ประสบการณ์เล่าสู่กันฟัง...อุทยานแห่งชาติเอราวัณ

jame (nuttapoi@cementhai.co.th)11 พฤศจิกายน 2541   กับความทรงจำที่มีอยู่ น้ำตกเอราวัณ จ.กาญจนบุรีจะประทับใจนิรันด์ น้ำใส เหมือนน้ำทะเล เย็น จนอดใจไม่อยู่ต้องลงไปสัมผัส ทั้งๆที่อายุเราก็มากมายโขอยู่ ไม่อายเด็กเลยนะเรา ผมว่าที่นี้ไม่เป็นสองลองใคร ลองไปดูซิ ped25 มกราคม 2543 ไปเที่ยวกาญสำราญใจจัง ผมเคยไปเที่ยวกาญเมื่อนานมาแล้วตอนนั้นไปกับพวกนักฟุตบอลในทีม พร้อมกับผู้ควบคุมทีมประมาณ 20 คนไปตอนแลกก็ไปที่น้ำตกเอราวัณเลย เดินเข้าไปแค่ชั้นแรกก็ลงเล่นน้ำกันเลยน้ำเย็นมากเลยไม่ได้ขึ้นไปข้างบน แต่ว่าน้ำใสมากเลยมีปลาตัวใหญ่มากตอนเล่นน้ำตกอยู่มีปลาตัวเล็กๆมา ตอดที่ขาด้วย คนเยอะมากแต่บรรยากาศดีมากไม่ร้อนเพราะมีต้นไม้ต้น ใหญ่เยอะมากเลยต่อจากนั้นออกไปเที่ยวที่เขื่อนไปตอนแรกน่ากลัวมาก แต่วิวสวยดีอยู่ทานข้าวที่นั้นก่อนแล้วจึงไปที่สะพานไปหาซื้อของฝาก แล้วกลับที่พักเช่าแพออกไปกลับมาตอนเช้าแวะเที่ยววัดอะไรผมจำชื่อไม่ ได้แต่ว่าที่วัดนี้มีชีลอยน้ำได้ด้วยเข้าไปไหว้พระแล้วกลับมาที่ฝั่งขึ้นรถไป เที่ยวน้ำตกไทรโยคต่อจากนั้นเดินทางกลับ TAN (tan_ku58_2000@yahoo.com) 4 มิถุนายน 2543 เอราวัณ...เวลา สายน้ำและความทรงจำ ....มีคนเคยกล่าวไว้ว่า..... เวลาและสายน้ำไม่เคยไหลย้อนกลับ .....ฉันรู้และเข้าใจดี.... แต่ในทุกช่วงเวลาที่สายน้ำ...ได้ไหลผ่าน ....ฉันไม่เคยลืม.... กลับมีบางสิ่งบางอย่าง.... ทำให้ฉันรู้สึกว่า...เวลาและสายน้ำ ....ได้หยุดลง ณ ที่แห่งหนึ่ง... ในความทรงจำของฉัน Jum - - ALee1980@excite.com - 12/06/2000 RE:เอราวัณ...เวลา สายน้ำและความทรงจำ I was there it's a beautiful place. แม่น้องเซ็ท (mumset89@hotmail.com) - 16/08/2000 เที่ยวอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณเมื่อเดินเข้าไปตรงจุดที่ให้กางเต็นท์ มีความรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในบริเวณลานวัด เพราะจะมีเรือนแถวยาว 2 หลังติดกัน มองแล้วเหมือนกับกุฏิพระ ติดป้ายไว้ว่าค่าย1 กับค่าย 2 (สำหรับพักแรม) ซึ่งมีพวกนักศึกษามาออกค่าย 50 คน ตรงกลางเป็นสนามฟุตบอลล์ ทางด้านขวาติดกับราวป่ามีลำธาร มีเสียงน้ำไหล ได้ยินตอนไปถึงใหม่ๆ แต่กลางคืนไม่ได้ยินอะไรเลยค่ะ มีเต็นท์กางอยู่ 8 หลัง เราไปถึง 6 โมงเย็น ยุงก้นป่องเยอะมาก เป็นฝูงๆ เลย รีบทา ก.