ประสบการณ์เล่าสู่กันฟัง...อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง

Brem (bremma@hotmail.com) 26 กันยายน 2541 ไปเป็นครั้งที่ 2 แล้ว คราวนี้ไปตั้ง 3 วัน 3 คืน แน่ะ วันที่ 1 : เดินทางถึงเกาะช้างประมาณ 8 โมงเช้า ก็เที่ยวเร่หาที่พัก วันนี้ได้พักผ่อนจริงๆ นอนใต้ต้นมะพร้าว ชมทะเล ลมเย็นๆ แดดอ่อนๆ มีกลิ่นทะเลแถมมานิดๆ สดชื่นดีจริงๆ วันที่ 2 : เริ่มออกทะเล ไปดูปะการังที่เกาะกระ เกาะผีมา ไม่เคยดูมาก่อน รู้สึกว่าสวยจริงๆ เลย แต่น้ำเค็มชะมัด กลับมาก็เล่นน้ำต่อ ตกดึกก็รำพัดสุขโขสโมสร วันที่ 3 : ขี่จักรยานชมเกาะ กะว่าจะวนให้รอบเกาะซะหน่อย(อยู่หาดไก่แบ้) ไปได้แค่หาดทรายขาวก็จะเป็นลม อยู่แล้ว ไม่ได้ฟิตร่างกายก่อนไป ถ้าจะไปทำอะไรแบบนี้แนะนำให้เพื่อนฟิตร่างกายให้พร้อมก่อนนะคะ Chintana U-papong (chintana@ccs.sut.ac.th) 17 พฤศจิกายน 2541 Funny trips คณะของเราไปค้นหาบรรยากาศที่เกาะหวาย ลงเรือกลางคืน กินข้าวบนเรือ หิวหรือไม่คุณเอ๊ย น้ำปลาก็ยังหอม ทั้งเหนื่อย ทั้งง่วงละคนกัน มันได้รสชาดจริงๆ เราถึงเกาะเวลาเที่ยงคืนเศษ เพราะออกจากฝั่งที่ท่าเรืออรุณีเวลา 4 ทุ่ม คณะเรานอนนอกชาน เพราะอยากดื่มด่ำกับฟ้าดินยามดึก รุ่งเช้าแม่เจ้าโว้ยยังมีปะการังที่ดีหลงเหลืออยู่อีกหรือในเมืองไทย มันสวยงามมาก น้ำทะเลยามหน้ามรสุมสวยจนเราเองลืมตัวไปเหมือนกัน เราพบเห็นปลิงทะเลตัวใหญ่มาก เราเก็บทั้งภาพนิ่งและวิดีโอไว้เผื่อน้องๆ ปะการังที่เกาะหวายเรียกได้ว่าสมบูรณ์ที่เดียวละ ผู้คนร้านค้ามีเล็กน้อย อัธยาศัยก็ โอเคนะ 3 วันที่เราไปมันมีความหมายมากทีเดียว เรือพาเราออกไปถึงเขตทะเลหลวง จากเพลงที่ว่าศอกก็ทะเลคืบก็ทะเล เห็นจะจริงกันคราวนี้ คลื่นสูงราว 2 เมตรกลัวแต่ก็ประทับใจเพราะเราไปหน้ามรสุม กินหอยเชลล์ ต้มยำกุ้ง ล่าหมึกสด กินซะให้เข็ด เธอจ๋ามันอร่อยจริงๆ รู้อะไรมั้ยเราได้เมาเรือด้วยนะ อ้าวจะได้ครบทุกรสชาดไง มีโอกาสเราเจอกันอีกนะ pantila (pantiap@thaimail.com)6 เมษายน 2542 ถ้าใครชอบทะเลอยากให้ไปที่เกาะช้างจังหวัดตราดเพราะยังเป็นธรรมชาติ มากมีปะการังสวยงามไม่แพ้ทางใต้เลยการเดินทางก็สะดวกค่าใช้จ่ายก็ไม่ แพงมากถ้าใครชอบธรรมชาติจะรักที่นี่มาก อาหารอร่อย น้ำทะเลสวย และขากลับก็หาซื้อผลไม้ได้ทุกอย่างเพราะเป็นฤดูผลไม้มีทั้งเงาะและ ทุเรียน ขากลับแวะเที่ยวน้ำตกพลิ้วจังหวัดจันทบุรียังได้เลย "มะเดี่ยว" (mamamadeawsee@hotmail.com) 7 พฤษภาคม 2542 กูดมหัศจรรย์ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนมีนาฯ ด้วยความที่เราเป็นคนชอบเที่ยวทะเลม๊าก..มาก พอถึงหน้าร้อนก็เลยอยากเล่นน้ำทะเลใสๆ จึงรีบยกโทรศัพท์เพื่อให้เขาโทรสารมา หาเพื่อนร่วมก๊วนได้อีก 3 คน จอง... โชคดีที่มีที่พัก จึงออกเดินทางตอนห้าทุ่มด้วยรถปรับอากาศจากเอกมัย ถึงตราดตอนตีสามครึ่ง เดือดร้อนเจ้าของรีสอร์ทแล้วต้องมารับพวกเราที่ท่ารถด้วยท่าทางของคนครึ่งหลับครึ่งตื่น มีสมาชิกมาเพิ่มอีก 2 คน ทั้งรีสอร์ทมีพวกเราเพียง 6 คน ให้ความรู้สึกเหมือนไปเที่ยวบ้านเพื่อนเลยล่ะ เราอยู่ที่เกาะกูดกัน 2 คืน 3 วัน วันแรก ฝึกดำน้ำกันก่อนตอนอิ่มข้าวมื้อเที่ยง ดำน้ำพอเป็นแล้ว ไปเล่นน้ำตกกันดีกว่า เย็นแล้ว... เข้านอนแต่หัวค่ำ เก็บแรงไว้ดำน้ำกันในวันพรุ่งนี้ เช้าวันนี้ดำน้ำกันทั้งวัน เริ่มด้วยเกาะกระ มื้อเที่ยงที่เกาะรัง ปิดท้ายด้วยบริเวณเกาะกูดเอง เฮ้อ! เหนื่อย...จัง มื้อเย็นต้องหนักเสียแล้ว พวกเราจึงดินเนอร์กันที่ชายหาดภายใต้แสงจันทร์ อิ่มแล้วก็ดูหิ่งห้อย เยอะจริงๆ เหมือนใครเอาโคมไฟไปประดับไว้ตามยอดไม้ สวยดีเหมือนกัน และแล้วก็ได้เวลาเข้านอน รุ่งเช้า...