Jiro Personal Long Interview Part 1

Qiz - เมื่อไหร่กันคะที่คุณเริ่มสนใจดนตรี
Jiro - ตอน ม.2 ครับ ในตอนนั้นผมไม่ได้สนใจดนตรีเลย จนเพื่อนของผมอัดเพลงของ kome kom club มาให้ฟัง นั่นนับเป็นครั้งแรกในการฟังดนตรี แนว ร็อคแอนด์โรล เลยล่ะครับ แต่จะว่าไปมันจะเป็นแนว pop ซะมากกว่า ที่ผมสนใจดนตรีตอนนั้นอาจจะเป็นเพราะว่าจะได้มีเรื่องพูดคุยกันในกลุ่มเพื่อนซะมากกว่านะ (หัวเราะ)
Qiz - แต่ในช่วงหลัง ๆ ก็ไม่จำเป็นอีกเลยใช่ไหมคะ
Jiro - ครับ
Qiz - ถ้าอย่างนั้น ในช่วงที่เป็นวัยรุ่น คุณใช้ชีวิตยังไงล่ะคะ
Jiro - พ่อของผมเข้มงวดมากเลย เขาไม่ยอมให้ผมกลับบ้านดึก ผมคิดว่า ผมแทบจะไม่ได้รู้จักโลกภายนอกเลยนะ ผมเป็นเด็กดีนะไม่เคยขัดใจพ่อเลย จนกระทั่ง ครั้งที่ผมเข้ามา tokyo นี่ล่ะครับ
Qiz - เมื่อคุณกลับไป Hokkaido แล้วสิ่งต่าง ๆ รอบตัวคุณเป็นยังไงบ้างล่ะ
Jiro - ผมไม่ชอบมันนะ ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันที่บางครั้ง ผมอยากที่จะเป็นอิสระจากพ่อแม่ และบ่อยครั้งที่ผมทำอะไรตามใจตัวเอง ผมมักที่จะหาเหตุผลที่จะออกจากบ้านอยู่เสมอ
Qiz - แล้วคุณทำอะไรบ้างล่ะเวลาอยู่ที่บ้าน
Jiro - ใช่แล้ว มีครั้งหนึ่งผมอยู่ประมาณ ม.5-ม.6 เนี่ยแหละ ผมกลับบ้านประมาณ 5 โมงเย็น พอดีวันนั้นพ่อกลับบ้านมาช้ามากเลย เชื่อไหมว่าผมต้องรอกินข้าวเย็นกับพ่อจนดึกเลยล่ะ ผมต้องใช้ความอดทนมากทีเดียว ก็มันหิวนี่นา
Qiz - ร.ร.,เพื่อน ,บ้าน คุณใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ไหนมากกว่ากัน แล้วคุณใช้เวลาส่วนใหญ่ทำอะไรที่บ้าน
Jiro - แหม มันก็มีหลาย ๆ เรื่องเหมือนกันนะ (จิโร่กำลังพูดถึงเวลาอยู่บ้านน่ะคะ) แต่ก่อนผมไม่ได้เรียบร้อยอย่างตอนนี้หรอกนะ อย่างเช่นเรื่องโทรศัพท์นะ เวลาโทรศัพท์มาถึงผมเนี่ย ห้องผมอยู่ชั้น 2 ใช่ม้า ผมก็จะต้องวิ่งลงมารับโทรศัพท์ข้างล่าง ก็เลยอยากจะมีโทรศัพท์อยู่ในห้องของตัวเอง พ่อก็จะบอกว่า นายไม่ได้เรียนเรื่องไฟฟ้ามานายคงต่อสายโทรศัพท์ไปห้องนายเองไม่ได้หรอก (จะให้ต่อสายเอาเองว่างั้นเถอะ) ฉันว่า นายก็ลงมาคุยข้างล่างหรือไม่ก็นั่งเล่นนอนเล่นอยู่แถว ๆนี้ดีกว่ามั้ง
Qiz - เหตุผลที่ว่าไม่ได้เรียนไฟฟ้าเนี่ย แล้วทำให้อยากเรียนขึ้นมาหรือเปล่าล่ะ
Jiro - แหม มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ (หัวเราะ) หลังจากนั้นแม่ก็ว่า ผมว่า "ทำไมแกไม่รู้จักทำตัวให้น่ารักเวลาอยู่กับพ่อนะ"
Qiz - พ่อของคุณก็ไม่ได้บังคับให้คุณต้องเรียบร้อยนี่ แต่เขาก็ให้คุณอยู่ในกฎระเบียบเท่านั้นเอง
Jiro - ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน พ่อผมเขาอยากจะให้ลูกเดินไปตามทางที่เขาต้องการน่ะ เขาอยากให้ผมหัดชกมวย หรือไม่ก็ ยูโด แต่ผมไม่ทำหรอก ผมบอกพ่อว่า "ผมไม่เล่นหรอก เล่นไปก็เจ็บตัวเปล่า"
Qiz - แหม เป็นคำพูดที่ดีนะคะ (หัวเราะ)
