อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์.....Mu Koh Surin National Park
|
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
|
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน และอยู่ติดชายแดนประเทศพม่า
ห่างจากชายฝั่งทะเลบริเวณท่าเรือคุระบุรี ประมาณ 60 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะรี(เกาะสต๊อร์ค)
เกาะไข่(เกาะดอรินลา) และเกาะกลาง(เกาะจุมบา) อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์มีเนื้อที่ประมาณ 135 ตารางกิโลเมตร หรือ 84,375 ไร่ ซึ่งเป็นเนื้อที่พื้นดินประมาณ 20,594 ไร่
นอกนั้นเป็นพื้นน้ำ
ป่าหมู่เกาะสุรินทร์ในท้องที่อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงานี้ กรมป่าไม้ได้ดำเนินการประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2514
ต่อมาคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 1/2519 เห็นชอบในหลักการที่กำหนดให้หมู่เกาะสุรินทร์เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
ซึ่งกรมป่าไม้ได้ติดต่อประสานงานไปยังกรมทรัพยากรธรณี ได้รับแจ้งว่า หมู่เกาะสุรินทร์อยู่ในเขตสัมปทานปิโตรเลียม แปลงที่ ตก.9w1 ของบริษัท WEEKS PETROLEUM
จึงขอให้ระงับการประกาศเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าไว้ก่อน และบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์เคยถูกเสนอให้ใช้เป็นค่ายญวนอพยบ
แต่เนื่องจากเป็นเกาะที่มีสภาพภูมิประเทศทิวทัศน์สวยงาม เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า เหมาะที่จะจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวและศึกษาหาความรู้ในด้านธรรมชาติวิทยาทางทะเล
กองอุทยานแห่งชาติจึงได้คัดค้านไม่เห็นด้วย
กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้ดำเนินการสำรวจบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์อีกครั้งหนึ่ง ปรากฏว่ามีทิวทัศน์ทางทะเลที่สวยงาม มีปะการัง มีสภาพป่าที่สมบูรณ์ หาดทรายขาวสะอาด
และนกนานาชนิด กรมป่าไม้จึงได้เสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 2/2523 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2523 เห็นสมควรให้กำหนดบริเวณดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล
โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินหมู่เกาะสุรินทร์ ในท้องที่อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2524 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 98 ตอนที่ 112
ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2524 นับเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งที่ 29 ของประเทศ
กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้กระทำการเปิดป้ายอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2528
จุดเด่นและสถานที่ท่องเที่ยว
|
ลักษณะภูมิประเทศ
ลักษณะพื้นที่ประกอบด้วยเทือกเขาเรียงราย สลับซับซ้อนต่อเนื่องกันเป็นเทือก มีที่ราบน้อยตามบริเวณรอบอ่าวที่เป็นหาดทรายและหุบเขา
ดินมีลักษณะเป็นดินทราย แต่ความชุ่มชื้นสูง ทำให้พันธุ์ไม้ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น และบางตอนเป็นหน้าผาสูงชัน มีพื้นที่ป่าประมาณสองหมื่นกว่าไร่
ส่วนใหญ่เป็นป่าดงดิบชื้น บริเวณชายทะเลเป็นป่าไม้โกงกาง
ลักษณะชายฝั่งโดยทั่วไปของหมู่เกาะสุรินทร์จะมีส่วนเว้าแหว่งเป็นอ่าวทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กกระจายอยู่ทั่วไป
และด้วยการที่ห่างไกลจากชายฝั่งทำให้บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ได้รับอิทธิพลจากชายฝั่งน้อย บริเวณรอบๆเกาะยังเป็นเขตน้ำลึกกว่า 50 เมตร
การไหลเวียนของน้ำบริเวณรอบๆเกาะกับน้ำทะเลในทะเลเปิดเป็นไปอย่างสะดวก ประกอบกับสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์บนเกาะเป็นตัวป้องกันการพังทลายของดิน
และป้องกันการตกตะกอนที่จะลงมายังทะเล ทำให้น้ำทะเลมีความโปร่งใสสูง มีพิสัยการมองเห็นใต้น้ำอาจจะถึง 20 เมตร
ลักษณะภูมิอากาศ
หมู่เกาะนี้มีความชุ่มชื้นตลอดทั้งปี ฝนตกชุกในฤดูฝน ซึ่งเริ่มในราวเดือนพฤษภาคม ถึงตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่มีลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดกระหน่ำรุนแรง
