ก็คงเป็นเพราะว่าเราสนใจเกี่ยวกับภาษาต่างประเทศเป็นทุนเดิมอยู่แล้วน่ะครับ อีกอย่างภาษาอังกฤษผมก็ถนัด เลย เจอภาษาฝรั่งเศสมันก็คล้าย ๆ กัน ก็เอามาประยุกต์ใช้ เลยเรียนแบบสบาย ๆ พอเราเรียน 2 วิชานี้ได้คะแนน ดีแล้วก็เลยอยากให้วิชาอื่นคะแนนดีด้วยก็เลยต้องขยันวิชาอื่นด้วยน่ะครับ
มีวิธีการเรียนยังงัยถึงได้เรียนเก่งอย่างนั้นครับ
กระตือรือร้นที่จะรู้ก่อนที่จะเรียนครับ ก็คือ ต้องศึกษาบทเรียนล่วงหน้าครับ สมมติว่าวันนี้ครูจะสอนถึงประมาณ
หน้านี้ เราก็อ่านแค่นั้น พอเข้าเรียนมันก็เหมือนครูมาทวนให้ เวลาครูถามอะไร เราก็จะรู้เรื่องครับ เพราะคำตอบมัน
อยู่ในหนังสือที่เราเพิ่งอ่านมาน่ะครับ พอเราตอบถูก เราก็จะภูมิใจ แล้วก็ยิ่งรู้สึกขยันมากขึ้นอีกครับ ผมทำอย่างนี้
ทุกวิชาเลยครับ
พอเรียนจบแล้วก็ต้องมาอ่านทบทวนที่เรียนวันนั้นอีกรอบครับ รับรอง ก่อนสอบไม่ต้องท่องเลยครับ มันอยู่ใน
หัวอยู่แล้ว
แบ่งเวลายังงัยครับ ในแต่ละวัน
ก็ไปถึงโรงเรียนก็อ่านหนังสือล่วงหน้าครับ เวลาพักก็เอาวิชาต่อไปมาอ่านล่วงหน้าอีก ช่วงพักเที่ยงเรามีเวลามาก ก็เอาการบ้านที่ครูสั่งช่วงเช้ามาทยอยทำครับ แต่ต้องเผื่อเวลาไว้อ่านวิชาต่อไปล่วงหน้าอีกครับ เลิกเรียนก็เอาการบ้าน มาทำครับ ทำที่โรงเรียนเลยนะครับ มันจะได้เป็นบรรยากาศของการเรียนอยู่ ทำเสร็จ ก็กลับบ้าน อาบน้ำ กินข้าว พักผ่อน ประมาณทุ่มนึงเอาที่เราเรียนมาอ่านทบทวนครับ ถ้าเสร็จเร็วก็เอาที่จะเรียนมาอ่านล่วงหน้าอีกครับ แล้วเข้านอน
ขยันอย่างนี้ถึงสอบโควต้า ม.ช. ติดMassComm
ครับ อย่างที่บอกน่ะครับ การที่เราอ่านหนังสือมาตลอดก็เหมือนเราฝากเงินธนาคารครับ มีแต่ดอก ๆๆๆ 555
ช่วงใกล้สอบโควต้าม.ช.นี่ โรงเรียนหยุดให้อ่านหนังสือ 1 เดือน แต่ผมอ่าน 3 วันก่อนสอบ ไม่ได้อ่านมากมายด้วย
ครับ แต่คนอื่นอย่าทำตามนะครับ ผมอาจฟลุคก็ได้ เด๋วไม่ฟลุคแบบผมแล้วจะมาโทษผมไม่ได้นะครับ
ก็สอบติดแต่สละสิทธิ์ครับ พ่อแม่ไม่ให้เอาเพราะตอนนั้นเค้าย้ายบ้านมาอยู่พิษณุโลกแล้วครับ
พอมาสอบเอ็นทรานซ์ก็เอ็นท์ติดอีก
ครับ ที่คณะมนุษย์ เอกการประชาสัมพันธ์(นิเทศ) ม.นเรศวร ครับ
ทำไมต้องม.นเรศวรล่ะครับ ไม่อยากอยู่จุฬาฯ ธรรมศาสตร์ เหรอครับ
ที่บ้านบังคับครับ ถ้าไม่ได้ม.นเรศวร ก็อดเรียนครับ
แสดงว่าพ่อแม่ต้องการให้มาอยู่บ้าน
ใช่ครับ ที่บ้านเปิดเป็นโรงเรียนทำผมครับ เค้าต้องการให้ผมได้มาเรียนทำผมวันเสาร์อาทิตย์ไปพร้อม ๆ กันด้วยน่ะครับ เรียนได้ปีเดียวก็ให้ผมลาออกจากมหาวิทยาลัย ไปเรียนทำผมแบบเต็มตัวเลยน่ะครับ
แล้วรู้สาเหตุรึเปล่าครับ ว่าทำไมเค้าถึงให้ลาออกกลางครันอย่างนั้นครับ
อ่อ ก็พอดีเข้ามาปี 1 มันก็มีกิจกรรมมากน่ะครับ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาไปเรียนทำผมก็เลยให้ผมลาออกดีกว่า
แล้วรู้สึกเสียดายมั๊ยครับ ในเวลานั้น
เสียดายมากเลยครับ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อคนส่งเสียเราเรียนต้องการอย่างนั้นน่ะครับ แต่ก็คิดว่า ต่อไปทำงาน หาเงินให้ได้มาก ๆ แล้วก็จะหาโอกาสเรียนให้ได้เลยครับ
ในที่สุดก็ไปเรียนทำผมที่กรุงเทพ
ครับ ไปเรียนที่โรงเรียนตัดผมชายก่อนครับ เรียน 1 เดือนครับ ก็ฝีมือพอใช้ได้แล้ว ก็กลับมาบ้านครับ
เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้อยากเรียนทำผมมากขึ้น
ครับ วันรุ่งขึ้น หลังจากที่กลับมาจากกรุงเทพฯ มีงานโชว์ทำผมครับที่โรงแรมไพลิน พิษณุโลก คนมาโชว์เป็น อาจารย์จากสถาบันเสริมสวยนานาชาติเกตุวดีแกนดินี่ คือ คุณเล็ก สายสุดา เชื้อวิวัฒน์ เห็นเค้าแล้วรู้สึกว่าชอบ ในความเก่งของเค้าน่ะครับ อีกอย่างนึง ช่างผมไทยที่ประสบความสำเร็จ และเป็นที่รู้จักส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชาย น่ะครับ เลยรู้สึกชื่นชมคุณเล็กเป็นพิเศษ แล้วตั้งเค้าให้เป็นต้นแบบแห่งความสำเร็จของผมเลยครับ ดูจบแล้ว ก็รู้สึกอยากไปเรียนที่เกตุวดีเลยครับ เลยบอกแม่ว่า เนี่ย อยากจะไปเรียนที่นี่เลยครับ แม่ก็อนุญาตเลยครับ ดีใจ มากเลยครับ รู้สึกว่า ถ้าเราจบกลับมา เราจะต้องเป็นช่างทำผมที่เก่งแน่นอนเลย
ไปเรียนนานแค่ไหนครับ แล้วยากรึเปล่า
เรียนหลักสูตร 3 เดือนครับ แต่ไปเรียนจริง 6 เดือนครับ คือ 1 เดือนเค้าจะ 5 สัปดาห์น่ะครับ เลยเกิน 3 เดือน แล้วก็ไปฝึกงานที่ห้องทดสอบฝีมือช่างของกระทรวงแรงงานอีกครับ พอจบก็ไปทำงานบนห้างได้ 1 เดือนก็โดน เรียกตัวกลับมาทำงานที่บ้านครับ
มาทำงานแล้วเป็นงัยบ้างครับ
ตะกุกตะกักในช่วงแรก ๆ ครับ ยอมรับว่าประสบการณ์ยังน้อย ทำงานช้ามากกก แต่งานออกมาค่อนข้างดีเลย ครับ มีลูกค้าประจำทันทีเลยครับ แล้วก็มีพัฒนาการไปเรื่อย ๆ ทำงานก็ไม่ช้าเหมือนแต่ก่อนครับ จากวันนั้นมาจนปัจจุบัน ก็ประมาณ 2 ปีแล้วครับ
แต่ก็เข้ากรุงเทพฯบ่อย ๆ
ครับ เวลามีงานโชว์ หรือว่ามีการอบรมเทคนิกอะไรใหม่ ๆ ก็ต้องพยายามไปดู ไปเรียนครับ เพราะว่าแฟชั่นจะมี อะไรใหม่ ๆ เสมอครับ ถ้าเราหยุด อาชีพเราก็จบครับ ผมก็เลยต้องหาแฟชั่น หาเทคนิกใหม่ ๆ มาเสนอให้แก่ลูกค้า ตลอดเวลาครับ เพื่อให้ลูกค้าของเรามีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเมื่อเดินออกจากร้านไปครับ
ทราบมาว่า น้องเฟิสท์ได้ไปอบรมเทคนิกการทำสีระดับมืออาชีพของ ลอรีอัลมา
ครับ ได้ไปอบรมเทคนิกการทำสีชั้นสูงมาครับ ก็สอบผ่าน ได้รับใบประกาศนียบัตร ของการทำสีผมระดับมืออาชีพ มาแล้วครับ เพื่อให้ลูกค้าทำสีผมของเราได้รับบริการทำสีผมที่ถูกต้องที่สุด เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดของสีผม และเส้นผมสุขภาพดียิ่งขึ้นครับ
สุดท้ายแล้วก็อยากให้น้องเฟิสท์ ฝากอะไรถึงเพื่อนที่เข้ามาเยี่ยมชมเวปไซท์ของเราครับ
ครับ ก็ขอให้เพื่อน ๆ ที่อยากทำสีผม หรือ ทำอะไรกับเส้นผม เลือกช่างทำผมที่เราทำแล้วถูกใจก็พอครับ แล้วก็ ลงทุนทั้งเงินและเวลาในการดูแลเส้นผมของเราไม่ว่าจะเป็นแชมพู ครีมนวดผม ผลิตภัณฑ์แต่งทรงผม รวมทั้ง การทำทรีตเม้นท์ต่าง ๆ เพื่อบำรุงเส้นผมครับ เพราะอานุภาพของผมสุขภาพดี คือความเป็นไปได้ของทุกคำตอบครับ
นี่ละครับคือแง่มุม และเกร็ดต่าง ๆ จากชีวิตน้องเฟิสท์ นะครับ หวังว่าเพื่อนๆ ที่เข้า มาเยี่ยมชมคอลัมป์นี้คงจะได้สาระอะไรไปบ้างนะครับ สุดท้ายก็ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การติดตามครับ
โฮมเพจ ประวัติย่อ สกู๊ป สัมภาษณ์ รูป เฟิสท์ แอนด์ เบสท์ แฮร์ดีไซน์