Image Loading...
ประสบการณ์เล่าสู่กันฟัง...

winyoo (winyoo99@hotmail.com) 23 พฤษภาคม 2542


andaman sea


สวัสดีครับ......ทุกคน
นี่เป็นเรื่องราวการท่องเที่ยวของผม และผมมีความ ยินดีที่จะเล่าให้เพื่อนๆฟังและเป็นข้อมูลการท่องเที่ยวใน ครั้งต่อไปครับ เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นการท่องเที่ยวทาง ทะเลฝั่งอันดามัน รวมถึงฝั่งอ่าวไทยบางส่วน
มันได้เริ่มต้นจากสถานีรถไฟหัวลำโพงด้วยขบวนรถ เร็วชั้นสองปรับอากาศ บนรถผมได้รู้จักเพื่อนใหม่มาจาก เกาะอังกฤษชื่อว่า simon เราคุยกันตามประสาเพื่อนใหม่ที่ เพิ่งรู้จักกัน คุยมาได้สักพักผมก็พบว่าตะวันเริ่มตกดิน หัน กลับมาสักพักก็มีเจ้าหน้าที่มาถามว่าจะให้ปูที่นอนเลย หรือปล่าว ผมตอบตกลง ก่อนนอนผมเขียนบันทึกนิด หน่อย จากนั้นก็หลับยาวมารู้สึกตัวอีกทีก็เกือบถึงสถานี รถไฟจังหวัดสุราษ. ดูเวลาก็เกือบตี 5 ครึ่ง ผมลงรถไฟที่นี่ ด้านล่างมีคนมากมายจากบริษัทนำเที่ยวชูป้ายขายตั๋วเรือ ข้ามไปตามเกาะต่างๆเช่น เกาะพงัน , เกาะสมุย แต่ผม เลือกที่จะเดินทางเข้าไปเที่ยวในเมืองก่อน ตลาดและบ้าง เมืองดูสะอาดดี ผมแวะทานข้าวก่อนจะออกเดินทางต่อสู่ เกาะพงัน ผมเรียกรถมอเตอร์ไซด์ให้ไปส่งที่ท่าเรือปากน้ำ และซื้อตั๋วเรือในราคา 195 บาท ซึ่งเป็นราคาเดียวกันกับที่ ซื้อในสถานีรถไฟนั่นเองแตกต่างตรงที่เขามีรถรับส่งให้ถึง ที่,เกาะพงัน สรุปว่าถ้าไม่แวะในเมืองก็ให้ซื้อตั๋วที่สถานี รถไฟเลยจะดีกว่า 195 รวมค่าเรือแล้ว
เรือที่ผมนั่งไปวันนั้นเป็นเรือด่วนลำไม่ใหญ่นัก เดิน ทางก็ 3 ชม. สนุกมาก ที่เกาะพงันมีชายหาดมากมายหลาก หลาย แต่ผมเลือกไปที่หาดริ้น ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาที่นี่ เยอะที่สุด ที่ผมเลือกที่พักไม่หรูหรามากในระดับราคา 150 บาท ชายหาดที่ว่านี้ในตอนสายจะมีฝรั่งเยอะมากหา คนไทยแทบไม่เจอ แต่ก็มีผมนี่แหละคนหนึ่งหละ พวกเขา จะมานอนอาบแดดกัน ที่ว่าเยอะนี่เป็นจำนวนเรือนหมื่น ครับ ที่พักก็มีหลายระดับตั้งแต่ 100 จนถึง หลักพัน ห้อง น้ำรวมหรือในตัวห้องแล้วแต่จะเลือกครับ
