CHAPTER 1: Rainy day |
ท่ามกลางความมืดมิดที่แผ่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า กลุ่มก้อนเมฆรวมตัวกันเป็นสีเทาดำ สายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ขาดสาย ณ ย่านที่พักอาศัยแห่งหนึ่ง มีเสียงฝีเท้าย่ำน้ำดังมาเป็นระลอก... จ๋อมๆๆๆ เสียงฝีเท้าของชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังวิ่งหนีกลุ่มคน 3 คนที่ตามมาอย่างไม่คิดชีวิต และพยายามที่จะหาที่เหมาะๆเพื่อซ่อนตัว จับให้ได้นะ ไม่งั้นก็จะเป็นพวกเราที่ซวย คนหนึ่งในกลุ่มที่ไล่ตามพูดขึ้น ก็ตามอยู่นี่ไงเล่า คนบ้าอะไรวะ ฝนตกหนักยังวิ่งเร็วขนาดนี้ พวกนายอย่ามัวแต่พูดมากน่า เดี๋ยวก็ได้ตามไม่ทันจริงๆแน่ ชายหนุ่มวิ่งพลางหันกลับมามองทั้ง 3 ที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตามไปง่ายๆ เขายังคงวิ่งไปเรื่อยๆ จนกระทั่งร่างกายเริ่มจะแสดงอาการล้า เขาเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็กๆยืนแอบอยู่ข้างกำแพงพลางค่อยๆชะโงกหน้าออกมาดูและเห็นว่าตนเองเริ่มจะหนีทิ้งห่างมาได้พอสมควร ก็คิดจะหาที่หยุดพักชั่วคราว แต่ที่ทางแถวนี้บ้านผู้คนเป็นตึกแถวยาวไปทั้งแถบ จะหาที่ซ่อนที่ปลอดภัยไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คิดอย่างกลุ้มใจก็พลันเหลือบไปเห็นตึกแถวห้องหนึ่ง ที่ประตูเปิดแง้มอยู่ จึงรีบวิ่งเข้าไปหลบข้างใน ปิดประตู ลงกลอนทันที ชายทั้ง 3 ที่วิ่งตามมาเมื่อไม่เห็นแม้เงาของคนที่ตนเองตามอยู่ก็เริ่มใจเสีย เฮ้ย...มันหายไปแล้ว ทำไมมันไวยังงี้วะเนี่ย จะบ้าเรอะ คนจะหายตัวได้ไง ต้องยังอยู่แถวๆนี้แน่ หาดูให้ทั่ว! แล้วทั้ง 3 คนก็พยายามค้นหา แต่ก็ไม่พบตัวบุคคลที่ต้องการ จนในที่สุดก็ต้องยอมล้มเลิกความตั้งใจ กลับเหอะ คลาดกันนานแถมฝนตกหนักยังงี้ หายังไงก็ไม่เจอแล้ว สงสัยวันนี้ท่าจะโดนชุดใหญ่ว่ะ คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าพูดขึ้น นั่นสิ อีก 2 คนรับคำอย่างเซ็งๆ ส่วนทางด้านชายหนุ่มที่หนีเอาเป็นเอาตายมาตั้งแต่ต้นเมื่อเห็นว่าตัวเองปลอดภัยแล้วก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง พลางถอนหายใจอย่างโล่งอก เฮ้...นายเป็นใครน่ะ ขโมยเรอะ เข้ามาทำอะไรในบ้านฉัน เสียงหนึ่งดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มต้องลุกพรวดด้วยความตกใจ เมื่อหันไปก็ต้องตะลึงเมื่อพบกับชายร่างสูงผู้เป็นเจ้าของบ้าน อะ เอ้อ...ขะ...ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ... ไม่ได้ตั้งใจ แล้วเข้ามาทำไม เออ คือ ผมแค่ขอยืมเป็นที่ซ่อนตัวชั่วคราวเท่านั้น นี่ก็กำลังจะไปแล้ว ขอโทษที่รบกวนครับ พูดพลางก้มหัวขอโทษตามมารยาท ผู้เป็นเจ้าของบ้านดูท่าที ประกอบกับสภาพของชายหนุ่มที่เปียกไปทั้งตัว ก็คิดในใจว่าถ้ายังมีแก่ใจขอโทษกันแบบนี้แล้ว คนๆนี้ก็คงจะไม่เป็นอันตรายมากนัก นั่งนี่ก่อน พูดจบก็หมุนตัวกลับเข้าห้องด้านในไปทันที โดยไม่เปิดโอกาสให้ชายหนุ่มได้พูดอะไรต่อ เอ้า กลับออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมยื่นเสื้อผ้าส่งให้ ขอบคุณมากครับ คุณ เอ่อ... ฉันชื่อ J...ห้องน้ำอยู่นั่น รีบไปเปลี่ยนซะ เดี๋ยวค่อยคุยกัน อะ ครับ ขอบคุณมากครับ คุณ J เจ้าของชื่อฟังแล้วรู้สึกตะหงิดๆยังไงชอบกล J เฉยๆก็พอ! รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว ชายหนุ่มเข้าห้องน้ำไป เพียงไม่นานก็กลับออกมา ในสภาพที่ดูดีกว่าตอนแรกมาก เรียบร้อยแล้วนะ ว่าแต่นายชื่ออะไรยังไม่ได้บอกฉันเลยนี่ ผมชื่อ RYUICHI ครับ เอ่อ...ผมคงจะไม่อยู่รบกวนคุณแล้วล่ะครับ ขอบคุณมากนะครับที่ให้เสื้อผ้าเปลี่ยน ดึกจนป่านนี้แล้วยังจะไปไหนอีก ถ้านายมีที่จะไปแล้วจริงๆก็คงไม่ต้องอยู่ในสภาพแบบนี้หรอกนะ เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ผมไม่อยากรบกวนคุณ แล้วอีกอย่างที่ผมเข้ามาในบ้านคุณโดยพลการนี่ก็เสียมารยาทมากแล้ว... ก็ถ้านายเป็นขโมยล่ะก็รบกวนฉันแน่ๆ แต่ดูนายแล้วท่าทางคงกำลังเดือดร้อนนะ ผมไม่อยากดึงคุณมาเกี่ยวข้องกับเรื่องของผม คุณอย่าลืมที่ผมพูดเมื่อกี๊นี้สิว่าเราเพิ่งรู้จักกัน แค่ที่คุณช่วยผมนี่ก็ถือเป็นความกรุณามากแล้วนะครับ แล้วนายจะไปยังไง เสื้อผ้านายยังเปียกอยู่นั่นเลย ชี้ไปที่ราวตากผ้าที่ RYUICHI ตากเสื้อผ้าของตนเองเอาไว้เพียงลวกๆ ถ้างั้นผมขออยู่รอแค่เสื้อโค้ทแห้งก็พอครับ J รู้สึกอ่อนใจเล็กน้อย และตัดสินใจถามเข้าเรื่องเข้าประเด็นหลักทันที เพราะดูท่าทางของ RYUICHI แล้ว คงหนีอะไรบางอย่างที่ไม่ธรรมดามาแน่ๆ แล้วนายหนีอะไร..หรือว่าหนีใครมา ผม...เอ่อ... นึกย้อนหลังไปถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา แล้วจู่ๆก็มีอาการปวดหัวขึ้นกะทันหัน โอ๊ยยยย... ยกมือทั้ง 2 ข้างกุมศีรษะ ลงไปนั่งคุดคู้อยู่กับพื้น ทำให้ J ตกใจมาก เฮ้...