เล่นคอมพิวเตอร์หน้าฝนระวังฟ้าผ่าเครื่องคอมพิวเตอร์พัง

Update :  7/2002

มหันตภัยซ่อนเร้นจากการใช้คอมพิวเตอร์ ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะฤดูกาลใด ฤดูกาลหนึ่ง แต่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาและทุกวัน ถ้าเราไม่รู้จักใช้งานให้ถูกวิธี

ตัวอย่างเช่น การปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลังจากนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ในท่าเดิมตลอดทั้งวัน การอักเสบของประสาทตาเพราะต้องนั่งจ้องจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ในแต่ละวัน รวมทั้งอันตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และรังสีที่ออกมาจากอุปกรณ์ต่างๆ ของคอมพิวเตอร์

ภัยแฝงจากการใช้คอมพิวเตอร์อีกประการหนึ่งที่มีผู้ใช้คอมพิวเตอร์หลายรายสงสัยกันมาก โดยเฉพาะเมื่อใดที่ฟ้าฝนเริ่มมืดครึ้ม มีสายฟ้าฟาดครืนๆ ช่วงฤดูฝน หรือหน้ามรสุม ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ไปจนถึงเดือนตุลาคม ภัยที่ว่าคือ อันตรายจากการใช้คอมพิวเตอร์ขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง

นายตรีรัตน์ อังศุพิพัฒน์ ผู้จัดการ บริษัท เอ็มบีเอ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทผู้บริหารงาน ศูนย์บริการ "ไอที คลินิก" สาขาสุทธิสาร กล่าวว่า ช่วงที่ฝนตกหนัก และมีฟ้าร้องอยู่ตลอดเวลา ค่อนข้างอันตรายหากมีการใช้คอมพิวเตอร์ รวมไปถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ในขณะนั้น เพราะเสี่ยงต่อการโดนฟ้าผ่า หรือได้รับอันตรายจากกระแสไฟฟ้าแรงสูงที่ลัดวงจรผ่านตัวกลางเข้ามาได้ เนื่องจากช่วงที่เกิดฟ้าผ่าจะเกิดประจุไฟฟ้าวิ่งอยู่ในบรรยากาศจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดแรงดันไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเดินทางผ่านตัวกลางทุกชนิดที่อยู่ในรัศมี เพื่อกระจายกระแสไฟฟ้าจำนวนมากลงสู่พื้นดินด้วยระยะทางที่สั้น และง่ายที่สุด

นายตรีรัตน์ กล่าวต่อว่า อาคารบ้านเรือนส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ และตามจังหวัดใหญ่ๆ ละเลยการติดตั้งสายดินให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสายดินสำหรับโทรศัพท์บ้าน ซึ่งถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะเป็นจุดล่อแหลมต่อการโดนฟ้าผ่ารองลงมาจากสายไฟฟ้า เนื่องจากสายโทรศัพท์ก็มีไฟฟ้าหล่อเลี้ยงอยู่เช่นกัน ซึ่งทำให้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เกิดความเสียหายมากที่สุดเมื่อมีฟ้าผ่าเกิดขึ้น คือ โมเด็ม เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ต่อเข้ากับสายโทรศัพท์โดยตรง

ด้าน นายรุสสลัน เสมอภพ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคประจำศูนย์บริการ "ไอที คลินิก" ชั้น 1 ศูนย์การค้าซีคอน สแควร์ ในเครือบริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) อธิบายว่า ความเสียหายของคอมพิวเตอร์เมื่อเกิดฟ้าผ่า คือ เกิดไฟกระชากอย่างรุนแรงทำให้อุปกรณ์ต่างๆ ที่ต่อเข้ากับ 2 ตัวกลางหลัก ได้แก่ 1.สายไฟฟ้าที่ต่อเข้ากับตัวจ่ายไฟ (พาวเวอร์ ซัพพลาย) และ 2. สายโทรศัพท์ที่ต่อเข้ากับโมเด็ม เกิดความเสียหายหากไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน

เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค ไอที คลินิก ซีคอนสแควร์ อธิบายถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ทำให้คอมพิวเตอร์ได้รับอันตรายจากสายฟ้า ช่วงเกิดฝนฟ้าคะนอง มีดังนี้

ปัจจัยแรก คือ ลักษณะของการจ่ายไฟในเครื่องคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน เป็นแบบเอทีเอ็กซ์ (ATX) (เครื่องคอมพิวเตอร์ที่สั่งปิดเครื่อง (Shutdown) แล้วปิดโดยอัตโนมัติ) ซึ่งเครื่องแบบนี้จะมีกระแสไฟฟ้าหล่อเลี้ยงเมนบอร์ดอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะปิดเครื่องแล้ว แต่ไม่ได้ถอดปลั๊กไฟ ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์แบบเอทีเอ็กซ์มีโอกาสที่จะได้รับผลกระทบจากฟ้าผ่าได้ง่าย

