|
ชายโค้ทสีแดงของโคน่าสั่นไหวเป็นจังหวะเท้าแตะพื้น ร่างของหญิงสาววิ่งลัดเลาะไปตามทางซึ่งระเกะระกะด้วยเครื่องกีดขวาง ลัดเลาะไปตามโต๊ะตู้ทั้งหลายอย่างรวดเร็ว!
...ไปให้ถึง... หญิงสาวร้องบอกตัวเอง ปลายเท้ากระโดดข้ามหมวกเหล็กใบหนึ่งซึ่งถูกเมินทิ้งไว้บนพื้น แล้ววิ่งต่ออย่างทุลักทุเล มุ่งไปยังช่องตะแกรงเหล็ก
...ถ้าเป็นในวิชาสถิติ...กราฟความอยู่รอดของชีวิตเธอคงไม่น่าดูเอาเสียเลย!...
เท้าของหญิงสาวยังคงย่ำไปบนพื้นเป็นจังหวะ เสียงดังตุ้บๆทุกครั้งที่ปลายเท้าแตะพื้น เป็นสิ่งเดียวที่ช่วยให้เธอยังคงควบคุมระบบประสาทอันเปราะบางในยามนี้ไว้ได้
....เสียงเท้าของเธอประทบพื้น...
ตุ้บ...ตุ้บ...ตุ้บ...
...เสียงของคนๆเดียววิ่ง...แต่แล้ว...
ตุ้บ...ตุ้บ...ตึก!...ตุ้บ...ตึก!...
...ทำไม...มีเสียงวิ่ง...สอง...เสียง...
โคน่าหยุดวิ่งแทบจะในทันที เท้าเสียดสีกับพื้นดังเอี๊ยด ดวงตาเหลียวมองไปทั่วบริเวณ หูสดับฟัง...ใครกัน?...ที่มาร่วมวิ่งกับเธอ
"ตึก!" เสียงนั้นหยุดตาม โคน่าขนลุกซู่ ใจเต้นแทบจะหลุดออกมานอกอก ...ใจเย็น...โคน่า... เธอบอกตัวเอง ...ใจเย็นๆ... ดวงตาสีดำยังคงกวาดตามองไปทั่วบริเวณ ก่อนขาจะอ่อนแทบทรุดลงกับพื้นเมื่อได้ยินเสียงหนึ่ง
"ไม่มีเทรเวน?" ดวงตาสีดำสนิทตวัดมองตามเสียง บนตู้ไม้มะฮอกกานี...ร่างของเทรันโต้ ยืนนิ่งอยู่ เขากวาดตามองโคน่า และรอบๆตัวเธอ ราวกับจะสอดสายตาหาเทรเวน ก่อนดวงตาสีแดงไร้วิญญาณคู่นั้นจะกลับมาจับจ้องที่เธออีกครั้ง!
"เทรเวน
อยู่ที่ไหน?!"
โคน่ามั่นใจว่าเธอได้ยินเสียงฟันของตัวเองกระทบกัน และมั่นใจว่าถ้าเธอไม่ตอบคำถามของคนตรงหน้าแล้วละก็เธอคงจะตามไปอยู่กับพ่อเร็วกว่าปกติ
"ไม่รู้" โคน่าตอบ หลังจากพยายามบังคับไม่ให้ปากสั่น "ฉันไม่รู้" เธอพยายามทรงตัวอยู่บนขาที่อ่อนยวบ
เทรันโต้มองโคน่าอย่างชั่งใจครู่หนึ่งก่อนจะผินใบหน้าไปทางอื่น แขนข้างที่เป็นปืนของเขาห้อยอยู่ข้างลำตัว
หุ่นยนต์อดีตพ่อบ้านหันหลังให้โคน่า แล้วก้าวออกไป
โคน่าถอนใจเฮือกด้วยความโล่งใจ ที่เธอไม่ถูกเป่าด้วยปืนกลนั่น หญิงสาวถลันวิ่งออกไปทันทีที่เทรันโต้หันหลัง แต่ขาของเธออ่อนแรงเกินไป ทำให้เธอเซพิงกับตู้ข้างๆ ดวงตาของคนในโค้ทแดงตวัดมองหุ่นยนต์พ่อบ้าน เกรงว่าเขาจะหันกลับมา ก่อนจะรวมกำลังบนท่อนขาตะเกียกตะกายวิ่งออกไป แต่แล้ว
เทรันโต้ก็หันกลับมา
"ผมคิดใหม่แล้ว" อดีตพ่อบ้านบอกเนือยๆ ทำเอาโคน่าที่วิ่งออกไป 2-3 ก้าว ต้องหยุด แล้วหันกลับมา
"คุณ
" ปืนกลต่างมือถูกยกขึ้น จ่อปากกระบอกมาทางโคน่า "อันตรายเกินไป ต้ อ ง กำ จั ด คุ ณ ก่ อ น ! " ดวงตาของโคน่าเบิกกว้าง เธอวิ่งหนีออกไปทันที เลี้ยวหักเข้าไปในซอกที่เกลื่อนไปด้วยเศษกระจก เสียงปืนดังไล่หลังเธอเข้ามา ทิศทางของกระสุนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เห็นได้ชัดว่า เทรันโต้ก็ไล่ตามเธอมา หญิงสาวออกแรงวิ่งสุดชีวิต ลัดเลาะเข้าซอกให้ตามยากที่สุดเท่าที่จะยากได้
ร่างของหญิงผมแดงวิ่งไป ผ่านทางเดิม จนกระทั้งซอกซอนไปตามทางใหม่
กระโดดข้ามสิ่งของที่เกลื่อนกลาด ผ่านโต๊ะ ตู้ และ
ผู้ชายผมสีน้ำมันจักร
เทรเวน!
โคน่าไม่ได้สั่งให้เท้าหยุด แต่เข่าของเธอทรุดไปเอง ทำเอาตัวเธอหน้าคะมำลงกับพื้น ฝุ่นตลบเปื้อนใบหน้าและผม โคน่าพยุงตัวเองขึ้นจากพื้น ยกมือขึ้นกุมศีรษะ ความรู้สึกที่เห็นไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นความตกใจหรือดีใจกันแน่ เธอตาฝาดรึเปล่านะ? โคน่าคิด หญิงสาวหันหน้ากลับไป เทรเวนตอกย้ำความตาฝาดของเธอโดยการนั่งมองหน้าเธออย่างงงๆ ราวกับไม่มีอะไรทำให้เขาแปลกใจแบบนี้มานานแล้ว
"โคน่า!"
"เทรเวน!"
"ทำไมยังไม่ไปอีก!"
"ก็
.ก็
" หญิงสาวอึกอัก พร้อมกับชี้นิ้วไปทางด้านที่เธอวิ่งมา ปากอยากจะบอกเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนกัน แต่ปากของเธอก็ไม่ยอมพูดสิ่งที่เธอต้องการออกมา
เทรเวนเลิกคิ้วอย่างฉงน แต่แล้วเขาก็ยืดตัวขึ้นเหมือนกับกวางที่ได้กลิ่นเสือ ก่อนชายหนุ่มพุ่งตัวเข้ามาหาโคน่า เขากระชากตัวเธอโดยไม่สนว่าจะเป็นส่วนไหน ดึงตัวเธอให้ตามตัวเขามา แล้วยัดร่างของหญิงสาวใส่ใต้ตู้ทันที ก่อนที่เขาจะสอดตัวตามมา
"เฮ้ย!"