นายเป็นอะไร เฮ้... J เขย่าตัว RYUICHI อย่างแรง แต่ทว่าเขาหมดสติไปแล้ว จะหนีไปไหน RYUICHI มานี่! กลับไปกับเราซะดีๆ ไม่! ฉันไม่ไป!!! อย่ามายุ่งกับฉัน!!!!!!! ตะโกนเสียงลั่น มือปัดป่ายมั่วไปหมด RYU! นายเป็นอะไรไปน่ะ J ที่ได้ยินเสียงก็รีบพรวดพราดออกมาจากครัว เรียกชื่อชายหนุ่มด้วยเสียงที่ค่อนข้างดัง เข้ามารวบมือของ RYUICHI เอาไว้ และถึงเพิ่งจะได้เห็นผ้าพันแผลรุ่ยๆที่มือเล็กนั้น RYUICHI ลืมตาโพลง หอบหายใจแรง พูดเสียงสั่น เอ่อ คุ...เอ้อ J นี่ผมเป็นอะไรไป... ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน อยู่ๆนายก็ปวดหัวแล้วก็หมดสติไปทั้งยังงั้น ฉันตกใจแทบแย่ นึกว่าจะเป็นอะไรไปซะแล้ว เมื่อเห็นว่ามือตัวเองถูกรวบไว้ จึงค่อยๆชักมือตัวเองออก คนพวกนั้น พวกชุดดำนั่น...ไปไหนแล้ว ไปกันใหญ่แล้ว ไม่มีหรอกพวกชุดดำอะไรของนายน่ะ คงจะฝันร้ายสินะ เหงื่อแตกพลั่กเลย คืนนี้นอนพักที่นี่น่ะแหละ ถ้านายดีขึ้นแล้วพรุ่งนี้นายจะไป ฉันจะไม่ห้ามนายเลย RYUICHI มองอย่างซาบซึ้งในน้ำใจของ J ...ทำไมคุณถึงได้ดีกับผมนัก ทั้งๆที่เรา... ไม่เคยรู้จักกัน...เพิ่งรู้จักกัน...ช่างย้ำนักนะ ฉันไม่ได้แล้งน้ำใจถึงขนาดที่ว่ามีคนเดือดร้อนแล้วจะไม่ช่วยนะ เอาล่ะ นายนอนพักได้แล้ว ขอบคุณมากครับ ผมโชคดีจริงๆที่ได้เจอคุณ พูดแล้วก็หลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน J ถึงกับหน้าแดงขึ้นมาเอาดื้อๆอย่างไม่มีเหตุผล เมื่อเห็นว่าหลับสนิทดีแล้ว J ก็เดินเข้ามาใกล้ มองดูหน้าของคนบนเตียงอีกครั้ง เขารู้สึกว่าถึง RYUICHI จะมีใบหน้าและแววตาที่แม้จะดูเศร้าหมองแต่ก็ดึงดูดเอาเรื่องทีเดียว เฮ้ย...บ้าแล้ว คิดอะไรของเราเนี่ย สะบัดหัวตัวเองอย่างแรง แต่ก็ยังไม่วายที่จะอดแปลกใจกับชายหนุ่มลึกลับที่มากับพายุฝนในค่ำคืนนี้ เมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้นในเช้าวันต่อมา RYUICHI ก็รู้สึกปวดเมื่อยเสียจนแทบไม่มีแรงจะขยับตัว เขากำลังมองไปรอบๆตัวอย่างงุนงงกับภาพที่ไม่คุ้นตา แล้ว J ก็ก้าวเข้ามา อ้าว ตื่นพอดี...ฉันทำอาหารเช้ารอไว้แล้ว มากินด้วยกันสิ ฉันมีเรื่องจะคุยกับนายด้วย ...ครับ อุ๊... จะลุกยืนแต่ขาก็ไม่มีเรี่ยวแรง ทำให้ฮวบไปคุกเข่าอยู่ที่พื้น อ้าว นี่...เป็นอะไรไปน่ะ แค่ไม่ค่อยมีแรงน่ะครับ ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกครับ เดี๋ยวอีกซักพักผมจะตามไปแล้วกันนะครับ J ไม่ได้พูดอะไร เข้าไปช่วยพยุง RYUICHI ให้ลุกขึ้น แต่... อย่านะ!!! ตะโกนพร้อมกับปัดมือ J อย่างแรง ทำให้ J ทั้งตกใจทั้งงงเป็นอย่างมาก รู้สึกตัว เอ่ยขอโทษทันที ขะ...