เรื่องแปล
| กลับไปContent
| ไปหน้าแรก
| เรื่องที่ 4
เรื่องเล่าของไอรีน
แปลและเรียบเรียงจากเรื่อง "Telling Stories" ของ Maeve Binchy
โดย ริยา
ใครๆมักพูดกันว่าไอรีน มีความทรงจำที่เยี่ยมยอด ดูเหมือนกับว่า เธอสามารถจดจำรายละเอียดเล็กๆน้อยๆในเรื่องที่ผู้คนมักหลงลืมกันไปนานแล้ว ไม่ว่าจะเนื้อร้องเพลงฮิตเก่าๆ สีลิปสติกในยุคก่อนๆ และเธอยังสามารถปะติดปะต่อเหตุการณ์สำคัญๆได้ แบบนาทีต่อนาที เช่น วันจบการศึกษา งานแต่งงานของคนโน้นคนนี้ เมื่อไรที่ใครอยากรู้เรื่องราวแต่ละวัน ไล่เรียงเป็นลำดับๆแล้วล่ะก็ เขาพูดกันว่า ถามไอรีนสิ
กว่าที่ไอรีนจะพาตัวเองผ่านวันมาได้ถึงจนค่ำนี้ ซึ่งเป็นคืนวันก่อนแต่งงานของเธอนั้น นับว่าเหนื่อยพอตัว แต่ถ้าหากเธอจำเป็นต้องทำแล้ว เธอก็สามารถจัดการทุกอย่างได้สบายๆ สำหรับไอรีน ไม่ใช่เรื่องยากเลย ที่เธอจะจดจำกลิ่นของสิ่งต่างๆได้ทั้งหมด กลิ่นของดอกไลแลคในสวน ประกายเงาของเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น ดอกไม้สีส้มบานสะพรั่งภายในบ้าน เธอสามารถรับรู้กลิ่นหอมของครีมบำรุงฝ่ามือ ซึ่งเธอกำลังชโลมลงบนฝ่ามืออย่างนุ่มนวล ในเวลาเดียวกันกับที่ได้ยินเสียงกริ่งประตูบ้านดังขึ้น คงเป็นของขวัญที่เพิ่งมาถึง เธอคิด หรือไม่อาจเป็นคุณป้าจอมจุ้นคนใดคนหนึ่ง ที่มาจากต่างเมืองเพื่อมาร่วมงาน แล้วเพิ่งเดินทางมาถึง เหมือนกับนกพิราบที่เพิ่งกลับรัง
หากเธอกลับต้องประหลาดใจ เมื่อได้ยินเสียง แอนดรูว์ พูดกับน้องสาวของเธออยู่ข้างล่าง ซึ่งตอนนี้เขาควรจะอยู่ที่บ้าน จัดการกับธุระปะปังต่างๆเช่นเดียวกับที่เธอได้ทำไปแล้ว เขามีลุงเป็นบาทหลวง ซึ่งเดินทางมาจากโบสถ์แอฟริกัน เพื่อร่วมพิธีแต่งงาน แล้วยังมีคุณยาย หญิงชราผู้เรียกร้องความสนใจ และชอบให้ทุกคนมาคอยห้อมล้อม ไอรีนจึงรู้สึกประหลาดใจที่ว่าแอนดรูว์ ถูกปล่อยให้เล็ดลอดออกมาได้อย่างไร
โรสแมรี่ น้องสาวของเธอ และผู้ที่จะเป็นหนึ่งในเพื่อนเจ้าสาว ไม่ได้สนใจสิ่งอื่นใดเลย นอกจากสิวเม็ดใหญ่ที่ทำท่าจะผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้า เธอโบกมือไล่ให้แอนดรูว์เดินขึ้นบันไดมา
พี่ไอรีนนั่งประทินโฉมอยู่ข้างบนเป็นชั่วโมงแล้วล่ะ ไอรีนได้ยินน้องสาวบอกเช่นนั้น ก่อนที่เธอจะมีเวลาโต้กลับคำพูดโง่เง่าของน้องสาว เธอก็ได้ยินเสียงแอนดรูว์ร้องออกมาว่า โอ พระเจ้า ด้วยเสียงแปร่งๆพิกล คล้ายมีอะไรติดขัดลำคอ และเธอได้รู้เลยว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น ก่อนที่เขาจะก้าวเข้ามาในห้องเสียอีก
ใบหน้าของแอนดรูว์ซีดขาวราวชุดเจ้าสาว ซึ่งแขวนอยู่ท่ามกลางกระดาษเยื่อบาง บนด้านนอกของตู้เสื้อผ้าไม้มะฮอกกานี มือของเขาสั่นไหวราวกับกิ่งงามของต้นลาเบอร์นัมนอกหน้าต่าง เหมือนดอกไม้สีเหลืองสะบัดไหวในสายลมฤดูร้อน
เขาทำท่าว่าจะเอื้อมมือมาจับมือเธอ หากแต่เธอกำลังชโลมครีมบำรุงผิวอยู่ ไอรีนตกลงใจว่าไม่ว่าจะอย่างไร เธอจำต้องทาถูฝ่ามือให้ยังคงมีครีมติดมือทาต่อไปได้เรื่อยๆ เปรียบเหมือนกับไม่ควรเดินไปบนรอยขรุขระบนถนน ถ้าเธอยังคงทาถูฝ่ามือต่อไป เขาก็ไม่สามารถดึงมือเธอไปกุมไว้ได้ และเขาก็จะไม่สามารถพูดเรื่องที่ไม่ชวนฟังอย่างที่เขากำลังจะบอกกับเธออยู่ขณะนี้
ไอรีนทาถูฝ่ามือไปมาอย่างเป็นจังหวะ คล้ายกับถูกสะกดจิต ดูราวกับกำลังดึงถุงมือแน่นๆออกมา ขณะที่สองมือเคลื่อนไหว แต่ใบหน้าของเธอกลับนิ่งตรง
เขาเงอะงะหาคำพูด และไอรีนก็ไม่เกริ่นนำใดๆ เพื่อช่วยเขาสักนิด
ในที่สุด คำพูดต่างๆก็ไหลออกมา เขาพูดวกไปวนมา คำพูดขัดแย้งกันเอง เว้นระยะด้วยคำขอโทษ แล้วก็ตำหนิติเตียนรังเกียจตัวเอง ไม่ใช่ว่ามีใครนั่งอยู่ด้วยหรอกนะ พระเจ้า และไม่ใช่ว่าเขาได้หยุดรักเธอไปแล้ว จะว่าไปเขาไม่เคยแสดงว่ารักเธอมากเท่าตอนนี้เลย เขามองหน้าเธอแล้วรู้ว่า เขากำลังทำลายความฝันทั้งของเขาและไอรีน รวมทั้งทำลายความหวังด้วย แต่เขาได้คิดมาอย่างถี่ถ้วนแล้ว และที่จริงก็คือ เขายังไม่พร้อม เขายังไม่โตพอ ซึ่งตามหลัก เขาก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่หัวใจเขายังรู้สึกไม่เป็นผู้ใหญ่พอที่จะลงหลักปักฐาน เขายังไม่แน่ใจพอว่า การแต่งงานคือ สิ่งที่ถูกต้อง ด้วยเหตุผลทั้งปวง แอนดรูว์สรุปอย่างลวกๆว่า เขาต้องการให้ไอรีนรู้ว่า นี่คือสิ่งที่ไอรีนเองก็คิดเหมือนกันกับเขา
ไอรีนยังคงทาครีมบนฝ่ามือและข้อมือต่อไป เลยเรื่อยขึ้นไปถึงลำแขน
เธอยังคงนั่งนิ่งไม่รู้สึกทุกข์ร้อน บนม้านั่งตัวเล็กสีฟ้าในห้องนอน มีโต๊ะตกแต่งด้วยผ้าจับจีบโดยรอบตั้งอยู่ด้านหลัง ไม่มีน้ำตา ไม่มีอารมณ์เกรี้ยวกราด และไม่มีวาจาใดๆ อีกไม่นานนักเขาคงหมดคำพูดไปเอง
โธ่ ไอรีน พูดอะไรบ้างเถอะ บอกผมสิว่าคุณเกลียดผมมากแค่ไหน ในสิ่งที่ผมทำกับคุณ เขาร้องครวญให้เธอต่อว่าเขา
ไอรีนพูดช้าๆ ด้วยน้ำเสียงที่นิ่งแสนนิ่ง แต่ที่แน่ๆ ฉันไม่เกลียดคุณเลยนะ เธอค่อยๆพูดราวกับกำลังอธิบายให้กับเด็กสมองช้าฟัง ฉันรักคุณและจะรักตลอดไป แต่ดูสิ่งที่คุณทำกับฉันสิ
..คุณทำให้ชีวิตฉันผกผันไปเลยจริงๆ
. สายตาของเธอจับนิ่งอยู่ที่ชุดเจ้าสาว
แอนดรูว์เริ่มต้นอีกครั้ง ความนิ่งอย่างคาดไม่ถึงของเธอ ปลดปล่อยให้ความรู้สึกผิด ละอายใจ ถั่งโถมออกมาดั่งกระแสน้ำเชี่ยว เขาจะอธิบายกับทุกคนด้วยตัวเอง เขาควรจะบอกพ่อและแม่ของเธอเดี๋ยวนี้เลย เขาจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับแขกทั้งหลาย เขาคงต้องเห็นบรรดาของขวัญถูกส่งคืน เขาคงต้องพยายามชดเชยค่าใช้จ่าย ที่ครอบครัวของไอรีน ได้จ่ายไปแล้ว และเขาจะเดินทางไปต่างประเทศ หากทุกคนคิดว่าเขาควรจะทำ เขาก็จะไปดินแดนที่ไกลแสนไกล อย่างออสเตรเลีย แคนาดา หรือ แอฟริกา
.ที่ไหนก็ได้ที่ต้องการทนายความหนุ่ม ผู้ที่ไม่มีใครที่นี่ต้องการจะมองเขาอีกแล้วพาลนึกไปถึงเรื่องวุ่นวายที่เขาเป็นต้นเหตุ
ทันใดนั้น เขาถึงเพิ่งรู้สึกตัวว่าเขากำลังพูดพร่ำอยู่คนเดียว ด้วยว่าไอรีนยังคงนั่งนิ่งเฉย มีเพียงสองมือเท่านั้นที่เคลื่อนไหว เธอนิ่งราวกับไม่ได้ยินหรือไม่เข้าใจในสิ่งที่เขากำลังพูด ความตื่นกลัวฉาบทาอยู่ทั่วใบหน้าของเขา บางทีเธอคงไม่เข้าใจ
ผมหมายความตามที่พูดนะไอรีน เขาพูดง่ายๆ ผมหมายความอย่างนั้นจริงๆ คุณรู้ไหม ผมภาวนาว่าผมไม่ได้คิดอย่างนั้น
ฉันรู่ค่ะว่าคุณหมายความตามที่คุณพูด น้ำเสียงเธอหนักแน่น แววตาใสกระจ่าง เธอเข้าใจทุกอย่างดี
แอนดรูว์ รีบฉวยโอกาสนั้นพูดต่อ บางทีคุณอาจจะรู้สึกเหมือนกัน บางทีเราทั้งสองคนต่างต้องการให้เรื่องมันจบๆไปเสียที คุณกำลังจะพูดแบบนี้ใช่หรือเปล่า เขาดูตื่นเต้นยินดีที่จะเชื่ออย่างนั้น ใบหน้าของเขาแสดงถึงความกระตือรือร้นเต็มที่
แต่สำหรับเธอไม่มีเลยสักเสี้ยวหนึ่ง น้ำเสียงไม่สั่นพร่า ไม่มีน้ำตาซ่อนความนัยใดๆในดวงตา ไอรีนบอกว่าเธอรักเขาและจะรักตลอดไป แต่อย่างไรก็ตาม คงดีกว่าไม่ใช่หรือ ถ้าเขาเกิดรู้ตัวว่าเขาไม่อาจแต่งงานได้ และรู้เสียตั้งแต่คืนวันก่อนแต่งงาน ซึ่งดีกว่าไปรู้ในคืนหลังแต่งงาน แบบนี้อย่างน้อยคนใดคนหนึ่ง คงจะรู้สึกโล่งอกที่ทำให้การแต่งงานเปลี่ยนแปลงไปได้ก่อนจะถึงเวลา
เราทั้งสองคน แน่ใจหรือคะ คำถามนี้เล่นเอาแอนดรูว์หน้าตาตื่น
ไอรีน ส่ายหน้าพลางพูดว่า ฉันไม่เคยนึกภาพตัวเอง แต่งงานกับใครเลย นอกจากคุณ ไม่มีคำว่ากล่าว คำเสียใจ หรือกล่าวโทษใดๆ เป็นเพียงคำพูดเน้นชัด
คฤหาสน์หลังใหญ่ที่จะใช้ต้อนรับแขกประมาณ 300 คน ในวันพรุ่งนี้ กลับเงียบงันอย่างน่าประหลาด บางทีสายลมคงจางหายไปหายแล้ว คนทั้งคู่ไม่ได้ยินแม้เสียงกระพือของชายคาเต้นท์จัดงาน ที่กางอยู่ในสนามหญ้า
ระหว่างเขาและเธอ ความเงียบกินเวลาเนิ่นนานเหลือเกิน และแอนดรูว์ก็รู้ดีว่า ไอรีนจะไม่เป็นผู้ทำลายความเงียบนั้น ถ้าอย่างนั้น เราควรจะทำอย่างไรดี ผมหมายถึงสิ่งแรกเลยที่ควรทำ เขาถาม
เธอมองเขาอย่างมีไมตรี เหมือนกับเขากำลังถามว่า ควรจะใส่แผ่นเสียงแผ่นไหนลงบนเครื่องเล่นดี แต่เธอไม่ได้พูดอะไรออกไปสักคำ
ผมว่าเราน่าจะบอกคุณพ่อ คุณแม่ของเราก่อนดีกว่า เริ่มที่คุณพ่อ คุณแม่ของคุณ ท่านอยู่กันข้างล่างหรือเปล่า เขาเริ่มต้น
ไม่ค่ะ ท่านออกไปสโมสรกอล์ฟกัน คงกำลังต้อนรับ หรือกำลังดื่ม หรืออาจจะทำอะไรสักอย่างกับแขก กลุ่มที่มาร่วมงานวันในพรุ่งนี้ไม่ได้
โอ้ พระเจ้า แอนดรูว์ร้องคราง
แล้วความเงียบก็กลับมาอีกครั้ง
ถ้าอย่างนั้น คุณว่าเราควรจะไปบอกคุณพ่อ คุณแม่ของผมเลยดีไหม คุณยายคงต้องใช้เวลาทำใจสักพัก
ไอรีนคิดนิดหนึ่งก่อนตอบคำถามนี้ อาจเป็นได้ค่ะ แต่เป็นคำตอบอย่างไม่ค่อยพึงใจนัก
หรือว่าคนจัดเตรียมอาหาร แอนดรูว์พูดขึ้นอีก ผมเห็นพวกเขากำลังวุ่นวาย จัดเตรียมงานกันใหญ่เลย
เสียงเขาขาดเป็นห้วงๆ คล้ายกับจวนจะร้องไห้ออกมา โอย พระเจ้า ไอรีน เรื่องนี้มันทำผมหัวปั่นไปหมดแล้ว
ฉันรู้ค่ะ เธอตอบรับราวกับกำลังพูดคุยเรื่องดิน ฟ้า อากาศ หรือเรื่องหยุมหยิมประจำวันที่เลี่ยงไม่ได้
ผมว่า เราควรรีบบอกมาร์ตินด้วย เขาวุ่นมากกับพิธีแต่งงาน เพราะต้องการทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามประเพณี อย่างนี้แล้วเขาจะได้ผ่อนคลายลงไปบ้าง
แอนดรูว์หัวเราะนิดๆ เพื่อแก้เก้อ แต่ผมต้องขอโทษด้วย ผมขอโทษจริงๆเลยนะ ผมขอโทษ ขอโทษมากๆ ที่งานแต่งงานมันไม่เกิดขึ้น
ค่ะ ไอรีน ตอบรับอย่างสุภาพ
แล้วบรรดาเพื่อนเจ้าสาวอีกล่ะ คุณว่าเราควรบอกโรสแมรี่ตอนนี้เลย ดีไหม แคทเธอรีนอีก แล้วคุณก็น่าจะโทรไปบอกริต้า แล้วบอกเธอ
แล้วบอกเธอ
ว่า
เอ่อ..ว่า
เอาให้แน่เลยค่ะ บอกเธอว่าอะไรคะ
เอ่อบอกเธอว่าเราสองคนเปลี่ยนใจแล้ว
บอกว่าคุณเปลี่ยนใจแล้ว พูดให้ตรงหน่อยค่ะ ไอรีนพูด
ครับ แต่คุณก็ตกลงใจด้วย เขาแก้ต่าง
ฉันตกลงอะไรด้วยหรือคะ
ก็ตกลงว่า ถ้ามันเป็นสิ่งที่ ไม่ถูกต้อง มันก็ดีแล้วที่เรารู้ก่อนที่จะถึงวันพรุ่งนี้ ซึ่งทุกอย่างมันก็จะสายเกินไป แล้วเราก็จะกลายเป็นคู่สามีภรรยาที่ต้องทนอยู่ด้วยกันไปจนวันตาย
เสียงของเขาขาดหาย
ใช่ค่ะ แต่คุณไม่เห็นหรือคะว่า ฉันไม่คิดว่าเรากำลังทำสิ่งที่ ไม่ถูกต้อง ที่เราจะแต่งงานกัน
แต่คุณก็เห็นด้วยแล้วนี่
. ท่าทางเขาตื่นตระหนก
อ๋อ แน่นอนค่ะฉันเห็นด้วย แอนดรูว์คะ ฉันหมายความว่า แล้วจะมีเหตุผลร้อยแปดพันประการอะไรอีกที่ฉันจะไม่เห็นด้วย มันแน่อยู่แล้วค่ะเพราะถ้าเราไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ แต่คุณจะมาพูดไม่ได้ว่า ฉัน ยกเลิกการแต่งงาน
ไม่ครับ ไม่ แต่นั่นก็จำเป็นพอๆกับที่จะต้องบอกคนอื่นๆไม่ใช่หรือ
ผมหมายความว่าตอนนี้เรารู้แล้วว่าจะไม่มีงานแต่งงานเกิดขึ้น มันสมควรแล้วหรือที่จะปล่อยให้พวกเขาคิดกันไปว่าจะมีงานแต่ง
ทั้งใช่ และไม่ใช่ค่ะ
เราไม่ควรปล่อยให้พวกเขาทำอาหาร แต่งตัว
ฉันรู้ค่ะ เธอครุ่นคิด
ผมอยากทำสิ่งที่ดีที่สุด เหมาะสมและเป็นธรรมที่สุด แอนดรูว์พร่ำพูด และเขาก็กำลังหาวิธีอยู่ ไอรีนมองออกว่า แม้เรื่องที่เขาก่อขึ้นมา เขายังคงต้องการความเป็นธรรม
เอาล่ะ ลองคิดดูนะคะว่า หล่อนเอ่ยแนะนำ ใครคือคนที่จะเสียใจมากที่สุดกับเรื่องนี้
เขาครุ่นคิด น่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ของคุณนะ เพราะท่านคงต้องเจอกับปัญหายุ่งยากเหล่านี้ทั้งหมด
เขาชี้มือออกไปที่สวน ซึ่งเป็นที่รับรองแขก 300 คนที่จะมาอวยพรแก่คู่บ่าวสาว
ไม่หรอกค่ะ ฉันไม่คิดว่าท่านทั้งสองจะเสียใจมากที่สุด
เอ่อ ถ้าอย่างนั้น คงเป็นลุงของผม ท่านต้องเดินทางไกลมาจากแอฟริกา ซึ่งท่านถึงกับต้องขออนุญาตลาจากหัวหน้าบาทหลวงด้วย หรือว่าจะเป็นคุณยาย
ไม่ก็บรรดาเพื่อนเจ้าสาว สาวๆพวกนั้นคงไม่มีโอกาสได้แต่งตัวสวยๆออกงานกัน แอนดรูว์ดิ้นรนหาทางออกเพื่อให้ดูเป็นธรรม
ฉันว่า ฉันต่างหากล่ะคะ ที่จะเป็นคนเสียใจที่สุด ไอรีนพูดโดยไม่ขึ้นเสียงสูงเลยแม้แต่น้อย ราวกับเธอออกความคิดในประเด็นนี้ด้วยใจที่ปราศจากอคติ
ฉันหมายถึงว่า คุณพ่อ คุณแม่ของฉันยังมีลูกสาวคนอื่นๆอีก โรสแมรี่ แคทเธอรีน สักวันทั้งสองคนก็ต้องแต่งงาน ส่วนลุงของคุณ ท่านนักบวช
ก็อาจจะถือเสียว่ามาพักผ่อนวันหยุด พวกเขาคงไม่เสียใจหรอก ฉันว่าฉันนี่ล่ะ คือคนที่เสียใจที่สุด ฉันจะไม่ได้แต่งงานกับชายคนที่ฉันรัก แล้วมีชีวิตตามแบบที่ได้คิดไว้
ผมรู้ครับ ผมรู้ เขาทำเสียงเหมือนกับว่ากำลังเห็นอกเห็นใจในความสูญเสีย
เพราะฉะนั้น ฉันคิดว่าคุณควรจะปล่อยให้ฉันจัดการกับเรื่องนี้ด้วยวิธีของฉันเอง
ใช่เลยไอรีน เพราะอย่างนี้ล่ะ ผมถึงมาที่นี่ ทำอะไรก็ได้แล้วแต่คุณจะบอกมา
ฉันจะบอกว่า เราจะไม่พูดเรื่องนี้กับใครเลยในคืนนี้
ผมจะเปลี่ยนใจหรอกนะ ไม่ว่าวิธีที่คุณคิดจะเป็นอย่างไร
พระเจ้า ไม่หรอกค่ะ คุณจะเปลี่ยนใจทำไม นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆที่จะมาคิดแบบลวกๆ คิดปุ๊บปั๊บแล้วก็เปลี่ยนใจกันได้
แล้วเขาก็ฝากอนาคตไว้ในมือเธอ ทำอย่างที่คุณบอกแล้วกัน บอกผมมาเถอะแล้วผมจะทำตาม เขาเตรียมใจทุ่มไม่อั้นเพื่อที่จะล้มเลิกการแต่งงาน
ไอรีนไม่ปล่อยให้ตัวเองไปสนใจคิดเรื่องนั้นหรอก
ให้ฉันกลายเป็นเจ้าสาวที่เปลี่ยนใจก็แล้วกัน อย่างน้อย นี่เป็นวิธีที่จะทำให้ฉันพลาดการแต่งงานได้อย่างสง่างามสักหน่อย
เขาเห็นด้วย ก็เคยมีเจ้าบ่าวยืนคอยเก้อที่แท่นพิธีมาหลายคนแล้วนี่ หลังจากนั้นเขาคงต้องพูดว่า เขาเสียใจอย่างยิ่งแต่ก็ยอมรับในการตัดสินใจของไอรีน
แล้วคุณต้องไม่บอกกับ ใครทั้งนั้น เธอให้เขาสัญญา
น่าจะบอกมาร์ตินนะ เขาเอ่ยขึ้น
มาร์ติน นั่นล่ะยิ่งไม่ควรบอกใหญ่เลย เขาจะทำให้เสียแผน ในโบสถ์คนอื่นต้องมองว่าคุณกำลังคอยฉันอยู่
แล้วคุณพ่อ คุณแม่ของคุณล่ะ
จะดีหรือถ้าปล่อยไว้จนถึงนาทีสุดท้าย
ท่านคงพอใจมากกว่า ถ้าฉันจะเป็นคนที่ทำให้คุณเสียใจเสียเอง ใครอยากเห็นลูกสาวถูกเจ้าบ่าวทิ้งบ้างล่ะ
ไม่ใช่ว่าผม
ฉันรู้ค่ะ แต่คนอื่นก็ไม่มีใครเขาทำกันแบบนี้ หล่อนหยุดทาครีมที่ฝ่ามือแล้ว คนทั้งคู่คุยกันเหมือนเพื่อนเก่า คล้ายผู้สมรู้ร่วมคิด แผนการณ์คงสำเร็จแน่วถ้าไม่มีใครจับพิรุธได้
แล้วหลังจากนั้น
ดูเหมือนว่าเขาจะสนใจใคร่รู้มากในแผนการณ์ทุกๆขั้นตอน
หลังจากนั้น
ไอรีนขบคิด อืมม..หลังจากนั้น เราก็ยังสามารถเป็นเพื่อนกันต่อไปได้
จนกว่าคุณจะพบใครใหม่
ใครๆก็จะพากันชื่นชมคุณว่า คุณช่างเป็นคนที่มีน้ำใจ รู้จักให้อภัย ใจกว้างเหลือล้น
แล้วก็จะไม่มีความรู้สึกลำบากใจใดๆ ไม่ต้องอับอายด้วย
แอนดรูว์ยืนโบกมือลาหญิงสาวอยู่ตรงประตูคฤหาสน์ ไอรีนซึ่งนั่งอยู่ตรงริมหน้าต่างใต้ร่มเงาต้นลาเบอร์นัม โบกมือลาตอบเขากลับไป เธอเป็นผู้หญิงหนึ่งในล้านคนที่ต้องเจอเหนุการณ์แบบนี้ น่าเสียดายเหลือเกินที่เขาไม่พบเธอหลังจากนี้ หรือขอแต่งงานช้ากว่านี้ เมื่อเขารู้สึกพร้อมที่จะแต่งงาน
แอนดรูว์รู้สึกเสียววูบในช่องท้องเมื่อคิดว่ากำลังก่อเรื่องที่แสนเลวร้าย ดูเหมือนทั้งเขาและไอรีนต่างเบาใจกับวันที่จะมาถึง เขากลับบ้านพร้อมหัวใจที่หนักแน่นเพื่อมารับฟังเรื่องภารกิจการเผยแผ่ศาสนาจากคุณลุง และนิทานปรัมปราจักรๆวงศ์ๆจากคุณยาย
มาร์ตินอ่านหนังสือประเภทคู่มือเตรียมตัวเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวมาหลายเล่มด้วยกัน อาจเป็นได้ว่าเขาคงจะอ่านมาหลายเล่มเกินไปสักหน่อย
