"อุษ" (Usaneek@thaimail.com)29 ตุลาคม 2541
สุดยอดแม่ฮ่องสอน
ที่บอกว่าสุดยอดแม่ฮองสอนก่อนอื่นก็คือเส้นทางที่โหดมากเท่าที่เคยไปมา
เห็นเขาลำลือกันมานานก็เลยขอลองสักหนอย ก็ออกวันศุกร์ 16 ตอนประมาณ 2 ทุ่มแล้ว
แวะกินก๋วยเตี๋ยวที่นครสวรรค์ แล้วก็แวะไปกันเรื่อย ๆ
พอมาถึงทางลำปางโอ้โฮหมอกหนามากต้องคอยคลานกันมาเรื่อยๆ
มาพักที่เชียงใหม่ ที่ ร.อโนดาส ค่าที่พักถูกดีแค่ 360 บาทก็เลยพักกัน
นอนประมาณ 2 ชั่วโมงก็ขึ้นไปบนดอยสุเทพ กลับมาก็พักผอนกันสักพัก
พอเช้าอีกวันก็เดินทางกันต่อเพื่อมุ่งหน้าสู่จุดหมายแรกคือห้วยน้ำดัง
ตามเส้นทาง เชียงใหม่-แม่มาลัย
พอถึงตลาดแม่มาลัยก็ไปตลาดซื้อของเพื่อเตรียมอาหารเย็นกันในวันนั้น
เพราะข้างบนไม่ร้านอาหาร ต้องนำเต้นท์ไปกางเอง
ช่วงทางขึ้นห้วยน้ำดังก็เริ่มมีคนเมารถซะแล้ว
ระหว่างขึ้นไปที่ห้วยน้ำดัง
ก็เริ่มที่จะได้รับอากาศที่ต้องการคือเย็นไงรอมานาน
พอถึงก็ต้องกางเต้นกันเลยเพราะเกือบเย็นแล้ว
พระอาทิตย์เริ่มตกดินอาหารก็เริ่มจะเสร็จต้องงัดเอาถุงเท้าเสื้อหนาวออกมา
เพราะหมอกเริ่มลงแล้ว พอนั่งดริ๊งได้สักพักประมาณเที่ยงคืน
เจ้าแม่ฝนก็โปรยลงมาทั้งเจ็ดคนก็ต้องกระโดดขึ้นไปบนรถก็มันไปอีกแบบ
สรุปคืนนั้นเป็นคืนแรกที่ตั้งใจนอนเต้นท์แต่กลับไปนอนในรถแทน
supapors@cementhai.co.th27 พฤศจิกายน 2541
ห้วยน้ำดังถึงดอยแม่อุคอ
ประมาณกลางเดือน พ.ย. 40 ในช่วงเทศกาลทุ่งดอกบัวตองบาน เป็นโอการสอันดีที่จะ
ได้ไปสัมผัสกับอากาศอันหนาวเย็นทางภาคเหนือของประเทศไทย จุดเริ่มต้นของการเดิน
ทางจากเชียงใหม่ผ่านเส้นทางอันคดเคี้ยวเล็กน้อยกว่าจะถึงอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังก็
บ่ายแก่ๆแต่อากาศก็หนาวเย็นพอสมควร ที่ห้วยน้ำดังจะมีบ้านพักอุทยานให้แต่ต้องติดต่อจอง
ที่พักผ่านทางกองอุทยานล่วงหน้าประมาณ 1 เดือนแต่ถ้าช่วงเทศกาลก็คงต้องล่วงหน้านาน
กว่านั้น และยังมีสำหรับกางเต้นท์พร้อมห้องน้ำในราคาย่อมเยาจริงๆ เป็นอันว่าคืนนี้พวก
เราก็นอนเต้นท์ที่เตรียมมา อ้อที่ห้วยน้ำดังมีร้านค้า+อาหารของอุทยานด้วย สำหรับอาหาร
คงต้องแจ้งล่วงหน้า แต่สำหรับน้ำดื่ม/มาม่า/ปลากระป๋อง ฯลฯ มีขายในราคาไม่แพงมาก
แต่ร้านจะปิดประมาณราวๆทุ่มตรง ประมาณ6โมงเย็นอากาศเริ่มหนาวและหนาวมากยิ่งขึ้น
เรื่อยๆ ตอนเช้าประมาณตี 5 พวกเราก็ออกเดินไปดูทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น ซึ่งอยู่
ไม่ไกลจากจุดกางเต้นท์ แต่ถ้าพักบ้านพักอุทยานก็แทบจะเรียกได้ว่าพระอาทิตย์ขึ้นที่หน้า
บ้านเลยหละ อาทิตย์+สายหมอก+ดอกไม้และความหนาวเย็นเข้ากันอย่างลงตัว ขอบอกว่า
สวยงามมากจริงๆประทับใจสุดๆ พวกเราเริ่มออกเดินทางไปแม่ฮ่องสอนเพื่อชมทุ่งดอกบัว
