banner
ทุ่งหญ้าเขาแหลมที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
โดย นายแม้นคนสวน



ไปมาเมื่อ 19 - 20 พ.ค. 44 นี่เองครับ หนที่ 3 แล้ว ... ไม่รู้ไปทำไม เป้ก็หนัก เดินกันตับแลบจนต้องหอบงามๆ อาบเหงื่อเลยละ ครับ ฮา ฮา .. ไปกัน 6 คน นายแม้นกะแม่คุณ และน้องๆ ที่ทำงาน 1 คู่ กับอีก 2 สาว ...

เรื่องมันมาจากว่านายแม้นพาคณะนี้ไปเที่ยวที่หมู่เกาะสุรินทร์แล้วเกิดติดใจในการนำเที่ยวแบบมั่วๆ ของเรา ประกอบกับนายแม้นชักอยากจะไปป่าหน้าฝนแบบลุยๆ หน่อย ก็เลยเกริ่นๆ เรื่องเขาแหลมออกมา ผลก็คือต้องมาแบก 15.5 กก. เดิมดุ่มๆ อยู่นี่แหละครับ ฮา ฮา ... (เอาขึ้นตาชั่งก่อนมาเลยหละ ฮา ..) ก่อนออกเดินทางเราต้องบรรยายสรุป ครับบรรยายสรุปกันเลยหละ เพราะมือใหม่แต่อายุแยะทั้งนั้น ฮา .. ในป่ามีอะไร จะเจออะไร โดยเฉพาะการเดินป่าหน้าฝน สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้คือ ทาก ... ครับ เราบรรยายเสียจนคณะรู้สึกสนุกสนานอยากเจอ ฮา ฮา .. ไม่ใช่หรอกครับแต่เป็นไม่อยากเจอ ปนหวาดกลัว ตื่นเต้นสยองขวัญไปโน่นต่างหาก ...

19 พ.ค. 44 เวลา 06.30 น. ครับ เราออกเดินทางกัน ถนนรังสิต - นครนายก เวลานี้กำลังสวย นาข้าวข้างทางเขียวชอุ่ม น้ำในคลองรังสิตเต็มเปี่ยม ต้นไม้เขียวคลึ้มสองข้างทางครับ แวะหม่ำก๋วยเตี๋ยวเป็ดร้านเก่าแก่ของเรา "คานทอง" ครับ ฮา ฮา .. ซ้ายมือเลยสี่แยกไฟแดงเข้านครนายกครับ ... จนอิ่ม ซื้อข้าวเหนียวไก่ย่างตุนเอาไว้ไปกินตอนเดินเข้าป่าอีกคนละชุด 16.5 กก. แล้วครับเป้หลังตอนนี้ ... ิยิ้มปลอบใจตัวเองครับตอนแบกขึ้นหลัง ..

