ไก่ชน2002    ภูมิปัญญาการเลี้ยงไก่ชน  มองวิถีชีวิตคนผ่านการเลี้ยงไก่

ค้นหา:

วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2547

คุณเข้าเยี่ยมชมคนที่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เว็บไซท์ที่น่าสนใจ
ไก่ชนพม่า
ซุ้ม ป.โชคชั
ตรีเพชรฟาร์มไก่ชน
ไก่ชนชลดา
ไก่ชนสยาม

ซุ้มขุนแผน
ผู้ใหญ่แสน
บ้านไก่ชน

ไก่ชน.คอม
thai.net/สุ่มไก่ 
บ้านไก่ไทย
ไก่ชนไทย
geocities/สุ่มไก่
thaicockfight.com
kaichon.com 
ไก่ป่าก๋อย

ซุ้มอ่างแก้ว
เสียงไก่ชน
ประดู่.คอม

ซุ้มวัฒนาไก่ชน
กรมปศุสัตว์
บุญเลี้ยงไก่ชน
เว็ปนครใหญ่ฟาร์ม

                              
  ปล่อยเลี้ยงแบบธรรมชาติ (ไก่คุณสมหวัง)

        3.3.10.4 การปล่อยไก่

การปล่อยให้ไก่ชนเดินเล่นในสนามหญ้าภายหลังการซ้อมจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวดีขึ้น และนอกจากนี้ไก่ยังมีโอกาสจิกกินหญ้า แมลงหรือสัตว์ตัวเล็กๆได้  การปล่อยไก่นี้เป็นการคลายความเครียดของไก่ไปในตัว  ทำให้ร่างกายเข้าที่เตรียมพร้อมที่จะชน

                      หลังจากที่ซ้อมก่อนชนครบตามขั้นตอนแล้วให้พักไก่ ประมาณ 2 วัน ก่อนจะนำไก่ออกบ่อน  ทั้งนี้เพื่อให้ไก่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่  ขณะเดียวกันก็กราดน้ำไปตามปกติ แต่กราดแดดให้น้อยลง บำรุงยาและให้อาหารอย่างเต็มที่  จัดที่ให้นอนปราศจากสิ่งรบกวนต่างๆ  ควรกางมุ้งให้ไก่นอนตอนกลางคืนเพื่อป้องกันยุง  ที่นอนนั้นควรปูรองด้วยกระสอบป่านหรือพรม  ไม่ควรให้ไก่นอนกับพื้นโดยตรง  หมั่นทำความสะอาดพื้นที่นอนทุกวันเพื่อป้องกันโรคติดต่อ  และป้องกันกลิ่นที่เกิดจากการขับถ่าย   ในช่วงนี้ไก่ควรจะมีความสมบูรณ์เต็มที่  ผู้เลี้ยงสามารถสังเกตได้ง่ายๆ  คือ ไก่จะตีปีกขันบ่อยๆ  กรีดปีกไปมา   ชอบบินขึ้นไปตีปีกขันยังที่สูง  เช่น  จอมสุ่ม  ถ้าสังเกตจากผิวพรรณจะพบว่ามีสีแดง  แสดงว่าเลือดผาดสมบูรณ์ดี  นอกจากนี้ยังสังเกตได้จากมูลที่ไก่ขับถ่ายออกมา  จะเป็นก้อน  หักเป็นท่อน  ไม่มีกากอาหารที่เหลือเป็นเม็ดข้าว ขี้มีสีเขียวเข้มเสมอกัน  ระบบการย่อยอาหารทำงานได้เป็นอย่างดี( นายสงกรานต์       อภัยชา , สัมภาษณ์  : 14 มีนาคม   2545  )  สิ่งเหล่านี้ชี้ให้ผู้เลี้ยงมั่นใจว่าไก่มีความพร้อมที่จะต่อสู้  จึงนำออกบ่อนได้ 

จะเห็นว่าการเลี้ยงไก่ออกบ่อนมีหลักการเหมือนกับเลี้ยงนักมวยจะขึ้นเวทีต่อสู้  ใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์มาผสมผสานกัน  โดยมีจุดร่วมพอจะสรุปได้ดังนี้

1.    พักผ่อนให้เต็มที่

2.    กินอาหารที่ดี  มีประโยชน์

3.    ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป

4.    ขยันฟิตซ้อม

ไม่ว่ากีฬาประเภทใด  ควรปฏิบัติตามที่กล่าวมาแล้วนี้  โอกาสที่จะพบกับชัยชนะย่อมมีมาก  และควรปฏิบัติเป็นประจำจนเป็นนิสัย

จะเห็นว่าการฝึกซ้อมปล้ำนวมไก่นั้น  เป็นการนำเอาหลักเวชศาสตร์การกีฬาเข้ามาจัดการเรื่องการออกกำลัง   การฝึกซ้อม  โภชนาการและการใช้สมุนไพรมาบำรุงเลี้ยงเพื่อให้ไก่แข็งแรง  มีกำลังที่จะจู่โจมคู่ต่อสู้และขณะเดียวกันก็สามารถทนต่อการตีโต้ของคู่ต่อสู้ได้  นอกจากนั้นการจัดการด้านการออกกำลังกายนั้นเริ่มต้นด้วยใช้สิ่งแวดล้อมที่อยู่ใกล้ตัวมาใช้ให้เกิดประโยชน์แล้วพัฒนาาใ้เทคโนโลยี  แสดงให้เห็นความสามารถในการผสานองค์ความรู้  ทักษะและเทคนิคด้านเกษตรกับเทคโนโลยี โดยพัฒนาบนพื้นฐานคุณค่าดั้งเดิมผสมผสานกับเทคโนโลยี  จนกลายเป็นเทคโนโลยีชาวบ้าน  เป็นวิธีการปฏิบัติที่ชาวบ้านได้มาจากประสบการณ์ในการแก้ปัญหา  แสวงหาทางออก  เพื่อปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม  ตามกาลเวลา  สถานการณ์และสภาพแวดล้อม  ซึ่งมีเงื่อนไขปัจจัยเฉพาะแตกต่างกันไป (สุจารี         จันทรสุข, 2534 : 10 -11)

               3.3.10.5  การเปรียบไก่และนำไก่เข้าชน

                           เมื่อไก่ผ่านการปล้ำการซ้อมมาประมาณ  8-  10  ยก  พร้อมกับมีการปรนที่ดีแล้วจะทำให้ไก่มีความพร้อมที่จะออกชน  ซึ่งผู้เลี้ยงต้องอาศัยการสังเกตว่าไก่มีความพร้อมนั้นเริ่มตั้งแต่ไก่มีผิวพรรณแดง  ขนเป็นมัน  มีอาการคึกคะนองกรีดปีก  ตีปีกขันบ่อยๆ  เมื่อปล่อยออกจากสุ่มจะบินขึ้นจอมสุ่มตีปีกขัน และถ่ายมูลออกมาเป็นก้อนๆถูกย่อยอย่างละเอียดแสดงว่าไก่ตัวนั้นมีความสมบูรณ์เต็มที่พร้อมจะออกชน

                            จากการสังเกตุอย่างมีส่วนร่วมในกิจกรรมการชนไก่โดยผู้วิจัยไปกับนายสถิตย์  หลวงนันท์  นายเพ็ชรผล  พันธ์ผาง  นายศุภกร  ภูคำแสน  นายสำเรียน  เทพไกรวัลย์และ      นายสงกรานต์  อภัยชา หลายๆครั้งพบว่า  ในวันออกชนนั้นผู้เลี้ยงจะป้อนกล้วยให้ไก่กินประมาณครึ่งกระเพาะ แล้วนำไก่มาเช็ดหน้าเช็ดขนพอหมาดๆแล้วขังสุ่มไว้  จากนั้นก็จัดเตรียมสิ่งของสัมภาระต่างๆ เช่น  มุ้งครอบ  ผ้าปูพื้น  กระเบื้อง  กาต้มน้ำพร้อมกับสมุนไพรที่ใช้ต้มอาบ  ใบพลูสด  ใบคระไคร้ทั้งสดและแห้ง  ใบหนาดแห้ง  ยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ  เข็มสอยผ้า  ด้าย  ใบมีดโกน  กล้วย  แตง  ข้าวเจ้าหุงสุก  กระป๋องชุดรมควัน  น้ำตาลและกระสอบป่านที่ใช้ปูรองพื้นตอนอาบน้ำ  ตั่งนั่งกราดน้ำ  เปลนอน  ตลอดจนน้ำดื่ม ข้าวปลาอาหารและอื่นๆที่จำเป็นต้องนำไปด้วย 