ขอโทษครับ เจ็บมากมั้ยครับ เปล่าๆ แค่ตกใจ ฉันเพียงแต่จะช่วยพานายเดินน่ะ ขอบคุณครับ แต่เดี๋ยวผมจะตามไปเองครับ...ผม..ผมอยากเข้าห้องน้ำก่อน ก่อนที่ J จะเดินออกจากห้องเพื่อลงไปที่ครัว เขาเหลียวหลังมามอง RYUICHI ที่ค่อยๆเดินเขยกเข้าห้องน้ำไป เขารู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้มีพฤติกรรมแปลกหลายอย่าง แต่ก็ทำได้แค่เพียงเก็บความสงสัยและคำถามต่างๆไว้ในใจ บรรยากาศที่โต๊ะอาหารเคร่งเครียดไปถนัด RYUICHI จึงเป็นฝ่ายเริ่มต้นชวนคุย มีอะไรจะคุยกับผมหรือครับ J มองหน้า RYUICHI ก่อนจะวางถ้วยซุปในมือ แล้วพูดขึ้น ก็จะถามว่าตกลงนายมีที่ไปแน่นอนแล้วรึยัง ยังครับ แต่ผมกะว่าจะไปหาๆดูเหมือนกัน ทำไมหรือครับ ฉันอยากให้นายพักที่นี่ แต่นายก็คงไม่ตกลงใช่ไหม ชายหนุ่มพยักหน้าแทนคำตอบ เพราะเขาได้บอกกับ J ไปแล้วว่าไม่ต้องการให้ J เข้ามาพัวพันกับเรื่องวุ่นวายของเขา ซึ่งมันอาจจะทำให้ J เดือดร้อน ตั้งแต่เมื่อวาน...นายรังเกียจที่จะรับความช่วยเหลือจากฉันหลายครั้งแล้วนะ ขอเหตุผลได้ไหม RYUICHI พูดด้วยคำพูดที่แทบจะเหมือนเดิม พร้อมยิงคำถามที่ตนเองสงสัยอยู่กลับไปบ้าง ผมไม่ได้รังเกียจหรอกนะครับ แต่ผมเกรงใจคุณ แล้วก็ไม่อยากให้คุณเดือดร้อนเพราะผม ผมขอถามคุณบ้างนะ ทำไมคุณถึงอยากช่วยผมนัก ทั้งๆที่เมื่อวานตอนคุณเห็นผม คุณยังไล่ผมออกจากบ้านแทบแย่ เมื่อโดนเข้ากับคำถามนี้ J ก็เป็นฝ่ายอึ้งไปบ้าง ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าถ้าเป็นคนอื่น เขาจะพยายามช่วยขนาดนี้รึเปล่า RYUICHI พูดต่อ คุณพูดไว้ว่าถ้าผมดีขึ้นคุณจะไม่ห้าม ถ้าผมจะไปจากที่นี่ เพราะงั้นผมก็จะทำตามนั้น และคุณก็ห้ามผมไม่ได้แล้วนะครับ ก็ตามใจนายเถอะ ฉันก็ลืมไปว่าไม่ได้มีสิทธิ์อะไรขนาดนั้น ตอบอย่างจนมุม ก๊อกๆๆๆๆ เสียงเคาะประตูดังรัวขึ้น ทั้ง 2 คนมองหน้ากันทันที RYUICHI ไม่แน่ใจว่าจะใช่กลุ่มคนชุดดำที่กำลังตามหาเขาอยู่รึเปล่า และด้วยสีหน้าปั้นยากนี้เองก็ทำให้ J พอจะเดาได้ว่าผู้ที่มาเคาะประตูต้องไม่ประสงค์ดีเท่าไรแน่ๆ เขาลุกยืน และก็พูดขัดเสียก่อนที่ RYUICHI จะได้อ้าปากพูดอะไร ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ไปซ่อนตัวซะ เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง เอ่อ...ครับ รับคำแล้วรีบลุกจากโต๊ะไปทันที (to be continued...)
Main
: Next>> |