ดีใจที่ได้กลับบ้าน แต่เสียใจที่ต้องจากเธอ...กูดจ๋า "มะเดี่ยว" (mamamadeawsee@hotmail.com) 11 พฤษภาคม 2542 ช้างมึด ไปเกาะช้างมา 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกเมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว นั่งเรือเร็วด้วยนะ ใช้เวลาไม่ถึงสี่สิบห้านาทีก็ถึงที่หมาย(หาดไชยเชษฐ์) ไปครั้งนั้นโชคดีที่ได้เที่ยวฟรี เพราะว่าลูกค้าที่ธนาคารเราเขาเป็นเจ้าของรีสอร์ท พอดีเขาเปิดท่าเทียบเรือใหม่ก็เลยชวนเราไปด้วย แถมมีการจับรางวัลจากหมายเลขบัตรเชิญ เรานะโชคดีได้พัดลมมาอีกตัว เราเริ่มอาหารมื้อเย็นตอนเกือบทุ่มนึง เป็นอาหารทะเลล้วนๆ อิ่มแล้ว... เด็กอนามัยอย่างเราต้องเข้านอนแต่หัวค่ำ เพื่อเก็บแรงไว้ใช้ในวันรุ่งขึ้น ตื่นแล้วไปดำน้ำแต่เช้าเลย แต่เสียดายที่มีเมฆฝนเราจึงต้องรีบเข้าฝั่ง จากนั้นต้องรีบเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ ครั้งที่สองไปมาเมื่อปีที่แล้ว ครั้งนี้ต่างจากครั้งแรกหลายอย่างด้วยกัน เรามีสมาชิกร่วมชะตากรรมเกือบ 20 คน เป็นเพื่อนที่เรียนอยู่ห้องเดียวกัน ระหว่างที่นั่งเรือไปมีสายฝนโปรยปรายตลอดทาง พอถึงที่พักฝนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด คิดดูว่าทะเลจะเป็นอย่างไรเมื่อฟ้าไม่มีแดด คงไม่ต้องอธิบายกันมาก สรุป...ไปครั้งนี้มีแต่กิน นอน เล่นไพ่ เกาะช้างเหตุไฉนเจ้าจึงมึดมัวเสียนี้กระไร? Nuts (chatchay@chaiyomail.com)12 กันยายน 2542 ทะเลจริงใจเสมอ เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วมา ผมได้มีโอกาสไปเกาะช้าง ไปถ่ายรูปกับวิชาโฟ โต้เป็นการออกไปถ่ายรูปนอกสถานที่ เพื่อน ๆ พี่ ๆ หลายคนที่เรียนด้วยกัน พอรู้ว่าจะไปเกาะช้างทุกคนดูตื่นเต้น ผมเองก็เป็นเหมือนกันเพราะเป็น การไปเป็นครั้งแรกของผม แต่...ความรู้สึกของผมเองมันมีมากกว่านั้น มัน แตกต่างออกไปเพราะผมวาดฝันเอาไว้ และตั้งใจจะให้เกาะแห่งนี้เป็นฉาก โรแมนติกฉากหนึ่งในชีวิตที่ผมจะไม่มีวันลืม ..... กับใครคนหนึ่ง คนที่ผม เฝ้าถนุถนอม ซื่อสัตย์มาเนิ่นนาน ทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดี แต่แล้วท้องฟ้าที่สดสวยดั่งในวันแรกที่มา ทะเลที่เขียวใสราวมรกต คลื่นลมที่ชื่น ใจ มันกลายเป็นความหลังชั่วข้ามคืน จากนี้ไปทุกอย่างดูเลวร้ายขึ้นเรื่อย ๆ จากปากทางเดินเข้าไปจนถึงน้ำตกครองพลู ดูไกลและทรมานเหลือเกิน ที่ ต้องคอยเดินตามและดู เขาและเธอเดินจับมือแบบไม่คิดที่จะปล่อย...!! ผม กลับมาถึงที่พัก พร้อมกับเพื่อนรู้ใจที่เข้าใจผมเป็นอย่างดีเพียงคนเดียว ไม่ มีใครคิดมาก่อน ไม่มีใครรู้มาก่อน เธอไม่เคยบอกอะไรผมนอกจากความ หวังที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสดใส แล้วทุกอย่างก็จบลงจนเกาะช้างแห่งนี้ และเกาะช้างได้กลายเป็นสถานที่ ๆ น่าจดจำที่สุดของผม ผมจะมาที่นี่ทุก ครั้งที่เบื่อหน่ายชีวิต ผมมา 11 ครั้งในรอบ 2 ปี มนต์ขลังของทะเลใครไม่ เคยคงไม่รู้ แค่ได้มานั่งมองอาทิตย์ตกริมหาดทรายขาว เบียร์เย็น ๆ ปล่อย ใจให้กระจายไปตามสายลม เท่านั้นเองผมก็พร้อมที่จะกลับมาแข้มแข็งต่อ ไป ผมจึงรักที่นี่ เกาะช้าง! ศักดิ์ มศว (sc391298@pairin.swu.ac.th)1 ธันวาคม 2542 น้ำตกไก่แบ้รู้จักเปล่า ผู้ใดที่เคยไปเที่ยวเกาะช้าง จ.