โลมาน้อยพาเที่ยวทะเลสุราษฎร์ ท่องกุ้ยหลินเมืองไทย
สวัสดีครับ...ทำงานหนักกันมาหลายเดือน คราวนี้พวกเราก็หาเวลาไปพักผ่อนกันที่สุราษฎร์ ก็กะว่าจะไปช่วงวันจักรี ปีนี้ตรงกับวันศุกร์ ก็เลยมีวันหยุด 3 วัน และเป็นอาทิตย์ก่อนสงกรานต์ น่าจะดีกว่าแต่คิดว่าคนก็คงน่าจะเยอะ พอสมควร น่าจะมีคนหนีสงกรานต์มาเที่ยวก่อนเหมือนกัน พวกเราวางแผนล่วงหน้ากันประมาณเดือนครึ่ง ก็กะว่าจะให้เป็นทริปที่คุ้มค่า มีการเปลี่ยนโปรแกรมทริป 3-4 โปรแกรมเพื่อความเหมาะสม ทั้งเรื่องที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว เนี่ยพอโปรแกรมทริปออกปั๊บ มีคนสนใจไปเที่ยว 20 กว่าคนเกินคาด เลยต้องวางแผนดีๆ ซื้อตั๋วรถทัวร์ไปกลับล่วงหน้า ติดต่อที่พัก และเรือ ซึ่งคาดว่าน่าจะต้องเป็น Speed Boat เพื่อความสะดวกในการเดินทางเพราะไปกันเยอะขนาดนั้น ก่อนวันไปเที่ยว 2-3 อาทิตย์ฝนตกลงมาเกือบทุกวัน พวกเราก็หวั่นๆ อยู่เหมือนกันว่า ไปเที่ยวครั้งนี้จะมีฝนตกมั้ยหนอ ตามโปรแกรมสถานที่ท่องเที่ยวที่คิดกันไว้ก็มี เกาะสมุย เกาะแตน หมู่เกาะอ่างทอง เกาะพะงัน และปิดท้ายด้วย ทะเลสาบเขาสก เขื่อนเชี่ยวหลาน เห็นมั้ยล่ะหน้าเที่ยวขนาดไหน...
วันแรก
พวกเราเดินทางออกจาก กรุงเทพฯ ประมาณสองทุ่ม ถึงท่าเรือดอนสักตอน 7.00 น. แล้วซื้อตั๋วเรือเฟอร์รี่ไปสมุย เรือออก 8.15 น. ถึงสมุย 10.30 น. วันนี้เราตกลงกันว่าจะไปที่เกาะแตนกันเลย พวกเราเหมารถสองแถวให้ไปส่งที่อ่าวท้องกรูดเพื่อนั่งเรือหางยาวไปเกาะแตน พอไปถึงอ่าวท้องกรูด ผู้ใหญ่บ้านของเกาะแตนซึ่งเป็นเจ้าของแตนวิลเลจ ที่ซึ่งเราจะไปพักกันก็มารับเราพร้อมกับนั่งเรือหางยาวไปด้วยกัน แตนวิลเลจ อยู่ที่อ่าวออกของเกาะแตน พวกเราไปถึงเกาะแตนตอนเที่ยง รับประทานอาหารกลางวันกันเสร็จแล้วก็เช่าเรือหางยาวออกไปดำดูปะการัง และฝูงปลากันบริเวณแหลมเทียน ปะการังบริเวณนี้ไม่ค่อยสวย ปลาก็ไม่ค่อยมีส่วนใหญ่จะเป็นปลาเสือ ใช้เวลาว่ายเล่นกันอยู่สักพักก็กลับขึ้นฝั่ง แล้วเราเดินเท้าตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติสู่ป่าชายเลนใกล้อ่าวตก จะมีป้ายบรรยายเกี่ยวกับต้นไม้และนกตลอดเส้นทาง เวลาเกือบเย็นแล้วเรากลับที่พักตามเส้นทางเดิม ซึ่งที่จริงแล้วสามารถเดินอ้อมเขากลางไปได้แต่จะใช้เวลาเยอะกว่า กลัวจะมืดเสียก่อน
วันที่สอง
ผมตื่นมาตอนเช้ามืดเพื่อมาเก็บภาพพระอาทิตย์กำลังโผล่พ้นขอบฟ้า แต่เสียดายมีเมฆเยอะมาก เลยไม่ได้ภาพสวยๆ บรรยากาศยามเช้าที่เกาะแตนดีมาก นานแล้วที่ไม่ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าอย่างนี้ อากาศสดชื่นมาก วันนี้พวกเรากะว่าจะเดินทางไปเที่ยวหมู่เกาะอ่างทองกัน พวกเรานั่งเรือหางยาวออกจากเกาะแตนไปเกาะสมุยแล้วเหมารถสองแถวไปที่ท่าเรือหาดบ่อผุดเพื่อไปขึ้น Speed Boat ไปเที่ยวหมู่เกาะอ่างทอง
