
ดอกชบา
Shoe Flower
ชื่อทางพฤกษศาสตร์ : Hibiscus spp.
ชื่อสามัญ : Shoe Flower
ชื่อวงศ์ : Malvaceae
ชบา เป็นไม้พุ่มขนาดย่อม ปลูกง่าย สามารถขึ้นไดักับดินแทบทุกประเภท มีความสูงประมาณ 8 ฟุด ไม่ชอบดินแฉะ
ชอบแสงแดดจัด ลำต้นเป็นไม้เนื้ออ่อน มีเปลือกเหนียวจึงใช้แทนปอได้ ในประเทศไทยมีอยู่มากมายหลายชนิด
ใบของดอกชบา ใบเป็นใบเดี่ยว มีฐานกว้าง ปลายใบแหลม ขอบใบเป็นจัก เมื่อขยี้ใบจะเป็นเมือกเหนียว
ดอก มีทั้งชนิดรา และชนิดดอกซ้อน มีขนาดทั้งเล็กและดอกใหญ่
สีของดอก มีอยู่ด้วยกันมากมายหลายสี เช่น ขาว แดง เหลือง ม่วง แสด ชมพู และสีผสมอีกมาก
เกสร เกสรตัวผู้มีมาก และจะมีก้านหลอดหุ้มเกสรตัวเมียไว้ (เกสรตัวเมียเป็นตุ่มยื่นออกมามี 5 แฉก)
การขยายพันธุ์ ใช้วิธีปักชำ ตอนกิ่ง ติดตา และผสมเกสร เพื่อให้เกิดพันธุ์ใหม่ขึ้นมา
ด้านสมุนไพร รากโขลกให้ละเอียดแล้วพอกแก้ฟกช้ำบวม อักเสบ หรือใช้พอกฝี
รากและเปลือกแก้ประจำเดือนผิดปกติ คอมดลูกอักเสบ แก้ไอ เป็นยาขับน้ำย่อย
ใบและดอก แก้เลือดกำเดาออก แก้ฝีพุพอง
ดอกชบา กับความเชื่อถือ ความเชื่อถือของคนอินเดียตอนใต้ในสมัยก่อน จะร้อยดอกชบาเป็นพวงมาลัยสำหรับสวมคอนักโทษ
ที่จะถูกประหารชีวิต และเมื่อมีพิธีสรงสนานเจ้าแม่กาลี จะมีดอกชบา ลอยน้ำรวมกับหญ้าแพรก ใบ
มะตูม สำหรับของไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา ได้กล่าวไว้ว่า หญิงคนเดียวมันทำชู้ด้วยชายคนหนึ่งก่อน
แล้วหญิงนั้นมาทำชู้ด้วยชายคนหนึ่งเล่า ชู้ก่อนมันฟันแทงชู้หลังตายก็ดี ชู้หลังมันฟันแทงชู้ก่อนตาย
ก็ดี ท่านว่าเป็นหญิงร้าย ให้ทวนมัน 30 ที แล้วให้โกนศีรษะหญิงนั้นเป็นตะแลงแกง ทัดดอกชะบา
สองหูขึ้นขาหย่างประจาน 3 วัน ในบางกรณีก็จะร้อยดอกชบาเป็นพวงมาลัยสวมคอหญิงชายที่ทำชู้
นั้นด้วย (บางคนจึงว่าดอกชบาเป็นดอกไม้ที่ไม่เป็นมงคล)