ตราด แล้ว และไปหาดไก่แบ้ ลองไปเยี่ยมชมความงามของน้ำตกไก่แบ้ดูสักครั้งรับรองว่า จะได้สัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติที่แท้จริง อ้อเกือบลืมไปที่น้ำตกไก่แบ้มีงูเขียวยักษ์ด้วย ถ้าอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามที่E Mail เราได้ นก (amporn@keromail.com)27 มกราคม 2543 เกาะช้าง เคยไปเกาะช้างมาแล้ว ประมาณ 5 ครั้ง แต่ละครั้งก็มีเรื่องราวประทับใจแตกต่างกันไป ได้มีโอกาสเที่ยวรอบเกาะทั้งทางรถและทางเรื่อ นั่งเรือ speed boat วนรอบเกาะช้าง สนุกมากจริงๆ ครั้งสุดท้ายที่ไปได้ไปพักที่ resort แห่งหนึ่ง จำชื่อไม่ได้แล้ว ตอนช่วงเช้าน้ำลง สามารถเดินข้ามไปเกาะเล็กๆอีกเกาะได้เลย ถ้าเพื่อนๆมีเวลาก็อย่ลืมลองไปเที่ยวดูนะคะ Aud (isovet@samarts.com)23 มีนาคม 2543 เกาะช้าง เคยไปเที่ยวเกาะช้างเมื่อสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ช่วงหยุดเกษตรแฟร์ ไปพักกับเพื่อน ๆที่หาดคลองพร้าว สถานที่เงียบสงบ มีไกด์นำทางไปดำน้ำชื่อลุงเนี้ยว และพาไปเที่ยวน้ำตกบนเกาะด้วย แม้จะเคยไปแค่ครั้งเดียว แต่ก็สัญญากับตัวเองว่าจะต้องพาครอบครัวไปเที่ยวที่เกาะช้างอีกให้ได้ แม่น้องเซ็ท(santhpan@metrosystems.co.th)17 เมษายน 2543 แคมปิ้งที่เกาะช้าง สงกรานต์นี้ไปเที่ยวเกาะช้างมาค่ะ คิดผิดค่ะที่ไม่ได้เอารถข้ามไปด้วย ค่ารถบนเกาะแพงมาก ค่าข้ามเรือจากแหลมงอบไปขึ้นที่ท่าธารมะยมคนละ 30 บาท เรือออกบ่ายโมงตรง เราไปกางเต็นท์นอนที่ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งเต็นท์ติดทะเล นอนฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่งทั้งคืน แถมยังมีเสียงสัตว์ร้องมาจากในป่าอีกเพราะด้านหลังเป็นป่า ตอนแรกคิดว่าจะย้ายเต็นท์ไปนอนตามหาดต่างๆ บ้าง แต่เปลี่ยนใจเพราะบรรยากาศดีมาก เงียบ สงบ สถานที่กางเต็นท์สวย เช้าก็นอนดูพระอาทิตย์ขึ้นจากทะเลในเต็นท์นั่นล่ะค่ะ สวยมากเลย นอนเสีย 3 คืนเลยที่นี่ แต่หาดทรายบริเวณนี้เป็นโคลนนะคะ คล้ำหน่อยแต่ก็สะอาด น้องเซ็ทเล่นน้ำทั้งวัน แถมยังมีปลาให้ตกมาย่างกินกันทุกวัน น้องเซ็ทติดใจตกปลา ปลาเยอะจริงๆ ค่ะ แต่ปลาตัวไม่ใหญ่มาก ขนาดฝ่ามือและปลาเล็กปลาน้อยเต็มไปหมด (น้องเซ็ทอายุ 10 ขวบค่ะ) เขาตื่นเต้นมากที่ตกปลาได้มากขนาดนี้ พวกเราตกกันตรงใต้สะพานท่าเรือท่าธารมะยม เพราะจากท่าเรือเดินไปอุทยานก็ไม่ไกล และถ้าใครชอบปีนเขาลองมาปีนที่น้ำตกธารมะยมดูนะคะ เพราะฟังจากพวกที่เขาขึ้นไปที่น้ำตก มีแต่คนได้แผลกลับมาทั้งนั้นเลย ขนาดเจ้าหน้าที่ยังบอกว่าเดินลำบากมาก ชัน ทางเดินเป็นหิน บางช่วงต้องโหนเถาวัลย์ ที่นี่เขาไม่ได้ทำทางไว้เหมือนกับน้ำตกที่อื่นๆ ทริปนี้คุณแม่จึงส่งน้องเซ็ทขึ้นไปค่ะ คุณแม่ขอเฝ้าเต็นท์ดีกว่าค่ะ ไปเที่ยวที่หาดทรายขาว คนเยอะดีจังค่ะ ทรายขาวสะอาด ค่าเหมารถไปกลับจากอุทยาน 800 บาท นัดเวลาเขามารับ ข้อเสียถ้าเราพักที่อุทยานเวลาจะไปไหนต้องเหมารถไป แต่ถ้าเราพักที่อื่นจะมีรถประจำทางวิ่งสุดทางที่หาดไก่แบ้ ค่ารถตามระยะทางตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไป ถ้าใครคิดจะมาหาซื้ออาหารทะเลบนกาะช้างมาทำอะไรทานนะคะ ที่นี่ไม่มีขายค่ะ ไม่มีตลาด ที่ฝั่งแหลมงอบก็ไม่มีขายค่ะ ที่อุทยานเขามีอาหารขายถึง 5 ทุ่มค่ะ และที่ด้านข้างของอุทยานก็มีร้านขายอาหารบรรยากาศดีเล่นเพลงเพื่อชีวิตด้วยค่ะ เจ้าหน้าที่ของอุทยานที่เกาะช้างนี่น่ารักทุกคนเลยค่ะ บริการนักท่องเที่ยวอย่างดีเลยค่ะ ตอนจะขึ้นเรือที่ฝั่งแหลมงอบซื้อมะม่วงแก้วมาโลละ 25 บาท อกร่องโลละ 25 บาทเหมือนกัน เพราะคุณแม่ชอบทานมะม่วง พอมาเห็นที่อุทยานมีแต่มะม่วงหล่นเต็มไปหมดไม่มีใครเก็บ มะม่วงแก้วดำ สามฤดู อกร่อง อกร่องที่นี่หวานกว่าที่ซื้อมาอีก เจ้าหน้าที่ที่นี่บอกว่าต้องเก็บทิ้งวันหนึ่งเป็นเข่งๆ เลย ไม่เอาที่ร่วงก็ให้สอยเอาได้ คุณแม่เลยเดินเก็บมะม่วงกินทั้งวันเลย อยู่ที่เกาะช้างนี่เลยมีปาร์ตี้ปลาทะเลเผาทุกวัน และยังชวนคนอื่นๆ มาร่วมทานปลาเผาด้วยอีก 6 คนมีฝรั่งมาจอยด้วย ทุกคนติดใจ เราเผากันที่ตรงหาดทรายหน้าเต็นท์เราน่ะแหละ เดินข้ามถนนไปก็เป็นตีนเขาเก็บเศษกิ่งไม้เอามาทำฟืน ทำอาหารเสร็จเราก็เคลียร์เก็บเศษขยะเศษฟืนเรียบร้อยให้เหมือนเดิม บางคนมากางเต็นท์นอนกลับไปแล้วทิ้งเศษขยะถุงขนม ขวดน้ำไว้ ถังขยะก็อยู่ไม่ไกลไม่ยอมเก็บไปทิ้ง น้องเซ็ทบอกให้คุณแม่พาไปอีกเพราะได้เล่นทั้งน้ำตกและน้ำทะเลและยังได้ตกปลาอีก ซึ่งทุกคนลงความเห็นว่าจะกลับมาเที่ยวที่เกาะช้างอีกค่ะ จาก : แม่น้องเซ็ท J (:waraporn@7eleven.co.th)17 พฤษภาคม 2543 ไปเกาะช้างมาเมื่อ 5 - 7 พฤษภาคม แนะนำให้นำรถข้ามไปเพราะว่าทำให้ไปไหนมาไหนสะดวก แต่ควรเป็นรถประเภทกระบะนะ เพราะถ้าเป็นรถเก๋งคงไม่ไหว ตอนที่ไปก็นำรถไปเหมือนกันได้เที่ยวรอบเกาะเท่าที่มีทางรถไปได้เลย เราไปนอนที่ที่ทำการอุทยาน บรรยากาศดี เงียบสงบ มีแต่เสียงคลื่นและเสียงมะม่วงหล่น มะม่วงหวานมาก สถานที่ท่องเที่ยวที่ขอแนะนำคือ น้ำตกคีรีเพชร อยู่ใกล้กับหมู่บ้านสลักเพชร มีทางเข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร แต่ทางขรุขระมาก ตอนเข้าไปถึงเจอเจ้าหน้าที่อยู่ เค้าบอกว่ายังไม่ค่อยมีใครมาเท่าไหร่ เพราะเพิ่งจะบุกเบิก จากตรงที่จอดรถต้องเดินเข้าไปอีก 200 เมตรจะถึงตัวน้ำตกชั้นที่ 1 (น้ำตกมีทั้งหมด 12 ชั้น) เดินมาแค่นี้พวกเราก็ไม่เดินต่อแล้ว เพราะทางเดินขึ้นมีแต่ตะไคร้ แต่พวกเราก็คิดกันว่าคราวหน้ามาจะต้องเดินให้ถึง 12 ชั้น เพราะแค่ชั้นที่ 1 ก็สวยมากๆ เลย เราหยุดพักผ่อนกันสักครู่ใหญ่แล้วเดินกลับ ตอนกลับนี้รถติดหล่ม ก็กำลังจะกลับรถบังเอิญดินนิ่มมาก ทำให้รถไม่มีกำลังเพราะไม่ใช่ 4X4 ต้องไปตามชาวบ้านมาช่วยดึง คนที่นี่มีน้ำใจมาก ช่วยโดยไม่คิดค่าตอบแทน แต่เราก็ให้ค่าน้ำมันไป 100 บาท เค้ายังให้ส้มโอมาอีก 3 ลูก ใจดีจริงๆ สำหรับน้ำตกนี้ประทับใจมาก ส่วนสถานที่เที่ยวอื่นๆ ก็มี น้ำตกธารมะยม น้ำตกคลองพลู หาดทรายขาว หาดไก่แบ้ และอีกมากมาย ล้วนสวยงามตามธรรมชาติจริงๆ ปู(js_pu@hotmail.com)21 พฤษภาคม 2543 เพิ่งกลับมาจากเกาะช้างจ้า ไปเที่ยวเกาะช้างเมื่อช่วง 16 - 20 พ.ค 43 สนุกดีค่ะ ไปค้าง 3 คืน 2 คืนแรกที่หาดไก่แบ้ พักบ้านราคา 150 สะดวกปานกลาง ห้องน้ำใช้ได้ เป็นห้องน้ำรวมค่ะ แบกอาหารไปทำทานกันเอง ไปกัน 2 คนกับน้องผู้หญิง ที่พักที่หาดไก่แบ้มีทั้งที่ ค่อนข้างหรู และ เป็นบ้านกระต๊อบหลังเล็ก เดินทางจากท่าเรือเกาะช้างเซนเตอร์พอยท์ ค่าข้ามเรือ ไปกลับ 120 บาท หาดไก่แบ้จะอยู่ทางตะวันตกของเกาะ มีน้ำตกคลองพลูที่สวยมาก เหมือนมีสระว่ายน้ำส่วนตัวเลยค่ะ ชอบมาก คืนที่ 3 ข้ามมาพักที่สถานที่ตั้งอุทยานแห่งชาติ ตรงน้ำตกธารมะยม ไปกลางเต็นท์นอน ชอบบรรยากาศจัง ถ้าไม่มีฝนทะเลเงียบมากค่ะ ที่น้ำตกธารมะยมก้อสวยค่ะ เจี๊ยบ(cniramon@hotmail.com)27 พฤษภาคม 2543 ครั้งหนึ่งที่เกาะหวาย เมื่อสี่ห้าปีที่แล้วได้มีโอกาสไปเที่ยวเกาะหวาย ตอนนั้นไปกันเยอะมากตั้ง 15 คนแหน่ะ เราเตรียมสัมภาระกันไปครบหมด แต่ดันลืมสิ่งสำคัญไปอย่าง น้ำงัย เราดันลืมเอาน้ำไป คนตั้งเยอะ เลยต้องเดินข้ามเขาไปเอานำอีกฝั่งหนึ่งมาต้มกินกัน น้ำก็ไม่มีจะอาบต้องเดินข้ามเขาไปอาบ พอกลับมาเมือนไม่ได้อาบเลย ตอนกลางคืนนั่งรอบกองไฟดูดาวเล่าเรื่องผีกัน พอตอนเข้านอนหมามันมาเดินข้างเต็นท์ก็นึกว่าผีตกใจหมดเลย ทำกับข้าวกินกัน เดินเล่นรอบเกาะ ขาไปน้ำลด พอขากลับน้ำขึ้นเกือบกลับไม่ได้แนะ มีเพื่อนคนหนึ่งกินเบียร์เยอะไปหน่อยหลับไป พอตอนเช้าน้ำขึ้นท่วมมามิดเกือบครึ่งตัวแน่ะ นี่ขนาดไปมาหลายปีแล้วยังจำได้เหมือนเพิ่งไปมา เพื่อนๆล่ะ ไม่ลองไปเที่ยวเกาะหวายกันสักครั้งเหรอ สรชา ตรีวัฒนา 28 พฤษภาคม 2543 อุทยานหมู่เกาะช้าง เป็นหมู่เกาะที่มีประการังสวยงามไม่แพ้ผั่งอันดามันเลยครับ และติดอันดับ ๑ใน ๑๐แหล่งดูปาการังของไทยด้วย อุ๊ - - darakamas@hotmail.com - 07/02/2001 อุทยานหมู่เกาะช้าง เราไปมาเมื่อปีก่อนตอนปิดเทอมนะ ตอนแรกไม่คิดจะได้ไปหรอกเห็นในหนังสือบ้างโทรทัศน์บ้าง สวยมากอยากไปพอญาติมาชวนเลยไป เราไปพักที่หาดทรายขาว ชอบมาก อากาศดี ปะการังสวยมาก น้ำตกที่เราไปคือน้ำตกคลองพลู ชอบมากน้ำเย็น เราไป 3วัน 2 คืน วันแรกไปก็ไปเล่นน้ำเลย พอวันที่สอง ตื่นแต่เช้าไปดำน้ำ พอกลับมาตอนบ่าย ก็ไปเล่นน้ำตก ที่เราชอบเกาะช้างเพราะว่ามันยังธรรมชาติอยู่ ดูอย่างถนนยังเป็นลูกรังตอนเรานั่งรถไปน้ำตกเราพึงกินข้างเสร็จ พอมาเจอดินลูกรังเราย่อยไปในตัวเลยแต่สนุกมาก ถ้าใครเคยไปก็เขียนมาเล่าให้ฟังบ้างนะ แล้วอีกไม่นานเราก็จะไปอีก BYE BYE หยุ่น - 19/05/2001 ผจญภัยในเกาะช้าง การมาเที่ยวครั้งนี้เหมือนกับว่าเตรียมตัวกันมานานมาก เพราะได้ตกลงกันมานานแล้วว่าจะไปเที่ยว ตอนแรกกะว่าจะไปเกาะเสม็ดตอนปลายเดือน เมษา แต่ก็ไม่ได้ไปเพิ่งจะมาเปลี่ยนแผนกันสดๆร้อนๆก่อนวันไปแค่ 4 วันเอง ช่วงนั้นก็สอบเวลาเตรียมตัวหาข้อมูลก็เลยไม่มี ก็เลยได้การผจญภัยครั้งนี้มาไง .เริ่มต้นเดินทางกันดีกว่า ไปเลย!!! ช่วงนี้ได้ข่าวว่าจะมีฝนตกหนักที่ ตราด แต่เราก็ยังจะดันทุรังไปให้ได้ ก็จะให้ทำยังไงหละตกลงกันมาตั้งนานแล้วไม่ไปก็เสียเที่ยวแย่ เที่ยงคืนของวันที่ 13 พค. 2544 การเดินทางของพวกเราก็เริ่มขึ้น ผมออกจากบ้านตั้งแต่ 3 ทุ่ม แต่ว่าบังเอิญไปหน่อยลืมกล้อง ก็เลยต้องย้อนกลับไปเอาอีก ทำให้ไปถึงสายกว่าเวลานัด เราไปขึ้นรถที่ เอกมัย ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 4 ชม. เราก็มาถึงเมืองตราด ตอนเช้าตรู่ของวันที่ 14 พค. พอมาถึงก็มีรถสองแถวมาเรียกพวกเรา ว่าจะให้ขึ้นรถคันโน้นคันนี้แต่ว่าเราเล่นตัวครับ ต้องทำเป็นผู้รู้ไว้ก่อนจะไม่ถูกหลอกง่ายๆ แต่พอเราจะมาขึ้นรถจริงๆเค้าออกไปกันเกือบหมดแล้ว ก็เลยต้องนั่งรอให้รถเต็ม แต่รอยังไงรถมันก็ไม่เต็มครับ ก็มันไม่มีรถทัวร์มาเพิ่มซักคันเลย คนขับ ก็เลยพาพวกเราทั้ง 5 คน ออกเดินทางสู่ท่าเรือที่จะไปเกาะช้าง (ท่าเรือที่จะไปเกาะช้างมีอยู่ 3 ท่า มีที่ แหลมงอบ แล้วก็อีก 2 ที่เป็นท่าเรือ เฟอร์รี่ พวกผมมาขึ้นที่ท่า รุคก์ เกาะช้างเฟอร์รี่ครับ แต่ไม่ยักกะมีเรือเฟอร์รี่ซักลำ พวกเรานั่งรออยู่นานกว่าเรือเที่ยวแรกจะออก(ค่าตั๋วไปกลับ 120 บาท ต่อคนนะครับ) พวกเราก็เลยออกไปถ่ายรูปที่ท่าเรือเป็นการใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ไงหละ 6.30 น. เรือเดินทางออกจากท่าเรือ เย้ ผมจะได้ไปผจญภัยแล้ว ไม่รู้ว่าฝนจะตกรึเปล่า ผมแอบคิดในใจเงียบๆอยู่คนเดียว แต่ก็อย่างว่าแหละรับ ความคิดผม มักจะเป็นจริง เดินทางมาประมาณ 20นาทีฝนก็ตกลงมา แต่ก็ไม่หนักมากครับ พวกเรายังพอสู้ไหว เรือถึงท่าเรือด่านเก่าเวลา 7.15 น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีก็ถึง ถึงที่ท่าเรือฝนตกปรอยๆ แต่ไม่ต้องห่วงผมเตรียมร่มมาครับ เท่จริงๆมาเที่ยวเกาะต้องมากางร่มเนี่ย วันนี้พวกเรายังไม่รู้เลยว่าจะไปพักที่ไหน ตอกแรกกะว่าจะขึ้นสองแถวไปลงที่ หาดทรายขาว แล้วค่อยเดินหาที่พักไปเรื่อยๆ แต่สุดท้ายพวกเราก็เปลี่ยนใจไม่ลงเดินดีกว่า ก็คนขับรถเค้าบอกว่าระยะทางยังอีกยาวไกล พวกเราก็เลย ไปหาที่พักกันที่หาดคลองพร้าวกันต่อ ไปถึงที่แรกที่พักก็ดีใช้ได้เหมาะสมกับราคา แต่ว่ามันต้องเพิ่มอีกคนละ 50 บาทนี่สิเป็นปัญหา