ฤดูแล้งจะเริ่มประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน แต่ยังมีฝนตกบ่อยๆ ช่วงเดือนที่ควรเดินทางอยู่ระหว่างเดือนธันวาคมถึง เมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ปลอดภัยจากฤดูมรสุม
พันธุ์ไม้และสัตว์ป่า
สภาพป่าส่วนใหญ่เป็นป่าดงดิบชื้น และบริเวณริมทะเลบางแห่งมีป่าโกงกางขึ้นอยู่ สภาพป่าอุดมสมบูรณ์ด้วยไม้มีค่าหลายชนิด ได้แก่ไม้ยาง ตะเคียน กระบาก จำปา หูกวาง โพธิ์ทะเล
ค้อ ปออีเก้ง หวาย เป็นต้น
สัตว์ป่าประกอบด้วย ลิง ค่าง กระจง นกลุมพูขาว และนกมูม ซึ่งเป็นนกที่หายาก และจะหากินรวมกันเป็นฝูงๆ ประมาณ 15-40 ตัว
นอกจากนี้ก็มีนกนางนวล นกยางเขียว นกกระเต็น เหยี่ยว นกปรอท นกพิราบป่า นกนางแอ่น เป็นต้น
จุดเด่นที่น่าสนใจ
เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้
ในเกาะนี้มีอ่าวทั้งหมด 10 กว่าแห่ง อ่าวที่มีชื่อเสียงก็คือ อ่าวแม่ยาย หรืออ่าวแม่ใหญ่ เป็นอ่าวที่มีลมสงบและมีขนาดใหญ่ที่สุด
อ่าวลึกอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะสุรินทร์เหนือ มีน้ำลึกจนเป็นสีเขียวเข้ม มีปะการังในช่วงน้ำตื้นสวยงามไม่แพ้ที่แห่งใด
แนวปะการังดูรายละเอียดได้ที่อุทยานใต้ทะเลหมู่เกาะสุรินทร์
ในหมวดอุทยานใต้ทะเล
เต่าทะเลเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่เกิดร่วมยุคเดียวกับไดโนเสาร์ และสามารถวิวัฒนาการสืบพันธุ์ออกลูกออกหลานมาจนถึงปัจจุบัน
ในขณะที่ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปแล้ว ปัจจุบันเต่าทะเลเป็นสัตว์ที่หาดูได้ยากและใกล้ที่จะสูญพันธุ์เช่นกัน ทั้งนี้เนื่องจากชายทะเลที่เต่าทะเลใช้เป็นที่วางไข่ถูกรบกวน
ทั้งจากการพัฒนาและการท่องเที่ยว อีกทั้งเต่าทะเลวัยอ่อนมักจะได้รับภัยอันตรายจากมนุษย์และภัยธรรมชาติ ทำให้สถานการณ์ของเต่าทะเลอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
หากไม่ช่วยกันอนุรักษ์เต่าทะเลและถิ่นที่อยู่อาศัยของมันในวันนี้ โดยปกติเต่าทะเลจะขึ้นมาวางไข่บนชายหาดที่เงียบสงบในช่วงหมดฤดูฝน
เต่าทะเลที่พบ ได้แก่ เต่ากระ เต่าหญ้า และเต่าตนุ
ชาวเลแห่งหมู่เกาะสุรินทร์ ชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวเล เป็นชนเผ่าดั้งเดิมที่มีอยู่ในหมู่เกาะสุรินทร์ ชาวเลเป็นชนเผ่าหนึ่งที่อาศัยอยู่ในหมู่เกาะของทะเลอันดามัน
กระจายอยู่ตั้งแต่เกาะ ไนโคบาร์(NICOBAR) ประเทศอินเดีย หมู่เกาะในประเทศพม่า ตลอดเรื่อยไปจนถึงเกาะสุมาตราของประเทศอินโดนีเซีย
อาศัยอยู่ในบ้านที่เป็นเรือทำจากไม้ระกำชันเรือด้วยยางไม้ แต่อายุการใช้งานการใช้เรือชนิดนี้มีแค่ 6 เดือน ชาวเลจะไม่มีภาษาเขียน ชาวเลส่วนหนึ่งสามารถพูดภาษายาวีได้
การนับเวลาจะสังเกตเดือนและดวงจันทร์
แผนที่เส้นทางท่องเที่ยวในอุทยาน ใช้แผนที่เดียวกันกับอุทยานใต้ทะเลหมู่เกาะสุรินทร์
ซึ่งจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับการท่องโลกอุทยานใต้ทะเลที่หมู่เกาะแห่งนี้ด้วย

การเดินทางไปหมู่เกาะสุรินทร์ จากกรุงเทพฯสู่อำเภอตะกั่วป่า จะผ่านอำเภอคุระบุรี ประมาณ 6 กิโลเมตร เลี้ยวเข้าแพปลา เหมาเรือยนต์ไปที่หมู่เกาะสุรินทร์ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง
จากกรุงเทพฯ สู่จังหวัดระนอง จากตัวเมืองระนองไปตามทางหลวงสายระนอง-ตะกั่วป่า ถึงกิโลเมตรที่ 720 ก่อนก็จะถึงอำเภอคุระบุรี ประมาณ 6 กิโลเมตร เลี้ยวเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร
ก็จะถึงแพปลาซึ่งเป็นท่าเทียบเรือคุระบุรีเช่นกัน
สถานที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก
|
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ มีบ้านพัก(เรือนแถว) ไว้บริการนักท่องเที่ยวจำนวน 3 หลัง พักได้หลังละ 30 คน ค่าธรรมเนียมที่พัก 1,500 บาทต่อคืน
และมีเต้นท์เล็กพักได้ 2 คน 40 บาทต่อคืน
ขอเชิญท่านที่เคยท่องเที่ยวหรือมีความทรงจำถึงอดีตต่ออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ บันทึกเรื่องราวของท่าน
เพื่อเป็นการระลึกถึง
บันทึกเรื่องราวของท่าน
บันทึกจากประสบการณ์การเดินทาง
อ่านเรื่องราวจากประสบการณ์ของเพื่อนๆที่เคยเดินทางไปท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ได้ที่นี่