ตกกลางคืนที่นี่จะกลับมีแสงสีขึ้นมากมายก็บาร์นั่น หละผมไม่เลือกดื่มแต่ผมนั่งชมพระจันทร์ขึ้นครับ มีคนที่ เกาะเล่าให้ผมฟังว่า ครั้งหนึ่งมีนักเขียนชาวญี่ปุ่นมาเที่ยว ที่นี่และได้บรรยายถึงพระจันทร์ว่าเป็นพระจันทร์ที่สวย มาก และเขาได้เผยแพร่งานเขียนของเขาไปทั่วโลกจาก นั้นมาเกาะนี้ก็เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก และได้ชื่อว่าเป็น สถานที่ที่มองเห็นพระจันทร์ได้สวยงามที่สุด และเพื่อให้ เป็นจุดสนใจก็ได้ร่วมกันจัดงาน Fullmoon party ขึ้นเป็น ประจำทุกเดือน แต่เสียดายที่ผมมาช้าไป 3 วันก็เลยอด สนุก ผมพักที่นี่ 1 คืนและได้เดินทางกลับสู่จังหวัดสุราษ. และค้างคืนที่นี่
ในตอนเช้าผมเลือกเดินทางสู่จังหวัดภูเก็ตโดยทางรถ โดยสาร ผมค้างที่นี่หนึ่งคืน ในตอนเช้าก็ได้เช่ารถ จักรยานยนต์ไปเที่ยวตามสถ่นที่ต่างๆแต่ที่ประทับใจมาก ที่สุดเห็นจะเป็น แหลมพรมเทม สวยเหมือนในภาพถ่าย แต่สดชื่นกว่าครับ แต่น่าเสียดายที่วันนั้นมีเมฆมาก ก็ผิด หวังเล็กน้อย ผมอยู่ที่ภุเก็ตหลายวัน อาหารพื้นเมืองก็ชิม หมดแล้วเช่น โลบะ และอีกหลายอย่าง ก็อยากจะชวน เพื่อนให้มารองลิ้มรสดูบ้าง อร่อยมากๆครับ
จากนั้นทุกอย่างก็มาตังที่หมู่เกาะสิมิลัน ด้วยเรือด่วน โดยสารติดแอร์สนนราคาใน 1 วันด้วยราคา 1700 บาทแต่ สิ่งที่ได้รับเกินคุ้มครับ
ในตอนเช้าของวันใหม่ผมรีบตื่นแต่เช้าก็เพราะจะให้ ทันกลับเวลานัดหมายของทางบรฺษัทนำเที่ยว
รถได้นำผมและลูกทั่วอีกหลายท่านมุ่งหน้าสู่หาดป่า ตองก็เพื่อที่จะโดยสารเรือมุ่งหน้าสู่หมู่เกาะที่ได้ว่ามีแนว ประการังที่สวยติดอันดับหนึ่งในสิบของโลก ผมใช้เวลา เดินทางโดยประมาน 3 ชม. เรือมาจอดที่เกาะสิมิลัน ให้ เดินขึ้นไปสู่จุดชมวิวท์ ผมได้มองลงไปด้านล่างมันเป็น เวิ้งอ่าวที่สวยที่สุดครับ น้ำสีฟ้าครามใสมากๆหาดทราย ขาวมากยิ่งตอนที่แดดจัดๆแล้วล่ะก็อย่าให้บอก ไป แล้วจะประทับใจไปแล้วอยากไปอีก ผมก็พิมพ์ไม่เก่งด้วย สิ ไม่ก็คงจะบรรยายได้มากกว่านี้แหละ