"เงียบ" เทรเวนยกนิ้วขึ้นจ่อปาก โคน่าต้องปิดปากทันควัน ไม่ใช่เพราะเทรเวนบอกเพียงอย่างเดียว แต่เพราะเธอได้ยินเสียงๆหนึ่งอีกด้วย เสียงเดิน!
เสียงเดินตามหลังตู้ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนเดินเป็นใคร เสียงเดินเป็นจังหวะ
โคน่าสูดหายใจ เหลือบมองเทรเวน เหงื่อไหลบนใบหน้าของเขาเป็นทาง
เสียงเดินบนหลังตู้เดินผ่านมาเหนือศรีษะของทั้งสอง เสียงเดินหยุดไปสักครู่ ทั้งสองกลั้นใจเต็มที่ จนกระทั้งเสียงเท้านั้นก้าวผ่านไป ทั้งคู่ถอนหายใจอย่างโล่งอก เสียงฝีเท้าผ่านไปเรื่อยๆจนไม่ได้ยิน
เทรเวนพลิกตัวอย่างรวดเร็ว เขาโผล่ออกไปสังเกตการณ์ เทรันโต้ไปแล้ว
. ชายหนุ่มหันกลับมาหาโคน่า
"ไปแล้ว" เขากระซิบ
"เออ
" โคน่าพยักหน้าพลางชี้นิ้วไปอีกด้านของตู้ "ตะแกรงเหล็กอยู่นั้น ยังไม่ได้ปิดฝา ท่าทางเทรันโต้จะนึกไม่ถึง ฉันจะหนีไปทางนั้นแหละ"
"เฮ้ย" ชายหนุ่มร้อง "งั้นก็ทางเดียวกับฉันนะสิ"
"อ้าว!"
"แหม
กลยุทธ์มาทางไหนไปทางนั้นนี่เป็นที่นิยมจังเลยนะ"
"อย่าเพิ่งพูดมาก" คนโค้ทแดงเอ็ด "ไม่ไกลนัก วิ่งไปอาจจะหลบปืนกลได้ จะไปไหม?"
"ฉันก็อยากไป" เทรเวนพูด "แต่ดูเท้าฉันก่อน" โคน่ามองตามปลายนิ้วของชายหนุ่ม ก็พบข้อเท้ามีเลือดชุ่ม
"ที่ฉันยังไปไม่ถึงไหนก็เพราะอย่างนี้แหละ" เทรเวนเสริม
โคน่านิ่งเงียบไป เธอกำลังคิด ถ้าเธอหนีไปคนเดียวคงไม่ปัญหา เทรันโต้ไม่ยุ่งกับเธออยู่แล้ว เธอจะรอดและมีชีวิตอยู่ต่อไป
แต่เทรเวนล่ะ หญิงสาวเหลือบตามองเขา เธอจะทิ้งเขาไว้ที่นี่ดีไหมนะ? เธออยู่กับเขาก็มีแต่จะทำให้มีแต่ความวุ่นวาย ถ้าเธอหลุดจากเขาได้ก็คงจะดี
เธอน่าจะทิ้งเขาไว้ที่นี่
แต่
หญิงสาวชั่งใจ
เขามาช่วยเธอตั้งหลายครั้ง ในเมื่อเขาไม่ทิ้งเธอ เธอจะทิ้งเขาได้อย่างไรกัน หรือถ้าเขาไม่ช่วยเธอ เธอก็ทิ้งไม่ได้ มันเป็นเรื่องของ ศี ล ธ ร ร ม
ฉันควรจะช่วยเขา
โคน่าบอกตัวเอง
" จ ะ ไ ม่ มี ใ ค ร ต า ย ทั้ ง ฉั น
แ ล้ ว ก็ น า ง เ อ ก " เธอนึกถึงคำพูดที่เขาเคยพูดเอาไว้
ใช่แล้วล่ะ
นางเอกจะไม่ตาย ผู้ช่วยนางเอก
ก็จะไม่ตาย เ ธ อ กั บ เ ข า จ ะ มี ชี วิ ต ร อ ด อ อ ก ไ ป
"ถ้าเอานายแบกใส่หลังไปได้ก็คงจะดี" โคน่าพึมพำ "เรามีโอกาสแค่ครั้งเดียวด้วยสิ ไปคนละรอบมันจะรู้ตัว"
"ก็พยุงฉันไปสิ ถ้าเธอไหวนะ
กะเผลกไปคงหลบได้ฉิวเฉียด มุดลงรูได้อย่างหวุดหวิดเหมือนตัวแย้เลยล่ะ" ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆให้กับมุขตลกยามสถานการณ์ตึงเครียดของตัวเอง เขาไม่คิดจะเอาจริงหรอก ถึงแม้มันเป็นทางเดียวที่เขานึกออก สงสัยคราวนี้จะถึงฆาตเขาเสียแล้วล่ะ!
"ก็ไม่เลว
" เทรเวนสะดุ้งเฮือก "อะไรนะ?"
"หมายถึงวิธีของนาย" หญิงสาวลูบปลายจมูก "ไม่เลวเหมือนกัน"
"ฮ่าๆ" เทรเวนแกล้งหัวเราะ "ดีเลยๆ ลงมือเลยสิ แต่อย่าพาฉันไปตายล่ะ"
"พูดมากว่ะ รึว่านายไม่อยากรอด" โคน่าเริ่มหงุดหงิด
"ไอ้อยากน่ะอยาก" เทรเวนว่า "แต่เสี่ยงด้วยวิธีตายหมู่ก็ไม่เอาด้วยหรอก"
"ไม่ตายหรอก ก็นายบอกเองว่า 'รอดฉิวเฉียด' ไง!"
"ใช่! แต่เงื่อนไขคือ 'ถ้าพยุงไหว' ฟังบ้างสิ"
"แล้ว
." โคน่าอ้าปากจะพูด แต่ก็ต้องหยุดทันควัน หูของเธอดีพอที่จะได้ยินเสียงรอบข้างแม้เบามาก อาจดีกว่าหูของคนข้างๆเธอที่ชิงเงียบไปก่อนก็ได้ เธอได้ยินเสียงเดินบนหลังตู้เดินกลับมา ชัดเลยว่าเทรันโต้เดินกลับมาหาอีกครั้ง
เสียงเดินดังขึ้นแล้วก็เบาลงไปเรื่อย เสียงกระโดดตุ้บๆ บอกได้ว่า เขากระโดดไปตามตู้ต่างๆ เมื่อหุ่นยนต์พ่อบ้านไกลออกไป ชายผมสีน้ำมันจักรหันมาหาเธออีกครา
"สุดท้ายมันต้องลงมาหาที่พื้น และจะเจอเรา" เทรเวนกระซิบ "ต้องรีบหนีให้เร็วที่สุด" ทั้งคู่จ้องหน้ากัน และเหมือนจะสนทนากันด้วยกระแสจิต คราวนี้ดูเหมือนเทรเวนจะยอมแพ้แล้วเบือนหน้าออกไป
"ตกลง" เขาล้วงไฟแช็คออกมา "พอฉันให้บอกให้ไปก็ไปนะ" ว่าแล้วชายผมสีน้ำมันจักรก็ผินหน้าไปอีกทาง เขาเม้มริมฝีปาก หลับตาข้างหนึ่งแล้วปาไฟแช็คออกไป เสียงไฟแช็คกระทบกับพื้น ตามด้วยเสียงกระโดดบนหลังตู้ตามไปอย่างรวดเร็ว!
"ไป! " โคน่ากลิ้งตัวออกจากใต้ตู้ เทรเวนตามมาอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่ไม่รออะไรทั้งสิ้น คนในโค้ทแดงฉวยแขนของชายผมสีน้ำมันจักรมาพาดไหล่ กึ่งพยุงกึ่งลากไปยังตะแกรงเหล็กสีดำซึ่งเปิดอ้ารออยู่ ชายในโค้ทดำเดินกระโผลกกระเผลก และแน่นอนที่ว่าเขาพยายามเต็มที่จะไปให้เร็วที่สุด!
เทรันโต้มองตรงหน้า มันเป็นเพียงไฟแช็คอันหนึ่งเท่านั้น!!! ดวงตาสีแดงวาวโรจน์ และฉับพลันใบหน้ากึ่งเหล็กก็ได้ยินเสียงเสียงหนึ่ง
เสียงวิ่ง!
เทรันโต้กระโดดไปบนหลังตู้ทันทีโดยไม่รอช้า เขาวิ่งอย่างรวดเร็วไปตามหลังตู้
"ตาย!!!" เขาคำราม
เพียง 4-5 เมตรเท่านั้น ก็จะถึงตะแกรงเหล็ก โคน่าเกร็งหัวไหล่รับน้ำหนักตัวของเทรเวน จู่ๆน้ำหนักของเทรเวนก็เพิ่มขึ้นมาอีก เพราะชายหนุ่มหันรี้หันขวาง
"มาแล้ว" เทรเวนพึมพำ โคน่ารู้ว่าหมายถึงอะไร เธอพยายามลากตัวของเทรเวนให้ไปเร็วกว่าเดิมยิ่งขึ้นอีก ชายหนุ่มก็ช่วยตัวเองไม่แพ้กัน เขากระเสือกกระสน ทางเพียง 5 เมตรเหมือนไกลเป็นไมล์! ท้ายสุดทั้งคู่ก็มาถึง โคน่าคะมำลงหน้าตะแกรงเหล็ก
.เทรันโต้มาถึงแล้ว เขามองทั้งคู่จากหลังตู้ ดวงตาสีแดงจับสกรีนความร้อนจากร่างของทั้งคู่!
" ยิ ง ! " ร่างเหล็กกระโดดลงจากหลังตู้ เสียงดังสนั่น พื้นตู้ยุบ ไม้ปริออกมาเป็นรูปรอยเท้า หุ่นยนต์เทรันโต้วิ่ง! วิ่งเข้าหาทั้งคู่ ปืนตั้งขึ้น แล้วยิง!
กระสุนเป็นชุดยิงเข้าใส่ทั้งสอง ชายหนุ่มขนลุกวาบ เขารออีกไม่ได้แล้ว เทรเวนคว้าเอวโคน่าแล้วสปริงตัวเองลงในหลุม หลบกระสุนไปอย่างหวุดหวิด กระสุนปืนแฉลบตะแกรงและโดยแขนเหล็กของเขาเฉียวๆหลายนัด ร่างของเทรเวนเลื่นไถลไปตามท่อเหล็ก โคน่าร้องจ๊าก เป็นการแหกปากครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เขารู้จักเธอ ชายหนุ่มพยายามเกาะท่อด้วยมือเหล็ก นิ้วครูดกับท่อกลายเป็นประกายไฟ ลมตีจากด้านล่างจนเขาไม่กล้าก้มหน้าลงไปมอง
ร่างของทั้งสองลอยละลิวพร้อมกับประกายไฟแปลบปลาบลงมาเบื้องล่าง โคน่าร่วงกระแทกดิน ส่วนเทรเวนใช้มือเหล็กเกาะไว้ได้
กระเผลกสู่พื้นอย่างปลอดภัย
โคน่าลุกขึ้นจากพื้นอย่างทุลักทุเล เทรเวนเดินโขยกเขยกเข้ามาช่วยพยุงเธอ "ไปต่อ!" เขาว่า "ไอ้หุ่นสังหารนั้น มันมีคำสั่งให้ฆ่าฉัน มันมาล่าแน่!" โคน่าลุกขึ้นยืน เทรเวนเดินออกไปทันที โดยมีท่อเป็นที่ค้ำแขน
"ว่าแต่เราจะไปทางไหนล่ะ? ข้างบนก็
" หญิงสาวแหงนหน้าขึ้น แล้วเริ่มเดินตามเทรเวน "ไปไม่ได้"
"ข้างหน้า" เทรเวนบอก พลางชี้ไปเบื้องหน้า ซึ่งเป็นทางทอดไกลออกไป ไม่เห็นปลายทาง เพราะถูกปกคลุมด้วยสีดำ "เราไม่มีทางเลือกแล้ว ยังไงก็ต้องไปต่อ กลับก็ไม่ได้
" ชายหนุ่มว่า "แต่ตามความคิดของฉัน ไอ้ท่อบ้านี่น่าจะมีทางออกนะ ถ้าตามท่อไปควรจะเจอทางออก ปัญหาก็คือ กว่าจะเจอเราก็คงตายเสียก่อน"
"คงจะไม่
" โคน่าพยายามทบทวนหน้าตาพิมพ์เขียวเท่าที่ตนจำได้ "ฉันพอจะนึกหน้าตาพิมพ์เขียวได้ลางๆ" หญิงสาวยกมือขึ้นลูบปลายจมูก "ท่อมันควรจะสุด มันน่าจะมีทางสุด เท่าที่นึกได้ มันไม่มีทางแยกเลย"
"งั้นก็แย่หน่อย!" ชายผมสีน้ำมันจักรแยกเขี้ยว "อย่าหาว่าพูดเป็นลางเลยนะคุณผู้หญิง! แต่กระผมอยากจะบอกคุณว่า ถ้าเป็นอย่างที่คุณว่าจริง ทั้งตัวกระผมและคุณนายก็เห็นทีจะตายกันหมด" โคน่าถอนใจ มองทางสีดำตรงหน้าอย่างสิ้นหวัง เธอไม่รู้สึกกลัวสีดำ ก็ตอนนี้โลกของเธอกลายเป็นสีดำไปเรียบร้อยแล้วนี่นา
เทรันโต้ยืนอยู่ข้างช่องสี่เหลี่ยม
เหนือตะแกรงเหล็ก
เขาเตรียมตัวจะกระโดดลงไป
แต่
"หยุด
" เสียงร้องเหนื่อยๆ ราวรวมแรงทั้งหมดเพื่อจะร้องออกมา อดีตพ่อบ้านเหลียวกลับไป ก็พบโชกเลือดของมอริส
"นาย
" เขาร้องอย่างประหลาดใจเล็กน้อย ราวกับเขาลืมไปว่าระหว่างที่เขาปฏิบัติงาน ยังมีนายเขาอยู่ทั้งคน
"ฉุดฉัน ดึง
ฉันขึ้น" มอริสพูด เลือดจากหน้าผากไหลเข้าปากเป็นทาง เทรันโต้เปลี่ยนแขนปืนเป็นแขนธรรมดาทันที เขาพยุงร่างของมอริสขึ้น มอริสเกาะแขนหุ่นยนต์พ่อบ้านไว้แน่น เลือดไหลท่วมเต็มใบหน้า
"ไม่ต้องตาม
มัน" มอริสหอบ "ยังไงมันก็ต้องตายข้างล่าง ถ้ามันออกไปได้ก็ยังอยู่ในเมือง" มอริสร้องโอยเมื่อเทรันโต้พยุงแขน "พาฉันไปหาหมอ ได้ยินไหมเจ้าโง่ แล้วติดประกาศจับมันให้ทั่วเลย"
"ครับท่าน" เทรันโต้รับ เขาพยุงนายของเขาไปยังประตูที่เข้ามา ประตูนี่เข้าได้ แต่ต้องใช้รหัสถึงจะออกไปได้ อดีตพ่อบ้านอ้าปากออก
มีกุญแจขนาดเท่าเข็มดอกหนึ่งอยู่บนลิ้น เทรันโต้หยิบมันจากปาก ใส่เข้าไปในแม่กุญแจ ฟันเฟืองคลายเองดังกริ๊ก แล้วประตูก็เปิดออก
ทางยังคงเป็นสีดำ
ทั้งโคน่าและเทรเวนเดินมาได้พักใหญ่ ทางเป็นสีดำ ท่อเหล็กยังคงท่อยาว ไม่มีทีท่าว่าจะพบทางออก
เทรเวนพิงตัวเองกับท่อน้ำมันอย่างเหนื่อยอ่อน แผลของเขาบั่นทอนกำลังไปเยอะ โคน่าหันกลับมามองชายหนุ่ม
"ไม่เห็นปลายเลยนะเนี่ย" เทรเวนชิงพูดตัดหน้า ไม่ปล่อยให้โคน่าพูดอะไรทั้งสิ้น หญิงสาวลูบปลายจมูกอย่างเคืองๆ
"ฉันได้กลิ่น
" เธอพูดขึ้นลอยๆ
"หืม?"
