ขโมยเงินวัด



              		  ผมคือแมวป่าตัวหนึ่ง ที่มาวันนี้เพื่อจะหาเจ้ากรรมนายเวรผมมีป้ายอนุญาตเข้ามาในสถานธรรม   
	ครั้งที่ผมเป็นมนุษย์เป็นคนในสมัยต้นราชวงศ์ซ้อง(พ.ศ. 1503-1822)  ในชาตินั้นผมชื่อจิ้นไฉ แซ่หลิว ตอน
	อายุ 25 ปี ผมได้บวชเป็นพระในพุทธศาสนาที่ผมบวชไม่ใช่อยากจะปฏิบัติธรรมหรอกแต่เพื่อจะหลบเจ้าหนี้
  	เท่านั้น   เนื่องจากผมได้เอาสมบัติในบ้านไปเล่นการพนันแพ้จนหมด คุณพ่อโมโหมากเอาท่อนไม้จะตีผม เจ้าหนี้
	ก็มาบ่านผมทวงหนี้ทุกวันผมไม่มีเงินใช้หนี้พวกเขาได้แต่ทำร้ายลูกเมียผม เพื่อเป็นการเตือนผมไม่มีความรับผิด
	ชอบต่อครอบครัวเลยเอาแต่ตัวเองรอดโดยหนีออกจากบ้านทอดทิ้งพ่อแม่และลูกเมีย
		แม้ผมจะบวชเป็นพระแล้ว แต่นิสัยก็ยังไม่เปลี่ยน  ภายนอกสวมไตรจีวร  ดูแล้วเหมือนนักปฏิบัติ
	แต่ผมไม่เคยสนใจการปฏิบัติบำเพ็ญเลย ตอนนั้นได้บอกกับพระอาจารย์ว่าจะลงเขาไปบิณฑบาตเมื่อผมลงจาก
	เขาแล้ว  ระหว่างทางก็ถอดชุดจีวรนำไปซ่อนไว้ในกอหญ้าข้างทาง แล้วสวมเสื้อผ้าธรรมดาไปที่บ่อนเล่นการพนัน
	ยิ่งเล่นยิ่งมากได้ติดหนี้เขาจำนวนมาก  พอตกเย็นก็กลับไปที่วัดอีกด้วยกลัวว่าเรื่องนี้จะล่วงรู้ไปถึงอาจารย์จึง
	ต้องคอยหลบหน้าอาจารย์อยู่เรื่อย  ตอนที่ผมอายุ 27 ปี   มีสาธุชนสองท่านมาบริจาคทรัพย์ก้อนใหญ่แก่วัดเพื่อ
	ซ่อมแซมปฏิสังขรณ์วัด โดยเอาทองคำตั้งบูชาไว้บนแท่นพระเป็นเวลาสามวัน เพื่อแสดงความศรัทธาซึ่งก็รู้กันทั้งวัด 
	วันต่อมาผมเกิดความโลภถือโอกาสตอนดึกขโมยทองคำทั้งหมดหนีลงจากเขาไม่อยู่ในวัดอีกต่อไป เนื่องจากผม
	คิดไม่ซื่อตรง อีกทั้งขโมยเงินทองของสงฆ์ไปเล่นการพนัน ซึ่งก็เล่นแพ้จนเกลี้ยง ตอนอายุ 28 ปีผมจึงถูกพวก
	อันธพาลคนคุมบ่อนที่เห็นว่าผมไม่มีเงินเล่นแล้ว  อีกทั้งค้างหนี้ไม่มีจ่ายจึงรุมตีผมจนตาย ทั้งหมดนี้เป็นความผิด
	ของผมและเป็นกรรมตามสนอง
		ยมฑูตจับผมไปที่นรกรับโทษทัณฑ์ขุมแล้วขุมเล่า   รวมเป็นเวลา 300 ปี เสร็จแล้วท่านยมบาลก็ตัดสิน
	ให้ผมไปเกิดเป็นแมวป่า30 ชาติ ในชาติที่ 30 อันเป็นชาติสุดท้าย ตอนนั้นเป็นปีแรกของศักราชหมิงกั๋วมีชาวนา
