ไก่ชนกับเศรษฐกิจชุมชน
ปจจุบันประเทศไทยกําลังประสบภาวะเศรษฐกิจชลอตัวโรงงานอุตสาหกรรมหลายแหงตองปดตัวลงการอพยพแรงงานจากสังคมเมืองกลับสูชนบทจึงเกิดขึ้นอยางตอเนื่องกอใหเกิดความตองการอาหารและปจจัยในการดํารงชีวิตมากขึ้นในขณะที่กําลังการผลิตยังคงเดิมปญหานี้มิใชเปนเพียงปญหาระดับทองถิ่นที่ใครคนใดคนหนึ่งสามารถแกไขได แตเปนปญหาระดับชาติที่องคกรภาครัฐตองใหความสําคัญและตองทําการศึกษาเพื่อหาแนวทางแกไขตลอดจนเขามาควบคุมดูแลอยางใกลชิด ในสภาวะการณที่เปนปญหาเชนนี้รัฐจะตองเขามามีบทบาทและใชกลไกของรัฐเขามามีสวนรวมในการแกไขปญหาเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดใหกับสังคมชนบทเปนตนวาสงเสริมการภูมิปญญาทองถิ่นมีการจัดการทรัพยากรที่มีอยูในทองถิ่นอยางเปนระบบและใหเกิดประโยชนสูงสุดตลอดจนสงเสริมใหประหยัดอดออมใชวิถีชีวิตความเปนอยูอยางเรียบงายโครงการในพระราชดํ าริ เศรษฐกิจพอเพียง จึงเหมาะสมกับสภาวะปจจุบันอยางยิ่งนับตั้งแตการสงเสริมและใหคําแนะนําในการปลูกพืชเลี้ยงสัตวใหพอเพียงตอความตองการของครอบครัวและชุมชนหากกําลังผลิตมีมากเกินความตองการก็นําออกขายเปนการเพิ่มรายไดใหกับครอบครัวอีกทางหนึ่งไกพื้นบานเปนสัตวเศรษฐกิจที่นาจับตามองเพราะนอกจากจะเลี้ยงเพื่อบริโภคแลวยังสามารถนําออกขายได เนื่องจากเนื้อไกพื้นบานมีรสชาติอรอยและราคาแพง(โฆษิต เที่ยงทองกุล. 2542 : 20-21) นอกจากนี้ไกพื้นบานยังเลี้ยงงายไมตองใชเวลาในการเลี้ยงดูมากนักเพราะไกพื้นรูปที่2 การประลองไกเพื่อมูลคาเพิ่มบานคอนขางแข็งแรงทนทานตอโรคและสามารถหากินไดเองตามลานบานโรงเรือนก็ทําพอคุมแดดคุมฝนก็ได ทําใหตนทุนการผลิตไมสูงมาก(อภิชัย รัตนวราหะ. 2541 : 11) และดวยเหตุที่ไกพื้นบานมีลักษณะแข็งแรงบึกบึนรูปรางสงางามและมีนิสัยชอบจิกตีตอสูกันจึงมีคนนําเอาไกพื้นบานมาเลี้ยงเปนไกชนแลเมื่อเลี้ยงไดดีเต็มที่แลวก็จะนํามาประลองฝมือกันตัวไหนลักษณะดีมีเชิงชนเกงกาจก็จะสามารถขายเปนไกชนไดในราคาแพงเปนการเพิ่มมูลคา(Value Added) ใหไกพื้นบานอีกวิธีหนึ่งในสังคมชนบททั่วทุกภาคของประเทศไทย มีวิถีชีวิตที่คุนเคยและใกลชิดกับไกพันธุพื้นบานนานนับเปนรอยป จะเห็นไดจากคนในชนบทที่นับตั้งแตลืมตาตื่นจากที่นอนก็เพราะไดยินเสียงไกขันปลุกใหตื่นเวลามีใครมาเยี่ยมถึงบานเรือนก็เอาไกมาทําเปนอาหารเพื่อเปนการเลี้ยงตอนรับหากมีงานตางๆ เชนงานบุญงานบวชงานแตงงานงานศพหรือแมกระทั่งพิธีกรรมตางๆ ในชุมชนตามความเชื่อทางวัฒนธรรมและประเพณีก็นําไกมาเปนอาหารเลี้ยงแขกเหรื่อได