ประสบการณ์เล่าสู่กันฟัง...อุทยานแห่งชาติปางสีดา

Pathomdanai (Doyly@hotmail.com) 17 พฤษภาคม 2542 อช.ปางสีดา อช.ปางสีดา 24,25,26 ก.ค. 42 เดินทางด้วยรถปรับอากาศ สาย กท. - อรัญฯ (ลงที่ จ.สระแก้ว ) ขึ้นที่หมอชิตใหม่ เที่ยวแรกเวลา 04.00 น.รถออกตรงเวลา เพราะมีผู้โดยสารขึ้นเต็มเร็วมากครับ - ถึงสระแก้ว เวลา 06.30 น เดินไป ตลาด ตลาดจะอยู่ทางด้านหลัง สถานีขนส่ง ระยะทางประมาณ 800 เมตร -- ชุดเราต้องเตรียมอาหารไปทำกินเอง เลยแวะจับจ่ายกับข้าวที่ตลาดก่อน และอีกอย่างพึ่งรู้ว่า รถสองแถวที่ไป อ ช. สระแก้วเที่ยวแรกออกเวลา 09.30 น. เลยเดินเที่ยวตลาด๙ะเพลินเลย จ ะโบกรถไปก็ไม่กล้า เพราะยังเช้าอยู่ไม่ค่อยมีรถสัญจรผ่านไปมา และอีกอย่างสัมภาระของเราเยอะมากด้วย ทั้งเครื่องนอน เครื่องกิน สารพัด ( พวกบ้าหอบฟาง ) คิวรถสองแถวก็อยู่ที่ตลาดนั่นเอง - รถสองแถวมาตรงเวลา เป็นรถสองแถวขนาดใหญญ่ ชาวบ้านที่นี่ใช้บรรทุกของเยอะ ๆ คงนาน ๆ มาจับจ่ายของที่ตลาดที - ระยะทางจากตลาด เพียง 27 กม. คนขับรถใจจดีส่งชาวบ้าน ที่เป็นคนชราถึงหน้าบ้านเลยแม้จะต้องเข้าซอยไปอีก ก็ยังขับไปส่ง น่าชื่นใจเนอะ - ใช้เวลาประมาณ ครึ่ง ชม. ก็ถึง อช.ฯ เราก็จัดแจง ลงทะเบียนทำเรื่องขอค้างแรม สองคืน ค่าธรรมเนียมคนละ 5 บาท กลุ่มเราไป 3 คน - กางเต้นท์ที่ลาน บ้านนางสีดา สภาพแวดล้อมร่มรื่น มีธารน้ำไหลอยู่ทางด้านข้างลานกางเต้นท์ด้วย วันที่เราไปฝนตกปรอย ๆ ตลอดวัน น้ำเลยเยอะ ได้ยินเสียงน้ำชัดเจนมาก - คืนแรก ก็เจอฝนตกเลย ตกตั้งแต่บ่าย มาหหนักเอาตอนดึก ๆ นึกในใจว่าฟายชี๊ตที่นำเอามาด้วยจะทนได้นานแค่ไหน พอฝนตกหนักได้สักพักน้ำก็เริ่มไหลเป็นทางผ่านเต้นท์ จนน้ำซึมเข้าทางด้านใต้ ผลที่ได้คือ นอน มันทั้งเปียก ๆ นั่นแหละทำไงได้ สนุกไปอีกแบบนะ เย็นดี - วันรุ่งขึ้น ฝนก็ยังตก ปรอย ๆ ตั้งแต่เเช้า ก็ตัดสินใจเดินไปน้ำตกปางสีดา เ พราะถ้าขืนรอฝนหยุดไม่ได้ไปแน่ ทางเดินไปน้ำตกปางสีดา ระยะทางประมาณ 800 เมตร จากที่กางเต้นท์ ไปถึง น้ำตกก็พบกับรางวัลแห่งการเดินทาง คือ เป็นช่วงที่น้ำตกมีน้ำเยอะเพราะฝนตกหนักเมื่อคืน น้ำตก สูงประมาณ 20 เมตร กว้างประมาณ 30 เมตร ก็ลองนึกดูว่า ตอนน้ำเยอะจะสวยขนาดไหน - มีทางเดินศึกษาธรรมชาติ ไปน้ำตกผาตะเคียน ระยะทางประมาณ 2.5 กม. จากน้ำตกปางสีดา ชุดเราก็ตัดสินใจเดิน ก็มาแล้วนี่ไม่ไปได้ไง