ทางบริษัทได้เปิดโอกาสให้พักค้างคืนได้ 4 คืน 5 วัน ครับผมเลือกที่จะพัก ก่อนที่จะไปยังที่ทำการอุทยานบน เกาะ 4 นั้น ผมและลูกทั่วได้ลงดำน้ำดูประการังกันที่นี่ และที่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ดำน้ำดูปะการังเป็นครั้งแรก และได้พบกับอีกโลกหนึ่งที่สวยงามจนบางครั้งลืมโลก ด้านบนไปสนิท มันมีเสน่ห์มีปลาตัวใหญ่หลากสีสวยสด งดงาม ได้เห็นเต่าตัวใหญ่แหวกว่ายอยู่ใต้น้ำนั่น เป็น ประสพณืการณ์ที่พิเศษสุด เนื่องจากน้ำที่นี่ใสมากจึงมอง เห็นได้ชัดเจนในระดับความลึกเกินกว่า 10 เมตรครับ
จากที่ผมเล่าให้ฟังคงพอจะสรุปได้ว่าสวยอย่างไรนะ ครับ จากเกาะ 8 ผมก็มุ่งหน้าสู่เกาะ 4 ที่ทำการอุทยานแห่ง ชาติหมู่เกาะสิมิลัน ผมค้างคืนที่นี่ 4 คืนได้เหมาเรือไปตาม เกาะต่างๆและที่ประทับใจมากที่สุดเห็นจะเป็นที่เกาะ 1 ครับมีแนวปะการังที่ยาวกว่า 1 กม. และไม่อนุญาติให้ บุคคลใดๆพักค้างแรมที่นี่เพราะเป็นแหล่งรักษาอนุ รักณ์พันธุ์เต่าทะเล ผมและเพื่อนใหม่อีก 5 คนที่ได้รู้จักกัน เมื่อวันก่อนเป็นฝรั่งคนหนึ่งและสาวๆอีก 4 คน ดำน้ำกัน อย่างเพลิดเพลิน ที่นี่มีปะการังเขากวางเยอะมากจะสังเกตุ เป็นสีสวยงาม ทั้งสีฟ้า ขาว น้ำตาล สวยงามจับใจ อย่างบอกไม่ถูกจนต้องอธฺบายด้วยภาพจะดีที่สุด ถ้ามี โอกาสผมจะกลับไปอีกแน่
จุดดำน้ำมีอยู่หลายที่ให้ดูจากแผนที่ในที่ทำการณ์ครับ ตกกลางคืนก็จะมีสไรซ์ให้ชมกันใครสนใจก็รอชมตอน 2 ทุ่มครับ ค่าเรือไปเที่ยวตามเกาะราคาอยู่ที่ 1200 บาทต่อ วัน
จากที่สิมิลันผมมุ่งหน้าสู่จังหวัดเกาะบี่เพื่อขึ้นเรือมูง่ห น้าสู่เกาะลันตาและเกาะรอก แต่ผิดหวังครับ ผมเลยต้อง ไปเที่ยวที่เกาะ พีพี แทน ตอนนี้ผมมีเพื่อนฝรั่งมาด้วย ครหนึ่งชื่อว่า ฟิลิปป์ เป็นชาวเดนหมากครับ ที่เกาะนี้ไม่มี สิ่งที่หน้าสนใจเพราะว่าปะการังตายหมดแล้ว แต่ถ้าต้อง การเห็นปะการังน้ำลึกที่นี่ยังมีอยู่มากครับ เรานอนที่ 4 คืน และได้กลับขึ้นกระบี่อีกครั้งและพยายามไปเกาะรอกอีก ครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จเลยหันหน้าเข้าสู่จังหวัดตรัง ไปพักกับ น้องคนหนึ่งที่พึ่งรู้จักกันบนรถเมล์นั่นเอง น้องเขาพาไป เที่ยวน้ำตกครับ ถ้าจำไม่ผิดคือ ตานโตดใหญ่ครับ เราเดิน ขึ้นไปตามลำธารเพื่อที่จะขึ้นไปบนจุดชมวิวท์ครับ เราเดิน กันมาได้ 45 นาทีผมจึงบอกกับน้องๆให้กลับกันเพราะมี แววว่าเราจะหลงทางกอปรกับบรรยากาสเริ่มอึมครึม