จะเห็นวาวิถีชีวิตของคนในชนบทจะมีความสัมพันธอยางใกลชิดกับไกพื้นบานตั้งแตเกิดจนตาย ไกพื้นบานเปนแหลงอาหารโปรตีนที่หาไดงาย นอกจากนี้โปรตีนที่ไดจากเนื้อไกยังเปนปจจัยหนึ่งที่ชวยลดปญหาการขาดสารอาหารของเด็กในวัยเรียน และวัย กอนเรียนในชนบทที่หางไกลไดเปนอยางดี และถาอาหารจากไกนั้นถามีมากเกินความตองการในการบริโภคภายในครอบครัวแลวยังสามารถนําไปจําหนายใหครอบครัวอื่น ชุมชนอื่น ก็นับเปนการเพิ่มรายไดใหกับครอบครัวไดอีกทางหนึ่ง ไกพื้นบานเปนสัตวเลี้ยงที่มีอยูในมือของเกษตรกรอยูแลวแตยังไมสามารถนํามาพัฒนาใหไกพื้นบานเปนสัตวเศรษฐกิจที่มีคุณคาราคาเทียบเคียงกับสุกรโคกระบือและสัตวเศรษฐกิจชนิดอื่นๆได
ทั้งๆที่ไกเปนสัตวเลี้ยงกันเกือบทุกครัวเรือนมีคนเลี้ยงมากเปนอันดับตนๆของประเทศเมื่อเปรียบเทียบกับบรรดาสัตวเลี้ยงดวยกันนับวาเปนทรัพยากรและภูมิปญญาที่ทรงคุณคาที่มีอยูในชุมชนมานานแลวเชนเดียวกับสัตวเลี้ยงอื่นๆจึงสมควรไดรับการสงเสริมใหเปนอาชีพทั้งอาชีพหลักอาชีพเสริมและเอาใจใสพัฒนายกขึ้นใหเปนสัตวเศรษฐกิจอีกตัวหนึ่งได การเลี้ยงไกชนเปนอาชีพเสริมจากไกพื้นบานธรรมดาจะมีวิธีทําใหมีคุณคาราคาในตัวและกลายเปนสัตวเศรษฐกิจไดอยางไรจริงอยูที่ไกพื้นบานที่นํามาเปนอาหารนั้นขายไดเพียงกิโลกรัมละ60-70บาท แตถานําไกนั้นมาเลี้ยงเปนไกชนก็จะทําใหคุณคาราคาเพิ่มขึ้นอีกหลายเทาตัวไมตางไปจากสัตวเศรษฐกิจชนิดอื่นๆ ซึ่งจะเห็นไดวาในปจจุบันนี้ไกชนตัวดีๆเกงๆไดถูกกําหนดราคาเปนหลักหมื่นหลักแสนเมื่อเห็นมูลคาของไกที่เพิ่มขึ้นตามความเกงกาจในเชิงชนทําใหมีผูสนใจประกอบธุรกิจเกี่ยวกับไกชนขึ้นมากมายมีการลงโฆษณาในสื่อสิ่งพิมพกันอยางแพรหลายในปจจุบันนี้ตลาดธุรกิจไกชนก็ยังมีความตองการไกชนที่มีเชิงชนเกงเปนอยางมากกําลังผลิตแทบไมเพียงพอตอการจําหนายเนื่องจากมีการสงไปขายภายในประเทศและสงออกไปขายยังตางประเทศอีกดวยประกอบกับไกชนแตละตัวมีชวงอายุการชนคอนขางสั้นและผูนิยมเลี้ยงไกชนก็จะแสวงหาไกที่เกงอยูตลอดเวลาจึงทําใหธุรกิจการเลี้ยงไกชนทําเงินรายไดอยางเปนกอบเปนกําจากเหตุผลดังกลาวก็พอจะสรุปไดวาการเลี้ยงไกชนก็นาจะเปนทางออกที่ดีสําหรับการแกปญหาเศรษฐกิจของชุมชนไดอีกทางหนึ่งถาหากไดรับการสงเสริมอยางจริงจังหลังจากที่มีการกอตั้งสมาคมอนุรักษและพัฒนาพันธไกพื้นเมืองขึ้นในประเทศไทยเปนครั้งแรกเมื่อสองปที่ผานมาเปนการปลุกเราใหกระแสความนิยมไกชนกลายเปนคลื่นลูกใหมที่มาแรงโดยความรวมมือกันของนักวิชาการองคการจากภาครัฐและเอกชนกอใหเกิดชมรมอนุรักษและพัฒนาพันธุไกพื้นเมืองแพรกระจายไปทุกชุมชนทั่วประเทศอยางรวดเร็วตางก็ตั้งความหวังเอาไววาชาวบานผูเลี้ยงไกชนคงจะลืมตาอาปากขึ้นมาไดบางแตจากเงื่อนไขของเวลาที่เปลี่ยนไปทําใหสถานการณทางสังคมเปลี่ยนแปลงแตเดิมที่ชาวบานเคยเปนเจาของไกชนที่มีลักษณะดีสวยงามและมีเชิงชนที่เกงกาจก็ถูกนักธุรกิจนายทุนมากวานซื้อทําใหไกชนดีๆเริ่มทยอยเปลี่ยนมือไปอยูกับนักธุรกิจนายทุนเปนสวนมากที่เหลืออยูในมือชาวบานนั้นเปนไกที่มีคุณภาพรองลงมาจากวัตถุประสงคที่คิดวาเปนการชวยเหลือชาวบานก็กลับกลายเปนการชวยเหลือนายทุนไปดังนั้นถาจะมีการสงเสริมการเพาะเลี้ยงไกชนในชุมชนจะตองจัดหาตั้งแตการหาพอพันธุ-แมพันธุ เปนอันดับแรกเพราะลําพังชาวบานคงไมมีเงินมากพอที่จะไปหาซื้อไกมาเปนพอพันธุ-แมพันธุได หากไดรับความรวมมือจากฟารมตางๆที่มีๆไกเกงๆดวยจะชวยใหประสบความสําเร็จไดเปนอยางดียิ่งขึ้น การกระจายไกเกงออกไปอยูทุกๆชุมชนนั้นจะมีผลดีมากกวาผลเสียเพราะจะทําใหกระแสความนิยมไกชนเกิดพลวัตขึ้นในตัวเองมีการตื่นตัวและพัฒนาตัวเองอยูตลอดเวลา แตถาไกชนเกงๆไปรวมกระจุกอยูเฉพาะกับฟารมตางๆ
แลวคงจะไมมีการเลี้ยงและเลนไกชนกันเฉพาะกลุมการพัฒนาของวงการไกชนก็จะอยูในขอบเขตที่จํากัดหรือจะอาจจะทําใหเกิดเสื่อมความนิยมไปก็เปนไดคนไทยโบราณที่มีความชํานาญในการเพาะพันธุและบํารุงไกชนทําใหมีการพัฒนาสายพันธุไกชนนับยี่สิบสายพันธุ (พนนิลผึ้ง. 2543 : 64) การเพาะพันธุและบํารุงเลี้ยงไกชนนั้นตองอาศัยทั้งศาสตรและศิลปที่สั่งสมเปนภูมิปญญาแตดวยนิสัยของคนไทยที่มักจะหวงแหนศาสตรหรือเคล็ดลับเฉพาะตัวไมยอมถายทอดใหใครงายๆหากจะยอมถายทอดก็อาจจะเปนเพียงบางสวนศาสตรและศิลปที่เกี่ยวกับไกชนจึงเปนความลับที่ปกปดมานานกลาวกันวาถาไมรักชอบหรือไว ไกพรอมชนวางใจกันจริงๆ แลวจะไมยอมเปดเผยเด็ดขาดเปนเหตุใหภูมิปญญาไทยสูญหายหรือตายไปพรอมกับเจาของศาสตรและศิลปเกี่ยวกับไกชนที่ไดผานการพิสูจนซํ้าจากผูเลี้ยงผานกระบวนการเรียนรูถายทอดและสืบสานมารุนสูรุนลูกหลานรุนแลวรุนเลาจนกระทั่งสามารถพยากรณไกชนแตละตัววาจะมีเชิงชนลําหักลําโคนตลอดจนลักษณะดี-เลวอยางไรบางแมศาสตรและศิลปในการเลี้ยงไกชนนี้อาจมีความแตกตางกันไปบางในแตละทองถิ่นแตก็มีจุดรวมเดียวกันคือเพื่อใหไกของตัวเองไดรับชัยชนะจะเห็นไดวาศาสตรและศิลปในการเพาะเลี้ยงและบํารุงไกชนมีสวนกําหนดคุณคาของไกแตละตัวและตีราคาออกมาเปนเงินตราได สมควรที่จะรับการสงเสริมใหมีการศึกษาคนควาจดบันทึกเปนลายลักษณอักษรและพิมพเผยแพรใหเปนความรูในวงกวางสามารถที่จะนําความรูมาทําเปนระบบธุรกิจอันจะชวยสงเสริมใหเศรษฐกิจชุมชนมีความเขมแข็งและเติบโตอยางมั่นคงตอไป.