"กลิ่นน้ำ" ชายผมสีน้ำมันจักรลอยสูดดูบ้าง
"ไม่เห็นได้กลิ่น"
"รึจมูกนายแย่กว่าฉัน?"
"แหม" เทรเวนเสยผม "คนเรามันก็ต้องมีเสียกันบ้างสิ ว่าแต่น่าแปลก เจ้าหุ่นปืนกลนั่นไม่ยักตามมา ไม่เห็นวี่แววเลย"
"กลิ่นน้ำ!" โคน่าท้วง "เดินไปอีก" ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินนำฉับๆ เทรเวนเลิกคิ้วก่อนจะเดินตามไปอีก
ทั้งคู่เดินเข้าไปอีกจนกระทั้งเทรเวนรับรู้ได้จากท่อที่เขาเกาะว่ามันสั่น
คงเพราะได้รับแรงสั่นสะเทือนจากอะไรสักอย่าง จากนั้นเขาก็ได้กลิ่นน้ำ ขณะที่โคน่าบอกว่าได้ยินเสียงน้ำ ทั้งที่ทางยังคงมืด
ชายหนุ่มเดินข้างหลัง ขณะที่โคน่าเดินนำเขาราว 2-3 เมตร ดวงตาของชายผมสีน้ำมันจักรจับจ้องตรงหน้าตลอดเวลา
"ระวัง!" เขาร้องขึ้น แต่สายไปเสียงแล้ว โคน่าล้มผึ่งเพราะชนกับอะไรสักอย่างคล้ายกำแพง
"อะไรน่ะ?" โคน่าร้อง เทรเวนเดินเข้ามาใกล้ เขาใช้มือลูบมัน แล้วใช้หูแนบ
"มันเป็นกำแพง
" เขาใช้มือเคาะ 2-3 ก่อนใช้มือคลำตามท่อเหล็ก "ท่อเหล็กผ่านไปนอกกำแพง"
"ฉันได้กลิ่นน้ำจากนอกกำแพง มันหนาสัก
4 นิ้วเห็นจะได้ ฟังการเคาะ และน่าจะเป็นซีเมนต์
ที่ผสมทรายมากเกินไป" หญิงสาวยกมือลูบมัน "ชุ่ยๆ แบบนี้ไม่ใช่ฝีมือพ่อฉันหรอก!"
"ถ้าเป็นฝีมือพ่อของเธอก็ตายกันในนี้แล้วสิ" เทรเวนถลกแขนเสื้อขวา "อูรีตี้ที่เคารพ ขอบพระคุณในความเมตตาที่ละเว้นกำแพงให้เราหนีรอด ขอบคุณไอ้คนที่ผสมทรายมากเกินไป" ชายหนุ่มหันไปหาโคน่า "ถอยไป ฉันจะพังกำแพง" ไม่รอให้บอกซ้ำสอง โคน่าถอยกรูไปข้างหลัง ปล่อยให้เทรเวนเงื้อแขนเต็มเหนี่ยว ชายหนุ่มฟาดแขนเต็มที่ใส่กำแพง
.ในครั้งแรกมันร้าว
และเริ่มแตกเมื่อโดนกระแทกอีก
.
ภาพท้องฟ้าภายนอกสดใส นกพากันส่งเสียงร้อง บ้างชนิดก็พากันบินว่อนไปทั่ว แสงแดดส่องลอดใบไม้ลงมาประทับบนโคนต้นไม้ ลมเอื่อยๆ พัดมาทำให้ใบไม้ปลิวหลุดจากต้นร่วงลงบนลำธารใกล้ๆ ซึ่งเกิดจากน้ำตกใหญ่ที่ห่างออกไปไม่ไกลมาก
น้ำตกแห่งนี้สูงไม่เกิน 70 ฟุต แต่ก็ไม่น้อยกว่า 65 ฟุต น้ำกำลังไหลเชี่ยวเพราะเป็นฤดูฝน หินข้างน้ำตกเป็นสีน้ำตาลอมเขียวเพราะตะไคร่ มีไม้เลื้อยเกาะเกี่ยวไปทั่ว หยดน้ำกลิ้งไปมาบนใบไม้ราวกับเป็นการละเล่นของเหล่าหยดน้ำ
ทัศนียภาพและความเงียบอันแสนงดงามถูกทำลายลงด้วยเสียงกองหินแตกและร่วงลงสู่พื้นน้ำดังตูม! หินข้างน้ำตกกลายเป็นรูโหว่ ไม้เลื้อยก็ถูกถอนรากถอนโคนร่วงหลุดลงน้ำพร้อมกองหิน ฝูงปลาซึ่งแหวกว่ายใต้ผืนน้ำว่ายหลบกันจ้าละหวั่น ผืนน้ำนิ่งสงบกระเพื่อมเป็นวงกว้าง
ในช่องโหว่อันเกิดจากหินถล่ม มีร่างคนสองคนยืนอยู่
"ที่แท้ไม้เลื้อยมันบังท่อนี่เอง" โคน่าว่า "ถึงได้ไม่เคยเห็น" เธอลดมือจากการป้องตา ส่วนเทรเวนมองลงไปเบื้องล่าง มองผืนน้ำใต้น้ำตกราวกับเห็นทอง เขาหลิ่วตาให้โคน่า
"อะไร?"