น้ำตกนี้สวยครับใหญ่สมชื่อสูงมากด้วยมองเห็นป่าเขา มากมาย น้ำตกนี้อยู่บนเทือกเขาบรรทัดครับ
เราเที่ยวกันจนเพลินมองเวลาก็มาอยู่ที่บ่ายสองโมงทุก คนจึงมุ่งหน้ากลับที่พัก ผมเองชวนน้องมานั่งกินข้าวข้าง นอก น้องเขาเล่าให้ฟังว่าได้พบเห็นเงาคนสูงใหญ่หลาย คน เป็นเงาดำทะมึนน่ากลัวครับ แต่ผมเองไม่เห็นหรอก น่ะ ผมจึงนึกขึ้นได้ว่าตอนที่พวกเราลงทำไมน้องๆจึงรีบ ร้อนนัก มีบางคนถึงกับเข่าอ่อนต่อหน้าต่อตาเพื่อนๆ
ก็เป็นประสพการณ์ที่แปลกอีกอย่างหนึ่ง หลังจากเที่ยว ที่นี่จนชุ่มปอดแล้วผมจึงมุ่งหน้าสู่ หาดใหญ่ แต่ก่อนกลับ ก็ไม่ลืมที่จะแวะไปลิ้มลองอาหารที่ขึ้นชื่อนั่นคือ หมู่ย่างไง อร่อยมากเลยล่ะ บอกไม่ถูกต้องรองดู จากหาดใหญ่ผมเดิน เที่ยวในเมืองและปาดังเปซา และเข้าไปขอข้อมูลในการ ท่องเที่ยวและที่ไม่ได้ตั้งใจผมจึงได้แหล่งท่องเที่ยวใหม่ นั่นคือ หมู่เกาะอาดังราวี
ในเช้าวันต่อมาผมก็นั่งรถจากหาดใหญ่สู่ท่าเรือปากบา รา จ. สตูล ผมโดยสารเรือในราคา 660 บาทครับ นี่ไม่รวม ตอนที่จะขึ้นเกาะอีก 30 บาทครับ ที่หมู่เกาะนี้เรือจะจอด แวะที่เกาะตะลุเตาแล้วเดินทางต่อสู่เกาะอาดังซึ่งเป็นที่ทำ การของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอาดังราวีครับ ตอนที่นั่ง เรือไปจะพบเห็นแหล่งท่องเที่ยวต่างๆเช่น ซุ้มประตูหิน ธรรมชาติ สวยงดงามบอกไม่ถูก และบางครั้งถ้าโชคดีก็จะ ได้พบกับฝูงปลาโลมา,ปลาวาฬ ครับผมเลือกพักที่เกาะ หลีเป๊ะครับ เป็นกระท่อมเล็กๆมีมุ้ง,ฟูก,หมอน และห้อง น้ำรวม ทั้งหมดนี้ในราคา 150 บาทครับ ผมนอนที่นี่ 4 คืน
ในตอนเช้าผมกับเพื่อนใหม่เป็นฝรั่งทั้งหมดได้ขึ้นเรือเดิน ทางไปท่องเที่ยวยังเกาะต่างๆ ได้พบเห็นปะการังอ่อนที่นี่ เป็นครั้งแรก สวยงามเหลือเกิน แต่ให้ระวังเรื่องน้ำสัก หน่อยเพราะเชี่ยวเหลือเกิน ต้องใช้ตีนกบ หรือไม่ก็ต้องฝึก สักหน่อยครับ เวลาที่ดูปะการังที่เหมาะที่สุดคือ 8,9, ค่ำ ครับเป็นช่วงที่น้ำตายครับ
