เรื่อง ผียุคสงคราม
.....ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 สถานีรถไฟแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี มีทหารญี่ปุ่นอยู่บริเวณนั้นมากมาย สถานที่แห่งนี้เป็นจุดที่ถูกทิ้งระเบิดอยู่เสมอ ดังนั้น จึงมีทหารญี่ปุ่นและชาวบ้านในบริเวณนั้นล้มตายเป็นจำนวนมากมาย เวลาผ่านไปหลายสิบปี มีคนพบเจอบริเวณทางรถไฟบ่อยครั้ง แล้ววันหนึ่ง วัยรุ่นกลุ่มนี้ได้พบกับประสบการณ์ที่สยดสยอง วัยรุ่นกลุ่มนี้ตั้งวงกินเหล้ากัน บริเวณริมทางรถไฟ ใต้ต้นไทรต้นหนึ่ง ซึ่งในบริเวณนี้เป็นจุดที่มีคนพบเห็นผีอยู่บ่อยๆ ปุ้ม ชายหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มนี้ พูดท้าทายวิญญาณอยู่ตลอดเวลา ราวกับเขาไม่กลัวผีสางเทวดาอะไรทั้งนั้น ยิ่งดึกมากขึ้นเท่าไร เขายิ่งเมามากขึ้น และยิ่งพูดท้าทายหนักข้อไปอีก เพื่อนๆ ก็คอยห้ามปรามไว้และชักชวนกันหกลับก็ไม่สำเร็จ ขณะที่เวลาล่วงเข้าสู่วันใหม่ เป็นเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าแล้วนั้น ปุ้มได้ขอตัวไปปลดทุกข์ก่อน กลุ่มเพื่อนๆ ก็ยังคงดื่มเหล้ากันอยู่ และร้องเพลงเสียงดังมาก .....ปุ้มหายไปนานมาก เพื่อนๆ เริ่มผิดสังเกต จึงช่วยกันมองหา เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มมองเห็นปุ้มเดิมเข้าหารางรถไฟ ทั้งๆที่รถไฟกำลังวิ่งตรงมา เพื่อนๆรีบวิ่งไปช่วยปุ้ม กลับมาได้ เมื่อรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว ทุกคนก็ยิ่งแปลกใจ เมื่อปุ้มเอาศีรษะตัวเองโขกกับรางรถไฟอย่างแรงและหลายครั้ง เพื่อนๆ จึงช่วยกันดึงออกมา พอเห็นใบหน้าของปุ้มเท่านั้น เพื่อนๆ ก็รู้ทันทีว่าปุ้มต้องถูกผีเข้าแน่นอน เพื่อนคนหนึ่งที่สวมสร้อยแขวนพระอยู่ รีบถอนสร้อยออกไปคล้องคอของปุ้ม ......ทันใดนั้น ปุ้มก็ส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัด นั้นอาจจะเป็นเสียงของผีร้ายที่สิงอยู่ในร่างของปุ้ม ก็เป็นได้ เพื่อนๆ ช่วยกันแบกร่างของปุ้ม ไปที่ห้องของเพื่อนคนหนึ่ง และช่วยกันทำแผล เมื่อปุ้ยพื้นขึ้นมาก็เล่าเหตุการณ์ตอนไปปลดทุกข์ว่า ตนนั้นกล่าววาจาท้าทายผีอยู่ตลอดเวลา ด้วยความคะนองปาก ในที่สุด ก็มีร่างๆ หนึ่งปรากฏขึ้นแล้วถูกผีตาคนนั้นหลอกเอา จากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย