ตำนานผีปอบ
ผีปอบ เป้นผีทางภาคอีสาน แต่ทางภาคเหนือ (พายัพ) เรียกผีปอบว่า ผีกะ ตามคำบอกเล่าของ อาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งอยู่ทางจังหวัดมหาสารคามได้เล่าให้ฟังว่า ผีปอบเป็นผีชนิดมีเจ้าของ คือมีผู้เลี้ยงไว้ และผู้ที่เป้นเจ้าของของผีปอบกล่าวกันว่า มักจะเป็นพวกคลั่งวิชา เช่น พวกเรียนวิชาการค้าขาย มีเสน่ห์นางกวัก สาริกกาลิ้นทอง นะหน้าทอง หรือหมอเสน่ห์ยาแฝด เมื่อเรียนมากๆเข้าก็ชักสติฟั่นเฟือน ด้วยเหตุที่วิชาชนิดนี้ เรียนผูกแลล้วต้องเรียนแก้ เมื่อเรียนวิชาจนขลังใช้ได้แล้ว ก็ยังต้องมีคาถาให้คลายได้ด้วย แต่โดยมากมักจะลืม คาถาแก้กันเสีย เลยทำให้สติฟั่นเฟือน และผลสุดท้ายเลยกลายเป็นเจ้าของปอบ ไปโดยที่ลูกตาไม่มีแวว คือไม่มีลูกตา ตามปรกติของคนเรา เมื่อมองตากันจะมองเห็นรูปของกันและกันในดวงตา แต่คนพวกเจ้าของปอบนี้ ไม่ขอบมอง หน้าใครตรงๆ เหมือนพวกผีกระสือ พวกเจ้าของปอบ จะต้องคอยดูแลเลี้ยงปอบของตัวเองเสมอ เวลาตัวจะกิน อะไรก็ต้องเรียกมากินด้วย ถ้าปล่อยให้อดยากมากนัก พวกปอบก็มักจะกินเจ้าของปอบเสียเอง อาการของคนที่ถูกปอบ เข้ามักจะร้องห่มร้องไห้ อยากกินโน่นกินนี่จิปาถะ แต่โดยมากมักจะเป็นของสด คาว ดิบๆ และถ้าปล่อยให้ปอบ เข้าอยู่ นานๆ คนไข้อาจถึงตายเพราะปอบอาจกินตับไต ไส้พุงหมด คนทางภาคอิสานที่เจ็บป่วยและตายลงไป ชาวบ้านมักลง ความเห็นว่าปอบเข้าแทรก จึงทำให้ตายเสมอ วิธีไล่ปอบก็เหมือนกับการไล่ผีธรรมดานี่เอง คือพวกหมอผีมักจะใช้หวายลงอาคมหวดไปตาม ร่างกายคนเจ็บแรงๆ ซึ่งเราจะได้ยินเสียงร้องด้วยความกลัว และแสดงอาการเจ็บปวด แต่เสียงนั้นเป็นที่น่า แปลกคือ เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของคนเจ็บ หากเป็นเสียงอีกเสียงหนึ่ง เมื่อหมอหวดหวายลงไปทีหนึ่งจะร้อง สัมทับลงไปว่า "กลัวไหม?" บ้าง "ใครใช้ใหัมา?" บ้างซึ่งปอบใจเสาะหลัวอาคม มักจะตอบว่า "กลัวแล้ว" แต่ การทีปอบจะบอกชื่อเจ้าของปอบนั้น มันไม่ยอมบอกง่ายๆนัก นอกจากจะขู่อย่างหนัก จากปากคำของนางบุญ เจ้าของปอบคนหนึ่งกล่าวว่า เวลาปอบของนางไปเข้าใคร จะถูกเขาทำโทษเอาด้วยหวายแล้ว นางจะรู้ทันทีเพราะ รู้สึกเจ็บ ส่วนผู้ที่ถูกตีจริงๆกลับไม่เจ็บ อนึ่ง การที่ปอปไปเข้าใครต่อใครนั้น เจ้าของไม่มีส่วนรู้เห็นด้วยเลยก็มี เจ้าของปอบมีวิชามัดหรือขังพวกปอบได้เหมือนกัน คือ ขังปอบไว้ไม่ให้เที่ยวเผ่นผ่านไป แต่การขังก็ต้องทำ เป็นเวลา ต้องมีการปล่อยเป็นอิสระบ้าง ถ้ากวดขันมากนัก มันก็จะทำร้ายเอาเสมอ วิธีป้องกันปอบ ไม่มีอะไรเป็นเครื่องป้องกัน การที่จะบังคับไม่ให้ปอบมารุกราน ดูเหมือนจะอยู่ที่ใจ ของเราเอง คือ ถ้าใจเรากล้าไม่กลัว ปอบมันก็ไม่กล้าเข้า อนึ่ง ปอบกลัวคนปากร้าย ปากจัด ปอบไม่กล้ารุกราน เพราะขยาดปาก ดูๆ ปอบจะเป็นผีชนิดผู้ดีหน้าบาง คือ ไม่ชอบให้ใครด่า เดือนธันวาคม ร.ศ.๑๑๕ ขุนมหาวิชัย (จัน) ได้อธิบายถึงผีปอบไว้ว่า ผีชนิดนี้ เกิดแต่คนที่มีอาคม อันเข้มแข็งเป็นต้นว่า คนใดมีคาถาฆ่าคนอื่นได้ ถ้าฆ่าคนแล้วไม่ได้ทำการปัดเป่า ล้างโทษเสียแล้ว ผู้นั้นจะกลาย เป็นผีปอบไป