แม่น้องเซ็ท - - mumset@mweb.co.th - 20/11/2000
ภูเรือ.....หนาวกำลังดี
มีโอกาสได้ไปเที่ยวภูเรืออีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 18/11/2000 นี่ขนาดไม่ใช่วันหยุดต่อเนื่อง
คนมากางเต็นท์ที่นี่ร่วม 200 กว่าคนได้ บรรยากาศเป็นธรรมชาติจริงๆ ครั้งนี้จะไม่บอกถึงเรื่องการเดินทางนะค่ะ
เพราะไปกับรถบัสใหญ่ ได้นำของไปบริจาคให้เด็กที่ โรงเรียนบ้านซำภู ต.ช้างตะลูด อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
เสร็จจากเรื่องการบริจาคของแล้วก็เลยแวะมากางเต็นท์นอนที่ภูเรือ 1 คืน
ถ้าไปที่นี่ใครไม่มีรถก็คงลำบากหน่อยต้องเดินไปจุดกางเต็นท์ประมาณ 2 กิโลกว่าได้ ถ้าต้องแบกสัมภาะมากๆ
ทางเดินก็ต้องเดินขึ้นเขา พอดีคุณแม่ได้นั่งรถไปถึงจุดการเต็นท์ ส่วนน้องเซ็ทเขาสมัครใจเดินค่ะ
(รถบัสใหญ่ขึ้นไม่ได้ แต่ถ้าพวกโฟว์วีลสบาย..) ตรงจุดกางเต็นท์ ก็เป็นลานกว้างเป็นทุ่งหญ้าธรรมชาติตัดสั้น
ไม่เหมือนบางอุทยานจะปลูกหญ้าอย่างสวยงาม แต่คุณแม่ว่าดีนะค่ะ จะก่อไฟตรงไหนก็ได้เขาไม่ว่าค่ะ
ใครไปที่นี่ก็ต้องเตรียมหาเทียน สปอร์ตไลท์ ไปให้ดี เพราะว่าจุดกางเต็นท์ไม่มีไฟฟ้าเลย มืดตึดตื๋อ
รวมไปถึงห้องน้ำซื่งมีอยู่ 6 ห้อง ชาย 3 ห้อง หญิง 3 ห้อง น้ำเย็นจัดเหมือนอาบน้ำแข็ง
ขนาดอุณหภูมิไม่ค่อยเท่าไหร่แค่ 15.2 องศาเอง นั่งดูดาวกำลังสบาย ดาวบนท้องฟ้า สวยมากค่ะ
เพื่อนๆ เด็กๆ ของคุณแม่เขาไม่ค่อยได้ไปเที่ยวแบบนี้เขาตื่นเต้นกันมากที่ได้มาสัมผัสกับธรรมชาติของภูเรือ
ร้านอาหารที่นี่มีบริการให้เช่าอุปกร์การนอนอย่างละ 10 บาท ใครไปที่นี่ต้องเตรียมเต็นท์ไปเองนะค่ะ
บ้านพักมีเพียง 5 หลัง เต็นท์มีอยู่ไม่กี่หลังเอง เพราะถ้าไปถึงแล้วไม่มีที่พักแย่เลยที่ต้องขับรถไปไกลมาก
อีก 10 นาทีตี 5 ของเช้าวันอาทิตย์ น้องเซ็ทปลุกคุณแม่ชวนไปดูพระอาทิตย์ขึ้น แหม..ลูกเรานี่มันดียังงี้เอง
ถ้าไปโรงเรียนนะคุณแม่เรียกไปสิไม่อยากจะตื่น ก็บอกว่าเซ็ทก็เคยมาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่แล้วนี่ เขาบอกตอนนั้นยังเด็กอยู่
(ตอนนั้นประมาณ 3 ปีมาแล้ว..) คุณแม่ก็เลยต้องพาไปพร้อมกับปลุกน้องๆ ที่อยากจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาโหล่นน้อย
เดินไปตามทางลูกรังที่รถวิ่งเกือบ 3 กิโลได้ค่ะ เล่นเอาคุณแม่ต้องปลงสังขารตัวเองว่าเรานี่มันแก่แล้วจริงๆ
ถึงแม้จะใจรักก็เถอะ แต่สังขารไม่ค่อยร่วมมือด้วยเลย ตรงจุดที่ดูพระอาทิตย์ขึ้นจะมีศาลาให้นั่ง ลมแรง หนาวมาก
หมอกยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ แต่ก็สวยมากเลยค่ะ มองลงไปข้างล่างก็เห็นแสงไฟบ้านเรือนไม่รู้เป็นตรงไหนเหมือนกันค่ะ
มองไปเหมือนทะเลภูเขา ตอนนั้นเริ่มมีแสงสีขาวขึ้นมาจับขอบฟ้าแล้ว พอสักพักก็เป็นแสงสีแดง
น้องเซ็ทบอกเหมือนทะเลเพลิงนะ คุณแม่ก็อืม... เพราะแล้วแต่ใครจะมองน่ะค่ะ..