                จากนั้นผู้เลี้ยงไก่จะอาบน้ำแต่งตัวไว้รอเพื่อนๆที่นัดกันไว้  เพราะการชนไก่นั้นเป็นกิจกรรมที่ต้องช่วยกันหลายคนโดยแบ่งหน้าที่กันทำ  ก่อนออกจากบ้านก็จะมีเคล็ดแล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคล  เช่น  นายสงกรานต์  อภัยชาจะแต่งตัวโดยเลือกเสื้อผ้าที่ใส่ก็จะเป็นชุดที่หมาน(นำโชค) ที่เคยใส่ไปชนไก่แล้วได้ชัยชนะกลับมา  นายสถิตย์  หลวงนันท์ จะมีการบอกเล่ากับเจ้าที่เจ้าทางให้ได้ชัยชนะกลับมาแล้วจะมีการปลง(เลี้ยงเจ้าที่นายเพ็ชรผล  พันธ์ผางจะหงายสุ่มที่เคยขังไก่ตัวที่จะนำออกชน  นายสำเรียน  เทพไกรวัลย์จะบอกกล่าวกับเจ้าแม่ธรณีเมื่อบอกกล่าวเสร็จจะหยิบดินมาแตะที่หัวและเดือยไก่ทั้งสองข้าง  เป็นต้น

                 ในวันอาทิตย์ที่  สิงหาคม  พ..  2545  ผู้วิจัยได้ออกเก็บข้อมูลภาคสนามโดยการสังเกตและการเข้าร่วมกิจกรรมการชนไก่  การเข้าร่วมกิจกรรมชนไก่ครั้งนี้มิใช่ครั้งแรกแต่อยากนำมายกตัวอย่างเพราะเป็นครั้งที่ตื่นเต้นและประทับใจผู้วิจัยมากที่สุด  ในครั้งนี้ผู้วิจัยได้ร่วมกับ  นายสงกรานต์  อภัยชา  นายประสาน  สีดาคาน  พร้อมกับเพื่อนของนายสงกรานต์ที่มาจากบ้านหนองกระหนวน  ตำบลท่าพระ  อำเภอเมือง  จังหวัดขอนแก่น  อีก  คน  และยังมี               นางวิลัย  อภัยชา ซึ่งเป็นภรรยาของนายสงกรานต์และลูกชายวัยหนุ่มฉกรรจ์อีก  2 คน ของ     นายสงกรานต์  โดยจุดหมาย คือ  สนามตลาดนัด ก.ไก่  บ้านพรสวรรค์  ตำบลบ้านเป็ด  อำเภอเมือง  จังหวัดขอนแก่น  โดยนำเอาไก่ชนชื่อ  “ไอ้จิ้งหรีด” ซึ่งมีพิกัดน้ำหนัก  2.6  กิโลกรัมออกชนในวันนั้น  จิ้งหรีดเป็นไก่สายพันธุ์ไทย  เคยชนที่สนามชุมแพชนะมา  ครั้ง  ในกลางยกสอง      วงเงินเดิมพัน  5,500  บาท  วันนี้ต้องการชนในราคาเดิมพันไม่ต่ำกว่า  22,000  บาท  เมื่อถึงบ่อนหรือสนามชนไก่ก็เลือกสถานที่ร่มรื่น  สะอาดและคิดว่าปลอดภัยที่จะนำไก่ขังสุ่มไว้พร้อมกับเอามุ้งครอบเพื่อป้องกันการวางยาไก่  รอเวลาให้กรรมการสนามประกาศให้นำไก่เข้ามาเปรียบกันเพื่อหาคู่ชน

