![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
ประเภทเครื่องกายบริหารและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง |
ได้แก่ ลักษณะ ของอุปกรณ์ที่เป็นลู่วิ่งสายพาน มีลักษณะการวิ่ง 2 แบบคือ 1. การวิ่งในแนวราบ เป็นการวิ่งที่ใช้กลุ่มกล้ามเนื้อมัดใหญ่ของร่างกายเป็นตัวทำงานส่วนใหญ่ การวิ่งในแนวราบจะง่ายต่อการควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจซึ่งจะเป็นไปตามการปรับระดับความเร็ว โดยการที่ค่อยๆเพิ่มความเร็วที่ละน้อยจนวิ่งถึงชีพจรเป้าหมาย เมื่อจะหยุดออกกำลังกายก็ให้ค่อยๆปรับความเร็วให้ช้าลง เหมาะสมสำหรับผู้เริ่มต้นการออกกำลังกายและใช้เป็นแบบ warm-up สำหรับการออกกำลังกายเป็นประจำ 2. การวิ่งในแนวเพิ่มระดับความชันของการวิ่ง จะทำให้ระดับอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น ยิ่งชันมากอัตราการเต้นของหัวใจก็จะเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ แต่สิ่งที่ตามมาจะคือ ความเมื่อยล้ามากกว่าการวิ่งในแนวราบ
การออกกำลังกายแบบนั่งปั่นจักรยานอยู่กับที่ ตัวอุปกรณ์ก็จะมี 2 ลักษณะ คือ
1. ความเร็วสูงสุดในการปั่น (Speed) 2. ความฝืดในการปั่น (Resistance) 3. โปรแกรม การปรับระดับความสูงของเบาะควรจะปรับให้เข้ากับความสบายของผู้ปั่น คือ ไม่เหยียดขาจนตึงเกินไปหรือหย่อนเกินไปซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการปวดเข่าได้หลังจากการปั่น ในขณะที่กำลังปั่นอยู่นั้นผู้ปั่นไม่ควรที่จะโยกตัวมากเกินไปให้รักษาสภาพการทรงตัวที่สมดุลในการปั่น
2. กรรเชียงแบบคันโยก เป็นการออกแรงต้าน 2 จุดในขณะที่ออกแรง หากจะพูดถึงความทนทานของเครื่องต่อการใช้งานแล้วนั้นแบบใช้ร้อกดึงจะมีความทนทานมากกว่า เพราะมีจุดหมุนเพียงจุดเดียว แบบดันโยกมีจุดหมุนที่เปราะบางกว่า ชำรุดได้ง่ายกว่า
ลักษณะ การออกกำลังกายแบบการย่ำอยู่กับที่คล้ายกับการเดินขึ้นบันได การออกกำลังกายจะมี 2 ลักษณะ คือ 1. เดินแบบเต็มเท้า เป็นการทำงานที่เกิดจากการบริหารการทำงานของกล้ามเนื้อขาทุกส่วน ตั้งแต่สะโพก ต้นขา น่อง 2. เดินแบบปลายเท้า เป็นการทำงานที่เน้นการทำงานของกล้ามเนื้อน่อง *ข้อระวังการใช้ ไม่ควรให้เข่างอเกินกว่า 90 องศา
ลักษณะ เป็นการออกกำลังกายชนิดผสมผสานการเคลื่อนไหวแบบชีวกลศาสตร์โดยผสมผสานลักษณะการเคลื่อนไหวของจักรยานที่เป็นวงกลมกับลักษณะเครื่องที่เป็นแนวราบ ทำให้เป็นการเคลื่อนไหวแบบวงรี ข้อดี ไม่ทำให้เกิดการกระแทกของข้อเข่าและข้อเท้า ตัวอุปกรณ์จะมี 2 ลักษณะคือ 1. แบบแขนเกาะโยกไม่ได้ เน้นการเคลื่อนไหวที่ขา
2. แบบแขนโยกได้ เป็นการออกกำลังกายที่มีการเคลื่อนของแขนและขาไปด้วยกัน คล้ายกับการวิ่งบนอากาศ อุปกรณ์กลุ่มนี้สามารถแบ่งประเภท ได้ 3 ประเภท
ข้อดี ออกแบบมาเพื่อให้การทำงานของกล้ามเนื้อตรงตามวัตถุประสงค์กับกลุ่มกล้ามเนื้อที่ต้องการฝึกอย่างแท้จริง ข้อเสีย ต้องการพื้นที่ในการวางอุปกรณ์หลายๆเครื่องจึงฝึกกล้ามเนื้อได้ครบตามวัตถุประสงค์ที่วางโปรแกรมไว้ ต้องใช้พื้นที่ในการวางเครื่องมากกว่าสถานีรวม
2. แบบสถานีรวม Multi-station machine คือ เป็นอุปกรณ์สำหรับฝึกกล้ามเนื้อแบบสถานีรวม สามารถฝึกพร้อมกันได้หลายคน ข้อดี ประหยัดพื้นที่ในการวางเครื่อง และฝึกกล้ามเนื้อได้หลายๆท่าในเครื่องเดียวกัน ข้อเสีย การฝึกกล้ามเนื้ออาจไม่ตรงตามความต้องการที่จะฝึกกล้ามเนื้อมัดนั้นๆได้อย่างแท้จริงน้ำหนักของตัวเครื่องจะมีน้ำหนักมากกว่าสถานีเดี่ยว
3.Free Weight ( ฟรีเวท ) เป็นอุปกรณ์สำหรับฝึกกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน ลักษณะอุปกรณ์เป็นแบบอิสระ สามารถปรับเพื่อใช้ฝึกกล้ามเนื้อได้หลายส่วน ได้แก่
ข้อควรระวังในการออกกำลังกายแบบฟรีเวท เนื่องจากการออกกำลังกายลักษณะนี้เป็นแบบอิสระ ดังนั้งผู้ที่ต้องการออกกำลังกายในลักษณะฟรีเวท จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญการออกกำลังกายคอยดูแลและให้การแนะนำ และช่วยจัดท่าทางการออกกำลังกายที่ถูกต้อง ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ
ควรจัดให้มีอุปกรณ์ 3 กลุ่ม ดังนี้
|
ติดต่อเรา: Tel.082-4990285 , 083-7184559อีเมล์ : ekasit_sport@hotmail.com |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |