เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า..ภูหลวง
ขุนเขา..สายหมอก..สวนหินธรรมชาติ..ทุ่งดอกไม้ป่า..รอยเท้าไดโนเสาร์
ประวัติความเป็นมา
ภูหลวงมีความหมายว่าเขาที่สูงใหญ่หรือมีความหมายถึงภูเขาของพระเจ้าแผ่นดินก็ได้ นับเป็นสิริมงคลนามที่บรรพบุรุษได้ตั้งชื่อไว้ เกิดจากการยกตัวของพื้นผิวโลก และดินส่วนที่อ่อนถูกพัดพาลงสู่พื้นที่ส่วนต่ำ คงเหลือหินซึ่งเป็นโครงสร้างส่วนที่แข็งไว้เป็นภูเขา ที่ดินในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงถูกกำหนดให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2517 มีเนื้อที่ประมาณ 848 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 530,000 ไร่ ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอวังสะพุง อำเภอภูเรือ อำเภอด่านซ้าย และกิ่งอำเภอภูหลวง จังหวัดเลย
ลักษณะโดยทั่วไป
ลักษณะภูมิประเทศ
สภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงใหญ่แนวเขตเริ่มจากระดับความสูงมาตรฐานปานกลางระดับน้ำทะเลประมาณ 400 เมตร ถึงยอดสูงสุดของภูหลวง 1,571 เมตร เทือกเขาซีกตะวันออกมีลักษณะเป็นภูเขาลูกใหญ่ มีที่ราบบนหลังเขา ระดับความสูง 1,200-1,500 เมตร เนื้อที่ประมาณ 100 กม.เทือกเขาซีกตะวันตกเป็นภูเขาลูกเล็ก ๆ ตั้งชันสลับซับซ้อน เป็นลูกคลื่นระดับความสูง 600-800 เมตร
ลักษณะภูมิอากาศ
น้ำฝน ฝนเริ่มตกตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงเดือนตุลาคม ฝนตกชุกตลอด ฤดูกาลและอุณหภูมิ ที่ระดับความสูง 1,200-1,400 เมตร ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธุ์ถึงเดือนเมษายน อุณหภูมิโดยเฉลี่ยประมาณ 20-24 องศาเซลเซียส ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ถึงเดือนตุลาคม อุณหภูมิสูงกว่าฤดูร้อนเล็กน้อยหรือใกล้เคียงกัน ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนกรกฎาคม อากาศหนาวจัดอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 8-16 องศาเซลเซียส โดยปกติแล้วในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมกราคมจะมีอุณหภูมิลดลงถึง 4-6 องศาเซลเซียส อยู่หลายวันและบางปีอุณหภูมิจะลดต่ำลงกว่าจุดเยือกแข็ง
ชนิดป่าและพรรณไม้
ป่าไม้ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงแบ่งได้ดังนี้
ป่าไม้ดงดิบชื้น (Tropipal Forest) เป็นป่าดงดิบที่อยู่ในระดับความสูง 400-800 เมตร พรรณไม้ส่วนใหญ่ไม่ผัดใบ ชนิดไม้ที่ขึ้นอยู่มี ไม้พะวา ไม้ชะม่วง ไม้มะไฟป่า ไม้ตังหน ไม้แซะ ไม้เลือดควาย ไม้แดงน้ำ ไม้มะหาด ไม้กาลพฤกษ์ ไม้สมุย ไม้ค้อ ไม้โก ไม้ส้าน ไม้บุนนาค ไม้ราชพฤกษ์ ไม้ชมพู่ป่า ไม้คายโซ่ ไม้ลำใยป่า ไม้มะค่าโมง ไม้ประดู่ ไม้ตะเคียนหิน เป็นต้น
ป่าดงดิบเขา (HillEvergreen Perest) เป็นป่าดงดิบที่อยู่ในระดับความสูงตั้งแต่ 800 เมตรขึ้นไป ชนิดไม้ที่ขึ้นอยู่มี ยางควน สนทก่อแดง บุนนาค มะหาด สนแผง สนหางกระรอก ข่าต้น อบเชย ตะไคร่ต้น ก่วมแดง กระทุ่ม ซ้อ ทะโล้ ค่าขี้หมู เป็นต้น
ป่าเบ็จพรรณ (Mixed Decibuos) พบป่าชนิดนี้ทางด้านตะวันออกท้องที่อำเภอวังสะพุง และกิ่งอำเภอภูหลวง ไม้ที่ขึ้นอยู่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ เช่น ไม้ประดู่ ไม้มะค่าโมง ไม้แดง ไม้ยาง ไม้กะบก ไม้ตีนนก ไม้ตะแบกใหญ่ เป็นต้น
ป่าเต็งรัง (Dry Dipterocarp Forest) พบป่าชนิดนี้เป็นส่วนน้อยในท้องที่อำเภอวัง สะพุง และอำเภอด่านซ้าย ไม้ที่ขึ้นอยู่มี ไม้เต็ง ไม้รัง ไม้เหียง ไม้ประดู่ ไม้ตระค้อ ไม้ติ้ว ไม้มะขามป้อม ไม้รัก ไม้ตีนนก ไม้กะโน ไม้แค เป็นต้น
ป่าสนเขา (Coniferous Forest) พบป่าชนิดนี้ในที่ราบบนหลังเขาเป็นกลุ่ม ๆ กระจ่ายทั่ว ๆ ไป ไม้สนที่ขึ้นอยู่ส่วนมากเป็นไม้สนสามใบ (Pinus Khasya) ส่วนไม้สนสองใบ (Pinus Merkusii) พบขึ้นกระจายเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยไม่หนาแน่น
ป่าไม้พุ่ม(BushForest) พื้นที่ดินของป่าชนิดนี้มักจะตื้นมีหินผุดโผล่ขึ้นทั่วไป พบป่าชนิดนี้ในที่ราบบนหลังเขา พันธุ์ไม้ที่ขึ้นอยู่มีต้นกุหลาบขาว ต้นกุหลายแดง ต้นส้มแปะ ต้นประทัดแดง เง่า น้ำทิพย์ ต้นสนสร้อย และต้นก่อดำ เป็นต้น
ทุ่งหญ้า (Savaxnah) เป็นทุ่งหญ้าคา พบอยู่ในที่ราบบนหลังเขาทั่วไป
สัตว์ป่า
สัตว์ป่าสงวน มีเหลืออยู่ 1 ชนิด คือ เลียงผา สัตว์ป่าคุ้มครอง มีช้าง กระทิง เสือโคร่ง เสือปลา กวางป่า หมีควาย อีเก้ง หมูป่า กระจง อีเห็นชนิดต่าง ๆ เม่นใหญ่ เม่นหางพวง หนูหริ่ง ไก่ฟ้าหลังขาว ไก่ป่า นกกางเขนน้ำ และนกอื่น ๆ ประมาณ 130 ชนิด เป็นต้น
แหล่งธรรมชาติและกิจกรรม
อุณหภูมิของอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวอุณหภูมิจะลดลงใกล้ถึงจุดเยือกแข็งหรือต่ำกว่าจุดเยือกแข็งเกือบทุกปี
เป็นแหล่งที่มีพืชพรรณไม้ในที่สูงที่อุดมสมบูรณ์มาก มีกล้วยไม้ป่ามากกว่า 160 ชนิด มีพืชพรรณไม้ที่หายากหรือมีที่ภูหลวงเพียงแห่งเดียวหรือพืชพรรณไม้ที่ไม่ค่อยจะพบเห็น
สวนหินธรรมชาติที่ประกอบด้วยพืชพรรณไม้ดอกกล้วยไม้และพืชชั้นต่ำ เช่นลานสุริยัน และป่าหินภูเขา
หน้าผาที่สูงชันและทิวทัศน์ที่สวยงาม เช่น ผาสมเด็จ ผาเยือง และผาโหล่นแต้
ทุ่งดอกไม้ป่าที่สมบูรณ์และสวยงาม เช่นทุ่งกุหลาบแดง ทุ่งกุหลาบขาว
รอยเท้าไดโนเสาร์ ที่มีอายุประมาณ 120 ล้านปี
น้ำตกที่ตกจากหน้าผาที่สูงประมาณ 60 เมตร เช่นน้ำตกตาดเลย
การเดินทาง
เส้นทางที่ 1 กรุงเทพฯ - จังหวัดสระบุรี - อำเภอสีคิ้ว - จังหวัดชัยภูมิ - อำเภอภูเขียว-อำเภอชุมแพ - อำเภอภูกระดึง - อำเภอสะพุง - จังหวัดเลย ระยะทางประมาณ 560 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 2 กรุงเทพฯ - จังหวัดสระยุรี - จังหวัดเพชรบูรณ์ - อำเภอหล่มสัก - อำเภอหล่มเก่า - อำเภอด่านซ้าย - อำเภอภูเรือ - จังหวัดเลย ระยะทางประมาณ 530 กิโลเมตร
การเดินทางจากจังหวัดเลยไปยังที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงออกเดินทางจากตัวจังหวัดเลย ไปตามเส้นทางสายจังหวัดเลย - อำเภอภูเรือ ระยะทาง 36 กิโลเมตร จะถึงบ้านสานตมแล้วแยกซ้ายที่บ้านสามตมไปอีก 18 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง สำหรับผู้ที่เดินทางโดยเส้นทางที่ 2 ถ้าไม่เข้าตัวจังหวัดเลย เมื่อเดินทางผ่านอำเภอภูเรือไปตามเส้นทางเข้าจังหวัดเลยได้ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร จะถึงบ้านสามตม แล้วแยกขวาที่บ้านสามตมไปเป็นระยะทาง 18 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง
การติดต่อและสิ่งอำนวยความสะดวก
บ้านพักเรือนไม้ 6 หลัง แต่ละหลังมีห้องนอน 2 ห้อง ห้องน้ำ 2 ห้อง มีน้ำประปาและไฟฟ้า (ไฟฟ้ามีเฉพาะเวลากลางคืนถึง 21.00 น. ไม่อนุญาตให้ประกอบอาหารที่บ้านพัก)
เครื่องนอนประกอบด้วย ที่นอน หมอนและผ้าห่มนวม บ้านพักหลังละ 8 ที่
หมายเหตุ
กรมป่าไม้ไม่ให้เข้าไปใช้สถานที่นอกจากจะเข้าไปทำการศึกษาค้นคว้าหรือวิจัยทางด้านวิชาการ
การใช้สถานที่ทางด้านโหล่นแต้ เขตอำเภอวังสะพุงซึ่งจังหวัดเลยดำเนินกิจการเกี่ยวกับ การท่องเที่ยวติดต่อที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย