ลบหลู่หนังสือธรรมะ



              		   ฉันไม่สามารถฉิวเต้า (รับวิถีธรรม) ฉันคือวิญญาณบาปจากขุมนรก ชื่อชุนเจียวแซ่สี
 	อายุ 58 ปี เป็นชาวไทเป   วันนี้ได้รับคำสั่งจากท่านพระโพธิสัตว์ให้ตามเจ้าหน้าที่ยมโลกมาสถานธรรม
	แห่งนี้เพื่อเล่าถึงประวัติความเป็นมา..สมัยเป็นมนุษย์ตอนอายุได้ 17 ปี  พ่อแม่ให้แต่งกับคนตระกูลหลู
	ต่อมาฉันมีลูกถึงแปดคนซึ่งเป็นภาระที่หนักมาก   เนื่องจากครอบครัวยากจน จึงต้องทำขนมเผือกขนม
	มันไปเร่ขาย  เพื่อหารายได้มาเลี้ยงครอบครัวกระดาษฟางที่ฉันใช้ห่อขนม  ลูกค้าติว่าหยาบมีกลิ่นไม่ถูก
 	สุขอนามัย
		ต่อมาฉันเห็นที่วัดมีหนังสือธรรมะคัมภีร์ต่าง ๆ จำนวนมากวางกองไว้ไม่ค่อยมีใครสนใจอ่าน 
	ฉันจึงขนทั้งหมดไปที่บ้าน บ้างก็วางไว้บนถาดขนม เวลาขายของใช้สองแผ่นห่อขนมหนึ่งชิ้น โดยฉีก
	หนังสือธรรมะออกเป็นแผ่น ๆ ไว้ก่อน เพื่อสะดวกในเวลาใช้ บางครั้งลูกขี้ฉันก็เอาหนังสือธรรมะนี้ไปเช็ด
	ก้นเลยทำให้ลูกทุกคนต่างก็ไม่รู้หนังสือและทำให้ตัวฉันเองต้องลำบากยากจน
		ตอนฉันอายุ 45 ตาทั้งสองข้างเริ่มมองไม่ชัด แล้วต่อมาก็บอดสนิท ตลอดชีวิตเอาหนังสือ
	พระธรรมคัมภีร์ที่คนอื่นร่วมบริจาคทรัพย์มาพิมพ์ด้วยความยากลำบาก  นำมาใช้ส่วนตัว ทำลายอักขระ
	พระโอวาทที่นักปราชญ์ศาสดาสร้างขึ้นมา  พระธรรมคัมภีร์นั้นล้วนแต่เป็นโอวาทของเหล่าพุทธะ พระโพธิสัตว์
	และผู้อาวุโสในอดีตเขียนไว้ เพื่อใช้ในการเตือนสติเนี่ยวรั้งจิตใจผู้คน แต่ฉันกลับนำไปใช้เป็นประโยชน์ส่วน
	ตัวไปขอที่วัด เมื่อทางวัดถามว่าโยมเอาหนังสือนี้ไปทำอะไร ? ฉันก็ตอบว่า จะเอาไปช่วยแจกให้คนอ่านไม่กล้า
	บอกว่าจะนำไปใช้ห่อของ เพียงชั่วเวลาสั้น ๆ ไม่กี่สิบปีได้สร้างบาปอันใหญ่หลวงนี้ นอกจากทำให้ลูกหลาน
	ไม่รู้หนังสือแล้วยังเป็นการตัดรากเหง้าแห่งปัญญาของพวกเขาอีกด้วย และทำให้ตาฉันมองอะไรไม่เห็น
	การเอาหนังสือไปเช็ดก้นให้ลูกและเช็ดของสกปรกไม่รู้จักถนอมหนังสือ เป็นการลบหลู่พระโอวาทคำสั่งสอน
	ของนักปราชญ์ศาสดาความผิดอันนี้เบื้องบนได้บันทึกไว้อย่างชัดเจน