"ฉันไปก่อนนะ" ว่าแล้วร่างของชายผมสีน้ำมันจักรก็ลอยละลิวจากเชิงผา ลงสู่ผืนน้ำเบื้องล่าง เหมือนสายน้ำจากน้ำตก น้ำกระเพื่อมระลอกใหญ่ โคน่ามองดูเบื้องล่าง เทรเวนหายไปในสายน้ำสักครู่ เขาจึงโผล่พ้นน้ำขึ้นมา ชายหนุ่มโบกมือร่าให้เธอ
"โดดลงมา น้ำลึก ปลอดภัย"
"ไม่!" คำเดียวชัดๆ
จากปากโคน่า
เทรเวนโคลงศีรษะ เขายกมือลูบน้ำบนใบหน้า คราบน้ำมันจากตัวลอยอืดบนผิวน้ำ เทรเวนเกาศรีษะที่โชกน้ำ
"โคน่า เทรันโต้อยู่ข้างหลังแน่ะ!" โคน่าหันขวับ
"อย่ามาหลอกกันซะให้ยาก!"
"ว้า!" คนในโค้ทดำยังไม่ยอมแพ้ "เธอเคยโดดน้ำท่าปักดิ่งไหม?" เขาตะโกน
"ไม่เฟ้ย! ฉันว่ายน้ำไม่เป็น"
"งั้นก็ดี เลือกมา 2 ทาง จะให้ฉันจับโดดท่าปักดิ่ง หรือ จะโดดเองให้ฉันช่วย!
.ไม่พูดถือว่าทางแรกนะ?" ไม่รอช้า เทรเวนทำท่าจะปีนกลับไปอีก และได้ผลเกินคาด
.ร่างในโค้ทแดงลอยละลิวหล่นตูมในน้ำ! วงน้ำกระเพื่อมเป็นวงกว้าง ไม่นานร่างโคน่าก็โผล่พรวดสู่ผิวน้ำ
"ช่วยด้วย! ฉันว่ายน้ำไม่เป็น!!!" เทรเวนจำต้องว่ายเข้าไปหา หญิงสาวเกาะเขาไว้แน่น ชายหนุ่มจำต้องแกะเธอออกก่อนจะลากเอวเธอเข้าฝั่ง
"นี่เธอรอดจากบ่อน้ำมันได้ยังไง?" ชายหนุ่มถามขณะพยุงตัวเองขึ้นฝั่ง ขณะที่โคน่าไอแค่กๆ พลางพยายามดึงตัวเองขึ้นฝั่งเช่นกัน
"ฟลุ้ค" โคน่าตอบ "ฟลุ้ค
เฮ้อ
นรกเอ้ย เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว เกิดมาไม่เคยเพลียขนาดนี้มาก่อน ดีนะที่ตะคริวไม่กิน"
"เออ
นั่นสิ โอ๊ย!" ร่างของเทรเวนทรุดลงกับพื้น
"เป็นไง?" โคน่าคลานขึ้นฝั่ง
"แผลกำเริบ เอาเหอะ โชคดีที่เฉียวๆ" โคน่ามองเข้าไปในป่า "ออกจากป่ายังไงก็ต้องเข้าเมืองอยู่ดี ยังไงนายก็ต้องไปทำแผลในเมืองอยู่ดี" เทรเวนหันหน้าไปทางเดียวกับหญิงสาวอย่างชั่งใจ
"ตายไม่ตายอยู่ที่ดวง
"
"อยู่ที่นายกับฉันต่างหาก" โคน่าเถียง เทรเวนยักไหล่ ก่อนที่จะหันมายิ้มให้หญิงสาว ยิ้มอย่างขี้เล่น ยิ้มเหมือนครั้งแรกที่ได้เจอกัน
"นั้นสิ" เขาพยุงตัวเองให้ยืนขึ้น "ช่วยลากฉันไปที คุณหนูโอรีอา จะรอดหรือไม่ ไม่ใช่ฉันหรือเธอ แต่เป็นเราสองคน เราอยู่เรือลำเดียวกัน!"
ร่างเปียกโชกสองคนออกเดินไปด้วยกัน ตอนนี้โลกของโคน่ายังเป็นสีดำ
แต่ไม่ใช่สีดำที่มาจากสีเทามึนทึมอีกต่อไป
แต่มาจากการผสมสีสันต่างๆจนกลายเป็นสีดำ
มันดีรึเปล่าเหรอ?
ไม่ดีหรอก
แต่ก็ไม่แย่ก็แล้วกัน
..
เมืองเมเปิ้ลเงียบเชียบผิดปกติ แต่เสียงซุบซิบกลับมาขึ้น
นานปีมากแล้วที่ไม่มีหมายจับผู้ร้ายค่าหัว ตึกรามบ้านช่องของเมืองเมเปิ้ลครึกครื้นกว่าปกติ แต่ถนนกลับเงียบสงัดจนผิดปกติ
ในเวลากลางคืน ผู้ใหญ่พร้อมใจจับเด็กเก็บใส่บ้าน พวกเซียนนักเที่ยว
นักเลง ผู้มีงานท่องราตรีเป็นงานประจำ ต่างเปลี่ยนงานมาเป็นนักล่าค่าหัวแย่งตำแหน่งกับตำรวจ เพราะเงินรางวัลที่เย้ายวนเหล่าประชาชนผู้จำต้องใช้เงินดำรงชีพ พวกเขาพากันทดสอบปืนลับมีด เพื่อตามจับผู้ร้ายค่าหัวสูง 2 คน ซึ่งทำร้ายนายกเทศมนตรีมอริส ขโมยของและหนีออกมาจากศาลากลาง
บ้านเรือนซึ่งบ้างก็เป็นอิฐหรือเป็นไม้เรียงรายกันเป็นทิวแถว ส่วนใหญ่เปิดไฟสว่างไสว บ้านไม้หลังนี้ก็เช่นกัน
มันเป็นบ้านไม้เล็กๆ ค่อนข้างๆและรกรุงรัง หน้าต่างถูกปิดด้วยกองข้าวของ ประตูก็เล็กเพียงครึ่งหนึ่งของประตูทั่วไป อยากจะเข้าไปคงจะต้องทุลักทุเลน่าดู
ภายในบ้านหลังนั้นประกอบด้วยห้องนั่งเล่นคับแคบห้องหนึ่ง ห้องครัวซึ่งคับแคบยิ่งกว่าหนึ่งห้อง และห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวซึ่งคับแคบที่สุดอีกหนึ่งห้อง เรียกว่าห้องคงไม่ถูกนัก เพราะมีสองในหนึ่ง
ภายในบ้าน เตาผิงในห้องนั่งเล่นถูกจุดขึ้น มีร่างชายผู้หนึ่งนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นอันแสนเลอะเทอะ เขาเป็นชายวัยกลางคน แต่สีผมล่วงสู่วัยชรา ร่างเล็ก ดวงตาดุร้าย ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอย เขาคงนั่งได้สบายกว่านี้
ถ้าไม่ติดที่ว่าถูกมัดมือมัดเท้าจนแน่นแบบนี้!
