ตำนานผีปอบ 2



              		  ผู้ที่ถูกผีปอบเข้าสิงหรือที่ชาวอีสานเรียกว่า   "ปอบเข้า"    จะมีอาการแตกต่างกันไปบางคน
	แสดงกิริยาอาการ  ดุร้ายบางคนจะนอนซมซึมคล้ายกับป่วยไข้อย่างหนัก    บางคนจะร่ำไห้รำพันไปต่างๆ  
	นานาแต่ไม่ว่าจะมีทีท่า  อาการอย่างไร   ผู้ที่ถูกปอบเข้าสิงจะเรียกร้องให้นำอาหารสุก ๆ  ดิบ ๆ  พวกหมู 
	ตับ  ไก่ต้มมากิน  เหมือน ๆ  กับเวลา  กินก็แสดงความตะกละมูมมามและกินได้จุผิดปกติเมื่อญาติพี่น้อง
	รู้ว่าคนป่วยถูกปอบเข้าสิง เขาก็จะไปตามหมอผีให้มาไล่ปอบ     การไล่ปอบให้ออกจากร่างมีหลายวิธีตาม
	แนวทางที่หมอผีได้ร่ำเรียนมาบางคนจะเอาพริกแห้งมาเผา ให้ควันรม คนป่วยจนสำลักควันน้ำตาไหลพราก
  
		ครั้นปอบออกจากร่าง      แล้วหมอผีจะข่มขู่สอบถามว่าผีปอบเป็นใครมาจากไหน         เมื่อ
	ปอบรับสารภาพหมอผีก็   จะปล่อยไป  คนป่วยได้สติหายเป็นปกตินัยน์ตาที่แดงก่ำเนื่องจากถูกควันพริก
	เผารม  จะหายไปทันทีแต่เจ้าของปอบกลับมีอาการนัยน์ตาแดงก่ำด้วย สายเลือดจนต้องหลบหน้าอยู่แต่ใน
	ห้องไม่กล้าให้ใครพบหน้า  อีกวิธีหนึ่ง   คือใช้หวายเฆี่ยนไล่ปอบซึ่งก็เท่ากับเฆี่ยนคนป่วยนั่นแหละ      หาก
	ปอบกล้าแข็งหมอผีจะเฆี่ยนหนักๆ     กระทั่งเนื้อตัวคนที่ถูกปอบเข้าสิงเขียวช้ำด้วยรอยหวาย เมื่อปอบยอม
	แพ้ออกจากร่างไปรอยหวายก็จะจางหายไปทันที  แต่วิธีไล่ปอบแบบนี้เคยเป็นข่าวมาแล้ว

		เนื่องจากผู้ป่วยไม่ได้ถูกปอบเข้าสิง    หากป่วยเป็นโรคประสาท  ญาติคิดว่าปอบเข้าจึงไปตาม
	หมอผีมาไล่  หมอผีจัดการเฆี่ยนคนป่วย  ด้วยหวายได้รับบาดเจ็บบอบช้ำจนหลายครั้งหลายหน  โดยคิดว่า
	ปอบฮึดสู้ไม่ยอม แพ้ในที่สุด  คนป่วยก็เสียชีวิต  ร้อนถึงตำรวจต้องมาจัดการกับหมอผีและญาติตามกฎหมาย

		อีกวิธีหนึ่ง  หมอผีจะนำสัตว์น่าเกลียดน่ากลัวบางชนิดมาข่มขู่ให้ปอบกลัว   เช่น  คางคก  ตุ๊กแก 
	งู ในกรณีนี้  คนที่ถูกปอบเข้าสิงมักเป็นผู้หญิงหรือตัวปอบเป็นหญิง แม้จะเป็นผีปอบ ( เธอ ) ก็ยังขยาด
	แขยงสัตว์ประเภทนี้และ มักจะยอมออกจากร่างที่เข้าสิงง่าย ๆ 



				ข้อมูลจาก http://www.oocities.org/lokrenlap/


กลับหน้าหลัก<<<