เรื่อง ......... (จำไม่ได้แล้ว)
....ย้อนหลังไปราวหกสิบปี แม่ผู้เขียนอายุประมาณสิบขวบ อยู่ในหมู่บ้านชนบทในจังหวัดสุโขทัยอันเป็นบ้านเกิด ตาของ ผู้เขียนมีที่นาจำนวนมากและมีความคิดจะบุกเบิกหาที่ดินในที่ดอนสักแปลงหนึ่ง สำหรับปลูกกล้วย เพราะแม่ผู้เขียนซึ่งเป็นลูกสาว คนเดียวชอบกินกล้วยทอดมาก ตลาดร้านรวงในสมัยนั้นไม่มีให้ซื้อหา ใครอยากกินอะไรก็ต้องทำเอาเองทั้งสิ้น ในที่สุดตา ก็หาที่ดินได้ในทำเลที่พอใจ อยู่ห่างจากหมู่บ้านราวสามกิโลเมตร ที่ดินตรงนั้นเป็นที่ดอนและเคยเป็นวัดร้างมาก่อน แต่ด้วยใจบริสุทธิ์ ตาไม่คิดจะขุดหากรุสมบัติเหมือนที่หลายคนเข้าใจ ตาถากถางจนป่าโล่งเตียนราวสองไร่เศษ ส่วนต้นโพธิ์ กับแนวกอไผ่ด้านหนึ่งนั้นเว้นไว้ไม่ตัดโค่น ผู้เขียนจำสวนกล้วยแห่งนี้ได้ดี เพราะตามแม่ไปตัดกล้วยบ่อย ๆ หน้าน้ำไปทางเรือ ผ่านทุ่งนาที่เลียบหมู่บ้าน นาแปลงแคบ ๆ แต่ยาวสุดสายตา เรียกกันว่านาแถวเดียว .....แม่บอกว่าในอดีตเป็นแม่น้ำเก่าไหลมาจากตอนเหนือของอำเภอทุ่งเสลี่ยม เมื่อเวลาผ่านไปนับร้อยปี แม่น้ำตื้นเขินจนกลายเป็นผืนนา เมื่อพายเรือมาถึงสวนกล้วย ท่าขึ้นจะอยู่บริเวณต้นโพธิ์ มีลักษณะเป็นโค้งหักศอก น้ำแทงคุ้งหลายชั่วอายุคนมาแล้ว คุ้งน้ำนี้เคยมีเรือสำเภามาล่ม มีคนพบเสากระโดงเรือในสมัยที่ตายังเล็ก ๆ ทำให้ร่ำลือกันไปว่ามีโซ่ทองคำจมลงไปกับเรือ ทั้งเรื่องสวยกล้วยที่เคยเป็นวัดร้างมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย กับเรื่องเรือสำเภาล่มเล่ากันปากต่อปาก เป็นแรงกระตุ้นให้นักแสวงโชคแอบลักลอบเข้ามาในสวนกล้วยเสมอ ขุดหลุมลึกนับสิบเมตรเพื่อหาสมบัติจนสวนกล้วยปรุพรุนเป็นหลุมเป็นบ่อ สิ่งที่ได้มีแต่ก้อนศิลาแลงขนาดใหญ่มากมายทิ้งอยู่กลาดเกลื่อน ไม่ปรากฏว่ามีใครได้ของมีค่าไป .....เวลาผ่านไป มีคนประสบกับเรื่องแปลก ๆ ในสวนกล้วย มาเล่าให้ฟังเสมอ เรื่องที่ผู้เขียนจำได้แม่นมีอยู่ 2 เรื่อง คือ ยายเผื่อนเคยนำวัวมาเลี้ยงในทุ่งข้างสวนกล้วย แล้วตอนพักกลางวันก็เข้ามางีบหลับที่กระท่อมในส่วนของตา ยายเผื่อนหลับ ไปแล้วฝันกึ่งรู้สึกตัวนิด ๆ ว่า นาแถวเดียวกลายเป็นแม่น้ำเวิ้งว้าง มีเรือสำเภาแล่นตัดคลื่นมาดึก ๆ ดูน่ากลัวในฝันยายเผื่อน เรื่องวัดร้างสำเภาล่มๆ1 พยายามจะโบกมือขอโดยสารไปด้วย เมื่อว่ายเข้าไปใกล้ก็ถูกคนบนเรือผลักออกมา เป็นเช่นนี้อยู่สองสามครั้ง จนสะดุ้งตื่น บางทีวิญญาณที่จมอยู่กับเรือสำเภาอาจต้องการให้ใครสักคนรับรู้เพื่อจะได้อุทิศส่วนกุศลไปให้ .....อีกเรื่องหนึ่งคือมีเด็กสาววัยสิบหกสิบเจ็ดคนหนึ่งชื่อลิน บ้านอยู่ไม่ห่างจากส่วนกล้วยนัก ฝันว่ามีหญิงชรามาบอกว่า "ไปขุดเอาเถิด กูจะให้สักหน่อย" ในฝัน หญิงชรายังบอกอีกว่าให้ลิน เอากาบกล้วยมาทำเป็นเรือ ใส่ข้าวปากหม้อลงไปสามคำพร้อมด้วยดอกไม้สามสี แล้วให้ไปขอน้ำมนต์จากหมอกลางบ้านมารดศรีษะ ถ้าหมอถามก็บอกว่าเอาไปให้น้องที่เป็นหวัด ถ้ากลัวก็ให้เอาน้องไปเป็นเพื่อน หญิงในฝันยังบอกอีกว่า ถ้าพบยายพึงละก้อให้บอกว่าไปขุดปูป่าก็แล้วกัน ลินทำตามคำแนะนำของหญิงชราในฝันทุกประการ เมื่อได้น้ำมนต์มาประพรมทั้งตัวเองและน้องแล้ว พอตะวันตกดินก็ถือเรือกาบกล้วยบรรจุเครื่องเซ่นมุ่งหน้าเข้าไปในสวนกล้วย ใกล้จะถึงสวนลินก็พบกับยายพึง เพื่อนบ้านแถวนั้นจริง ๆ เมื่อลินบอกว่าไปขุดปูป่า ยายพึงก็ไม่เชื่อ แต่ผิดสังเกตที่เห็นกระทงเครื่องเซ่น จึงตามไปห่าง ๆ ลินไม่ได้แก้วแหวนเงินทองแม้แต่ชิ้นเดียว ลินโทษยายพึงนั่นแหละทำให้ย่าโสมไม่ยอมให้ของมีค่า .....แม้จนปัจจุบันก็ไม่เคย มีใครขุดสมบัติในสวนกล้วยไปได้ หรืออาจจะได้แต่ผู้เขียนไม่ทราบก็เป็นไปได้//