ที่เองผมได้มีโอกาสได้สัมผัสกับเจ้าเต่าทะเลใต้น้ำอย่าง ใกล้ชิด สงศัยว่าตอนนี้ตัวเองเริ่มดำน้ำเก่งขึ้นในเวลาไม่กี่ วันนี้เอง แล้วตอนดำน้ำต้องระวังเรื่องความกดดันน้ำด้วย เดี๋ยวหูจะทะลุไม่รู้ด้วย ยังไงเสียก็ให้สังเกตูว่าเมื่อใดที่ รู้สึกว่าปวดแก้วหูก็ให้ขึ้นผิวน้ำแล้วจะปลอดภัยครับกลับ จากหลีเป๊ะผมก็โดมานอนที่เกาะอาดังหนึ่งคืนแล้วเดิน ทางกลับสู่หาดใหญ่แล้วเดินทางต่อไปยังจังหวัดระนอง แล้วขึ้นรถเมล์ตอนตี 4 มุ่งหน้าสู่ท่าเรืออะไรน้าาาาจำไม่ได้ แฮะ แล้วโดยสารเรือมู่งหน้าสู่หมู่เกาะสุรินทร์และนี่เป็น สถานที่สุดท้ายของการเดินทางครับ
หลังจากหมู่เกาะอาดังราวีที่ชื่นชอบได้เข้าสู่ความประทับใจและความ ทรงจำของผมแล้วผมเดินทางต่อทันที่มุ่งหน้าสู่ท่าเรือคุระบุรี อยู่ในเขต จังหวัดพังงา ห่างจากตัวเมืองระนองร้อยกว่าโล (ภาษาชาวบ้านน่ะ)เรือออก เวลา 10.00 ช้าไปครึ่งชั่วโมง เรือมุ่งหน้าสู่หมู่เกาะสุรินทร์เราใช้เวลาเดิน เรือประมาณ 3-4 ชม. จนเรือเข้าสู่อ่าวสีเขียวครามแผ่กว้างใหญ่มากเป็น เวิ้งน้ำที่งดงามอะไรเช่นนี้ มองดูด้านล่างน้ำใสสะอาดมากจนมองเห็นตัว ปลาจนสามารถบอกรายละเอียดของปลาตัวนั้นได้เลย อยากจะให้เห็นจริงๆ ช่วงที่เรือจะเข้าเทียบท่าก็ต้องใช้ความระมัดระวังกันหน่อยครับเพราะน้ำที่นี่ ตื้นเขินเหลือเกิน เรือแล่นมาถึงทุ่นจอดแล้วทุกคนเตรียมตัวพร้อมที่จะลง เรือเล็กมุ่งหน้าสู่เกาะสุรินทร์อย่างตื่นเต้นแต่สำหรับผมเมื่อไรก็ได้ครับ เพราะอย่างไรก็ได้ไปเหมือนกันจะช้าเร็วเท่านั้นครับ แต่ขอบันทึกภาพ ความทรงจำไว้ก่อนล่ะ ที่นี่ผมเลือกที่จะพักเต็นท์เพราะเข้าใกล้ธรรมชาติที่ สุด ราคาก็ถูกครับ 100 บาท/คืน เหมือนกันทุกที่ครับ (ของกรมป่าไม้)ที่พัก ผมอยู่ที่ด้านหลังของที่ทำการ ส่วนด้านข้างเป็นช่องเขาขาดมีประการังสวย งามมากและอะไรที่หาดูได้ยากๆอาจจะพบได้ที่นี่ครับ ปลาสิงโตส์ก็หายาก นะครับ ปลาการ์ตูนกับดอกไม้ทะเล เห็นได้ที่นี่เช่นกันครับ และถ้าคุณยืน อยู่ในน้ำเฉยๆก็อาจจะได้พบกับปลาพยาบาลที่เข้ามาตรวจสอบเรื่องความ ไปตามลำตัว ขาแข้งสนุกมากใช่มั้ยล่ะ น่าสนใจน่ะ ยังยังมีอีกเยอะครับเช้า วันต่อมาผมเลือกที่จะพักผ่อนเพราะเพรียกับการเดินทางอันยาวนานมา ตลอดทั้งวัน มุนผมอยู่กลางแดดครับเพราะผมต้องการผิวสีแทนแต่เท่าที่ เห็นจะออกไปทางดำๆครับ นี่ขนาดใช้นีเวียบราวซ์แล้วนะครับ ตกเย็นตั้งใจ จะดูพระอาทิตย์ตกดินสักหน่อยแต่ทำเลที่ทั้งไม่เป็นใจซะนี่เลยอดครับ ตก กลางคืนก็ไปนั่งดูสไรด์ที่เจ้าหน้าที่จัดให้ชมครับเริ่มราวเวลา 20.00 หลัง อาหารครับ จากนั้นผมก็เขียนบันทึกนิดหน่อยก็ไม่หน่อยน้า จะถามว่าเรื่อง อาบนั้นก็บอกได้เลยอาบก็ได้ไม่อาบก็ได้เพราะตัวคนเดียวนี่ คืนนั้นก็ดึกอีก