ตอง ยอมรับเลยว่าเส้นทางสู่แม่ฮ่องสอนคดเคี้ยวมากจริงๆสมควรแล้วที่มีประกาศณียบัตร
ให้สำหรับผู้เดินทางผ่านเส้นทางพันกว่าโค้งนี้ได้ ขอแนะนำสำหรับผู้ที่เมารถง่ายให้เตรียม
ทานยาแก้เมาไว้ล่วงหน้าก่อนออกเดินทางได้เลย คืนนี้เราพักกันที่ resort เล็กๆใน
เมืองแม่ฮ่องสอน แม่ฮ่องสอนเป็นจังหวัดเล็กจริงๆ ที่พักก็มีไม่มากเท่าไหร่ควรจองล่วง
หน้าอีกเช่นกัน ข่าวดีสำหรับพนักงานบริษัทใหญ่ๆให้พกบัตรพนักงานติดตัวไปด้วยเพราะบาง
ที่จะให้ส่วนลดสำหรับพนักงานบริษัทที่มี Contact เป็นพิเศษเช่น การบินไทย,ปูนซิเมนต์
ไทย เช้าวันใหม่มาเยือนพวกเราออกเดินทางตั้งแต่ตี 4 เพื่อไปชมทุ่งดอกบัวตองที่ดอยแม่
อูคอ แค่ถึงปากทางเข้าก็มีดอกบัวตองเป็นแนว 2 ข้างทางและจะมีมากขึ้นเรื่อยๆตลอด
ทางจนในที่สุดพวกเราก็พบกับภูเขาหลายลูกที่เป็นสีเหลืองอร่ามมีสีเขียวแซมดูตื่นตาตื่นใจ
มากยอมรับว่าไม่เคยเห็นทุ่งดอกไม้แบบนี้เลย อากาศก็หนาวเย็นไม่แพ้ห้วยน้ำดังเลย ขอ
เชิญชวนเพื่อนๆที่รักการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติมาเที่ยวชม อย่าพลาดรับรองว่าสวยมาก
ไม่แพ้แหล่งท่องเที่ยวต่างประเทศแน่ๆ นี่แหละที่เรียกว่าเที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้
แม่ฮ่องสอนยังมีที่เที่ยวอีกมากที่จะให้แวะชม เช่น วัดพระธาตุดอยกองมู,ถ้ำปลา,ออ
บหลวง,สุสานมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์,ถ้ำลอดถ้ำผีแมน ฯลฯ ถ้าจะไปเที่ยวแถวๆเชียง
ใหม่-แม่ฮ่องสอน ขอแนะนำให้วางแผนเส้นทางให้ดีเพราะสามารถเดินทางเป็นวงกลมได้
โดยไม่ซ้ำเส้นทางเดิมและยังเที่ยวได้ทั่วถึงอีกด้วย
ข้อแนะนำสำหรับผู้เดินทาง : ควรเตรียมเสื้อกันหนาวหนาๆ ถุงเท้า ถุงมือ เสื้อผ้าก็
เลือกที่หนาหน่อย ถ้าจะนอนเต้นท์อย่าลืมเตรียมปูนขาวสำหรับโรยรอบเต้นท์กันแมลงและ
สัตว์เลื้อยคลาน ถ้าจะก่อกองไฟผิงก็ต้องเตรียมน้ำมันรอนสันและไฟแชค(จะดีกว่าไม้ขีดไฟ)
เพราะอากาศจะชื้นมากจะก่อไฟยากเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศก็เตรียมมัน/เผือกไปไว้เผา
กินแก้หนาวก็ดีไม่น้อย อย่าลืมเอาไฟฉายไปด้วยสำหรับจะเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน และจะ
ให้ดีบรรยากาศหนาวๆอย่างนี้ ผิงไฟ+เผามัน+เล่นกีต้า+ร้องเพลง รับรองน่าอิจฉาซะไม่มี
ควรจะ List รายการของกินของใช้ให้เรียบร้อย ถ้าเจอตลาดให้รีบซื้ออย่าหวังว่าเอา
ไว้ซื้อข้างหน้าเพราะ ข้างหน้าอาจจะไม่มีอะไรให้ซื้อเลยก็ได้
สำหรับนักเดินทางที่ชำนาญการขับรถยนต์แนะนำให้ใช้รถยนต์แบบขันเคลื่อน4ล้อจะ
เหมาะมากสำหรับการท่องเที่ยวแถบภาคเหนือ แต่ถ้าไม่ชำนาญควรติดต่อเช่ารถตู้พร้อมคน
ขับเลือกที่ชำนาญเส้นทางและไว้ใจได้ซักหน่อยเท่านี้ก็ได้เที่ยวอย่างไม่ต้องกังวลแล้วหละ
