุณหภูมิ à อุณหภูมิเท่านั้นที่มีผลต่อพลังงานจลน์ของอนุภาคของเหลว เมื่ออุณหภูมิสูงจะทำให้พลังงานจลน์ของอนุภาคสูงขึ้นด้วย เมื่อพลังงานจลน์สูงอนุภาคก็จะสามารถเอาชนะแรงยึด - เหนี่ยวระหว่างอนุภาคได้มากขึ้น ทำให้อัตราการระเหยเร็วขึ้น
อุณหภูมิแปรผันตรงกับอัตราการระเหย
3.พื้นที่ผิวหน้าของของเหลว à อนุภาคที่จะระเหยได้จะต้องเป็นอนุภาคที่อยู่ที่ผิวหน้าเท่านั้น ถ้ามีพื้นที่ผิวหน้ามาก จะทำให้มีอนุภาคที่อยู่บนผิวหน้ามาก อนุภาคเหล่านี้จะหลุดออกไปได้ง่ายทำให้การระเหยเร็วขึ้น
พื้นที่ผิวหน้าแปรผันตรงกับอัตราการระเหย
สมมุติว่าภาชนะทั้งสองใบนี้บรรจุของเหลวชนิดเดียวที่มีปริมาตรเท่ากัน
ถ้าตั้งไว้เฉยๆนานๆๆๆๆ ของเหลวอันซ้ายจะระเหยหมดก่อนอันขวา เนื่องจากพื้นที่ผิวหน้า มีมากกว่า
4.ลมเหนือของเหลว à ถ้ามีลมพัดหรืออากาศถ่ายเทดี จะทำให้อนุภาคเหนือของเหลวที่เป็นก๊าซหรือไอเหนือของเหลวลดลง เมื่อไอเหนือของเหลวลดลงของเหลวนั้นก็จะระเหยง่ายขึ้น
ลมพัดแปรผันตรงกับอัตราการระเหย
1.------------------------------------------------------ 2.
รูปที่ 1.การระเหยที่ลมนิ่ง เมื่อมีอนุภาคในอากาศอยู่มากแล้วจะทำให้อนุภาคของของเหลวนั้นระเหยยาก เพราะมีความสมดุลอยู่แล้ว
รูปที่ 2.การระเหยที่ลมพัดแรง จะระเหยได้เร็วเพราะในอากาศเหนือของเหลวไม่ค่อยมีอนุภาคชนิดนั้น ทำให้อนุภาคผิวหน้าของเหลวจึงระเหยขึ้นมาได้ง่ายเพื่อให้เกิดความสมดุล
จ้องๆๆ
เวลาซักผ้าเสร็จแล้ว จะให้มันแห้งเร็วๆ ก็ต้องนำไปตากแดด
ตากแดดแล้วจะแห้งเร็ว เพราะ อุณหภูมิสูงๆๆ ระเหยเร็ว และเวลาตากแดดแน่นอนว่าจะต้องตากนอกอาคารซึ่งจะมีลมพัดด้วยยิ่งทำให้การระเหยเร็วขึ้นอีก นี่แหละหลักการทางเคมีที่นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน คงไม่มีใครซักแล้วตากในห้องแอร์อะนะนอกจากจะไม่แห้งแถมเชื้อราขึ้นอีก
สรุป ****
การระเหยแปรผกผันกับแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล
การระเหยแปรผันตามอุณหภูมิ พื้นที่ของของเหลว และ ลมพัดเหนือของเหลว