เพราะคงต้องนอนเบียดกันน่าดู คนขับรถสองแถวก็เลยพาเราไปหาที่พักต่อ เรามาถึงที่ครองพร้าวรีสอร์ท ที่นี่หรูมากครับ ที่พักสวย ชายหาดก็สงบ แต่ว่าแพงมากกกกกก แต่ถึงยังไงพวกเราก็ไม่ได้พักที่นี่อยู่ดี เพราะมันเต็มแล้วครับ แล้วเราก็เดินทางต่อมาที่หาดไก่แบ้(ชื่อแปลกดี) ที่นี่แหละครับเป็นที่พักของเรา ถึงแม้ว่าชายหาดจะไม่สวยเท่าไหร่ แต่ว่าก็ยังดีครับ ถูกดี เราพักที่ ไก่แบ้ ฮัท รีสอร์ท ราคาที่พักก็ 800 บาท กับ 300 บาท ถ้าฤดูท่องเที่ยวจะแพงกว่านี้ พวกผม พักบ้านหลัง 800 แต่ได้ราคา 700 ครับพวกเราต่อกันตั้งนาน ลดให้แค่วันละร้อยเองแย่จริงๆ เราหาที่พักได้ตอน เกือบ 8 โมงเช้าแล้วกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเสร็จก็เกือบจะ 10 โมงแล้ว โปรแกรมเที่ยววันนี้เรายังไม่ได้วางแผนกันเลยว่าจะไปที่ไหนบ้าง ตอนแรกกะว่าจะได้ดำน้ำดูปะการัง แต่เค้าไม่ออกเรือให้เลย เค้าบอกว่าช่วงนี้หน้าฝนแล้วมันไม่ปลอดภัย แต่ก็ไม่เป็นไรเที่ยวอย่างอื่นก็ได้ วันนี้เรากินข้าว ตอน 11.00 น. แล้วก็ออกไปเดินตามชายหาดเรื่อยๆ ทีนี่มีชิงช้าด้วย ชายหาดตรงนี้สวยใช้ได้ครับ พวกเราถ่ายรูปกันไปหลายใบ วันนี้ท้องฟ้าสีสวยมาก โชคดีจริงๆที่ฝนไม่ตก พวกเราเดินมาเรื่อยๆ จนสุดหาด ตรงบริเวณนี้สวยมากครับคลื่นมันมาปะทะกันสองข้าง ทำให้กลายเป็นคลื่นสี่เหลี่ยมแปลกตาดี ที่หน้าหาดบริเวณนี้มีเกาะที่ดูไกลๆ แล้วสวยดีครับ แต่ไม่รู้ว่าใกล้ๆแล้วจะสวยเหมือนที่เห็นรึเปล่า ถ้าน้ำลดแล้วเค้าบอกว่าเดินไปถึงได้ ก็น่าจะลองดู พอน้ำลดเราก็ออกเดินทางกันน้ำตื้นมาก ลึกไม่เกินหัวเข่า แรกๆก็เดินสบายดีเพราะมันมีแค่ทรายแต่หลังนี่สิมันเริ่มมีหิน ปะการังที่ตายแล้วเต็มไปหมด เดินยากมากๆ พวกผมก็ใส่รองเท้าเดินกันครับ แต่ว่ามันก็เดินยากมาก เดินมาได้เกือบจะถึงอยู่แล้วเชียวเท้ามันพลิกครับ จากเดินโดยไม่เจ็บก็เลยต้องเจ็บเพราะรองเท้ามันขาดแย่จริงๆ แต่ไม่เป็นไรจะถึงอยู่แล้ว พอไปถึง ฮือๆๆ อยากร้องไห้เจ็บก็เจ็บไม่เห็นมีอะไรเลยชายหาดก็ไม่สวยเสียเที่ยวจริงๆ ร้อนก็ร้อน แถมดำอีกตะหาก ก็เลยนึกถึงน้ำตกขึ้นมาทันที วันนี้ไปน้ำตกกันดีกว่าไปอาบน้ำคลายร้อนซักหน่อย ประมาณบ่ายสองกว่าๆ เราก็ไปเช่ามอเตอร์ไซค์ ที่นี่ค่าเช่า ชั่วโมงละ 50 บาท วันละ 300 บาท เราเช่ากัน 2 ชม. แค่นี้ก็เวลาเหลือแล้ว เพราะน้ำตกอยู่ใกล้ๆแค่นี้เอง ขับรถประมาณ 15นาทีก็ถึงที่จอดรถ แล้วต้องเดินต่อไปอีก 15 นาที ก็ถึงตัวน้ำตก ลืมบอกไปว่าน้ำตกชื่อว่าน้ำตกคลองพลู น้ำตกที่นี่น้ำเยอะมาก นึกไม่ถึงเลยว่าบนเกาะอย่างนี้จะมีน้ำตกสวยๆอย่างนี้ ตรงบริเวณตัวน้ำตกมีแอ่งน้ำให้ว่ายน้ำได้ด้วย พวกเราอยู่ที่นี่เกือบเต็มเวลาที่เช่ารถมา เราปีนหินไปถึงเกือบบนสุด สายน้ำแรงมาก ถ้าตกลงไปต้องแย่แน่ๆเลย พอใกล้เวลากลับ เราก็เลยไปสระผม น้ำเย็นชื่นใจดีจัง ไม่ได้สนุกอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว ตกเย็นเราก็ไม่ได้ทำอะไรนั่งมองทะเล ลมพัดแรงมาก ลมทะเลก็ไม่เหนียว แสดงว่าที่นี้น้ำทะเลสะอาดจริงๆ แล้วอีกหนึ่งวันก็ผ่านไป วันที่ 2 ของการอยู่บนเกาะของพวกเรา ( 15 พค. 2544) วันนี้ผมตื่นมา 7 โมงเช้า อาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ประมาณ 8 โมงกว่า ก็ได้เวลาเดินไปกินข้าวกัน อาหารที่นี่อร่อยใช้ได้ครับ ราคาก็ไม่ถึงกับแพงเกินไปจานละ 40 บาท(อาหารทะเลนะครับ) เรากินข้าวที่ร้านอาหารของรีสอร์ททุกวันหลังจากกินข้าวเสร็จวันนี้พวกเรามีโปรแกรมจะไปขี่รถรอบเกาะ เพราะตอนที่นั่งรถสองแถวมาเห็นวิวสวยๆ วันนี้จะได้ไปดูด้วยตัวเองแล้ว เราเช่ารถ 2 คัน เช่าทั้งวันราคาคันละ 300 บาท เริ่มออกเดินทางตอน 10.30 น. ทางตอนแรกๆก็ดีครับ ขับง่ายดีเพราะมันเป็นทางราบ แต่พอผ่านหาดทรายขาว อู้ฮู้..ทางชันมากๆ แถมเลี้ยวหักศอกอีกตะหาก ขับกันมันที่เดียว จุดชมวิวจุดแรกที่เราเล็งไว้ตั้งแต่ตอนมาว่าจะดู มันจอดรถไม่ได้เพราะเป็นทางลงเขาพอดี ก็เลยต้องไปจอดอีกที่ ตรงนี้ก็สวยข้างล่างมีชายหาดด้วยท่าทางจะสงบมาก แต่ไม่เห็นมีทางลงเลย หลังจากหยุดพัก พวกเราก็เดินทางกันต่อ ระยะทางประมาณเกือบ 20 กม.เราก็เดินทางถึงน้ำตกธารมะยม ซึ่งอยู่อีกฟากของน้ำตกคลองพร้าว น้ำตกที่นี่เดินเข้าไปไม่ค่อยไกลมากก็ถึงน้ำตกชั้นแรกแต่ว่าดูท่าทางจะไม่ค่อยมีคนมาเท่าไหร่ เพราะทางเดินแทบจะมองไม่เห็น (ที่ป้ายทางเข้า เขาบอกว่าชั้นที่ 3 สวยที่สุด) พอมาถึงชั้นที่ 1ผมก็ว่าสวยแล้วนะ แต่มาถึงแล้วหนิ ก็ต้องไปให้ถึงที่สุด เราเดินต่อมาเรื่อยๆ ทางเดินค่อนข้างลำบาก เพราะต้องปีนเขาตลอด แต่แล้วเราก็มาถึงทางตัน ไม่มีทางเดินต่อแล้วจะไปยังไงหละเนี่ย พวกเราหาทางไปอยู่นาน เพราะด้านหน้าเป็นหินลาดลงไปค่อนข้างชันก็เลยกลัวไม่กล้าไปเดี๋ยวจะลื่นไถลตกน้ำซะก่อน ก็เลยเดินอ้อมขึ้นไปบนเขา ทางลำบากมากเพราะไม่เคยมีใครเดิน ทางค่อนข้างชัน ต้องไต่เลาะเขาตลอดเวลา เดินมาได้ซักพักเราก็ลงมาที่น้ำตก คงจะเป็นน้ำตกชั้นที่ 2 แต่ว่าก็ยังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่พวกเราแวะเล่นน้ำกันที่นี้เพราะไม่อยากจะเดินต่อแล้ว น้ำตรงนี้ค่อนข้างลึก น้ำตกไหลเลาะริมหน้าผาลงมาดูๆ ไปแล้วก็สวยดี เล่นได้ซักพักก็มีคนเดินมา พวกเราก็ตกใจว่าเค้ามาได้ยังไง เค้าบอกว่าก็เดินมาตามทางเท้านั่นแหละ พอได้ยินแค่นั้นเราก็งง เฮ้อ ทำไมพวกเราถึงโง่กันนัก ต้องไปปีนบ่ายหน้าผา แต่ยังไงก็เป็นประสบการณ์ที่ดีนะ หลังจากเล่นได้พักนึง คนที่เดินมาเค้าก็เดินไปต่อ พวกเราก็เลยเดินตามไปบ้างข้างบนก็ไม่ค่อยมีอะไร เราเดินไปเรื่อยๆ ก็ไปถึงชั้น 3 เราว่าอย่างนั้นนะไม่รู้ว่าใช่รึเปล่า เป็นน้ำตก 2 สายไหลมาชนกันดูแล้วก็สวยดี ถ้ามีน้ำเยอะกว่านี้ ตอนเดินกลับ ผมร่าเริงมากไปหน่อยไม่ได้ระวังก็เลยลื่นตกไปในน้ำ เจ็บก็ไม่เท่าไหร่หรอกแต่ที่หนักกว่าก็กล้องที่ยืมเพื่อนมามันตกลงไปในน้ำ แพงก็แพงจะทำยังไงดีเนี่ย แต่ว่าก็แค่แป็บเดียวนะ ตอนแรกมันก็ไม่เป็นอะไรหรอกยังถ่ายได้ แต่อีกไม่เกิน 1 นาทีมันก็ช็อต ระบบเดิมหายไปหมดเลย ไอน้ำก็เข้าไปในแฟลต มันกระพริบไม่หยุด ปิดหน้ากล้องก็ไม่ได้ ตอนนั้นกลัวกล้องจะพังมากๆ แต่จะทำไงได้หละ พอปิดหน้ากล้องได้ พวกเราก็เดินทางกลับออกจากน้ำตก ผมเป็นคนขับตอนขากลับในช่วงแรก ทางเป็นทางดินแดงฝุ่นเยอะมาก ตอนที่ออกมาหิวมาก กว่าจะมาถึงที่กินข้าวก็ประมาณ 15 กม. พวกเราแวะพักกินข้าวที่ ท่าเรือเฟอร์รี่ระหว่างที่รอข้าวผมก็เอากล้องออกมาดู ตอนนี้กล้องไม่มีไอน้ำแล้ว แปลกมากอยู่ดีๆก็หายก็เลยลองเปิดหน้ากล้องดูกล้องไม่เป็นอะไรแล้วค่อยโล่งหน่อย ก็เลยไปถ่ายภาพทดลองกล้อง ตอนที่ถ่ายรูปอยู่ สาวก็รองเท้าหลุดลงไปในน้ำ ตลกดีมาเที่ยวครั้งนี้ซื้อรองเท้าใหม่ตั้ง 4 คนแหนะ พอกินข้าวเสร็จก็เดินทางกันต่อไปที่คลองพร้าวรีสอร์ท ไม่ได้มาพักนะครับมาถ่ายรูป เพราะหาดที่นี่กว้างมาก แต่เสียอย่างเดียวท้องฟ้าไม่ค่อยเป็นใจก็เลยไม่สวยเท่าไหร่ หลังจากนั้นเราก็ออกเดินทางต่อเพื่อที่จะไปจุดชมวิว แล้วก็เลยไปที่ Lonely beach ชื่อเพราะดี จุดชมวิวตรงนี้ก็สวยแต่ผมว่าตรงหาดทรายขาวสวยกว่าเราเพราะว่าเห็นหาดได้ทั้งหาด แต่ก่อนที่เราจะแวะที่หาดนั้น เพื่อนผมที่ชื่อหยุ่น บอกว่าไหนๆก็ขับมาถึงนี่แล้วก็ไปให้สุดๆดีกว่า เพราะทางที่ผ่านมาลำบากมากเป็นทางเลนเดียวเวลารถสวนกันน่ากลัวมาก