ย.15 น้องเซ็ทก็รีบไปเก็บใบไม้แห้งๆ มาจุดไฟไล่ยุง ได้ผลค่ะ ยุงหายหมด เวลาที่เราจะเข้าไปที่นี่ต้องซื้ออาหาร น้ำจากข้างนอกนะคะ เพราะข้างในไม่มีร้านค้าอะไรเลยค่ะ ห้องน้ำที่นี่เยอะมากค่ะเป็น 10 ห้องเลย แต่ไม่มีน้ำค่ะ พวกที่มาพักเต็นท์เขาไปอาบที่ลำธารกันค่ะ เมื่อเรามาจากห้วยแม่ขมิ้นแล้วมาเห็นที่เอราวัณนี่มันผิดกันเลยค่ะ บรรยากาศมันไม่สวยงามเหมือนที่นั่นเลยค่ะ มองไม่เห็นเจ้าหน้าที่สักคนมาดูแล พวกเราอยู่กันเฉพาะพวกที่มากางเต็นท์นอน กับพวกนักศึกษาฯ ที่เรือนแถวค่ายพักแรม เท่านั้น ประมาณ 2 ทุ่มได้ เสียงเพลงก็เริ่มร้องแข่งกัน 3 กลุ่มๆ ละ เกือบ 10 คน ได้ ทุกกลุ่มมีกีตาร์ มีขวดเคาะ บรรเลงกันสนั่นป่า (พวกนักศึกษาฯ ในเรือนแถวไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับพวกที่มากางเต็นท์นอน) คุณแม่นอนไม่หลับเลยกินยานอนหลับแล้วก็ยังหลับไม่ลงเลยจนตี 1 ครึ่งได้ ค่อยสงบเสียงกัน ทุกครั้งที่ไปนอนตามอุทยานต่างๆ กลางคืนจะได้ยินเสียงของป่า เสียงน้ำไหล แต่ที่นี่ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยจริงๆ แม้แต่เสียงจั๊กจั่น ความรูสึกว่าเรามาจากที่ high class แล้วก็มาเจอกับพวก low class จริงๆ ไม่ประทับใจอะไรเลยกับการกางเต็นท์นอนที่นี่ แม้แต่เด็กอย่างน้องเซ็ทยังรู้จักว่ามันไม่ถูกต้องเลยที่พวกนี้ตะโกนร้องเพลงกันสนั่นป่า และก็ทำให้เขานอนไม่หลับด้วย ที่อุทยานอื่นๆ ที่ไปมาในปีนี้เกือบจะทุกที่ เช่น เกาะช้าง รัตนโกสินทร์ เขาแหลมหญ้าหมู่เกาะเสม็ด เขาใหญ่ ตาดโตน เขาจะมีเจ้าหน้าที่อุทยานถีบจักรยาน ขับมอเตอร์ไซ์ด หรือเดินด้วยเท้า ถือไฟฉายคอยส่องตรวจตราดูความสงบเรียบร้อยของนักท่องเที่ยว ตามอุทยานเขาห้ามไม่ไห้นำกีตาร์เข้าไปด้วย ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะว่าที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณนี้ทำไมถึงได้ละเลยในจุดนี้ และไม่มีการโปรโมท เช่นฉายสไลด์ หรือพาเดินศึกษาธรรมชาติเหมือนกับที่ที่อื่นๆ เขาทำกัน พอเช้าหลังจากทานอาหารกันเสร็จแล้วเรา 2 คน แม่ลูกก็รีบออกเดินไปน้ำตกตั้งแต่ 7 โมงเช้า ไปฟังเสียงนกในป่าร้องแต่เช้า เลย เดินกันไป 2 คนล่ะค่ะ ไม่เจอใครเลย ผ่านด่านตรวจเช็คของในกระเป๋าที่ห้ามไม่ให้นำอาหาร น้ำเข้าไป ในเป้เรามีของกินเพียบแต่ก็ไม่รู้จะฝากกับใครเพราะยังเช้าอยู่ไม่มีเจ้าหน้าที่ เราก็เลยต้องแบกขึ้นไปจนถึงน้ำตกชั้น 6 คุณแม่ชักจะเดินไม่ไหวแล้ว โชคดีมีหนุ่มสาว 2 คน เดินไปเจอกันที่ชั้น 6 ก็เลยฝากน้องเซ็ทขึ้นไปที่น้ำตกชั้น 7 กับพวกเขา