ตอนพระอาทิตย์ขึ้นก็มีกลุ่มอื่นๆ มาร่วมเฮ..ด้วย
จากผาโหล่นน้อยเดินไปยังยอดภูเรือไม่ไกลประมาณ 700 เมตรได้ ยอดภูเรือนี่สูงจากระดับน้ำทะเล 1365 เมตร
ตรงบริเวณนั้นจะมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ให้คนไปสักการะ มีระฆังให้เคาะกันเหง่งหง่าง... สายแล้วคนมากันมากเหลือเกิน
นี่ขนาดไม่ใช่หน้าเทศกาลนะนี่ ถ้าเทศกาลวันหยุดต่อเนื่องจะขนาดไหน
เพราะใครๆ ก็อยากจะไปสัมผัสความสวยงามของที่นี่ ต้นสนก็สวย ดอกไม้ก็สวย
ไม่รู้ดอกอะไรบ้างริมทางที่เราเดินไปน่ะค่ะ มีสารพัดชนิด
คุณแม่ไม่มีเวลาชวนน้องๆ ลูกคนอื่นไปดูหินพระศิวะ ลานหินแตก หรือที่เที่ยวอื่นๆ อีก (ลูกเราเคยดูหมดแล้ว)
เพราะต้องรีบไปที่อื่นต่อ
กลับมาเก็บเต็นท์ เดินทางต่อไปชายแดนไทย-ลาว
ตั้งแต่คุณแม่เที่ยวมาไม่เคยผิดหวังขนาดนี้เลย ทำไมหรือค่ะ ลองอ่านดูนะค่ะ เราเดินทางจากภูเรือต่อไป อ.นาแห้ว จ.เลย
เพื่อไปเที่ยวชายแดนไทย-ลาว ซึ่งอยู่ไกลจากภูเรือประมาณ 30 กว่ากิโล คนในกลุ่มที่ไปด้วยกันเขาแนะนำค่ะ
รถที่ไปเป็นรถบัสใหญ่ ทางขึ้นก็ขึ้นไม่ไหวแล้ว เพราะเป็นถนนที่อยู่บนเขาสูง เส้นทางดีค่ะ พวกเราต้องโบกรถปิคอัพ
รถกระบะอาศัยไปชายแดน ผ่านโค้งหักศอกไปมาประมาณ 30 กว่าโค้งได้ ข้างทางมองลงไปก็อื๋ยย..น่ากลัวมาก
กลุ่มคุณแม่ไปถึงชายแดนเป็นกลุ่มแรก ก็รีบทำใบอนุญาตเพื่อขอผ่านทางเข้าไปเที่ยวแดนลาว
โดยไม่ได้ดูหรอกว่าฝั่งนู้นหน้าตาเป็นไง พอไปเขียนใบอนุญาตระหว่าที่รอเจ้าหน้าที่เขียนนู่นนี่อยู่
ก็เดินมาดู ที่แม่น้ำเหืองที่เราจะต้องข้ามไปมีแพชักรอกอยู่ 1 แพ ยาวๆ คนที่จะข้ามไปต้องยืนบนแพซึ่งไม่กว้างนัก
แม่น้ำเหืองน้ำไม่ลึก เห็นเด็กฝั่งลาวเล่นน้ำอยู่ พื้นน้ำเป็นทราย น้ำใสแจ๊วเชียว
มองไปฝั่งลาวเห็นมีคนนั่งอยู่บนรถไถล้อใหญ่ๆ จอดอยู่ 3 คันบนถนนดิน มีบ้านไม้เหมือนกระต๊อบเล็กๆ อยู่หลายหลัง
คนฝั่งโน้นก็มองดูพวกเรา แม่น้ำไม่กว้างมาก รู้สึกจะกว้างกว่าคลองแสนแสบช่วงสะพานผ่านฟ้าสัก 2 เท่าได้
มองไปมองมาคุณแม่ไม่ไปดีกว่าไม่รู้จะไปทำไม เหมือนชนบทบ้านเรา ที่มาก็คิดว่ามีสินค้าอะไรขายมากมาย
อุตส่าห์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมากันโบกรถตั้งไม่รู้กี่ต่อกว่าจะมาถึงชายแดน ก็เลยไปบอกคนที่เขาถ่อแพว่า
ขอยืนแอ็คท่าถ่ายรูปบนแพหน่อย เขาก็พูดไม่รู้เรื่องเพราะเขาเป็นใบ้...
คุณแม่กับเพื่อนรุ่นลูกพร้อมน้องเซ็ทก็ไปยืนถ่ายรูปบนแพ กลางแม่น้ำเหืองหน่อยเอาเก็บไว้ดู ให้เขาไป 10 บาท
ทีนี้พอพวกเรามากันเยอะ ร่วม 50 คนได้ เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นตำรวจชายแดนก็เลยไม่อนุญาตให้เข้าไป
พวกคุณมากันตั้งมากผมไม่อนุญาตให้ข้ามไปหรอก แต่คุณแม่ก็บอกว่าพวกเราก็คงไม่ไปหรอกค่ะ เพราะไม่รู้จะไปทำไม ..
