เนื้อที่และที่ตั้ง
ประมาณ 686 - 1- 02 ไร่
ตั้งอยู่ที่บ้านวังนกแอ่น หมุ่ที่ 2 ต.วังนกแอ่น อ. วังทอง จ. พิษณุโลก
ทิศเหนือ ติดทางหลวงพิษณุโลก - หล่มสัก
ทิศใต้จรด แม่น่ำเข็ก (แม่น้ำวังทอง)
ทิศตะวันออก จรดกรมรบพิเศษ ที่ 4 (ค่ายสฤษดิ์เสนา)
ทิศตะวันตก จรดเขตป่าและหมู่บ้านวังนกแอ่น
ประวัติสวนรุกขชาติฯ
สวนรุกขชาติสกุโณทยานเดิมมีชื่อว่า"วนอุทยานวังนกแอ่น" อยู่ริมฝั่งขวาของแม่น้ำวังทองมีน้ำตกวังนกแอ่นและเกาะแก่งที่สวยงามเป็นที่รู้จักของบุคคลทั้วไปตั้งแต่ ปี 2473
- เดือนพฤศจิกายน 2497 จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีและท่านคุณหญิง ละเอียด พิบูลสงครม ได้เดินทางมาเยี่ยมชมน้ำตกวังนกแอ่นโดยนายกรัฐมนตรี ได้มีบัญชาให้จัดตั้งน้ำตกวังนกแอ่น
เป็นวนอุทยานเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ศึกษาพันธุ์ไม้และสัตว์ป่าของประชาชน เพราะน้ำตกวังนกแอ่นอยู่ใกล้ตัวเมืองและมีธรรมชาติที่สวยงาม โดยให้ป่าไม้เขตพิษณุโลกนำเสนอกรมป่าไม้
- ปี พ.ศ. 2498 อธิบดีกรมป่าไม้ (นายเทียม คมกฤส) ได้มาตรวจราชการที่บริเวณน้ำตกวังนกแอ่น และสั่งการให้รังวัด กำหนดแนวเขตเพือจัดทำเป็น"วนอุทยานวังนกแอ่น"
- ปี พ.ศ. 2500 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ มีหมายกำหนดการเสด็จประพาสจังหวัดพิษณุโลกในปี พ.ศ. 2501 และวนอุทยานวังนกแอ่นก็อยู่ในหมายกำหนดการด้วย
ป่าม้เขตฯจึงได้สร้างพลับพลารับเสด็จและศาลาวนาศัย เพื่อเป็นที่ประทับพักผ่อนพระอิริยาบทและรับรองคณะตามเสด็จ
- วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จประพาสสวนอุทยานวังนกแอ่น ประทับพักผ่อนพระอิริยาบทที่พลับพลารับเสด็จ พระนาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานนาม "สกุโณทยาน" แทนคำว่า "วังนกแอ่น" วนอุทยานวังนกแอ่น จึงเปลี่ยนมาเป็นวนอุทยานสกุโณทยานก่อนเสด็จกลับสองพระองค์ทรงปลูกต้นไม้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่สถานที่
ไว้ทางด้านหน้าพลับพลารับเสด็จ โดย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปลูก ต้นประดู่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ความมั่นคง ความสามัคคีของกรมป่าไม้ ประชาชน และประเทศชาติ
สมเด็จพระนางเจ้าพระบนมราชินีนาถ ทรงปลูก ต้นพยอม เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งชื่อเสียง เกียรติยศ และมิ่งขวัญของคนไทยทั้งชาติ
ปี พ.ศ. 2504 กรมป่าไม้ได้เปลี่ยนชื่อวนอุทยานวังนักแอ่นเป็น "สวนรุกขชาติสกุโณทยาน" เพื่อเป็นไปตามหลักวิชาการ
แหล่งท่องเที่ยว
ภายในสวนรุกขชาติมีน้ำตกสกุโณทยานเกิดจากน้ำเข็กตกจากหน้าผาความสูงประมาณ 10 เมตร ผ่านสวนรุกขชาติเป็นระยะทาง 2 กม. เกิดแก่งที่สวยงามเช่น แก่งไทร,แก่งหินลาด, แก่งโจน,เป็นต้น
พันธุ์ไม้และสัตว์ป่าที่พบในสวนรุกขชาติสกุโณทยาน
สภาพป่าเป็นป่าเบญจพรรณประกอบด้วยไม้พยอม เหียงที่ขึ้นอยู่หนาแน่นและมีไม้ยืนต้นมากมายที่มีสรรพคุณเป็นยาแผนโบราณ เช่น ไม้สัก ประดู่ ตะเคียนทอง ตะแบกเลือด
พยอม มะม่วงป่า หัสคุณ กรวยป่า ตะค้อ หมีเหม็น แดง อ้อยช้าง และไม้ล้มลุกที่เป็นสมุนไพร เช่น ข่า กระชาย เอื้ยงหมายนา นมสวรรค์ ทิพย์เนตร เปาะ กระทือ โด่งไม่ล้ม และภายในสวนรุกขชาติประกอบไปด้วยจำพวกนก ไก่ป่า นกอีแซวหางบ่วง
นกโพระดก นักหัวขวาน นกตะขาบท่ง นกกระปูก นกเค้าแมว นกอีเภาหัวหงอก ฯลฯ สัตว์เลื้อยคลาน เช่น ตะกวด เต่า งูเหลือม งูเห่า งูจงอาง อึ่ง กบ แย้ กระแต กะเลนเต พังพอน สัตว์จำพวกปลาในลำน้ำเข็กเช่น ปลากดคัง ปลาค้าว ปลากราย ปลากา
ปลาบู่ ปลาตะเพียน ปลายี่สก ปลากระทิง ปลาซิว ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีกล้วยไม้ป่าขึ้นอยู่ตามต้นไม้มากมายหลายชนิด
ปัจจุบันมีนายมนูญ แออ่วม เจ้าพนักงานป่าไม้ 5 ทำหน้าที่ หัวหน้าสวนรุกขชาติสกุโณทยาน