ชายหนุ่มผู้หนึ่งเดินออกมาจากห้องครัว เขาลอบเตะถังขยะจนกระเด็นไปด้านข้างเพราะมันขวางทาง ในมือของเขาถือแก้วกาแฟไว้ในมือ อีกมือถือจานข้าวผัดไหม้ๆจานหนึ่ง
ชายหนุ่มวางมันไว้เบื้องหน้าชายชรา
"โทษทีครับ" ชายหนุ่มผู้นั้นยิ้ม พลางนั่งลงเคียงข้างชายชรา "เธอผัดไหม้อีกแล้ว
แต่มันก็น้อยมากลงนะครับ" ชายหนุ่มวางแก้วกาแฟลง เขาถกแขนเสื้อโค้ทสีดำ
ใช้มือซ้ายจับช้อน ส่วนมือขวาซึ่งเป็นเหล็ก
จับจาน ตักข้าวผัดไหม้ขึ้นป้อนชายชรา ชายผู้ถูกมัดอ้าปากกินข้าวผัดอย่างไม่มีข้อกังขา คงชินกับการกินข้าวผัดไหม้ๆแล้วละมัง?
เมื่อป้อนข้าวผัดเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มในโค้ทดำก็เดินกลับมายังห้องครัว วางจานลงบนโต๊ะ
"เป็นไง?" เสียงหนึ่งถามขึ้น ชายหนุ่มหันหน้ามามองคนถาม เธอเป็นหญิงร่างเล็ก ผมสีแดง นั่งอยู่บนตั่งเก่าๆ ซึ่งเธอใช้ต่างเตียง ในมือถือแก้วน้ำ ดวงตามองมายังชายในโค้ทดำ
"กินหมด
" เขาตอบ "ดีกว่าวันแรกมาก
วันก่อนมันกินไม่ได้เลยนะ โคน่า"
"อย่าล้อเลียน" หญิงผู้ถูกเรียกว่าโคน่าร้อง "ฉันเคยทำอาหารที่ไหนกันเล่า!"
"มิน่า" ชายหนุ่มทำท่าครุ่นคิด "แต่ฝีมือฝั่งเข็มของเธอใช้ได้เลยนะ ปักทีเดียว ใบ้กินเจ้าของบ้านเลย"
"สรีรวิทยา" โคน่าพึมพำพลางจิบน้ำ "หลอดเสียงเป็นอัมพาตชั่วคราว
ว่าแต่ขานายเป็นไงมั้ง เทรเวน?" เทรเวนลองสะบัดขาไปมา
"ดีแล้ว
วันก่อนยังเดี้ยงอยู่เลย คงจะเดินทางได้เร็วๆนี้ อย่างอยู่ที่นี้นาน มันอันตราย"
"อืมม์" หญิงสาวเอี้ยวตัวไปหยิบม้วนกระดาษม้วนหนึ่งซึ่งอยู่ข้างตัว "ดูนี่สิ หมายจับพวกเรา หรือจะพูดให้ดี จับนายแต่ฉันพลอยซวย"
"มันไม่มีผลหรอก" เทรเวนว่าขณะคลี่มวนกระดาษออก ก่อนจะอ่านเสียงดังฟังชัด
"หมายจับ
ผู้ร้ายแห่งเมืองเมเปิ้ล
คนแรก นาย โดมินิก
.รูปพรรณสัณฐาน อายุราว 20 ปี สูง 175 ซม. ผอมสูง ผิวคล้ำ หน้าตาดี ใบหน้ายาว ผมดำ(ดำแบบน้ำมันจักร) ตาสีเข้มเกือบดำ
แหม
ฉันชอบตรงหน้าตาดีจัง
ใส่โค้ทดำ บุคลิกดี ภูมิฐาน
หมายจับนี่พูดจาดีเป็นบ้า
แขนขวาพิการ ใส่แขนเทียมเหล็ก
มักอ้างตัวว่าเป็นคนรับจ้างเอนกประสงค์
.ไม่ได้อ้างเฟ้ย
ฉันเป็นจริงๆ
หมายจับ
ผู้ร้ายแห่งเมืองเมเปิ้ล
คนที่ 2 นางสาว โคน่า โอรีอา รูปพรรณสัณฐาน อายุ 18 ปี สูง 155 ซม. ผอมซูบ ผิวขาว มือใหญ่ อุ๊บ! มือใหญ่
"
"อ่านต่อไปเถอะ!"
"หน้าเรียว จมูกเรียว ตาสีดำ ผมสีแดง สกปรก ตัวมักมีกลิ่นน้ำมัน
พูดจาตรงจัง"
"มันเป็นธรรมชาติของนักประดิษฐ์!" โคน่าท้วง
"บุคลิกไม่ค่อยจะสู้ดี ชอบเดินก้มหน้า
"
"มันเรื่องของฉัน!"
"อาชีพ
นักประดิษฐ์
ข้อหา
ทำร้ายร่างกายนายกเทศมนตรีมอริส สร้างความเสียหายให้แก่ศาลากลาง ขโมยของ
นั้นคือแขนเหล็ก
..และๆๆๆๆ อะไรอีกเนี่ย โอ๊ย! มันยัดข้อหาอะไรให้พวกเราฟ่ะ ฉันกับเธอกลายเป็นคู่ชู้หนีคดีไปเลยนะเนี่ย!"
เทรเวนโยนหมายจับคืนให้โคน่า หญิงสาวคลี่ออกไปดูอีกครั้ง ภาพของเทรเวนกลายเป็นมหาโจร ส่วนของเธอ
เฮ้อ
พูดตรงๆ
ทำไมดูส่ำส่อนอย่างนี้ว่ะ
โคน่าคิด
"มีรอยขีด 100 เหรียญทอง
เปลี่ยนเป็น 1000 เหรียญทอง
."
"หมายความว่า มอริสรู้แล้วนะสิ..ว่าเพชรนั่นน่ะ" เทรเวนกรีดเล็บ "มันของปลอม"
"หมายความว่า
."
"มันเป็นแก้วนะสิ เอามาทำให้เรืองๆเงาๆหน่อยก็สิ้นเรื่อง แต่มีผลอยู่ไม่ชั่วโมงหรอก มันก็ลอกคราบกลับพันธุ์เดิม"
"อือ" โคน่ารับคำ พอนึกถึงมอริส เธอนึกถึงภาพเขาบีบคอเธอทุกที
ความรู้สึกเจ็บปวดยังไม่หายไป
ความรู้สึกที่ถูกหักหลัง โคน่าส่ายหน้าขับไล่ความเศร้า
หันไปคิดเรื่องอื่นแทน
"หมอกขาวของจริงสว่างไสวกว่านี้มาก
ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันเลียนแบบได้" หญิงสาวพึมพำพลางถอนใจ ในใจห้วนนึกถึงเพชรที่เธอเห็นตอนอยู่ในห้องใต้หลังคา ชายสองคนที่หยิบยื่นเพชรมาผลักกันดู ถึงไม่บอกเธอก็ตระหนักดีว่า มันคือ
หมอกขาว
เพชรสีขาวที่ไม่ว่ามองครั้งใดก็สว่างไสวในใจเสมอ
เทรเวนเลิกคิ้วอย่างสนเท่ห์ โคน่าเผลอพูดคำที่ไม่ควรพูดมาเสียแล้ว
"อะไรน่ะ?" เขาขยับเข้ามาใกล้ร่างของโคน่า "เธอเคยเห็นหมอกขาวรึ?" โคน่าสะดุ้งเฮือก เผลอรู้สึกว่าเธอเผลอพูดเรื่องไม่ควรพูดออกไปเสียแล้ว ความยุ่งยากที่มาโดยไม่ได้นัดหมาย
"เออ
"
"เคยเห็นใช่ไหม?" เทรเวนซักไซ้ "อย่าโกหกนะ" สภาพของทั้งคู่กลายเป็นแบบสมัยที่เพิ่งพบกันครั้งแรกอีกครั้ง
"เคย
" หญิงสาวตอบอ่อยๆ
ไม่น่าปากพล่อยเลยเรา
"ที่ไหน?"