งานนี้เล่นเอาคนที่แนะนำและพามาหน้าจ๋อยไปเลย... ก็สงสารเขาค่ะ เขาก็ปรารถนาดีอยากให้เราได้เที่ยวชายแดน
แต่มันคงเป็นคนละด้านกันที่มีของขาย
ใครที่ยังไม่เคยไปสัมผัสบรรยากาศบนภูเรือลองไปเที่ยวดูนะคะ ถ้าไปเดือน ธ.ค. คงจะถึง 0 องศาแน่
เพราะเจ้าหน้าที่อุทยานบอกค่ะ
ไว้เจอกันใหม่เดือนหน้าค่ะ....และขอขอบคุณที่อ่านเรื่องที่คุณแม่เล่านะค่ะ
ปลาจัง - 05/12/2000
ภูเรือ น่าเที่ยวจริง
ไปเที่ยวกับครอบครัวสนุกมาก แฮปปี้ จริง จริง อากาศดีมาก สวยมีเมฆด้วย
เมฆลอยอยู่แค่ระดับสายตาเองค่ะ ตื่นเต้นมากขอบอก ๆ
Rutsmee - - Rutsmee02@thaimail.com - 16/12/2000
Re: ภูเรือ น่าเที่ยวจริง
วันแรกออกจากกท. 22.00 น.ท้องเสีย เช้าไปถึงขึ้นภูเรือเลย ทรมาน นึกว่าขื้นไม่ไหวแล้ว
เดินขึ้นไปเกือบๆ คนสุดท้าย พอไปถึงบนภูเรือ แล้วประทับใจมากกกกก ค่ะ สนุก สวยมาก ไปกับครอบครัว
รัศมี 391 ถ.สิรินธร บางบำหรุ บางพลัด กท 10700 โทร 8810717
สุรศักดิ์ บุบผาสังข์ - - gitar.su@chaiyo.com - 22/12/2000
ประสบการณ์ที่ไม่ลืมบนภูเรือ
สวัสดีครับพี่ๆ ทุกคน ผมมีประสบการณ์บนภูเรือจะมาเล่าให้ฟังครับ คือเมื่อประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ผมและเพื่อนได้ไปสำรวจเส้นทางบนภูเรือเพื่อจะจัดทัวร์ครับ คือผมเรียนด้านการท่องเที่ยว ที่ราชภัฏอุดรครับ
ไปกัน8คนครับ สนุกมาก ค้างบนภูเรือ1คืนครับ ระยะเวลาที่อยู่บนภูเรือนั้น เราได้เดินป่าชมธรรมชาติบนภูเรือด้วยครับ
ชมน้ำตก ตอนเช้าหมอกลงเต็มไปหมดอย่างกับอยู่บนสวรรค์แน่ะครับ เป็นอะไรที่ผมประทับใจมากครับ จำได้ติดตาผมเลย
และในไม่ช้านี้ ผมก็จะไปอีกครับ ไปแบบเป็นพิธีนะครับ เพราะผมจัดทำทัวร์ ผมเป็นสตาร์ฟครับ
ไปกันวันที่13 ถึง14 ม.ค. 44 ไปแล้วผมมีประสบการณ์ดีๆผมจเขียนมาเล่าให้ฟังอีกนะครับพี่
สวัสดีครับ ขอให้พี่ๆคนมีความสุขในวันคริสมาสต์และวันปีใหม่นะครับ
ปีใหม่ของฉัน - 02/01/2001
เราได้ไปเที่ยวภูเรือตอนวันที่31-1ม.ค ไม่รู้ว่ามีใครคิดแบบเรารึเปล่า คนเยอะมากๆๆๆ
มลพิษคงเทียบเท่ากับที่กรุงเทพเลยละ รถติด ภูแทบแตก ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงปล่อยรถขึ้นไปมากมาย
ทั้งที่ไม่มีที่จะจอดรถอยู่แล้ว มีรถชนกันบนภูเรือด้วยหล่ะเพระาว่ารถจอดกันแน่นมากถอยกันไม่พ้นก็เลยชนกัน
ไม่ได้เดินไหนเลยมีแต่รถวิ่ง ฝุ่นเต็มไปหมดเลย คิดว่าถ้ามีโอกาสจะไปอีกทีที่ไม่ตรงกับวันเทศกาล
ฝากไว้ก่อนนะภูเรือ
catchang - - catchang@ksc.th.com - 11/01/2001
ถ้าเป็นไปได้อย่าไปเที่ยวในช่วงหยุดเทศกาลเลย ต้องแย่งกันกิน แย่งกันใช้ แย่งกันเที่ยว
หาเวลาว่างที่ไม่ตรงวันหยุดเทศกาลไปเที่ยวดีกว่า จะได้บรรยากาศที่สมบูรณ์ดีมากๆ แต่อาจจะเหงาไปบ้าง
ซึ่งแก้ได้โดยรวมกันไปเป็นหมู่คณะสัก ๘-๑๐ คน จะสนุกสนานและได้บรรยากาศดีมากเลย
|