		ตอนอายุ 58 ปี ฉันก็ตาบอดและตับบวม ต่อมาก็ตายจากโลกมนุษย์ เมื่อวิญญาณไปถึงยมโลก
	ต้องถูกลงโทษทัณฑ์ชนิดต่าง ๆ ตามกรรมที่ได้ทำไว้ ปัจจุบันก็ยังอยู่ในขุมนรกที่เจ็กโลกมนุษย์มีคนจำนวน
	มากที่ไม่รู้จักรักถนอมหนังสือ เอาหนังสือธรรมะทิ้งไว้ที่พื้นให้คนเหยียบย่ำเป็นการทำลายและลบหลู่พระธรรม
	คำสอนของพระศาสดาซึ่งเป็นการสร้างบาปกรรมอย่างร้ายแรง ฉันได้สะสมบาปกรรมไว้มากด้วยสภาพแวด
	ล้อมครอบครัวบีบคั้นเพื่อเป็นการประหยัดจึงใช้หนังสือธรรมะ ห่อขนมให้ลูกค้า ทั้งเอาไปเช็ดขี้และเช็ดของ
	สกปรกจนส่งผล ให้ลูก ๆ ไม่เจริญและตัวเองต้องตาบอด ขอให้อาจารย์ถ่ายทอดธรรมช่วยบอกชาวโลกว่า
	การสร้างหนังสือธรรมะเป็นมหากุศลแต่ถ้าทำลายหนังสือธรรมะก็มีโทษมหันต์เช่นกันขอให้ท่านช่วยเตือนชาว
	โลกเรื่องนี้ด้วย (อาจารย์ถ่ายทอดธรรมถาม : คุณยังต้องอยู่ในนรกรับโทษทัณฑ์อีกนานเท่าไร) ฉันยังต้องถูก
	ขังอีก 30 ปี นอกจากฉันได้ทำลายหนังสือธรรมแล้วความผิดที่ไม่อาจอภัยยิ่งกว่าก็คือเอาหนังสือธรรมะไปเช็ด
 	ของสกปรกโสโครก   หนังสือที่ไม่ใช้แล้วก็ทิ้งไว้ตามพื้นปล่อยให้คนเหยียบย่ำ  ทั้งโกหกหลอกลวงทางวัดและ
	เทพเทวดาเบื้องบนโดยเอาหนังสือธรรมะไปห่อของ
		อ้อ มีอีกข้อหนึ่ง หนังสือธรรมะที่ตนเองไม่อ่านแล้ว ต้องแจกต่อให้คนอื่นได้อ่านไม่ใช่ว่าตนเอง
	ไม่ใช้แล้ว ก็กองไว้เป็นภูเขาทำให้คนอื่นหมดโอกาสได้อ่าน  อาจารย์ (ถ่ายทอดธรรม) ฉันก็ได้เล่าความผิดบาป
	ของตัวเองจนหมดแล้ว ขอให้ท่านช่วยบอกชาวโลกด้วย โทษของฉันถึงจะได้ลดหย่อนลงบ้าง จะได้หลุดพ้น
	จากความทุกข์ในขุมนรกโดยเร็ววัน  ฉันไม่อยากเกิดเป็นคนอีกแล้วโลกแห่งมายาทำให้คนหลงไหลอาลัยด้วย
	พระมหากรุณาของฟ้าเบื้องบน  ยุคนี้มหาอนุตตรธรรมถ่ายทอดไปทั่ว  สรรพสัตว์จึงมีโอกาสหลุดพ้นกลับสู่
	ต้นกำเนิดเดิม กราบลาองค์มารดากราบลาเทพพุทธะทุกองค์ กราบลาท่านอาวุโส อาจารย์ถ่ายทอดธรรมและ
	ญาติธรรมทุกท่าน.


				ข้อมูลจาก http://www.oocities.org/lokrenlap/


กลับหน้าหลัก<<<