"ใต้ห้องฉัน
" จากนั้นคำถามร้อยแปดคำถามก็หลุดออกจากปากของชายผมสีน้ำมันจักร จนเธอแปลกใจว่าทำไมเขาถึงได้กระตือรือร้นเรื่องนี้นัก
"พาฉันไปทีสิ" เทรเวนอ้อนวอน ขณะหยิบของจำเป็นใส่โค้ท
"แล้วขานาย?"
"หายดีแล้ว
เร็วเข้า
อ้อ
เราต้องปล่อยลุงเจ้าของบ้านด้วยสิน่ะ
แหมเกือบลืมเลย" ว่าแล้วเทรเวนก็วิ่งไปยังห้องนั่งเล่น โดยไม่ลืมร้องสั่งโคน่าว่า "เก็บของเร็ว จะไปกันแล้ว"
โคน่ามองแผ่นหลังของชายในโค้ทดำซึ่งวิ่งหายไปในห้องนั่งเล่น เธอยกมือขึ้นแตะปลายจมูก พลางใคร่ครวญในใจ
กระตือรือร้นจนน่าแปลกใจ ปกติเทรเวนไม่ใช่แบบนี้นี่นา
ชายหนุ่มผมกำลังสาละวนกับการจัดการเจ้าของบ้าน เขาผ่อนเชือกบนร่างของชายเจ้าของบ้านให้หลวม เพื่อที่เขาจะได้สอดเชือกอีกเส้นเข้าไปได้ ชายหนุ่มจัดการผูกเชือกเข้ากันด้วยเงื่อนแปลกๆก่อนโยงมันจากร่างบนโซฟาไปยังนาฬิกากุ๊กกูเหนือเตาผิง แล้วคล้องมันอย่างปราณีบรรจงกับบานหน้าต่างของนกน้อยซึ่งจะออกมาร้อง 'กุ๊กกู' ในอีก 60 นาทีข้างหน้า
"คุณจะเป็นอิสระ ในอีก 60 นาทีข้างหน้า" เขายิ้มพลางตบบ่าของชายแก่ซึ่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอย่างอารมณ์ดี
"ผมคิดว่าเชือกคงจะหลุดออกตอนที่บานหน้าต่างเปิดไม่อย่างนั้นคุณคงต้องรอให้มีคนมาช่วยคุณเอง"
โคน่าเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น ใบหน้าของเธอเป็นสีขาวซีดยิ่งกว่าปกติ หญิงสาวเดินเข้ามาอยู่หน้าเตาผิง เธอมองไล่ตามเส้นเชือกซึ่งเทรเวนโยงเอาไว้จนไปถึงต้นตอ
"โคน่าจะช่วยให้คุณพูดได้อีกครั้ง เผื่อว่าคุณจะได้ร้องเรียกให้ใครมาช่วยถ้าเชือกไม่หลุด" ชายหนุ่มยิ้ม "แต่ทว่าหลังจากที่คุณหลับไปสักพักก่อน" ชายชราอ้าปากพะงาบๆเป็นการประท้วงทันที ดวงตาของเขาสั่นไหวด้วยแววตื่นตระหนกเมื่อเทรเวนหวดฝ่ามือลงบนร่าง ชายเจ้าของบ้านแน่นิ่งไปบนโซฟา เหลือเพียงลมหายใจเข้าออกเบาๆอย่างสม่ำเสมอเท่านั้น!
โคน่าเดินผ่านหน้าของชายหนุ่ม ตรงไปยังร่างซึ่งนอนอยู่บนโซฟา
"เธอเอาเสบียงไปรึยัง?" ชายผมสีน้ำมันจักรพูด พยายามกลบเกลื่อนร่อยรอยรื่นเริงในใบหน้าแต่ก็ไม่เป็นผล หญิงสาวได้แต่หันหน้ามาเขาแปลกๆ แต่เทรเวนก็ตีความเอาว่า
เธอยังไม่ได้เตรียม ชายหนุ่มหายเข้าไปในครัว ก่อนจะวิ่งกลับมาโดยมีกระป๋องถั่วหมักในมือ 2 กระเป๋อง
"มีถั่วหมักเหลือพอดี เธอกินถั่วหมักรึเปล่า?" โคน่ากดมือลงบนต้นคอของชายชรา ถอนเข็มเล็กเล่มหนึ่งออกมา เธอไม่ตอบ
"ฉันว่าถั่วหมักให้พลังงานดีนะ" เทรเวนชวนคุยต่อ หญิงสาวลุกจากโซฟาไปยังเตาผิง เธอโยนเข็มในมือใส่กองเพลิง
"นายก็อยากได้มันสินะ
" นักประดิษฐ์เปรยเบาๆ พลางเหลือบมองคนแขนเหล็กที่กำลังวิเคราะห์สารอาหารของถั่วหมักกระป๋อง
"เอ๊ะ
" เทรเวนละสายตาจากหระป๋องถั่วหมักไปมองร่างในโค้ทแดง เขาไม่ทันได้ฟังสิ่งที่เธอพูด แต่มีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องยุ่งยากเร็วๆนี้ ช่องท้องของชายหนุ่มเบาโหว่งอย่างฉับพลัน
ทั้งที่เพิ่งกินอาหารเข้าไปเต็มอิ่ม ชายหนุ่มหรี่ตามองนักประดิษฐ์พลางฝืนยิ้ม
"เธอว่าอะไรนะ? เมื่อกี้ฉันไม่ได้ฟัง" ใบหน้าของโคน่ากลายเป็นสีขาวสลับกับสีส้มอ่อนเพราะไฟที่สาดแสงกระทบใบหน้าของเธอ นักประดิษฐ์หันหน้ามองเทรเวนอีกครั้ง มือของเธอกำแน่น
"นายไม่ได้ฟังรึ
.ได้
ฉันจะพูดให้ฟังอีกหน
.นายก็พันธุ์เดียวกับคุณมอริส นายก็อยากได้หมอกขาว
กับอัญมณีบ้าอะไรอีก 2 อย่างนั้นใช่ไหม?" เทรเวนเดาจากน้ำเสียงได้ว่า โคน่าไม่ชอบใจนักเมื่อรู้เรื่องนี้
"ทำไมเธอคิดอย่างนั้นล่ะ?" เทรเวนยิ้ม รู้สึกร้อนผ่าวที่ช่องท้อง "ดูนี่สิ
โปรตีนตั้ง 87 เปอร์เซ็นต์แน่ะ"
"นายกระตือรือร้นเป็นพิเศษ
เดาว่า นายคงต้องการมันมานานสินะ ถึงได้แสดงอารมณ์อย่างออกนอกหน้าขนาดนี้ ขนาดนายต้องการแขนเหล็กยังไม่แย้มให้ฉันรู้จนนายเจอ"
เทรเวนมั่นใจว่าอกเสื้อของเขาเริ่มชื้นเหงื่อ
"ไม่เอาน่า ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะ? ตำนานนั่นดังจะตาย ใครๆอยากก็อยากรู้ เทพมังกรที่อธิฐานอะไรก็ได้ ออกจะคลาสสิกไม่ใช่รึ?