10.30 น. เราก็มายืนยิ้มเผล่อยู่ที่ผากล้วยไม้ ติดต่อขอเข้าหน่วยเขาแหลม ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางครับ ทางไม่ลำบากเท่าใดแต่ป่าก็คือป่าครับ อะไรก็เกิดได้เสมอโดยเฉพาะป่าที่มีสัตว์ทั้งช้าง เสือ หมาไน กระทิงและ ทาก .. ฮา ฮา ลูกทีมเราซื้อถุงกันทากใส่เตรียมพร้อมลุยทุกคน ยาพ่น ยาฉุน ยาทา เพียบ ให้มันรู้ไปว่าใครจะเก่งกว่ากัน ทาก หรือผู้สูงอายุอย่างเรา ..จุดที่เดินเข้าป่าจะเริ่มต้นจากห้วยลำตะคอง ตรงลานจอดรถน้ำตกเหวสุวัตครับ หลังจากเอาเป้ขึ้นหลังทุกคนเรียบร้อยแล้ว เท่ห์มากเหมือนบ้าหอบฟางทุกคน หนักน้อย หนักมากแบ่งๆ กันไป ฮา ฮา หนัก ฉิ.. ห... (ขอโทษครับ รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ) ช่วงแรกเป็นการลุยน้ำข้ามลำห้วยครับ ระยะทางประมาณ 50 เมตร วันนี้น้ำแรงพอรู้สึก ต้องเดินระวังลื่น มีลวดสลิงผูกโยงระหว่าง 2 ฝั่งให้เกาะ เปียกปอนพอสวย ... ขึ้นจากน้ำก็เจอทางชันเลยครับ นายแม้นทราบแล้วแต่ไม่บอกคณะเดี๋ยวไม่สนุก ... 4.8 กม. ครับ ลื่น ไถล เปียก แฉะเลอะเทอะ บวกเสียงร้อง ทากกก .... ตลอดทาง ทุกคนสนุกครับ มั้ง.... ฮา ฮา .. หลังจากทรมานมา 1.30 ชั่วโมง ก็มาโผล่ที่จุดชมวิว นึกดูนะครับเดินอยู่ในป่าทึบแฉะ ชื้น อบอ้าว แล้วจู่ๆ ก็มาเจอวิวเปิดกว้างโล่ง มีทุ่งหญ้าพลิ้วๆ สีเขียวขนาดสุดลูกหูลูกตา เป็นเนินสูงๆ ต่ำๆ ท้าทายสายตาอยู่ตรงหน้า ทุกคนยิ้มด้วยความอิ่มเอมใจ ชื่นชมและดื่มด่ำกับภาพที่เห็น จากนั้นก็ ก็ ก็ .... ถ่ายรูปปปป .... หายเหนื่อยครับ กำจัดน้ำหนักไก่ย่างไปได้หน่อยหนึ่งที่จุดนี้ .. จากนั้นก็เดินลงเขาต่อไปยังหน่วยฯ ที่เห็นมีเสาธงปักลิบๆ อยู่ไกลๆ โน่น

... เรากางเต้นท์บริเวณใต้ต้นไม้ใกล้กับเรือนพักของหน่วยฯ มีน้ำบาดาลแบบโยกให้เล่นอย่างสนุกสนานเฮฮา สำหรับคณะเราที่ไม่ค่อยจะได้เจออะไรแบบนี้ ... เราเก็บฟืน ไม้แห้งมาก่อไฟกัน เป็นลูกเสือและเนตรนารีกันอีกครั้ง มาแบบนี้ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างนี้แหละครับ .. คณะเราทำกับข้าวเก่งและอร่อยมากกก .. จริงๆ ครับ ฮา ฮา ... ตอนนี้อะไรก็อร่อยทั้งนั้น เหนื่อยและหิว นะสิครับ ... ได้ไม้ง่ามขนาดทำเป็นหนังสะติ๊กยิงช้างได้อันหนึ่ง ก็เลยเอามาทำเป็นที่แขวนหม้อข้าวเสียเลย งามเสียไม่มี ... ก่อนพระอาทิตย์ตกนายแม้นก็พาคณะไปเดินผจญทากเล่นๆ ครับ โดยเดินไปที่หอส่องสัตว์ด้านหน้าของหน่วยฯ ระหว่างทางก็ต้องข้ามห้วยเล็กๆ มีขอนไม้พาดข้ามขนาดพอให้เล่นกายกรรมได้หลายท่า ทั้งลิงไต่ลาว เสือไต่ถังหรือแมวจับกบ (ตกขอนไม้นะครับ ฮา ฮา .. ได้ 0 คะแนนครับจากท่านี้ .. ) ที่หอดูสัตว์ เราได้เห็นทุ่งหญ้าเขาแหลมอีกมุมหนึ่ง อากาศเย็นสบาย เงียบสนิทและแฝงไปด้วยบรรยากาศของความเป็นธรรมชาติอย่างที่สุด บรรยายไม่ได้ครับ ต้องมารู้สึกเอง ... ยืนนิ่ง บันทึกความประทับใจและสูดอากาศเข้าปอดให้เต็มที่แล้วก็กลับไปอาบน้ำ โยกน้ำกันสนุกไปครับ .. พีงระวังครับ เย็นยะเยือกทีเดียวขนาดหน้าฝนนะครับ ไม่ใช่หน้าหนาว

.. มืดแล้วก็มานั่งเล่นกันตรงลานจอด ฮ. (ร้าง) . . มานั่งดูดาว ดูฟ้าเปิดและนิทานจาก จนท. ซึ่งก็คงเหงาน่าดู เพราะอยู่แต่ในนี้ นานๆ ถึงจะออกไปที จนหน้าจะเหมือนเก้ง กวางไปแล้ว ฟังเรื่องหมาไนกินกวาง เรื่องกระทิง เรื่องเสือและ ฯลฯ ... คืนนี้หลับโดยไม่ต้องนับแกะ ..

20 พ.ค. 44 ตื่นขึ้นมาอย่างสดขื่น นายแม้นกับแม่คุณก็มานั่งเงียบๆ ดูธรรมชาติที่ปรากฏอยู่ข้างหน้าพักใหญ่ๆ แล้วก็เริ่มจัดการติดฟืน ติดไฟทำข้าวต้มครับ เป้ที่ว่าหนักนะ ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เสบียงทั้งนั้น รู้ทั้งรู้ว่าหนักแต่ก็ดันเอามา เฮ้อ คนหนอคน ... แต่ก็คุ้มครับ อร่อยมาก น้องๆ ก็สนุกสนาน โดยเฉพาะนั่งพัดไฟให้ติดจนน้ำหูน้ำตาใหล ควันแยะครับ ไม้ค่อนข้างชื้นเพราะน้ำค้างแรง ขนาดเอาผ้าใบคลุมแล้วนะเนี่ย ... สายๆ หน่อย นายแม้นพาคณะเดินไปด้านหลังหน่วย ก็ได้เล่นกายกรรมกันอีก ที่หน่วยฯ นี้มีลำห้วยล้อมรอบครับ ป้องกันแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาเยี่ยมเยียน ในเวลาที่ไม่ต้องการ มิฉะนั้นเจ้าหน้าที่อาจจะต้องถึงแก่กาลแทนได้ ฮา ฮา ...

ที่หลังหน่วยฯ จากนิทานก็กลายมาเป็นเรื่องจริงครับ เราเจอเศษกระดูกขาและสะโพกขนาดใหญ่บริเวณดินโป่ง เรารีบเดินหนีเพราะดูท่ายังสดๆ หวานมันอยู่ ส่งกลิ่นหอมหวน โดยเฉพาะเศษเนื้อที่ยังติดกะโหลกและกราม ที่เราเดินหนีมาจนพบใกล้ๆ กัน ... ืคืบก็ป่า ศอกก็ป่า นะครับ ... นายแม้นว่ากับคนแล้ว มันคงไม่มายุ่งหรอกถ้าเราไม่ซุ่มซ่ามไปยุ่งกับมันก่อน ฮา ฮา .. เช้านี้จากหอดูสัตว์เราเห็นกวาง เห็นเก้ง กระโดดแผลวๆ เป็นฝูงแหวกพงหญ้าที่พลิ้วตามลม สวยและเป็นธรรมชาติมากครับ มีอยู่ตัวหนึ่งกระโดดมาหยุดอยู่ใต้หอ แล้วก็หยุดนิ่งห่างกันไม่เกิน 5 เมตรครับ ต่างคนต่างเงียบ ต่างคนต่างมอง แต่ฝ่ายมนุษย์พลาดครับ ขยับตัวนิดเดียวเสียงไม้ไผ่บนหอก็เลยดัง กวางยักคิ้วให้หนึ่งที แล้วก็โดด summersault กลับไปอย่างสวยงาม .. ฮา ฮา ... เพราะนายแม้นเป็นคนอบอุ่น น่ารักและอุดมไปด้วยไมตรีจิต คณะเราก็เลยได้ปลูกต้นไม้เป็นที่ระลึก 1 ต้น ไม่ใช่อะไรหรอบกครับ เจ้าหน้าที่กำลังเอากล้าไม้มาลงเพื่อทำเป็นรั้วล้อมหน่วยฯ พอดี เราเลยสวมบทเป็นวีไอพีมาทำพิธีปลูกต้นไม้เสียเลย โก้มากกก ... ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเสียด้วย เสียดายไม่มีป้ายชื่อเขียนให้รู้ว่าใครปลูก เมื่อไร .. เวลาเพื่อนๆ thaiparks ไปเที่ยวจะได้แวะส่งข่าวว่า เฉาไปหรือยัง ฮา ฮา ..

