ประเพณีการล้างป่าช้า



			การเก็บศพที่นี้ หมายถึงการเกื้อกูลแก่ซากศพอันปราศจากเจ้าของแห่งชีวิตนั้นหมายรวม
	ถึงการจัดการกับซากศพดังกล่าวให้ถูกต้องตามประเพณี ไม่ให้เป็นที่อุจาดแก่สาธารณชน ในทางจีนเรียกกิจเช่นนี้
	ว่า " ซิวซี " ส่วนการล้างป่าช้านั้นหากเก็บความตามรูปศัพท์ก็หมายถึงการเก็บกวาดชำระล้างป่าช้าหรือสุสานอันเป็น
	ที่พักพิงของซากศพให้สะอาดเรียบร้อย หากในทางธรรมาธิษฐาน ยังหมายรวมไปถึงการโปรดสรรพวิญญาณอัน
	ไร้ญาติขาดมิตรที่จะเซ่นสรวงให้ได้ไปบังเกิดในแดนสุขาวดีทั้งหมดนี้ไม่ว่าจะเป็นการเก็บศพหรือล้างป่าช้า ก็ล้วนมี
	ความหมายที่มุ่งไปในทางคุณธรรมความดีทั้งสิ้น ที่มาแห่งกุศลกิจดังกล่าว ดูเหมือนจะเริ่มจากความเชื่อเกี่ยวกับการ
	บูชาดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับตามคติชนกับความเชื่อของศาสนายู้และเต๋า ยิ่งเมื่ออิทธิพลของพุทธศาสนาแผ่เข้า
	มาสู่มัธยมประเทศเป็นเหตุให้เกิดพิธีกรรมทางมหายาน ที่เรียกว่า " พิธีเซ่นสรวงดวงวิญญาณในเดือนเจ็ด " 
	หรือที่ชาวจีนนิยมเรียกกันโดยทั่วไปว่า " อู้ลั้งเซ่งหวย " นี่เป็นปฐมเหตุแห่งกุศลกิจข้างต้นด้วย
			เหตุที่เชื่อในเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดและการกลับชาติมาเกิดอีก คติเรื่องวิญญาณและผี
	จึงถูกนำมาอธิบาย การประสมประสานความเชื่อ ก่อให้เกิดเป็นพิธีกรรมต่างๆ ผีที่มีญาติเจ้าของก็จะได้รับส่วนปัจจัย
	ในการทำบุญอุทิศผลไปให้ส่วนวิญญาณที่ปราศจากผู้ดูแลและเอาใจใส่ให้การเซ่นสรวง ก็จะบังเกิดทุกขเวทนาอย่าง
	สาหัส ยิ่งเชื่อในคำสอนเรื่องนรกก็ยิ่งจะแลเห็นความเดือดร้อนของสัตว์อันรับโทษทัณฑ์ตามกระแสกรรมที่เคยก่อไว้
	ในนรกภูมิดังปณิธานของพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ที่ว่า " ตราบใดที่นรกภูมิยังไม่สิ้นจากทุกข์เวทนาของเหล่าสัตว์ 
	จะยังไม่ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณสู่พระนิพพานภูมิเป็นอันขาด "


กลับหน้าหลัก<<<