ดูนี่สิ ผสมน้ำตาลทรายแดงด้วย"
"ฉันไม่พานายไป!" ช่องท้องของเทรเวนเหมือนถูกไฟไหม้
"ไม่เอาน่า เธอแค่พาไป นอกนั้นฉันจะจัดการต่อเอง เธอไม่คิดบ้างหรือ? ว่าถ้ามันตกไปอยู่ในมือคนไม่ดีแล้วจะเป็นยังไง? ฉันจะหาร่องรอยและหามันให้เจอ แล้วเอามันไปรักษาในที่ปลอดภัย ถ้ามีไม่ครบก็เรียกเทพไม่ได้
อย่างนี้สิ ดีต่อทุกฝ่าย" เทรเวนชี้แจง แต่ดูเหมือนโคน่ายังมองเขาด้วยสายตาเคลือบแคลง
ชายหนุ่มหลบตาไปมองกระป๋องถั่วหมัก เขารู้ตั้งแต่มองหน้าเธอครั้งแรก
โคน่าไม่โง่
ที่จริงแล้วเธอฉลาดมาก
เป็นอัจฉริยะ
พอๆกับโคเปีย
ไม่แน่ว่าเธออาจเก่งกว่าโคเปียด้วยซ้ำ
เพียงแต่เธอยังเด็กและอ่อนประสบการณ์
ซื่อและเถรตรง
เขาถึงกล้ายืนปดต่อหน้าเธอ
จะว่าปดก็ไม่ถูกนัก เป็นการพูดความจริงไม่หมดมากกว่า
เทรเวนยังกังวลว่า ถ้าเธอรู้ทันคนอื่นมากกว่านี้อีกนิด
ค ว า ม จ ริ ง ใ น ตั ว เ ข า ค ง ห ลุ ด ไ ป ม า ก ก ว่ า นี้
โคน่าเดินผ่านร่างเทรเวนไปยังห้องครัว โดยสายตาไม่ละจากตัวเขาแต่เพียงนิดเดียว ชายหนุ่มเดินตามไป ยังสรุปไม่ได้ว่าเธอจะตกลงหรือเปล่า?
โคน่าเอื้อมมือหยิบส้อม ชายหนุ่มก็ชิงหยิบให้ เธอเอื้อมมือหยิบหมายจับบนตั่ง
เขาก็ชิงหยิบให้อีกนั้นแหละ หวังว่าเธอคงจะใจอ่อนบ้างล่ะน่า
หญิงสาวเงียบ เทรเวนก็เงียบ ทั้งห้องตกอยู่ในความสงัด วังเวง
แต่ก็มีความกดดันลอยคละคลุ้งไปทั้งห้องราวกับไฟจากเตาที่ดับไม่มอด เทรเวนไม่อยากขู่เข็ญหญิงสาว เขาลดความสนใจทางด้านนี้ โดนแสร้งหันไปมองแขนเหล็กแทน แต่แล้วขณะที่เขาพิจารณาแขนขวาอยู่นั้น โคน่าก็ฉวยส้อมมาไว้ในมือ จ่อมายังชายโคร่งของชายหนุ่ม
"โคน่า!" ชายหนุ่มมองส้อมสะแตนเลทซึ่งจ่ออยู่ที่ลิ้นปี่ เขานึกย้อนอย่างขำๆ เหมือนตอนที่เขาจ่อมีดใส่เธอตอนที่เธอยังอยู่ในห้องใต้หลังคา
"ฉันรู้ว่านายหลบได้
แต่อย่างน้อยฉันก็อยากทำให้นายบาดเจ็บจนตามฉันไม่ได้ เว้นแต่นายไม่คิดตามฉัน" เทรเวนยิ้มด้วยตา
หญิงผมแดงดูดข้อมูลจากเขาไปเยอะเหมือนกัน
"อ้อ"
โคน่าเม้มปากแน่น "ฉันรู้ว่านายโกหก" ในหัวของเธอมีแต่ตัวหนังสือในหนังสือจิตวิทยานับสิบเล่มที่เธออ่านท่องจนขึ้นใจบินว่อนเต็มไปหมด "ที่ว่าที่ปลอดภัยคงเป็นตัวนายใช่ไหมล่ะ? เทรเวน ฉันรู้ว่าถ้าฉันช่วยนายอะไรจะเกิดขึ้นกับฉัน
ฉะนั้นฉันขอผ่าน" เธอรู้ว่าจะเป็นอย่างไร? เธอจะตาย! เขาจะฆ่าเธอ! ไม่ปล่อยคู่แข่งให้รกต่อไป
เหมือนกับมอริส
ดวงตาของชายหนุ่มไม่ได้มองส้อม ไม่ได้มองหน้าคนที่ถือส้อม แต่ตาของเขามองลงพื้น แต่เหมือนกับว่าเขาเห็นโคน่าพูดป่าวๆใส่หน้า ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนมีอะไรเลื้อยเข้ามาทางรูหูเข้ามาในสมอง มันกระดิกหางกวนขดประสาทในศีรษะของเขาหมุนวนทำงาน
เลือกเร็วเข้า
เทรเวน
เขาบอกตัวเอง
ตัวเอง หรือ เธอ
เธอ
หรือ ตัวนายเอง!
ฉันรู้ว่านายหยิบของให้เธอทำไม?
นายทำเพื่อตัวนายเองไม่ใช่หรือ? ทุกอย่างเพื่อตัวนายเอง..เลือกเร็วเข้า
เลือกสิ..เลือก เลือก เลือกทางใดทางหนึ่ง
เลือกทางที่ควรเลือก
เลือกตัวนายเอง!!!
"โคน่า" ชายหนุ่มหันมาหาเธอ หญิงสาวมองเขา
เธอไม่ประมาทแม้แต่นิดเดียว ทันทีที่เขาขยับ เธอพร้อมเสือกส้อมออกไปทันที
"ฉันทำได้มากกว่าหลบเสียอีก"
"!!!" เทรเวนทำได้มากกว่าหลบอย่างที่เขาพูด ร่างของชายหนุ่มหลบส้อมที่เธอเสือกแทงเข้ามาได้ เขาตวัดมันทิ้งด้วยแขนเหล็ก ก่อนที่จะพุ่งเข้าหาหญิงสาว กดเธอจนข้างฝาพร้อมกับใช้มืออุดปากของเธอทันที
เขารับรู้ว่าริมฝีปากของเธอสั่น ดวงตาของเธอจ้องเขาด้วยความโกรธ ทั้งคู่กลายสภาพมาเป็น
เทรเวนแขนไม้ และ โคน่าผู้มีโลกสีเทาอีกครั้ง
"สุดท้าย
" เทรเวนก้มลงกระซิบข้างหูเธอ "ฉันก็ต้องบังคับเธอใช่ไหม?" เขาเอื้อมมือไปยังที่วางจาน หยิบมีดทำปลายาวเกือบ 10 นิ้วขึ้นมา
"พาฉันไปซะดีๆ"
|