ในตอนเช้าวันใหม่ผมได้รู้จักเพื่อนใหม่และได้เช่าเรือของอุทยานไป เที่ยวตามเกาะต่างๆเอากันให้หมดเรี่ยวแรงกันไปเลย ทันทีที่เรือออกมุ่ง หน้าสู่เกาะต่างๆมากมายผมเกาะรู้สึกว่าจะได้พบสิ่งที่พิเศษครับ ขอเล่าโดย สรุปล่ะครับเพราะสถานที่ไปชักจะจำไม่ได้ครับ ในท้องน้ำอันสดใสเบื้องล่าง ท่านจะพบเห็นปะการังหลากชนิดครับ ปลาตัวใหญ่หลากสี เต่าครัยเต่าดูได้ ที่อ่าวเต่าครับ และในขณะที่คุณกำลังเพลิดเพลินกับความงดงามด้านล่าง คุณรู้มั้ยเพื่อนอีกตัวกำลังว่ายสำรวจรอบตัวคุณ และเมื่อได้พบกับมันอาจ จะทำให้คุณตะลึงไปชั่วขณะครับเพราะปลาที่ว่าคือ ฉลามครับตัวละ ประมาณ 1-2 เมตรครับ เจ้าหน้าที่บอกว่ามันไม่เคยทำร้ายใครครับ จริง หรือไม่ต้องลองครับ น้ำที่นี่แรงมากครับต้องระวังหน่อยว่ายกันเป็นกิโล เหนื่อยมากนะครับ เล่นเอาผมหมดแรงถึงขนาดอ่าวสุดท้ายไม่ยอมลงแล้ว และดันเป็นแหล่งที่มีประการังสวยที่สุดด้วยสิ ที่นี่คุณจะพบปะการังอ่อนได้ โดยการดำผิวน้ำครับ ไม่ต้องเอาถึง Scuba หรอกครับ และนี่ก็เป็นประสพ การณ์ที่น่าตื่นเต้นและประทับใจอย่างสุดซึ้งครับ
เช้าวันต่อมาพวกพี่ๆจะชวนผมออกไปอีกแต่ขอตัวครับหมดแรงจริงๆ กอปรกับแพ้เจ้าตัวแมงกระพรุนตัวน้อยด้วยหรือที่เขาเรียกว่าแตนทะเลนั่น แล ขึ้นเป็นผื่นน่ากลัว เจ้าหน้าที่แนะนำให้ใช้ผักบุ้งทะเลบดแล้วทาครับพอ ทุเลาไปบ้าง แต่ก็เล่นเอาเข็ดไม่อยากไปดำน้ำอีกครับ ส่วนเจ้าแตนทะเลจะ อยู่บริเวณที่น้ำขุ่นๆมีปลาตัวเล็กว่ายเป็นฝูงครับเวลาโดนเข้าก็จะรู้สึก เหมือนโดนเข็มแทงครับก็ควรจะหลีกเลี่ยงลักษณะดังกล่าวจะได้ปลอดภัย หรือใครมีเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวจะดีมากครับ ครีมกันแดดด้วยแนะ นำให้ใช้ 30 spf ขึ้นไปจะปลอดภัยแต่ก็เห็นกลับมาคอดำทุกราย