	คนหนึ่ง ทุกวันที่ 1 และวันที่ 15 จะเอาของไปเซ่นไหว้ที่ศาลเจ้าแป๊ะกง ในระหว่างเซ่นไหว้ทุกครั้ง เขามักจะไปตรวจ
	นาข้าวเสมอ  ตอนนั้นผมเป็นแมวป่าชาติสุดท้าย ผมเห็นบนโต๊ะบูชามีเครื่องเซ่น จึงกระโดดขึ้นบนโต๊ะแล้วคาบเครื่อง
	เซ่นหนีไป ครั้นชาวนากลับมาเห็นที่โต๊ะบูชาไม่มีเครื่องเซ่นแล้ว เข้าใจว่าแป๊ะกงศักดิ์สิทธิ์ก็ดีใจมาก ดังนั้นในวันที่ 2 
	และวันที่ 16 จึงมาเซ่นไหว้เพิ่มอีก ซึ่งผมก็คาบเครื่องเซ่นหนีไปทุกครั้ง  เมื่อบ่อยครั้งเข้าชาวนาก็เริ่มสงสัยว่าแป๊ะกง
	ศักดิ์สิทธิ์จริงหรือไม่?  จึงในวันที่ 15  ครั้งหนึ่งชาวนาก็เตรียมเครื่องเซ่นไปเซ่นไหว้อีก  ครั้งนี้เขาแอบอยู่หลังต้นไม้
	เพื่อดูให้ชัดว่าแท้จริงใครกินกันแน่ ทุกครั้งผมจะออกจากป่ามาขโมยเครื่องเซ่นตรงเวลา แต่ครั้งนี้ไม่ทรายเลยว่าเขา
	แอบอยู่หลังต้นไม้คอยดูอยู่ ขณะที่ผมขึ้นไปบนโต๊ะบูชาเพื่อเตรียมคาบเครื่องเซ่น  ชาวนาเห็นดังนั้นก็กระโดดออกมา
	ด้วยความโมโหพร้อมกับเอาจอบที่ถืออยู่สับลงมาที่คอผมจนหัวขาดกระเด็น  ความจริงผมเหลือเวลาอีกเพียงสามปี
	ก็จะหมดกรรมได้ไปเกิดเป็นคนแล้วแม้ว่าอาจจะเกิดเป็นคนยากจนต่ำต้อยก็ยังถือว่าได้เกิดเป็นคน (มีโอกาสบำเพ็ญธรรม)  
	เมื่อชาวนามาจบชีวิตผมก่อนกำหนดสามปีเป็นการทำลายการบำเพ็ญเพียรของผม ทำให้ผมแค้นมากจนเกิดเป็นเวร
	กรรมต่อกัน เมื่อไปถึงยมโลก เนื่องจากผมมีความแค้นต่อชาวนา ทำให้เพิ่มความทุกข์แก่ผมทำให้ผมตอนนี้ไปเกิดเป็นคน
	ยากยิ่งขึ้น เนื่องจากผมยังมีความพยาบาทอยู่
		อาจารย์ถ่ายทอดธรรมโปรดช่วยบอกชาวโลกว่า อย่าดูแคลนสัตว์ตัวเล็ก ๆ  ก็เพราะครั้งเป็นมนุษย์ประพฤติ
	ชั่วจึงต้องเกิดเป็นสัตว์การเกิดเป็นสัตว์ทุกข์ทรมานมาก วิญญาณบาปต้องอาศัยร่างของสัตว์มาชดใช้กรรม ขอให้ชาว
	โลกมีจิตเมตตาช่วยเหลือกัน อย่าได้คิดร้ายต่อกันสรรพสัตว์ล้วนแต่จุติจากสวรรค์ แต่เพราะถูกความหลงครอบงำถึง
	ได้เกิดเป็นสัตว์ ขอให้ชาวโลกโดยเฉพาะผู้บำเพ็ญธรรมต้องหมั่นปลดปล่อยสัตว์ต้องสร้างกุศลช่วยงานธรรม จะได้หลุด
	พ้นจากเวียนว่ายตายเกิดโดยเร็ววัน ขอบคุณ.


				ข้อมูลจาก http://www.oocities.org/lokrenlap/


กลับหน้าหลัก<<<