ปัจจัยที่สอง คือ อุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์เป็นสื่อนำไฟฟ้าอย่างดี ดังนั้นเมื่อมีกระแสไฟฟ้าเข้ามา อุปกรณ์เหล่านี้จะกินไฟเข้าไปเป็นจำนวนมาก จนก่อให้เกิดความเสียหายในที่สุด ซึ่งหากเป็นกรณีที่กระแสไฟฟ้าสูงมาก อาจทำให้เกิดการระเบิดของจอภาพ หรือเกิดไฟฟ้าช๊อตอุปกรณ์ต่างๆ ได้ และส่งผลไปยังผู้ใช้ได้เช่นกัน

ปัจจัยที่สาม คือ แม้ว่าผู้ใช้จะถอดปลั๊กไฟฟ้า แต่ไม่ได้ถอดสายโทรศัพท์ออกจากโมเด็ม ซึ่งสายโมเด็มก็ติดกับคอมพิวเตอร์อีกทอดหนึ่ง ก็ทำให้เกิดการเหนี่ยวนำไฟฟ้าสู่โมเด็ม และอุปกรณ์ต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ได้หากเกิดฟ้าผ่าขึ้น

ปัจจัยที่สี่ คือ ความไม่รู้ของผู้ใช้คอมพิวเตอร์โดยคิดว่าเครื่องตนมีสายดินเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสังเกตจากตัวปลั๊กเสียบที่มีขาที่สามเพิ่มเข้ามาเท่านั้น แต่ไม่ทราบว่า บ้านหรืออาคารนั้นไม่มีการต่อสายดินเอาไว้ เมื่อเกิดการรั่วของไฟฟ้าเข้าทำให้ได้รับความเสียหายเช่นกัน

ปัจจัยสุดท้าย คือ ความประมาท โดยคิดว่าอยู่ห่างไกลจากจุดที่มีฝนฟ้าคะนอง คงจะไม่ได้รับอันตราย ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด เพราะหากกระแสไฟฟ้าไม่สามารถหาสายดินเพื่อลงพื้นได้ ก็จะเหนี่ยวนำไปตามตัวกลางอื่นๆ อาทิ สายไฟฟ้า สายโทรศัพท์ ทั้งนี้หากกระแสเหล่านี้พบช่องว่างก็จะเดินทางผ่านมาสู่สายไฟฟ้าหรือสายโทรศัพท์ภายในบ้านได้เช่นกัน และการที่กระแสไฟฟ้าเหล่านี้เดินทางมาไกล บางครั้งไม่ทำให้ฟิวส์ภายในบ้านขาด แต่พอที่จะทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้า และคอมพิวเตอร์ที่เปิดอยู่ขณะนั้นเสียหายได้" นายรุสสลัน กล่าว

การป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าให้กับ เครื่องคอมพิวเตอร์ และตัวผู้ใช้เองนั้น นายรุสสลัน กล่าวว่า หลังจากใช้คอมพิวเตอร์เสร็จแล้วควรถอดปลั๊กของจากเต้าเสียบทุกครั้ง เพื่อป้องกันการรั่วของกระแสไฟฟ้า รวมถึงดึงสายโทรศัพท์ที่ต่อกับโมเด็มออกด้วย และที่สำคัญ ขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนองไม่ควรใช้คอมพิวเตอร์

วิธีป้องกันอีกแนวทางหนึ่งก็คือ ติดตั้งอุปกรณ์สำรองไฟฉุกเฉิน หรือ ยูพีเอส โดยนำปลั๊กไฟคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ ต่อผ่าน ยูพีเอส เพื่อลดความเสียงต่อการกระชากของกระแสไฟฟ้าขณะเกิดฟ้าผ่า อย่างไรก็ดี อุปกรณ์ดังกล่าวไม่สามารถป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าได้ 100 เปอร์เซ็นต์

จากวิธีป้องกันง่ายๆที่ยกมานั้น เห็นได้ว่าทำได้ไม่ยากเลย หากครั้งหน้าเจอฝนฟ้าคะนองแล้วล่ะก็ หยุดพักการใช้คอมพิวเตอร์สักระยะ แล้วพักสายตาไปหย่อนกาย หย่อนใจ รอให้ฟ้าโปร่งใสสักหน่อยแล้วค่อยกลับมาใช้ต่อ ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยทั้งชีวิต และทรัพย์สินของท่านเอง ครับ กลับ

[ฺHome] [Joke] [Introduction] [Virus] [Tips] [Horoscope] [Download] [SuperFun] [Download ME] [WinAmp SkinZ] [Education]