ไปมาเมื่อเดือน ก.พ. 44 นี้เองครับ ออกตั้งแต่เย็นวันศุกร์โอ้เอ้เพราะงานยังไม่เสร็จ กว่าจะเสร็จโน่นเกือบ 5 โมงเย็น ทริปนี้ตั้งใจไปสบายๆครับ ไม่ได้ไปเอาสนุกผจญภัย เพราะแถวๆระยองเราไปบ่อยครับ แต่ที่นี่ไม่เคยไป อช.เขาแหลมหญ้านี่รวมเกาะเสม็ดด้วยนะครับ แต่เราไม่ไปเกาะ เราแค่พักที่ตัวอุทยานฯ เท่านั้น เส้นทางก็กทม. ระยองฯ ปกตินะแหละครับ มีหลายเส้น แยกเล็กแยกน้อย เลือกเองครับไม่ต่างกันเท่าไร พอถึงระยองให้เลยออกไปแถวๆ ต.ตะพงครับ เลี้ยวขวาเข้าทางถนนเลียบหาดก้นอ่าวครับ ถนนสวย เรียบ แอ่น แอ้น จุดสำคัญครับ แถวถนนเลียบหาดเนี่ย จะมีพวกร้านขายอาหารทะเลสดๆ (เอามาจากบ้านเพนะแหละครับ ถามแล้ว) ราคาค่อนข้างใข้ได้เมื่อเทียบกับกรุงเทพ ไม่แพงครับ แวะซื้ออย่างที่ต้องการตามใจ เราซื้อปูม้า ซื้อปลาหมึก อ้อ น้ำจิ้ม include ให้ด้วยครับ เยี่ยมมาก
วันนี้อากาศดีเกือบมืดแล้วหละพอซื้อของเสร็จ รีบบึ่งไปที่อุทยานฯ ทันที ไปตามถนนเลียบหาดพอถึงบ้านก้นอ่าว ถนนจะบังคับเลี้ยวซ้าย ก็ไปตามถนนแหละครับ เลี้ยวซ้ายไปไม่ไกลครับ น่าจะสัก 1 - 2 กม. ครับ จะเห็นป้ายอุทยานฯ เบ้อเริ่มเทิ่มด้านขวามือครับ เลี้ยวเข้าไปจะเจอป้อม จนท. ต้อนรับ ตอนเราไปถึงก็มืดสนิทแล้วละ ประมาณทุ่มหนึ่งแล้ว แม่คุณก็ลงไปบอก จนท. ว่าจะมาพัก เราก็รีบเตรียมสตางค์ตามธรรมเนียม ทราบว่าวันนี้มีลูกเสือมาเข้าค่าย 300 คน อ้วกกก....แล้วมั้ยหละ แถมมืดแล้วด้วย ยังไงดีละ แต่ในที่สุดฮีโร่ก็โผล่มาพร้อมกับจักรยานเก่าๆในชุดทำงานนอกเวลา เสื้อยืด กางเกงเก่าาา.....รองเท้าแตะ หน.อะไรก็จำชื่อไม่ได้ มืดนะครับ ฮา ฮา คุณแกก็มองดูหน้าเรา เห็นว่าแก่แล้วก็เลยแนะนำว่า ไปได้ ให้ไปกางเต้นท์ที่อาคาร 8 เหลี่ยม โย้ ว่าแล้วก็แสดงความขอบคุณ จนท. อย่างสูง รีบขับรถเข้าไปที่ทำการ อุทยานฯ ถนนดีครับราดยางตลอด แต่พื้นที่ไม่มากนัก เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นเกาะเสียหมด ไปถึงที่ทำการ จนท. ีอึกคน รอรับอยู่แล้ว พร้อมกับมอเตอร์ไซค์เก่าาาา.. อีกแนะแหละ บอกว่าจะขับนำไปให้ เราชื่นชม จนท. เหล่านี้มากนะครับ เราก็รีบตามไป คุณเอ๋ย พอพ้นจากที่ทำการไปแค่นั้นแหละ ถนนน่ารักมาก รถเราโดดไปมา ซ้าย ขวา ขึ้น ลง ตลอด ประมาณ 100 เมตร แค่นั้นแหละ ไม่ต้องห่วง พอถึงที่ก็ว้าวลมแรงพัดอู้ๆ เลยครับ สวยแฮะ มืดๆแบบนี้ ฮา ฮา จนท. รีบวิ่งไปเปิดไฟราวรอบๆให้ เย้ เหมือนอยู่ในสวนอาหารเลย มีสะพานยื่นไปในทะเลให้เดินไปท่าเทียบเรือเล็กๆ ของอุทยานฯ มีอาคาร 8 เหลี่ยมหลังเบ้อเริ่มอยู่ถัดออกไปในสนามหญ้า ห้องน้ำสะอาดมากๆ ฝักบัว พื้นกระเบื้องอย่างดี น้ำแรงดี เราขออนุญาตกางเต้นท์บนสนามหญ้า เพราะเราไม่เห็นบริเวณกางเต้นท์เล็กๆ บนทรายที่อุทยานจัดไว้ให้ พื้นแถวๆนั้นกำลังปรับครับเป็นพื้นดินถนนธรรมดานะแหละ แต่มีบริเวณกางเต้นท์จัดให้โดยเอาทรายมาถมเป็นพื้นให้กางเต้นท์ได้นุ่มๆ มีขอนไม้เก้าอี้วางใกล้ๆ ล้อมเป็นวงกลมสำหรับแคมป์ไฟเล็กๆ ได้ จนท. บอกว่า หน. ไม่ให้กางเพราะหญ้าเพิ่งจะปลูก แต่ไม่เป็นไรครับ เพราะถ้าจะกลับตอนเช้าก็ไม่มีปัญหา น่ารักอีกแล้ว
เราจัดการกางเต้นท์ ขนเสบียง เตาปิกนิกลงมา ปูม้า ปลาหมีกนะแหละ มื้อนี้ ปูม้าสดนึ่งๆ ปลาหมึกต้ม ย่าง จิ้มน้ำจิ้มรสเด็ด คุณเอ๋ย เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม กินกันพุงกางเลย 2 คน คืนนี้มีแค่ เรา 2 คน 1 เต้นท์ แค่นั้นแหละฟ้าสวย ลมแรง (เสียดายที่ไม่สามารถ Post รูปให้ดูได้ เว็บมาสเตอร์ทำได้แน่ๆ ในอนาคต เราเชื่อมือเขานะ สู้กับ Blue Planet นะครับ) นั่งดูดาว อาบน้ำนอน ลมแรงตลอดคืน ไม่มียุง แง้มๆประตูเต้นท์ ได้เลย ลมพัดเข้ามาแรงจนต้องปิดๆบ้าง อาบน้ำ หลับสบาย เช้าตื่นแต่เช้าดูพระอาทิตย์ขึ้น อากาศดี เห็นคนเดินมาตกปลาที่สะพานเทียบเรือ เราก็ออกไปนั่งคุย ได้ความรู้หลายอย่างแถมได้ลองตกปลกด้วย เพ่ น่าสนุกดี พอเช้าแล้วถึงเห็นว่า สนามหญ้ากำลังปลูกจริงๆ ต้นมะพร้าวก็กำลังขึ้น ยังไม่มีร่มเงาเท่าใดนัก เพราะฉนั้นร้อนแน่ๆ ก็เลยรีบเก็บเต้นท์ อาบน้ำ แล้วย้อนขึ้นกลับไปที่ทำการ ไปจ่ายสตางค์ค่ากางเต้นท์แล้วก็สมทบทุนหน่อยนึงบริจาคเป็นสวัสดิการให้อุทยานฯ ไปใช้ปรับปรุงตามแต่เหมาะสม แล้วเราก็ขอลงไปดูที่กางเต้นท์ปกติที่ลูกเสือกางอยู่นะแหละ เป็นพื้นที่เล็กๆติดหาด มีต้นไม้พอควรให้ร่มเงาได้ มีห้องน้ำ ใช้ได้ มีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งเล่นได้ ที่น่ารักคือมีฝักบัวแบบกลางแจ้งให้ยืนอาบเวลาเล่นน้ำเสร็จด้วย ลูกเสือ และพ่อเสือแม่เสือ ก็เฮฮาดีมีทั้งเตาถ่าน กะละมังล้างจาน ถุงขยะเก็บเรียบร้อย และลูกเสืออู้ๆ จากนั้นเราก็กลับบ้าน เส้นเดิมนะแหละ แวะซื้อปูม้า ปลาหมึก กลับไปทำกินที่บ้านต่อ อ้อ ไม่ลืมประทับตรา passport ตามธรรมเนียม
ทริปนี้สั้นมาก เพราะแค่ไปนอนพักเอาบรรยากาศเงียบๆ สงบนะครับ ถ้าใครจะไปก็ควรวางแผนไปเที่ยวต่อไปนะครับ แถวนั้นที่เที่ยวแยะ
ขอให้สนุกนะครับ
|