ไก่ชนกับวิถีชีวิตไทย : ศึกษากรณีอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง ไก่ชนกับวิถีชีวิตไทย : ศึกษากรณีอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น มีวัตถุประสงค์ในการวิจัยอยู่สองประการ คือ เพื่อศึกษาภูมิปัญญาการเลี้ยงไก่ชน ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น และเพื่อศึกษาการเลี้ยงไก่ชนกับสภาพเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมของชุมชนในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มประชากรตัวอย่างที่เกี่ยวข้องเลี้ยงไก่ชนทั้งหมดและบุคคลที่แวดล้อมด้วยการเข้าร่วมกิจกรรมการชนไก่ในสนาม การสังเกต การสัมภาษณ์ทั้งแบบมีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง โดยใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพพบว่า การเลี้ยงไก่ชนของชาวบ้านนั้นใช้ภูมิปัญญามากมายในทุกขั้นตอนของการเลี้ยง นับแต่การคัดเลือกพ่อ-แม่พันธุ์ การคัดเลือกไก่ที่มีลักษณะดีที่จะนำมาเลี้ยงชน ขั้นตอนการบำรุงเลี้ยงหรือที่เรียกว่า "การปรนไก่" การเปรียบไก่ การเป็นมือน้ำ และการรักษาอาการบาดเจ็บภายหลังการชน เมื่อไก่เป็นโรคก็ใช้วิธีการรักษาแบบชาวบ้าน ความรู้ความฉลาดเหล่านี้เกิดจากการปฏิบัติจริง ผ่านกระบวนการพิสูจน์ซ้ำมาหลายชั่วอายุคนจนกลายมาเป็นภูมิปัญญาที่ปฏิบัติเป็นหลักสืบมาจนปัจจุบัน
การเลี้ยงไก่ชนสามารถตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานของชาวบ้านได้โดยตรง จุดประสงค์ในการเลี้ยงอาจแตกต่างกันไป ที่เห็นเป็นรูปธรรมก็คือ ใช้บริโภคภายในครัวเรือน เป็นสินค้า เป็นเครื่องสันทนาการทั้งในแง่เป็นไก่ประกวดและเป็นไก่ชน และในปัจจุบันเปลี่ยนมาเลี้ยงเพื่อระบบธุรกิจ ทั้งนี้ไก่ชนตอบสนองต่อเศรษฐกิจของชุมชนในรูปแบบของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ สร้างงานสร้างอาชีพเสริมของชุมชนซึ่งสามารถนำไปสู่การพึ่งพาตนเองของชุมชน เพราะการเลี้ยงไก่ของชาวบ้านเป็นการเลี้ยงแบบตามมีตามเกิด ไม่มีต้นทุนที่เป็นตัวเงิน จะมีบ้างคือข้าวเปลือกที่ต้องให้เสริมเพื่อให้ไก่เติบโตได้อย่างสมบูรณ์ จะเห็นว่าชาวบ้านรับประโยชน์จากการเลี้ยงไก่เป็นกำไรที่แทบมองไม่เห็นต้นทุน
ในสถานการณ์ปัจจุบันสังคมได้ถูกร้อยรัดด้วยกระแสโลกาภิวัติ การผลิตเพื่ออยู่เพื่อกินเท่านั้นยังนับว่าไม่เพียงพอ ดังนั้นหนึ่งครัวเรือนสองวิธีการผลิตจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้เกิดความเข้มแข็งขึ้นในชุมชน หากจะเลี้ยงไก่เพียงเพื่อบริโภคนั้นชาวบ้านมีศักยภาพที่จะทำได้ไม่ยากนัก การผลิตเพื่อขายนั้นเป็นรายได้ที่ยังไม่มากนักเมื่อเทียบกับรายได้หลัก แต่ถ้ามีระบบการจัดการที่ดี มีหลักในการพัฒนาสายพันธุ์ให้เป็นไก่ชนเก่ง หรือเป็นไก่สวยงามก็จะเกิดเป็นมูลค่าเพิ่ม ชาวบ้านขายไก่หนึ่งตัวอาจนำเงินนี้ซื้อวัวได้หลายตัว ทั้งนี้เป็นการนำภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิดมาปรับเปลี่ยนใช้ให้เหมาะสม และหากได้รับการส่งเสริมอย่างจริงจังแล้วก็จะตองสนองหนึ่งครัวเรือนสองวิถีการผลิตได้เป็นอย่างดี
หากจะมองไก่ชนในมุมมองทางเศรษฐกิจอาจเป็นการช่วยชาวบ้านให้มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ในหากมองมิติทางสังคมและวัฒนธรรมแล้วอาจเกิดผลกระทบขึ้นในด้านลบได้ เพราะเมืองไทยเป็นเมืองพุทธจึงมีคนอยู่ในสังคมส่วนหนึ่งมองไก่ชนเป็นอบายมุขที่มีการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นการทรมานสัตว์ ขัดหลักศีลธรรมอันดีงามและอาจเป็นแหล่งบ่มเพาะอาชญากรรม จนเป็นต้นเหตุแห่งวิวาทะระหว่างคนเลี้ยงละเล่นไก่ชนกับนักคุ้มครองและป้องกันการทารุณสัตว์ ฉะนั้นควรคิดทบทวนถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเลี้ยงไก่ชนในทางสังคมด้วย จากการศึกษาทำให้ได้ข้อเท็จจริงจากกลุ่มประชากรที่เกี่ยวข้องทั้งคนเลี้ยงไก่ชนและบุคคลในบริบทรอบข้างว่า การเลี้ยงไก่ชนจะคงอยู่ในสังคมไทยได้นั้น ต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการ วิธีการ การจัดการและท่าทีให้สอดคล้องกับสภาวะที่เป็นจริงในปัจจุบัน กล่าวคือต้องรักษาจุดเด่นที่ยังประโยชน์ต่อคมในสังคมให้มากที่สุด โดยก่อผลกระทบต่อสังคมและวัฒนธรรมในบริบทน้อยที่สุด