เราไปต่อได้อีกไม่ไกลก็ต้องกลับ เพราะไม่มีอะไรให้ดูเรามาแวะที่Lonely beach ที่นี่ชายหาดสงบมาก สวยกว่าที่คลองพร้าวซะอีก ตอนแรกกะจะเล่นน้ำที่หาดนี้แต่ว่าเวลามีไม่พอเพราะต้องเอารถไปคืนตอน 17.00 ก็เลยต้องกลับ แต่ไม่เป็นไรความทรงจำดียังอยู่เยอะแยะไป ระหว่างที่ขี่รถกลับ เป็นทางลงเขา มีรถกระบะคันนึงสวนมา ทำตัวน่าเกลียดมากเพราะทางเป็นเลนเดียวไม่ชะลอรถให้เลย แถมยังไม่หลบรถให้เราอีก เกือบไปซะแล้ว และแล้วพวกเราก็ต้องกลับมาเล่นน้ำที่หาดไก่แบ้ กว่าจะได้เล่นน้ำก็ต้องเดินไปไกลเพราะว่าหาดที่อยู่ใกล้ๆค่อนข้างสกปรก แต่พอลงไปเล่นน้ำก็ใส หาดก็สวยเสียอย่างเดียวว่ายน้ำไม่ได้เพราะน้ำตื้นมาก ขนาดเดินมาเกือบ 100 เมตรแล้วยังลึกไม่ถึงเอวเลย เล่นอยู่ตรงนั้นซักพักก็ย้ายที่ไปเล่นที่หน้า ไก่แบ้ บีช ที่นี่มีคลื่นด้วยเราก็หลงดีใจ แต่พอลงไปมันมีหินก็เลยเล่นไม่ได้คราวนี้ก็เลยต้องย้ายที่อีก ก็เลยต้องกลับมาเล่นที่เดิมที่เล็งไว้แต่แรก ถึงแม้จะออกไปลึกไม่ได้เพราะมีหินแต่ก็ยังดีว่าที่ที่ผ่านมา พวกเราเล่นน้ำจน 6โมงครึ่งก็มาก่อกองทรายเล่นแล้วก็ถ่ายรูปซะหน่อย วันนี้เป็นวันที่มีความสุขจริงๆ รู้สึกว่าได้ปลดปล่อย ทำให้รู้สึกสบายตัวยังไงก็ไม่รู้ หลังจากเล่นน้ำแล้วเราก็มาอาบน้ำแต่งตัวไปกินข้าวกันเหมือนเดิม และกิจกรรมหลังกินข้าวก็เหมือนกับเมื่อวานก็เล่นไพ่ไงหละ วันนี้เราเล่นกันจนดึกเพราะไม่ค่อยเพลียเท่าไหร่ เช้าวันใหม่(16 พค. 44) วันนี้เราได้รับการต้อนรับจากสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โชคดีจริงที่ฝนตกลงมาวันที่พวกเราจะกลับ ไม่งั้นคงจะแย่น่าดู วันนี้พวกเราไม่ได้ทำอะไรเพราะกว่าจะตื่นก็สายแล้ว กว่าจะกินข้าวเสร็จก็เกือบ 10 โมงเช้า ก็ได้เวลาขึ้นสองแถวไปท่าเรือ 11.00 ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องลาเกาะช้างซะแล้ว มาเที่ยวครั้งนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ไปดำน้ำอย่างที่ตั้งใจ แต่ว่าพวกเราก็ได้สิ่งดีๆมามากกว่านั้น มิตรภาพดีๆที่เรามีให้กัน สิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำก็ได้ทำ เป็นการมาเที่ยวที่ได้ประสบการณ์และความทรงจำที่ดีกลับมาเยอะจริงๆ ขอบคุณเพื่อนๆ ขอบคุณ ผู้จัดการรีสอร์ทที่เป็นมิตรกับเราเป็นอย่างดี และขอบคุณเกาะช้างที่ทำให้พวกเรามีความทรงจำดีๆกลับไป 13.00 น. พวกเราเดินทางออกจาก ตราด ขากลับใช้เวลาเดินทาง 6 ชม. กว่าๆ พวกเรามาถึงเอกมัยแล้ว การผจญภัยในครั้งนี้ก็จบลง พวกเราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน พบกับความทรงจำดีๆได้ใหม่กับการไปเที่ยวครั้งหน้า แล้วพบกันความทรงจำที่ดีของผม รายละเอียดการเดินทาง รถไปกลับคนละ 189 บาท มีรถออกทุก ชม. เที่ยวสุดท้าย 23.30 น. ค่าสองแถวไปท่าเรือ 20 บาท ค่าเรือไปเกาะไปกลับ 120 บาท แต่ถ้าไปท่าอื่นถูกกว่านี้ ค่ารถสองแถวบนเกาะจากท่าด่านเก่าไปหาดไก่แบ้ คนละ 40 บาท ค่าที่พัก ที่ไก่แบ้ ฮัท หลังละ 300 กับ 800บาท นอกจากนั้นก็เป็นค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ ชม.ละ 50 บาท วันละ 300 บาท ต่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 1500 บาท 3 วัน 2คืน ชินจัง - 07/07/2001 ช่วงหน้าฝนไม่น่าไปเที่ยวนะครับเพราะว่าคลื่นในทะเลแรงมาก อันตรายครับ ผมไปมาแล้วเมื่อเดือน พค.44 ลมแรงมากฝนตกตลอดออกไปดำน้ำดูปะการังก็ไม่สวยแถมยังเมาคลื่นกันเกือบทุกคน แบบที่ว่าคนขับรถตู้ที่เราจ้างไป เมื่ออาชีพนะครับยังต้องเมาคลื่นเลยครับ ขอบอก ไปเที่ยวช่วงหน้าร้อนดีกว่ากันเยอะเลยครับ

บันทึกความทรงจำประสบการณ์เล่าสู่กันฟัง