.. ขากลับเก่งมากครับ ให้เดินกลับเอง ดูดู๋ เวลามา ก็มาด้วยกัน แต่เวลากลับคุณเจ้าหน้าที่ไม่มาด้วย ... ไม่เป็นไร เราก็ใช่ย่อยครับ เปียก ลื่น ไถล หอบ เฉอะแฉะ และมอมแมม มาจนถึงริมห้วยลำ ตะคองได้ในที่สุด ขาข้ามน้ำกลับหนนี้เสียวไส้หน่อย น้ำแรงและลึกกว่าเมื่อวานและขุ่นจนมองไม่เห็นพื้น ลึกไม่ลึก ต้องค่อยๆ ไป ... team work ครับ จับมือกัน ข้ามไปพร้อมๆ กัน เป็นความรู้สึกที่ดีมากครับ ได้เพิ่มมิตรภาพซึ่งแน่นแฟ้นกันอยู่แล้วให้กระชับมั่นขึ้นอีก

... การข้ามน้ำครั้งนี้ มีสายตาของนักท่องเที่ยวที่กำลังเล่นน้ำอยู่ฝั่งโน้นมองมาด้วยความสงสัยว่า ตัวประหลาดพวกนี้มาจากไหนกัน อยู่ๆ ก็โผล่ออกมาจากป่า พะรุงพะรัง มอมแมม ออกมาเชียว ... ในที่สุด เราก็ข้ามฝั่งมาได้ นายแม้นปรบมือให้กับน้องๆ ชื่นชมความสามารถ ชื่นชมพละกำลังและกำลังใจให้กันและกัน เราเชื่อว่าการเดินทางหนนี้แม้จะสั้นๆ และไม่ได้ลุยหรือโหดอะไรมากมายนัก แต่ก็ได้สัมผัสกับธรรมชาติในอีกลักษณะหนึ่ง โดยเฉพาะเพิ่มความเชื่อมั่นและสร้างความนับถือในตัวเองให้กับน้องๆ แต่ละคนอย่างแน่นอน ...

... ที่ร้านสวัสดิการ เป็ปซี่ลิดรหมดไป 3 ขวด ข้าวอีกพุงกาง ท่ามกลางนักท่องเที่ยวที่นั่งทานข้าวและเดินผ่านไปผ่านมา พร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยเช่นเดียวกับกลุ่มที่เล่นน้ำอยู่ที่ลำห้วย ... นายแม้นแวะประทับ passport ก่อนกลับ .. 18.00 น. เราก็ถึง กทม. ด้วยความอิ่มเอมใจ พร้อมกับคำถามจากลูกทีมว่า หนหน้านายแม้นจะพาไปไหน ... ฮา ฮา


รายงานโดยนายแม้นคนสวนและคณะ

24 พ.ค. 44


ข้อสังเกต :

1. การเดินทางไปเขาแหลมต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ก่อนทุกครั้งและต้องมีเจ้าหน้าที่นำเข้าครับ

2. ดูสภาพอากาศนิดหน่อยระยะนี้ เขาใหญ่ฝนตกได้ตลอดเวลา

3. การจัดเป้ หาข้อมูลดูได้ครับว่าควรจะทำอย่างไร เบา ต้องได้ใข้ประโยชน์และจำเป็น

4. การเตรียมตัวเข้าป่า หาข้อมูลด้วยครับ จะได้พร้อมและสนุกยิ่งขึ้น

5. หลายท่านคงเคยเข้าไปมาแล้ว ลองมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ

6. คำถามครับ คลองรังสิตอยู่ฝั่งไหนของถนนรังสิต - นครยายก ครับ

ฮา ฮา ทราบคำตอบแล้ว เมล์มาหรือแปะไว้ที่บอร์ดก็ได้ครับ .... ขอให้เที่ยวให้สนุกครับ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ติดต่อได้ตามเมล์ที่ปรากฏครับ




คุยเรื่องเขาแหลมกับนายแม้นคนสวน