หลังจากใน ตอนที่ 1 เราได้วางแผนการออกแบบเบื้องต้นในส่วนของ process และอุปกรณ์ต่างๆที่ต้องการใช้งานไปแล้ว ในตอนที่ 2 นี้ก็จะเป็นในส่วนของ การกำหนดอิพุท / เอาพุท และฟังก์ชันการทำงานในส่วนของ PLC

Listing Input Output and Int/Out
เมื่อเราได้ทราบถึงจำนวนและชนิดของอุปกรณ์ต่างๆที่จะต้องใช้แล้ว เราก็จะกำหนดอินพุท เอาท์พุทให้กับอุปกรณ์ที่เราต้องการจะควบคุม ในแต่ละอุปกรณ์ ว่าอุปกรณ์ตัวหนึ่งรับอิพุทมาจากอุปกรณ์ หรือเงื่อนไขตัวใด และส่งเอาท์พุทอะไร หรือนำไปควบคุมอุปกรณ์ใดต่อไป
                                    

Creating I/O Diagram for motors
จากตัวอย่างในตอนที่ 1 เป็นระบบของการควบคุมระบบ blending หรือการผสมสาร และในส่วนนี้จะเป็นตัวอย่างการกำหนด block อิพุท เอาท์พุทให้กับอุปกรณ์จากที่ได้กล่าวไว้ด้านบน
                                   
ซึ่งจากรูปจะเป็นการกำหนดบล็อคอิพุท เอาท์พุทของมอเตอร์ หรือ motor block ซึ่งส่วนนี้ก็จะสัมพันธ์และใช้อ้างอิงในการเขียนโปรแกรม ซึ่งในการเขียนโปรแกรม PLC ของ siemens (เพราะบทความนี้เรียบเรียงจาก manual ของ siemens ครับ..อิอิ) เองก็จะมีลักษณะของการกำหนดเป็นบล็อคการทำงานหรือฟังก์ชันบล็อคของการทำงานอย่างหนึ่ง และเราสามารถเรียกใช้งานได้โดยส่งค่าพารามิเตอร์ให้กับบล็อคนั้นๆ .......อืม..หรือหากใครเขียนโปรแกรมคอมพ์ด้วยภาษา C (หรืออื่นๆ) ก็จะเห็นว่าเราสามารถที่จะกำหนดลักษณะของการทำงานหนึ่งๆโดยเขียนโปรแกรมแยกไว้เป็นโมดูลๆ เวลาเราจะเรียกใช้ก็ส่งตัวแปลหรือพารามิเตอร์ที่โมดูลหรือฟังก์ชันนั้นต้องการเพื่อทำการprocess ต่อไป ซึ่งฟังก์ชันบล็อคใน plc ( siemens) เองก็มีลักษณะใกล้เคียงกันครับ....สำหรับยี่ห้ออื่นๆผมก็ไม่แน่ใจว่าจะมีหรือเปล่า แต่ของโตชิบาจะเป็นลัษณะของการเรียกซับรูทีนโดยกำหนด I/O แบบตายตัว มากกว่าไม่ได้เป็นการส่งผ่านพารามิเตอร์ไปยังฟังก์ชัน
...แต่การกำหนดเป็นบล็อคแบบนี้ก็น่าจะใช้ได้ทั่วไป ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าแต่ละอุปกรณ์ต้องการอิพุท เอาท์พุท หรือเงื่อนไขอะไรบ้าง ซึ่งในทางทฤษฏี ก็อาจจะใช้เพื่อประโยชน์ในการทำการลดรูปสมการโดยใช้วิธีต่างๆเพื่อลดความซับซ้อนและ step การทำงานของโปรแกรม เช่นการใช้ Karnaugh-Veitch หรือ KV-Map ถ้าใครเคยเรียนวิชาดิจิตอลจะคุ้นๆ...แต่โดยทั่วไปเราจะใช้วิธี KU-Map ซึ่งเป็นวิธีที่มีใช้กันโดยทั่วไป และมีมานานแล้ว ไม่ได้ใช้มาตรฐานใดในการอ้างอิง แต่ใช้ประสพการณ์และความเก๋า!!?!! ซึ่งวิธี KU-Map ที่ว่าคือวิธี "กูจะแมพเอาเอง"....ฮ่า นอกเรื่องหน่ะครับ ...ปรับโฟกัสกลับเข้าเรื่องโดยด่วน

Establish The Safty Requirement
ส่วนที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งคือระบบความปลอดภัย นอกเหนือจากการsafty โดย software แล้วซึ่งก็จะต้องมีการทำ inter lock การทำงานแล้ว ทางด้าน hardwireเราจะต้องระบุลงไปว่าอุปกรณ์หรือส่วนใดที่ต้องมีการทำ safty ทางด้าน hardwire ซึ่งในส่วนนี้จะต้องมีการทำงานที่เป็นอิสระจากโปรแกรม ซึ่งในแต่ละอุปกรณ์หลักๆหรือในแต่ละลูปการทำงานก็จะต้องมี emergency แยกไปต่างหาก และเชื่อมต่อระบบ emergency เป็นโครงข่ายต่อกัน

Descript The required operator Display and Control
ในส่วนต่อไปก็จะเป็นการกำหนดรูปแบบของ control box ว่าจะมีสวิตช์อะไร หรือต้องการให้มีการแสดง alarm หรือหลอดการแสดงการทำงานของอุปกรณ์ตัวใดบ้าง
                                            
Creating and Configulation Diagram
ในส่วนต่อไปก็จะเป็นการกำหนดอุปกรณ์ควบคุม รูปแบบของอิพุท เอาท์พุทของอุปกรณ์ควบคุม ไม่ว่าจะเป็นขนาด I/O ความสามารถของ CPU หรือตวามต้องการอื่นๆ ซึ่งจะต้องสัมพันกับอุปกรณ์ต่างๆที่เราได้ออกแบบไว้ก่อนหน้านี้
                                                 


Reference : Programming with STEP7 chapter3 :Working Out the Automation Concept