บรรยากาศเป็นป่าดิบครึ้ม ยิ่งวันนี้ครึ้มฟ้าครึ้มฝนเสียด้วย ฝนก็ตกปรอย ๆ ไ ม่มีทีท่าว่าจะหยุด และก็มีแต่ชุดเราที่เดิน ทางเดินเป็นทางแคบ ๆ เดินได้ทีละคน มีป้ายบอก ทาง กันหลงป่าเป็นป้ายสีเหลือง คล้าย ๆ การหา RC ในการแข่ง แรลลี่ ระหว่างทางมีต้นไม้ใหญ่ล้ม ใหม่ ๆ ขวางอยู่อีกต้องปีนต้นไม่ข้ามไปถึงจะเดินต่อไปได้ มันมาก - ระหว่างทางพบนก กะรางหัวหงอก ส่งเสียยง ระงมลั่นป่าไปหมด พบเป็นฝูงใหญ่ด้วย - ทางเดินพามาสุดที่จุดหน้าผาของน้ำตกผาตะะเคียน เดินระวังหน่อย นะ เ พราะหวาดเสียวมาก น้ำตก ฯ เป็นน้ำตกอยู่ใจกลางป่า สูงประมาณ 30 เ มตร แคบประมาณ 15 เมตร เช่นกัน ในวันน้ำมากเช่นนี้ ดูยิ่งใหญ่มาก สวยงามสมกับการสมบุกสมบันมาชม - ขากลับ เดินกลับเส้นทางสีเขียว เพราะททางเดินจะเป็นวงกลม ขาไปสี เหลือง กลับสีเขียว ขากลับเป็นทางเดินเลียบลำธารตลอด และเป็นทางลงค่อนข้างชัน มิน่าเขาถึงให้กลับเส้นทางนี้ เพราะถ้ามาเส้นนี้ เดินกันอานแน่ ทางชันมาก - เราเลยแวะเล่นน้ำกันที่ น้ำตกปางสีดา พอบ่าย แก่ ๆ ก็กลับที่พัก - วันที่สองฝนก็ยังไม่หยุด เราเลยย้ายไปนอนที่ใต้ถุนบ้านนางสีดา ไม่งั้นคืนนี้นอนแช่น้ำอีกแน่ - การเดินทางกลับก็ อาศัยโบกรถ จากถนนตรรงที่กางเต้นท์ เพราะรถส่วนใหญ่ก็จะไป ตัวจังหวัด สระแก้วอยู่แล้ว โบกไม่ยากหรอก - ถึงตัว จ. ก็ตีตั๋วรถ กลับ กท. อ้อ ทั้งขาไปและขากลับควร เดินทางเส้นทาง กท. องครักษ์ อรัญ ฯ เพราะทางดีกว่า ( ส่วนใหญ่รถก็ใข้เส้นนี้อยู่แล้ว ) สรุป - กลุ่มผมเจอฝนตกทั้งวันเลยไม่มีเวลาได้ไปเที่ยวอีกหลายที่เช่นทุ่งหญ้า ชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว จนท.บอกที่นั่นจะมีหอคอยส่องสัตว์ ถ้ามีเวลาน่ามาซุ่มดู และถ่ายรูปสัตว์ ไว้ อยู่ห่างจากที่กางเต้นท์ประมาณ 6 กม. ไม่ไกลหรอกเดินไปเรื่อย ๆ ถ้าเจอรถ ก็โบก และอีกที่คือ จุดชมวิว อยู่ห่างจากที่กางเต้นท์ ประมาณ 25 กม. ถ้าเดินไปคงแย่หารถโบกไปขากลับกะเวลาดี ๆ เผื่อไม่มีรถกลับจะได้เดินกันยาว - กลุ่มผมไปดูนกกัน แต่ฟ้าไม่เป็นใจ เลยไไม่ค่อยพบนก และ สภาพอากาศก็ไม่ค่อยจะมีแดด จึงจำแนกชนิดนกไม่ค่อยได้ ที่พบแน่ ๆ คือ ว งศ์นก ปรอด และ พวกนกเขียวก้านตอง ตอนเช้ามืดผมตื่นมา คล้าย ๆ ได้ยินเสียงนก แก๊กมาจากแนวป่าด้านหลังที่พักแต่ไม่เห็นตัว , พบนกแซงแซวหางบ่วงเล็ก ด้วย - ไว้ตั้งใจไปใหม่ ในวันที่ฟ้าฝนเป็นใจกกว่านี้ แต่ก็ดีแล้วได้เห็นน้ำตกที่งดงามซึ่งถ้าฝนไม่ตกก็คงไม่ยิ่งใหญ่ขนาดที่เราเห็ นหรอก ก็ เป็นรางวัลตอบแทนที่เราพยายามแสวงหาความงามของธรรมชาติที่ดีที่สุ ดแล้ว ข้อแนะนำ วันที่เราไป มีแมลงจำพวก ยุง และ มดเยอะ มาก เพื่อน ๆ ที่จะไปก็คงต้องเตรียมตัวไว้ก็แล้วกันนะครับ - ขอให้เพื่อน ๆ มีความสุขกับการเดินทาง การแสวงหา ชีวิตเป็นของพวกคุณครับ อ้อ อย่าทำลายธรรมชาตินะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน ! BYE - BTE Surachai thananuphar (surachait@ubctv.com) 12 ตุลาคม 2542 ปางสีดา เคยไปมาเมื่อสักสามปีก่อน ทางขึ้นอุทยานยังเป็นดินแดง แต่พื้นอัดแน่น รถเก๋งพอไปไหว แต่ระวังไว้ก็ดี เพราะพื้น ถนนค่อนข้างลื่น โดยเฉพาะขาลงเขา เกือบปัดมาแล้ว เหมือนกัน ช่วงกลางคืนสามารถขับรถส่องสัตว์ได้ อากาศ ช่วงหน้าหนาว เย็นสบายดี แต่ไม่มีร้านอาหาร ควรเตรียม ไปให้พร้อม หากมีโอกาศจะไปอีก เพราะไม่ได้แวะน้ำตก nutty (nutty@chaiyomail.com) 30 ตุลาคม 2542 ปางสีดา เราโชคดีที่ทริปนี้ มีคนใจดีขับรถไปด้วย ก็เลยสบายหน่อย ประทับใจมากกับปางสีดา เราซื้อหนังสือนำเที่ยว ไปกันแบบมันส์ๆ แวะทานข้าวที่ตลาด และก็เดินทาง เจอถนนที่ปางสีดาแล้วอึ้ง กำลังทำค่ะ เห็นแต่ดินสีแดง แถมเจ้าหน้าที่บอกว่า มีเสียงดังเพราะกำลังทำทาง ไม่แน่ใจว่า จะได้เห็นสัตว์หรือเปล่า อึ้งกำลังสอง แต่ไหนๆก็ไหนๆ เราก็เลยได้เจออะไรเด็ดๆ ขึ้นไปนอนที่กิโล 25 มีอยู่2 กลุ่ม นอกนั้นเจ้าหน้าที่ มีความสุขกับอากาศที่ปราศจากมลพิษ ทานข้าวเสร็จก็มืดแล้ว เริ่มอยู่กันไม่สุข แอบติดต่อขอไปส่องสัตว์ มีเจ้าหน้าที่ไปด้วย 1 คน ถือปืนไปด้วย ทำเอาเราชักใจรวนเร แต่ก็คุ้ม พี่อีกกลุ่มที่ไปด้วย มาถ่ายรูปนกไปลงหนังสือ ได้ความรู้มาเพียบ พวกเราโชคดีมาก ได้เห็น . กระทิง. ครั้งแรกในชีวิต จนเดี๋ยวนี้ เราก็ยังอยากไปอีก "ปางสีดา" เจ - - benjamarth_p@hotmail.com - 18/09/2000 ปางสีดา ฉันเคยไปแค่น้ำตกปางสีดาเท่านั้น แต่ก็สวยมาก เลย คนเยอะมาก ฉันอยากจะไปเที่ยวที่อื่นอีก แต่ไม่มีเวลา แต่ฉันขอสัญญาว่าฉันจะต้องไปอีกแน่นอน big - - big_click@chaiyo.com - 21/09/2000 re:ปางสีดา เราชอบ จ.สระแก้ว มากเลย ก็เลยไปปางสีดา มีป่าที่อุดมสมบูรณ์มีนกหลากชนิด รวมทั้งสัตว์ป่ามีให้เห็น นก - - khwanrudee_p@hotmail.com-05/01/2001 เราไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติปางสีดามาแล้ว บรรยากาศดีเหมือนกัน แต่เราไม่ได้ขึ้นไปที่จุดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ สำคัญ นะ เราไปกางเต้นท์ที่ลานบ้านนางสีดา กางอยู่ข้างลำธาร ที่เป็นส่วนหนึ่งของน้ำตกปางสีดา ส่วนการเดินทาง เราเดินทางโดยรถทัวร์ปรับอากาศ สายกรุงเทพฯ-องครักษ์-อรัญฯ (ลงที่ จ.สระแก้ว) ขึ้นรถที่หมอชิตใหม่ รถโดยสารเที่ยวแรกออก 04.30 น. ค่าโดยสาร 153 บาท เป็นรถของบริษัททัวร์ เมื่อได้ตั๋วแล้วให้เตรียมตัวขึ้นรถได้เลย เพราะถ้าคนเต็มรถก็จะออกเลย ตอนที่เราไปเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ 30-2 ม.ค. 2544 ได้ตั๋วรถเที่ยว 06.00 น. แต่ได้รถ ขึ้นรถตอน 05.00 น. พอคนเต็มรถก็ออกเลย หรือมีที่ว่างอยู่ 2-3 ที่ เค้าก็จะหาคนที่จะไปขึ้นมาแทนคนที่ยังไม่มาขึ้นรถ รถมาถึงขนส่ง จ.สระแก้ว ตอน 08.30 น. รถทัวร์จะวิ่งเส้นทาง องครักษ์นครนายก ถ้าจากรถแล้ว เดินไปขึ้นสองแถวที่ตลาด ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก (เดินตัดไปทางด้านหลังร้านขายอาหารที่อยู่บริเวณขนส่ง) ถ้าของมากไม่อยากเดินจะเรียกรถสามล้อไปก็ได้ แต่ไม่ควรเกิน 30 บาท เพราะระยะทางไม่ไกลเลย ประมาณ 800 เมตรเอง ถ้าต้องการประกอบอาหารเองก็ไปซื้ออาหารสดที่ตลาดได้เลย (ขอแนะนำว่า ควรประกอบอาหารเองจะได้บรรยากาศมากเลย) แต่ไม่ควรซื้อของเกินเวลา 09.30 น. เพราะรถสองแถวจะออกประมาณ 09.30 น. ถือว่าเป็นรถเที่ยวแรก และจะมีรถอีกเที่ยวหนึ่งประมาณ 15.00-16.00 น. รถสองแถวที่นี่จะ วิ่งรถแค่ 2 เที่ยวเท่านั้น จะเป็นสองแถวใหญ่ สีฟ้า สายที่วิ่งไปปางสีดาจอดอยู่ที่ตลาด เราสามารถบอกให้รถเข้าไปส่งที่ อช.ปางสีดาได้เลย ค่ารถคนละ 30 บาท เพราะตอนที่เราไปเสียค่ารถ 100 บาท ผู้ใหญ่ 3 คน เด็กเล็ก 1 คน ระยะ ทางประมาณ 27 กม. นั่งรถแค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึง เมื่อไปถึงอุทยานแล้ว ให้ติดต่อเรื่องที่พักที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวได้เลย ถ้ามีเต้นท์มาเองก็คิด คนละ 30 บาท ต่อ 1 คืน แต่ถ้าไม่มีเต้นท์ ทางอช.ฯ มี เต้นทŒให้เช่า เต้นท์เล็กไม่แน่ว่า 50 บาทต่อคืนหรือเปล่า แต่เต้นท์ใหญ่ 200 บาทต่อคืน หรือถ้าไม่อยากกางเต้นท์ก็มีบ้านพักไว้บริการ หลังละประมาณ 500-600 บาท ต่อคืน แต่ที่ลานนางสีดามีบ้านพัก 2 ชั้น 3 ห้องนอน ใหญ่พอสมควร และมีบ้านพัก อีก 2 หลัง แต่อยู่เลยจากลานนางสีดาขึ้นไปอีก 800 เมตร ที่นี่มีร้านค้าสวัสดิการของอุทยานฯ ไว้บริการมีน้ำแข็ง เครื่องดื่ม น้ำมัน น้ำปลา และบริการอาหารสำหรับนักท่องเที่ยว ไว้บริการ และของใช้ต่างๆ (อาจจะไม่มากนักแต่เป็นของจำเป็นต้องใช้ทั้งนั้น) จุดกางเต้นท์ลานนางสีดาจะต้องเดินขึ้นไปอีก 200-300 เมตร จากศูนยŒบริการนักท่องเที่ยว การประกอบอาหารก็ง่ายเพราะที่นี่สามารถก่อไฟทำอาหารได้ ห้องน้ำไม่ลำบาก มีอยู่ประมาณ 6 ห้อง แต่ไม่ต้องแย่งกับใครเพราะคนไม่มากนัก มีกางเต้นท์อยู่ประมาณสิบกว่าหลังเอง เพราะคนส่วนมากจะมารถส่วนตัวมาค้าง 1 คืน แล้วก็กลับ หรือไม่ก็ย้ายไปกางเต้นท์อีกที่หนึ่ง ซึ่งอยู่เลยลานนางสีดาขึ้นไปอีก แต่ที่ลานนางสีดาสงบและบรรยากาศดีสามารถกางเต้นท์ที่ริมลำธารได้ (ถ้าไม่ใช่หน้าฝน) เพราะหน้าแล้งน้ำจะน้อยแต่ก็ไหลตลอดทั้งวัน เรากางเต้นท์ที่ริมลำธาร แต่อยู่เลยขึ้นมาบนเนินเพราะเรายังเป็นห่วงความปลอดภัยของหลานเราที่อายุแค่ 3 1/2 ปีเอง เราไม่เที่ยวที่ไหนมากมีเพียงแค่เดินไปเที่ยวน้ำตกปางสีดา เดินประมาณ 800 เมตร แต่ต้องเดินไปบนทางถนนนะ เพราะทางน้ำตกเดินไม่ได้ หลานเราสนุกกับการเดินมาก เหนื่อก็พัก แต่ตอนที่ต้องโบกรถลงมา เพราะหลานเราเล่นมากเกินไป ข้าวไม่กินตั้งแต่เช้าจนเที่ยง กินแต่เป๊ปซี่เลยอาเจียรออกมาหมดไม่มีแรงเดินลง ถ้าคนชอบความสงบที่ไม่วุ่นวายเหมือนหยั่งเขาใหญ่ก็ควรมาที่นี่ อากาศไม่ต่างกันเท่าไหร่ ตอนกลางคืนเย็นพอควร แต่บรรยากาศเยี่ยมมาก เงียบสงบ ขอแนะสำหรับผู้ที่รักสงบ และรักที่จะอยู่กับธรรมชาติมาเถอะแล้วจะติดใจ เพราะเรายังติดใจต้องเลื่อนกำหนดกลับไปอีกหนึ่งวันเลย ถ้าจะกลับวันไหนให้นัดกับรถสองแถวให้มารับด้วย แต่รถจะมารับช่วงเช้า ประมาณ 7.30-8.00 น. ขอเชิญเพื่อนๆไปสัมผัสบรรยาการอุทยานแห่งชาติปางสีดานะ เพราะไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางง่าย เพราะก็เดินทางโดยเปิด INTERNET ดูเหมือนกัน ต้องขอขอบคุณเจ้าของ E-mail - Doyly@hotmail.com มากที่ทำให้เราได้ไปอุทยานแห่งชาติปางสีดา ขากลับก็มาขึ้นรถที่ขนส่งสระแก้วได้เลยมีรถออกที่นี่ด้วย แต่เป็นของบริษัทขนส่ง ราคา 147 บาท รถของบริษัททัวร์ก็มี แต่ไม่รู้ต้องซื้อตั๋วอย่างไร