น้ำตกที่นี่ก็สวยค่ะแต่ในความรู้สึกสู้ที่ห้วยแม่ขมิ้นไม่ได้ เราเดินกลับลงไปเล่นน้ำที่ประมาณชั้น 3 ได้ ปลาพลวงที่นี่เยอะจริงๆ ตัวก็ใหญ่มากคุณแม่กลัวค่ะ มันตอดจั๊กจี๊เลยทำให้ไม่กล้าเล่นน้ำเลย คนก็มากมายแน่นไปหมด พอเที่ยงเราก็กลับเก็บเต็นท์เสร็จ ออกมาประทับตราอุทยานที่พาสปอร์ต ก็เลยเล่าให้เจ้าหน้าที่ของอุทยานฟังว่า เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น เขาก็บอกว่าขอบคุณที่มาบอก (แต่เราไม่รู้ว่าเขาจะมีมาตรการต่อไปอย่างไรบ้างที่จะป้องกันในเรื่องนี้) การเดินทางไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณนี้ไปสะดวกมาก ไปจากกรุงเทพฯ ลงรถที่ขนส่งกาญจน์ ก็ขื้นรถโดยสารไปน้ำตกเอราวัณได้เลยที่ในขนส่ง รถออกทุก ช.ม. ค่ารถคนละ 25 บาท รถจะไปส่งถึงที่หน้าที่ทำการอุทยาน ขากลับก็นั่งกลับไปที่ขนส่งกาญจน์ ลงรถก็เข้าแถวซื้อตั๋วกลับกรุงเทพฯ ได้เลยค่ะ ake (akegalad.chaiyomail) - 26/08/2000 น้ำตกเอราวัณ ไปมาแล้ว 3 ครั้ง จะเล่าให้ฟังถึงครั้งล่าสุด เดือนตุลาคม 2542 รวบรวมสมาชิกเดินทางรวม 6 คน จุดหมายปลายทางคือถ้ำธารลอดเพื่อให้ได้บรรยากาศการเดินทางต้องไปรถไฟถึงจะดี โดยนัดเจอกันที่สถานีรถไฟบางกอกน้อย6.00 รถไฟที่จะไปสถานีน้ำตกจะออกประมาณ 7.00 น.เดินทางถึงสถานีกาญจนบุรี ประมาณ 10.30 น. ตกลงกันว่าจะไปเที่ยวที่น้ำตกเอราวัณกันก่อน เพราะที่นี้น้ำตกสวยและยังไม่ไกลจากตัวเมืองกาญนัก ไปนั่งรถประจำทางที่จะไปน้ำตกที่ท่ารถของตัวเมือง น้ำตกเอราวัณมีความสวยงามมากเป็นน้ำตกที่มีความใสสะอาดมาก มองเห็นปลาว่ายน้ำเต็มไปหมด ระยะทางขึ้นน้ำตกมีทั้งหมด 7 ฃั้น ทุกชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันมาก สามารถที่จะเล่นน้ำได้เกือบทุกชั้น เหมาะที่จะเล่นน้ำให้ชื่นใจหายเหนื่อย หรือผู้ที่รักการถ่ายภาพ ก็สามารถถ่ายภาพสวยๆของน้ำตกได้หลายมุม ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลกรุงเทพนัก ผมว่าถ้าจะเที่ยวน้ำตกอย่าลืมมาที่เอราวัณ และถ้ามีเวลาเหลืออย่าลืมไปเที่ยวต่อที่ถ้ำธารลอดเพราะที่นี่สุดยอดมาก โดยจะเล่าต่อในครั้งต่อไป นิส - - nis_ra@hotmail.com - 15/10/2000 ความงามที่ยากจะลืมที่เอราวัณ เพิ่งได้ไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณเป็นครั้งแรก ก็รู้สึกประทับใจในความงามของน้ำตกแห่งนี้เป็นอย่างมากค่ะ เพราะน้ำตกที่นี้ใสมากจนมีสีฟ้าเหมือนน้ำในสระเลยล่ะค่ะ น่าลงเล่นเป็นอยากมากไม่เหมือนน้ำตกที่อื่นๆ ที่เป็นเช่นนี้คงเนื่องมาจากหินที่นี่เป็นหินปูนเลยทำให้ไม่ค่อยมีโคลนเท่าไหร่นัก ดิฉันไปกับเพื่อนๆที่มหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 10-11ตุลาที่ผ่านมา ซึ่งช่วงที่เราไปน้ำค่อนข้างมากเพราะยังไม่หมดหน้าฝน จึงไม่ค่อยพบปลาเท่าไหร่เพราะน้ำไหลแรงมาก แต่น่าแปลกที่น้ำก็ยังใสมากอยู่ พวกเราเดินกันขึ้นไปจนถึงชั้น 7 ระยะทางก็ราวๆ3 กิโลเมตรกว่าๆ(ไป-กลับ) แต่เดินไม่เหนื่อยเลย เนื่องจากทางเดินไม่ลำบากประกอบกับ มีทัศนียภาพของน้ำตกแต่ละชั้นซึ่งมีความสวยงามมากแตกต่างกันไปในแต่ละชั้น ที่พวกเราเดินผ่านอยู่เป็นระยะ เราเดินกันไปถ่ายรูปกันไปตลอดทาง จนถึงชั้น 7 ซึ่งสวยงามมาก ชั้นอื่นๆว่าสวยแล้ว แต่เมื่อมาถึงชั้นบนสุดแล้วลืมชั้นอื่นไปได้เลยล่ะค่ะ ภาพที่อยู่ตรงหน้าเรานั้นเป็นหน้าผาสูงมากๆ มีสายน้ำเทลงมาสู่หินเบื้องล่างดูคล้ายกับหัวช้างเอราวัณที่มีงวงก็คือสายน้ำตกนั่นเอง (ไม่รู้ว่าพูดเวอร์ไปรึเปล่าแต่อยากให้ไปเห็นเองกับตามากกว่าค่ะ) ขนาดว่าเรายืนอยู่ไกลมากจากน้ำตกนั้น แต่เราก็เปียกได้เนื่องจากมีละอองน้ำจากน้ำตกกระเซ็นมา(คิดดูว่าอลังการแค่ไหน) ซึ่งเป็นความประทับใจที่ยากจะลืมจริงๆค่ะ พึ่งรู้ว่าเมืองไทยนี่มีที่น่าไปเที่ยวอีกมากมายรอให้พวกเราไปชื่นชม แต่ไปแล้วก็ควรรักษาธรรมชาติเหล่านี้ไว้ให้คนรุ่นหลังได้เห็นอย่างที่พวกเราได้เห็นนะคะ ปล.สำหรับคนที่คิดจะเดินทางไปเราคิดว่าควรจะไปในช่วงหน้าน้ำมากสักหน่อย ถึงจะเห็นความงามอย่างที่บรรยายมานะคะ นาวิน - - nawin24@yahoo.com - 07/10/2000 RE:เอราวัณ...เวลา สายน้ำและความทรงจำ ผมเคยไปเอราวัณมาแล้วสองครั้งครับสนุกมากที่สุด ครั้งแรกไปกับอาจารย์น้ำตกสวนมากเลยยิ่งที่ชั้นเจ็ดด้วยแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเลยครับสวยสุด ๆ ลองไปดูซิครับแล้วจะไม่ผิดหวังรับรอง sean pattani - - - - 19/12/2000 Re:น้ำตกเอราวัณ ไปเที่ยวมาเมื่อปลายเดือนมีนาคมปีนี้ ฝนตกหนัก น้ำขุ่นแดงเสียอารมณ์ที่ไม่ได้เล่นน้ำ และต้องเสียค่าธรรมเนียมแพง อยากให้ลดค่าธรรมเนียมลงบ้างเป็น 10 บาทต่อคนก็พอ พลอยกะหมวย - NISA.nook@keromail.com - 28/12/2000 RE:เอราวัณ...เวลา สายน้ำและความทรงจำ เราไปมาแล้วคิดเหมือนพวกนายเลยสวยมากนะ แต่เพราะความฉลาด(น้อย) ของพวกเพื่อนเราเอง ทำให้เราต้องเหนื่อยกันหน่อยทางดีดีมีเราไม่เดิน เราเดินทางวิบากแต่สนุกมากนะไปหลายครั้งแล้วไม่เบื่อเลย อยากชวนเพื่อน ๆ ถ้ามีโอกาสอย่าลืมไปเที่ยวกันนะจ้ะ