"โก้" (ko1973@hotmail.com)3 มกราคม 2542
เส้นทางสาย เชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน
พวกเราได้มีโปรแกรมเดินทางจาก กทม. คืนวันที่
9/12/41 เวลา 23.30 น. เมื่อรถวิ่งไปถึง จ.สิงห์บุรี ปรากฏว่า
รถเสีย เพราะน้ำมันเครื่องรั่วทำให้สายพานเครื่องขาด
และในขณะนั้นเองก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงมาช่วย
เหลือ ก็สามารถนำรถเข้าอู่ซ่อมได้ จนกระทั่งถึงเวลา
10.00 ของวันที่ 10/12/41 ก็เดินทางต่อ จนถึงนครสรรค์
เวลา 13.00 น. พักกินข้าวตรวจเช็ครถดูอีกที ปรากฏว่ายังมี
น้ำมันรั่วอีก ก็ต้องซ่อมอีกครั้งกว่าจะซ่อมเสร็จก็เป็นเวลา
15.00 น. ของวันที่ 11/12/41 แปลว่าพวกเราต้องนอนที่
นครสรรค์ 1 คืน เมื่อรถเสร็จเราปรึกษาว่าเราจะเดินทางต่อ
หรือไม่ หรือว่าจะไปที่ทาง จ.เพชรบูรณ์ เนื่องจากเวลา
เหลือไม่มาก พวกเราก็สรุปว่าไปกันต่อ
จาก นครสรรค์ เวลา 15.00 น. เดินทางถึงเชียงใหม่เวลา
21.00 น. ไม่ได้แวะตัวเมืองเชียงใหม่ แต่กินข้าวแถบนอก
เมืองแล้วลุยห้วยน้ำดังต่อ ไปถึงห้วยน้ำดังเวลาประมาณ
ตี 1 กลัวเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้า ปรากฏว่าเข้าได้สบาย กว่าจะ
กางเต็นท์กันเสร็จ เวลาตี2ได้นอน พอตี5ครึ่ง ก็ตื่นขึ้นมาดู
ทะเลหมอก สวยมาก อากาศหนาวมาก ขนาดเวลา 7.00
น.อากาศ 8 C
พอดูทะเลหมอกเสร็จ ก็เก็บสัมภาระเดินทางต่อไปที่
อ.ขุนยวมเพื่อดูดอกบัวตอง ซึ่งอยู่ใน จ.แม่ฮ่องสอน จะ
ต้องผ่านโค้ง จำนวน 1864 โค้ง ไปถึงเวลา 17.00 น.
ปรากฏว่าดอกบัวตองไม่สวยแล้ว เฉาหมดเนื่องจากก่อน
เรามามีฝนตก จากนั้นก็ตกลงว่าจะไปนอนที่น้ำตกแม่สุ
ริน ซึ่งห่างไปอีก 39 กม. ปรากฏว่าต้องใช้เวลาเดินทาง
ประมาณ 2 ชั่วโมง พอไปถึงปรากฏว่าไม่มีน้ำกินน้ำใช้ เรา
เลยต้องกลับมาที่ อ.ขุนยวมเพื่อหาที่พัก
พอวันที่ 13/12/41 ก็จะเดินทางไปนอนที่อุทยานแห่ง
ชาติดอยอินทนนท์ ระหว่างทางผ่านอึทยานแห่งชาติออ
บหลวง ซึ่งเป็นเขาเอียงมาพิงกัน ซึ่ง เกิดจากกระแสน้ำลึก
ที่ไหลกัดเซาะมาเป็นเวลานานหลายพันปี แล้วก็ผ่านที่
วนอุทยานแห่งชาติถ้ำปลา ซึ่งมีปลาพลวงออกมาจากถ้ำ
มากมาย ปลาชนิดนี้กืนไม่ได้เนื่องจากพวกมันกินลูกไม้ที่มี
พิษเป็นอาหาร และจากนั้นก้มาที่สวนสน ซึ่งจะมีสน
ปลูกอยู่มากมาย แล้วพวกเราก็ถึงดอยอินทนนท์เวลา
18.00 น. หลังจากติดต่อเจ้าหน้าที่แล้วก็ปักเต็นท์ อากาศ
หนาวมาก ขนาดว่าอาบน้ำควันออกตัวเลย
เช้าวันที่ 14/12/41 เดินทางขึ้นจุดสูงที่สุดในประเทศ
ไทย เพื่อชมทิวทัศน์ แล้วกลับลงมาแวะเจดีย์ที่ทางทหาร
อากาศสร้างไว้เพื่อในหลวงของเรา จากนั้นเดินทางกลับ
กทม. ถึงกทม.เวลา 21.00 น.
ถ้าพวกเรารถไม่เสียเราจะเดินทางต่อไปที่ดอยอ่างข่าง
แต่เราได้แค่นี้ก็พอใจแล้วล่ะ
|