พวกเราเดินทางมาถึงหมู่เกาะอ่างทองด้วย Speed Boat ระหว่างที่นั่งเรือมาเห็นโลมาด้วยหล่ะมีด้วยกัน 3 ตัวแต่ระยะค่อนข้างไกลและเห็นแป็บเดียวบางคนก็ไม่มีโอกาสได้เห็น เกาะแรกที่เราแวะไปคือเกาะสามเส้า เราไปดำน้ำดูปะการังกัน บริเวณนี้ไม่ค่อยสวยสักเท่าไร จากนั้นเราไปที่เกาะแม่เกาะเพื่อขึ้นไปชมทะเลใน อากาศค่อนข้างร้อน และนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะ เราต้องเร่งรีบบันทึกภาพตรงจุดชมวิวกัน จากนั้นเราไปที่เกาะวัวตาหลับ ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ไปจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติคนละ 20 บาท เสียดายที่พวกเราไม่สามารถเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวบนเกาะวัวตาหลับและถ้ำบัวโบก เพราะเวลาไม่พอ ต้องรีบกลับเกาะสมุยก่อนที่จะมืดเสียก่อน
ค่ำคืนนี้เราพักกันที่ P&P Samui Resort ซึ่งเป็นรีสอร์ทของเพื่อนพี่คนหนึ่งที่ไปเที่ยวด้วยกัน เราพักกันที่นี่ 2 คืน บรรยากาศที่รีสอร์ทนี้ดีมากเป็นบ้านสองชั้น แยกชั้นบนชั้นล่างออกจากกัน เป็นห้องแอร์ทั้งหมดพักได้อย่างมาก 6 คน แขกที่มาพักส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง จะมีกลุ่มพวกเรากลุ่มเดียวที่เป็นคนไทย เราพักกัน 5 ห้องใกล้ๆ กัน บริเวณที่พักจะอยู่ติดชายหาดเฉวง สามารถมานั่งเล่น ดูวิวทิวทัศน์ที่ชายหาดสวยงามมาก และสงบ
ตอนค่ำคืนก็สามารถออกไปเดินเที่ยวที่ถนนด้านหน้าได้ บรรยากาศจะเหมือนกับพัทยาเลยเชียวหล่ะ
วันที่สาม
เช้าวันนี้เราตื่นขึ้นมากันแต่เช้า ออกไปทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหารบริเวณชายหาด อาหารเช้ามื้อนี้เป็นข้าวต้มปลา ระหว่างที่รอข้าวต้ม มีพวกเรา 6-7 คนออกไปเล่นจานร่อนกันที่ชายหาดส่วนที่เหลือก็นั่งดูกันอย่างสนุกสนาน หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จพวกเราก็เดินทางไปที่ท่าเรืออ่าวบ่อผุดเช่นเดิม วันนี้พวกเราไปเที่ยวเกาะพะงันกัน หาดแรกที่เราไปคือหาดริ้น หาดริ้นเป็นชายหาดที่สวยงามมากมีทรายขาวละเอียด มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเล่นน้ำอยู่ บ้างก็เดินเล่นบนชายหาด พวกเราลงเล่นน้ำกันที่หาดริ้นนี้กันนานพอสมควร ที่ต่อไปที่เราจะไปกันคืออ่าวท้องนายปาน เรือแล่นออกจากหาดริ้น ผ่านหาดเทียน เขาสู่หาดท้องนายปาน ที่หาดท้องนายปานเงียบสงบดี นักท่องเที่ยวมีพอสมควร เราลงรับประทานอาหารกลางวันกันที่นี่ ซึ่งค่อนข้างแพงมากๆ เลย เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ บางคนก็ลงเล่นน้ำ บางคนก็นั่งชมวิวทิวทัศน์ พูดคุยกัน เราอยู่ที่นี่กันตั้ง 2 ชั่วโมงกว่าๆ เพราะต้องรออาหารกลางวันที่เสร็จช้ามาก
จากนั้นเรานั่งเรือไปที่เกาะม้า ซึ่งอยู่ติดกับหาดแม่หาด บริเวณนี้มีทิวทัศน์ที่สวยงามมาก มีสันทรายเชื่อมต่อระหว่างเกาะม้ากับหาดแม่หาด ซึ่งบริเวณเกาะม้านี้เองเป็นที่ที่เราสามารถดำน้ำดูปะการังกันได้อย่างจุใจ มีแนวปะการังที่สวยงาม มีปลาหลากหลายชนิด ดอกไม้ทะเลสีสวยงาม เราใช้เวลาดำน้ำดูปะการังที่นี่กันนานพอสมควร จากนั้นเรือแล่นพาพวกเรากับสู่เกาะสมุย
.
