ปรากฏการณ์หลังตาย-ผีหรือวิญญาณ ไม่มีชนชาติใดเผ่าไหน ที่ชนในชาติไม่เชื่อเรื่องผี เพราะจริงๆแล้วเป็นเรื่องที่คุ้นหูเป็นเรื่องธรรมดา ประจำวันในที่หนึ่ง ที่ใดเสียด้วยซ้ำ แม้แต่ประเทศตะวันตกที่ก้าวหน้าที่สุด จากการสำรวจผู้ที่เคยประสบกับปรากฏการณ์ลึกลับสามมิติ หรือการพบ เห็นผีอย่างแท้จริงด้วยตนเอง ในสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ มีสถิติจำนวนผู้ที่เชื่อเรื่องผี ทั้งที่ตัวเองไม่เคยเห็นเลย มากกว่าผู้ที่ไม่เชื่อ เซอร์โอลิเวอร์ ลอดจ์ นักฟิสิกส์คนสำคัญชาวอังกฤษ ได้กล่าวไว้ว่า ผีอาจเป็นไปได้จริง ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า ผี คง อธิบายได้ว่าเป็นภาพ หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากพลังงานทางจิตที่รุนแรง ของผู้ตายที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม และประทับเป็นร่อง รอยเอาไว้สามารถทำให้บางคน ที่มีประสาทสัมผัสไวเป็นพิเศษ รับคลื่นพลังงานที่แปรเป็นสภาพของปรากฏการณ์นั้นๆ ขึ้นมาใหม่ได้ คำอธิบายของเซอร์โอลิเวอร์ อาจมีส่วนถูกอยู่บ้าง และดูจะสอดคล้องกับความคิดเห็น ของคนทั่วไปที่เชื่อว่า คนเมื่อตาย แล้ว จะต้องกลายเป็นผีจนกว่าจะได้ไปเกิดใหม่ หรือไปสู่ภพใหม่ ส่วนปรากฏการณ์ที่เรียกกันว่า ผีหลอกนั้น คนส่วนมากเชื่อว่า ส่วน หนึ่งเป็นผลมาจาก ผู้ที่ตายไปยังไม่ยอมจากโลกไปด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง เช่นได้รับความกดดันทางอารมณ์อย่างรุนแรง เป็นต้นว่า ความเจ็บปวด ความคับแค้นใจ อิจฉาหรือห่วงใยอาวรณ์ ที่ท่วมล้นจิตใ จก่อนที่ผู้ตายจะจากโลกไป เช่นเราเชื่อว่า คนที่ตายอย่างปวดร้าว กะทันหัน หรือคนที่มีห่วงมีใยอยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็น ผีตายโหง ผีตายทั้งกลม หรือ ผีที่เกิดจากแรงอาฆาต ความแค้น ความไม่เป็น ธรรมต่างๆ ข้อสนับสนุนความเห็นดังกล่าวให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ได้แก่ สถานที่ที่พบเห็นปรากฏการณ์ลึกลับที่น่ากลัวนั้น มักจะเป็นสถาน ที่ที่ใกล้เคียงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง หรือบริเวณที่มีการตายเกิดขึ้นอย่างทารุณ เช่น ฆาตกรรม อัตวิบาตกรรม หลุมศพโบราณ สนามรบ หรือวินาศภัยที่มีคนตายมากมาย ในบ้านเราเอง เรื่องของผีอาจถือได้ว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ล้วนคุ้นเคยได้ยินได้ฟังเป็นประจำ โดยเฉพาะสมัยก่อนที่บ้านเมืองยังไม่มีความเจริญทางวัตถุ ยังเต็มไปด้วยป่าไม้ทุ่งนา ที่เป็นธรรมชาติเช่นนั้นมานานนับร้อยๆปี แม้ใน ปัจจุบันนี้ก็มีหนังสือและภาพยนต์เรื่องผี และเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติธรรมดาให้เห็นอยู่มากมาย ปรากฏการณ์เบื้องหลังความตายที่อธิบายว่า เห็นภาพวิญญาณ ของผู้ตายยังเป็นที่ถกเถียงกันมาก เพราะความเชื่อของคน ทั่วไป ไม่ว่าจะถีอลัทธิศาสนาใดก็ตาม มักจะถือมนุษย์เท่านั้นที่มีวิญญาณ และวิญญาณก็ไม่ใช่ผี รูปที่เป็นผีนั้นไม่ได้จำกัดอยู่แต่ ภาพร่าง ของมนุษย์ มีได้ทั้งผีในรูปของสัตว์และต้นไม้ หรือแม้แต่สิ่งไม่มีชีวิต มีเรื่องเล่าไว้ในหนังสือรวบรวมเรื่องราวต่างๆ ของผีและเหตุการณ์ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับผี มีทั้งสิ่งที่อยู่ในร่างคน สัตว์ สิ่งไม่มีชีวิต พันเอกแห่งกองทัพอังกฤษ และครอบครัวเพิ่งย้ายบ้านใหม่ เป็นบ้านโบราณและมีสนามหน้าบ้านที่กว้าง มีทางรถวิ่งโดย รอบ จากประตูใหญ่เข้ามา ตอนนั้นเป็นเวลาเริ่มจะโพล้เพล้ นายทหารดังกล่าวและภรรยาพร้อมบุตรอีกสองคน กำลังนั่งที่ระเบียงของ คฤหาสน์หลังใหญ่ พลันมีรถเทียมม้าใหม่เอี่ยม และมีสีสันแพรวพราววิ่งเข้ามาตามทางวิ่ง ทั้งๆ ที่ขณะนั้นประตูใหญ่ที่รั้วหน้าบ้านก็ยังปิด อยู่รถม้าได้วิ่งมาอย่างช้าๆ และทุกคนที่นั่งอยู่ด้วยกันที่นั่นได้ยินเสียงของกีบม้า และเสียงล้อรถที่บดลงบนถนนอย่างชัดเจน สักครู่รถม้า คนนั้นก็วิ่งมาหยุดลงที่ขอบสนาม ห่างจากตัวคฤหาสน์ไปไม่ไกลนัก เนื่องจากช่วงนั้นเป็นเวลาเริ่มจะค่ำ แม้ว่าทุกคนจะยังคงมองเห็นสิ่ง ต่างๆได้อย่างชัดเจน แต่ก็ไม่มีใครมองเห็นผู้ที่นั่งมากับรถม้านั้นได้ และแม้เวลาจะผ่านมาอีกชั่วครู่ก็ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดลงจากรถม้า ในที่สุด บุตรชายคนหนึ่งของนายทหาร ก็เดินลงมาที่สนามไปยังรถม้าคันนั้น เขาเดินเข้าไปใกล้พอที่จะเห็นร่างของสตรีแต่งตัวอย่างสูงศักดิ์ ผู้หนึ่งนั่งในรถม้า เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้มากขึ้น ทั้งรถและม้าเทียมก็พลันละลายหายไปในอวกาศ ไม่มีร่องรอยแต่อย่างใด เมื่อตรวจสอบแล้วปรากฏว่า บ้านหลังนั้นเคยเป็นบ้านของท่านลอร์ดและเลดี้ผู้สูงศักดิ์ ที่มีปัญหาเรื่องความรักสามเส้า ที่ทำ ให้ภรรยาท่านลอร์ดต้องตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยความชอกช้ำระกำใจ หลังจากนั่งรถม้ากลับมาบ้านแต่ผู้เดียวในเย็นวันหนึ่ง เมื่อหลายปี ก่อนหน้านั้น นักจิตวิทยาสาขาเหนือธรรมชาติ โดยทั่วไป เขาเชื่อว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากการตาย และการสนองรับด้วยประสาทสัมผัส ของผู้มีชีวิตอยู่เป็นเรื่องทางจิตที่ผู้ประสบนั้นๆ รับได้จริงๆ โดยไม่พยายามที่จะตอบคำถามว่าคนที่ตายไปแล้วกลายเป็นผี หรือผีเป็นเรื่องจริง เป็นสภาพหนึ่งหรือมิติหนึ่ง โลกหนึ่งของคนตาย นักจิตวิทยาจะแบ่งแยกประเภทปรากฏการณ์ที่เกิดหลังตายของผู้ที่กำลังจะตาย หรือตาย ไปแล้ว ที่มนุษย์ธรรมดาสามารถรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสต่างๆ เช่น ด้วยตา หู จมูก ไม่ว่าแยกกันหรือร่วมกัน ออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทลางสังหรณ์ กับ ประเภทผีหลอก ประเภทลางสังหรณ์ ประเภทนี้จะเกิดเพียงครั้งเดียวและจะเกิดขึ้นแก่ผู้ที่สนิทชิดเชื้อ หรือเพื่อนที่ผูกพันธ์กันเป็นพิเศษ เช่น แม่ฝันเห็นภาพของลูกที่มีเลือดท่วมตัวอยู่ในสนามรบ ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง มีรายงานเกี่ยวกับการได้ยินเสียงเรียกหรือการได้กลิ่นศพ หรือกลิ่นธูป เมื่อประมาณสิบกว่าปีมาแล้ว ขณะที่นายแพทย์ประสาน ต่างใจ ผู้เขียนหนังสือชีวิตหลังตาย อยู่ที่เมืองบราซอฟ ที่โรมาเนีย ที่เมืองนี้เป็นเมืองแปลก มีกลิ่นของน้ำมันคลุ้งไปทั้งเมืองตลอดเวลา และเป็นกลิ่นที่เขาไม่คุ้นเคย คือมันเหมือนเป็นกลิ่นที่ได้จากการเผาน้ำมันเบนซินที่ผสมกับกำมะถันเยอะๆ ดังนั้นเขาจึงปิดหน้าต่างห้องพัก ที่โรงแรมจนหมด ในวันหนึ่งหลังทานอาหารกลางวัน เขาก็กลับไปพักในห้อง ประมาณราวๆ บ่ายสองหรือบ่ายสามโมง เขาได้กลิ่นธูปอย่าง แรงอบอวลไปทั้งห้อง ทั้งๆ ที่หน้าต่างปิดทุกบาน ทีแรกเขาคิดว่า ชาวเอเชียที่มาพักในโรงแรมเดียวกันกำลังทำพิธีอะไรอยู่ ก็เลยเปิดหน้าต่าง ออกไปดู ก็ได้แต่กลิ่นน้ำมันเหียนๆ จึงปิดหน้าต่าง แล้วเปิดประตูออกไปเดินสำรวจทั้งชั้นนั้น ก็ไม่มีกลิ่นอะไร แต่พอกลับเข้าห้อง ก็ยังได้กลิ่น อยู่เหมือนเดิม แถมยังมีกลิ่นธูปหอมด้วย มันอบอวลอยู่ชั่วครู่แล้วแล้วค่อยๆจางหายไป เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร จนกระทั่ง 4 วันต่อมา เขากลับมา ถึงกรุงเทพฯ แล้วจึงได้ทราบว่าคุณยายที่แก่มากแล้ว และผูกพันต่อเขาค่อนข้างมาก ได้สิ้นชีวิตไปที่บ้าน เวลาที่คุณยายตาย ตรงวันวันนั้นพอดี และเวลาเมื่อเทียบกันแล้วก็เป็นเวลาเดียวกัน อีกประเภทหนึ่งคือ ประเภทผีหลอกแท้ๆ ประเภทนี้เกิดจากการผูกพันกันสถานที่ บ้าน ห้องนอน เตียงนอน หลุมฝังศพ ถนน หรือผูกพันกับสาเหตุที่ทำให้เกิดมีการตายนั้นๆ ประเภทนี้จะเกิดซ้ำกับใครก็ได้ สำหรับผู้ที่ศึกษาทางจิตศาสตร์ ศึกษาจิตที่เป็นวิญญาณ เช่น ผู้ทรงเจ้าเข้าเทพ ผู้นั่งทางในติดต่อกับวิญญาณ ผู้มีความสามารถ พิเศษทางจิต ไม่ว่าโดยมีอยู่เองหรือฝึกฝนขึ้นมาภายหลัง ได้กลายเป็นศาสตร์ที่มีความสำคัญต่อสังคมไม่น้อย เพราะมีประชาชนจำนวนไม่น้อย ที่มีความเชื่อในเรื่องแบบนี้ เช่นหนังสือที่เขียนโดย เซอร์ โอลิเวอร์ ลอดจ์ ถึงการติดต่อระหว่างตัวเขาเองกับวิญญาณของบุตรชาย ที่ตายไป ในสงครามที่ประเทศเบลเยี่ยม เป็นหนังสือที่ประชาชนให้ความสนใจ มองในอีกแง่หนึ่ง ทั้งหมดเป็นเรื่องของจิต เป็นเรื่องของความคิดความเชื่อ ไม่ว่าจะอยู่ในยุคใด และไม่ว่าจะอยู่ดีมีจน ชาติตระกูล หรือการศึกษา ก็ล้วนเป็นมนุษย์เหมือนกัน ย่อมมีการทำงานของสมอง และความคิดในทำนองเดียวกันนี้ทั้งนั้น ---------------------------------------------------------------------------- ที่มา ชีวิตหลังตาย นายแพทย์ประสาน ต่างใจ