ช่วงที่ดำน้ำดูประการังได้ดีเห็นจะเป็นช่วงน้ำตายครับ คือน้ำมีการขึ้นลง น้อยหรือเปลี่ยนแปลงน้อยนั่นแหละทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแรงดึงดูดของดวงจันทร์ ครับ ลักษณะน้ำตายจะเกิดในช่วงวันที่ 8.9 และ 26.27 ของทุกเดือนโดย ประมาณแต่อย่าเชื่อมากน่ะครับขอให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่ด้วยจะดีที่สุด ผมเองก็ได้ข้อมูลมาจากที่นั่นเอง
ผมอยู่ที่เกาะนี้ 4 คืน 5 วัน รู้สึกประทับใจอย่างสุดซึ้งว่าเมืองไทยยังมี อะไรดีๆอีกมากที่รอผู้คนเข้าไปสัมผัส และต้องขอร้องเรื่องความสะอาดต้อง ช่วยกันเก็บครับไม่ใช่ทิ้ง ผมเห็นมามากครับแต่งตัวดีการศึกษาสูงแต่ไม่ ห่วงแหนธรรมชาติ ทิ้งไม่เลือกที่ครับ และอีกเรื่องความสงบขอได้จำไว้ว่า ทุกคนมีสิทธิ์ในบุคคลก็จริงแต่ก็ต้องไม่ไปรบกวนผู้อื่นด้วยครับ ก็ที่นี่แหละ ที่เจอเข้าอย่างจังผมสุ้อุตส่าหนีกความวุ่นวายมาหลบอยู่ที่เกาะก็มิวายเจอ เข้าจนได้ ในใจก็ได้แต่พูด เอาเข้าไปๆเอาให้สุดเสียงเลยครับ ทำอะไรไม่ได้ นี่เพราะเป็นคณะทัวร์ใหญ่ถึงกับฝรั่งตีตั๋วเรือกลับไม่ทัน ก็เที่ยวแบบคน ไทยไม่มีมารยาท เจ้าหน้าที่ที่หมู่เกาะสิมิลันเคยบอกผมว่าคนไทยยังเที่ยว ไม่เป็น เอะผมว่ามันเริ่มเครียดๆนะเนี่ย พอดีกว่า อ้อลืมเรื่องอาหารที่นี่ แพงมากครับ เช้า 90 กลางวัน 110 เย็น 160 อย่างกับเที่ยวเกาะสวรรค์ อย่างนั้น คนมีเงินเขาบอกไม่แพง คนไม่มีก็บอกว่าแพงคิดเอาเองครับ
ขากลับก็ซื้อของติดไม้ติดมือนิดหน่อยก่อนกลับ ถึงตรงนี้หวังว่าคงจะ สนุกน่ะครับ ข้อมูลขอที่ ททท ได้ทุกจังหวัดครับ อย่าไปขอที่สำนักงานใหญ่ จะได้แค่กระดาษ 4-5 เล่มแล้วไม่มีคำแนะนำใดๆเลย (น่าเบื่อ)
กลับจากหมู่เกาะสุรินทร์แล้วก็ถึงเวลากลับบ้านแล้วล่ะครับ ผมใช้บริการ รถด่วนปรับอากาศชั้นสอง จากสุราษ.มุ่งสู่กรุงเทพมหานครที่มีแต่มลพิษ
นี่ก็เป็นเรื่องราวที่พอจะจำได้โดยสรุปนะครับ อ่านสนุกๆอย่าเครียดนะ ครับ ก็อยากจะฝากกับคนที่จะไปเที่ยวครับ ให้เตรียมตัวให้พร้อมครับ ถุง นอน หมอนลม ยา ครีมกันแดด ที่สำคัญที่สุด atm และควรสำรองเงินให้พอ กับการเที่ยวแต่ละเกาะ ประมาณ 4000-5000 ต่อ เกาะครับ หรือมากกว่าก็ ดีครับ เพราะแพงทุกอย่าง คูณด้วย 2 หรือ 3 เข้าไปสิเท่าไร
มีข้อความก็ติดต่อมาได้นะครับ
winyoo


Image Loading...