วันที่สี่
เช้าวันนี้เราต้องรีบตื่นกันแต่เช้า รีบอาบน้ำ เก็บสัมภาระ ทานอาหารเช้ากันนิดหน่อย เพราะต้องรีบไปที่ท่าเรือเฟอร์รี่ให้ทันรอบ 10.00 น. วันนี้เป็นวันแห่งการเดินทางทั้งนั่งรถ นั่งเรือ นั่งรถ แล้วก็นั่งรถ แล้วก็จบด้วยการนั่งเรือ เราเดินทางไปถึงเขื่อนเชี่ยวหลาน หรือเขื่อนรัชชประภาเกือบสี่โมงเย็น ที่เขื่อนมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมาก แต่อากาศค่อนข้างร้อน เราใช้เวลาบันทึกภาพบริเวณเขื่อนกันแป็บเดียว จากนั้นก็นั่งรถไปที่ท่าเรือ แล้วนั่งเรือล่องทะเลสาบเขาสกเพื่อไปสู่ที่พักคือที่แพไกรสร เป็นหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ขส.7 เรือนำเราล่องทะเลสาบชมวิวทิวทัศน์ ผ่านช่องแคบเขากาะเลาะ ผ่านบริเวณที่เรียกว่ากุ้ยหลินเมืองไทย เราถึงที่พักแพไกรสรกันเกือบ 1 ทุ่ม เพราะเสียเวลาในการขับอ้อมคุ้งน้ำและหลงทางด้วย
แพไกรสรจะมีแพพักอยู่ 8 หลัง และมีแพพักหลังใหญ่อยู่อีก 1 หลัง จะมีห้องน้ำอยู่บนฝั่ง บรรยากาศที่แพไกรสรก็สวยดี แต่คิดว่าคงสู้ที่แพนางไพรไม่ได้เพราะตั้งอยู่ตรงบริเวณที่เรียกกันว่ากุ้ยหลินเมืองไทย
วันที่ห้า
วันนี้เราตื่นขึ้นมากันแต่เช้า เพื่อหวังที่จะชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่ก็พลาดเพราะว่ามีเมฆมากบังดวงอาทิตย์อยู่ พวกเราส่วนหนึ่งลงเล่นน้ำกันแต่เช้า จากนั้นก็มาพายแคนูไปดูสัตว์ตามเกาะต่างๆ ที่อยู่ใกล้ๆ ได้ยินเสียงนกร้อง เสียงค้าง เสียงชะนี เราได้เห็นนกเงือกบินอยู่ไกลๆ เห็นฝูงลิงตัวเล็กๆ คาดว่าเป็นลิงแสม ลงมากินน้ำ แล้วก็ขึ้นไปกินผลไม้บนต้นกันอย่างสนุกสนาน ได้เวลาอันควรแดดออกมากเริ่มร้อน เราพายกลับเข้าที่พัก รับประทานอาหารเช้า จากนั้นเราก็ลงเล่นน้ำกันต่อ กระโดดน้ำเล่นกันเป็นที่สนุกสนาน
.
เราอาบน้ำเก็บสัมภาระเสร็จกันก่อนเที่ยง เพราะจะมีนักท่องเที่ยวชาวฮอลแลนด์อีกกลุ่มหนึ่งมาพัก เราต้องรอเรือมารับเพราะนัดไว้ตอนบ่าย แต่แล้วเมื่อเรือมาถึงกลับมีปัญหาที่เครื่องไม่ทำงานเสียอีก เลยต้องวิทยุให้ทางเจ้าหน้าที่ส่งเรือลำใหม่มารับด้วย กว่าเรือจะมาถึงก็บ่ายสาม เป็นเรือหางยาวลำใหญ่ไม่มีหลังคา เรานั่งไปโดยใช้ผ้าคลุมกันแดดกัน และเรือก็เก่ามากน้ำซึมเข้ามาเร็วมาก เราต้องช่วยกันวิดน้ำออกจากเรือ เป็นที่สนุกสนาน ร้อนและเหนื่อยด้วย แต่ก็มาถึงฝั่งโดยปลอดภัย
.
พวกเราเดินทางกลับกรุงเทพฯ กันโดยสวัสดิภาพ
"จะเก็บภาพและความรู้สึกดีดี ไว้ในความทรงจำตลอดไป"
อ่านบันทึกการเดินทางอื่นๆ ได้ที่ http://lomanoi.travel.to
|