เป็นธรรมดานะที่นายจะต้องรู้สึกประหม่าบ้าง เขาบอกแอนดรูว์อย่างน้อยร่วม 40 ครั้ง ธรรมดาล่ะน่า ที่นายจะกังวลในการกล่าวคำพูด แต่จำไว้เลยว่า สำคัญที่สุดคือต้องขอบคุณ คุณพ่อ คุณแม่ของไอรีน ที่เขายกลูกสาวให้นาย
เมื่อชายหนุ่มทั้งสอง ได้ยินเสียงสูดจมูกดังมาจากยายคุณยายของแอนดรูว์ เพื่อนเจ้าบ่าวจึงกล่าวปลอบอีกว่า เป็นเรื่องธรรมดาน่า ที่หญิงชรามักจะร้องไห้ในงานแต่งงาน
แอนดรูว์ยังคงยืนคอยที่แท่นพิธี ด้วยลำตัวที่ตั้งตรง นับตั้งแต่มีพิธีแต่งงานมา คงไม่มีเจ้าบ่าวคนไหนยืนแบบนี้มาก่อน ถ้ารู้แน่ๆแล้วว่าเจ้าสาวของเขาไม่ใช่เพียงแค่มาสายนิดหน่อย หรือติดการจราจรอยู่บนท้องถนน หรือกำลังแต่งผ้าคลุมหน้า ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นเหตุผลแก้ตัว ที่มาร์ตินพร่ำกระซิบบอกเข้าหูเขา
เขารู้สึกกระดากใจ ที่ทำเหมือนกับว่าไม่ได้รู้ล่วงหน้า ปล่อยให้แขก 300 คนมานั่งในโบสถ์เพื่อรอร่วมพิธีที่จะไม่เกิดขึ้น เขามองไปยังบาทหลวงประจำโบสถ์ และคุณลุงอย่างหวาดๆ แล้วชั่วเวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้นที่ได้ยินเสียงบรรดาผู้ร่วมพิธีอยู่ในโบสถ์พากันลุกขึ้นยืน และผู้เล่นหีบเพลงบรรเลงเพลงทำนองคุ้นหู Here Comes The Bride
เขาหันไปมองเช่นเดียวกับที่เจ้าบ่าวทั้งหลายทำกัน แล้วเขาก็เห็นไอรีน อยู่ในท่วงท่าผ่อนคลายที่สุด ในวงแขนของคุณพ่อของเธอ เธอโปรยยิ้มหวานไปทั้งซ้ายและขวา
เขาอ้าปากค้างมองหน้าเธอ ใบหน้าขาวซีดยิ่งกว่าชุดเจ้าสาวที่เธอสวมใส่ กระทั่งรู้สึกว่านิ้วของมาร์ตินจิ้มลงไปถึงซี่โครงเขาจึงก้าวไปข้างหน้าไปยืนข้างๆเธอ
แม้ว่านี่จะเป็นความทรงจำครั้งสำคัญมาก แต่ไอรีนไม่เคยเล่าเรื่องนี้กับใครเลย เธอเคยเล่าให้แอนดรูว์ฟังเพียงแค่ครั้งเดียวระหว่างฮันนีมูน เมื่อเขาพยายามจะทบทวนเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วยตัวเอง วันเวลาผ่านไปปีแล้วปีเล่า จึงเห็นชัดว่าเธอตัดสินได้อย่างถูกต้อง เลือกเสี่ยงทำได้อย่างถูกต้อง และเห็นจริงว่าการแต่งงานของคนทั้งคู่ คือสิ่งที่ ถูกต้อง ฉะนั้นจึงไม่มีประเด็นใดให้น่านำกลับมาพูดถึงได้อีกแล้ว