                       ตลาดนัด ก. ไก่  ตั้งอยู่ที่ถนนเลี่ยงเมืองเชื่อมระหว่างถนนมิตรภาพมาจากจังหวัดนครราชสีมากับจังหวัดอุดรธานีผ่านบริเวณบ้านกุดกว้าง  ตำบลท่าพระตัดกับถนนมะลิวัลย์ ทางไปอำเภอชุมแพ  หากมาจากจังหวัดนครราชสีมาเลี้ยงซ้ายเข้าถนนเลี่ยงเมือง  จะผ่านสี่แยกไฟแดงถนนเลี่ยงเมืองตัดผ่านกับถนนเหล่านาดี (ทางไปอำเภอมัญจาคีรีตรงไปตามถนนเลี่ยงเมืองอีกประมาณ  800  เมตรก็จะถึงปากทางเข้าสนามชนไก่ตลาดนัด ก. ไก่  เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีก  500  เมตรก็จะเป็นบริเวณของสนาม

                        รอบนอกของสนามจะเป็นอาคารชั่วคราวมุงด้วยพลาสติกสานโปร่งและหญ้าคาใช้เป็นที่จอดรถยนต์  ส่วนอาณาเขตที่เป็นสนามชนไก่ล้อมรอบด้วยลวดหนามมีประตูเข้า  ประตู  มีอาคารด้านทิศเหนือสำหรับพักไก่โดยแบ่งออกเป็นสัดส่วนกันไม่ให้คนที่ไม่มีส่วนร่วมเข้าไปรบกวน  ถัดมาเป็นอาคารรูปตัววาย (Y)  เป็นที่เปรียบไก่  แบ่งเป็นสองซีก  คือ ซีกตะวันตกและตะวันออกกั้นด้วยคานเหล็ก  ให้เจ้าของไก่นำไก่ไปเปรียบกันที่ด้านใน  ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องดูอยู่ด้านนอก

                        ส่วนอาคารกลางเปิดโล่งมีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส  ครอบคลุมพื้นที่กว่า  400  ตารางเมตร  มีสังเวียนมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ  เมตร  อยู่ตรงกลางล้อมรอบด้วยอัฒจันทร์ บรรจุคนได้เกือบพันคน  เป็นรูปวงกลมสูงขึ้นเป็นชั้นๆ  โดยชั้นในสุดอยู่ล่างสุดติดกับขอบสังเวียนเป็นชั้นที่ต้องซื้อบัตรผ่านประตูเข้าไปในราคาที่นั่งละ  100  บาท  ชั้นบนสุดสามารถเดินรอบได้  ไม่ต้องจ่ายค่าบัตรผ่านประตูมีบันไดทางขึ้นอยู่ข้างนอกอัฒจันทร์  แต่ชั้นนี้ไม่มีที่ให้นั่งต้องยืนดูเท่านั้น  มีพัดลมรอบๆสังเวียนเพื่อคลายความร้อนให้กับผู้ชม  และมีโคมไฟขนาดใหญ่แขวนลงมาจากเพดานอาคารตรงตำแหน่งกลางสังเวียนเพื่อช่วยเพิ่มแสงสว่าง  และใต้โคมไฟจะมีตะขอสำหรับห้อยถังน้ำที่จัดไว้ให้กรรมการล้างขาไก่ก่อนลงสังเวียน และนาฬิกาจับเวลาแขวนอยู่ด้วย  ส่วนพื้นที่รอบๆอัฒจันทร์ด้านทิศเหนือทำเป็นห้องประชาสัมพันธ์  ห้องเก็บวัสดุ  ทางเดินและแบ่งเป็นล็อกสำหรับตั้งกรงตาข่ายให้เกษตรกรขังไก่ที่นำมาจำหน่าย  พร้อมกับจัดให้มีสังเวียนสำหรับประลองเชิงไก่ของเกษตรกรหนึ่งที่  ส่วนทิศตะวันตกเป็นร้านค้าจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มจำนวน  ร้าน  ด้านตะวันออกเป็นที่จำหน่ายเวชภัณฑ์และอุปกรณ์สำหรับไก่ชนและสังเวียนนอก  ที่  ด้านทิศใต้เป็นสังเวียนนอก  ที่ส่วนอาคารทางด้านทิศไต้จัดให้เป็นที่พักไก่อย่างเป็นสัดส่วนกั้นเป็นห้องๆ  และมีห้องน้ำอยู่ทางด้านตะวันตก  

 อ่านต่อ
 ย้อนกลับ

กลับหน้าหลัก
กลับหน้าบทความวิชาการ

 

                                                           
ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด
19/03/2547 23:00:01