Jiro - ใช่ (หัวเราะ) ผมคิดว่า พ่อผมคงอยากจะให้ทำอะไรที่มันแตกต่างจากที่เป็นอยู่น่ะ
Qiz - คุณคิดว่าพ่อของคุณคิดยังไงที่คุณเข้าสู่วงการเพลง Rock 'n roll น่ะ
Jiro - เขาไม่เห็นด้วยเลยที่ผมจะซื้อกีต้าร์ แต่ผลสุดท้ายเขาก็บอกว่า "ถ้าอยากได้ก็เก็บเงินไปซื้อเอาเองก็แล้วกัน" ผมก็เลยเริ่มหางานทำ หลังจากที่ผมเข้า Tokyo ผมก็ไม่เคยยืมเงินจากครอบครัวเลยสักครั้งเดียว หลังจากนั้นอีก 5 ปี Glay ก็ได้ออก Debut ผมคิดก็คิดว่าผมเป็นอิสระจากพ่อแม่เสียทีแล้ว ก็สามารถที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวเองได้
Qiz - และแล้ว rock'n roll ก็เข้ามาอยู่ในชีวิตของคุณ
Jiro - ใช่ครับจนถึงปัจจุบัน ผมฟังดนตรี มีเพื่อนซึ่งรักดนตรี rock แต่ถ้าจะพูดถึงวง rock แล้วมันเหมือนกับวงที่มีแต่ความรุนแรง พวกเขามีกีต้าร์ และครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสกีต้าร์ไฟฟ้า ผมรู้สึกได้เลยถึงพลังของมัน ผมคิดว่าถ้าผมเล่นกีต้าร์ได้ดีแล้วล่ะก็ ผมจะดังได้ไหมน๊า จนวันหนึ่ง ผมก็คิดที่จะซื้อมันสักอัน บวกกับที่ผมได้ดูวีดีโอ Rebecca in Shibuya วงนั้นมีมือกีต้าร์ ชื่อ Morio Koga ผมรู้สึกหลงใหลในตัวเขามากเลยจนผมอยู่ม.2 ในวันปีใหม่ ผมก็เอาเงินที่ได้รับจากปีใหม่กับเงินที่ผมทำงานได้ ไปซื้อกีต้าร์ได้ในที่สุด
Qiz - ตั้งแต่นั้น คุณก็เริ่มเล่นกีต้าร์เหรอ
Jiro - ใช่ครับ ในตอนแรก ผมก็ไม่รู้วิธีเล่นกีต้าร์ให้ถูกต้อง ผมอ่านโน้ตไม่เป็น จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมก็สามารถเล่นได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ดีเท่าไหร่
Qiz - การดำเนินชีวิต หรือสภาพแวดล้อมของคุณเปลี่ยนไปหรือเปล่าคะ หลังจากที่คุณมีกีต้าร์
Jiro - ก็ไม่หรอกครับ ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ตอนที่พ่อผมอารมณ์ไม่ดี ผมก็จะเชื่อฟังเขา แต่พอตอนเขาอารมณ์ดี ผมก็จะเอากีต้าร์มาเล่น
Qiz - แล้วคุณลองทำอะไรอย่างอื่นที่บ้านบ้างหรือเปล่า
Jiro - แน่นอน มันสำคัญมากเลยสำหรับผม ผมยังคงสนใจคิดเรื่องอื่น ๆ อยู่เสมอ ๆ แล้วส่วนมากความคิดของผมเนี่ยคนในครอบครัวไม่ค่อยจะเห็นด้วยเท่าไหร่ แหมผมก็ไม่อยากจะทำอะไรที่พวกเขาไม่ชอบหรอกนะ แต่ว่า…
Qiz - คุณเริ่มเล่นกีต้าร์ด้วยตัวของคุณเอง แล้วเมื่อไหร่กันล่ะที่เริ่มมีวงเป็นของตัวเอง
Jiro - ประมาณ ปี 3 นะ ที่ผมเริ่มเล่น live แต่มันค่อนข้างน่ากลัวนะ
Qiz - จำ live ครั้งแรกของคุณได้ไหมคะ
Jiro - มันจัดขึ้นที่ข้างบนร้านขายเครื่องดนตรี Yamaha ผมได้ไปซื้อเครื่องดนตรีที่ร้านนั้นบ่อย ๆ ก่อนที่ผมจะมีกีต้าร์ตอนนั้นสมาชิกของวง ไม่มีเครื่องดนตรีสักชิ้นเดียว แต่พวกเขาก็บอกว่า พวกเขาอยากเล่นดนตรี ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ก็ไปที่นั่นบ่อย ๆ เป็นลูกค้าประจำ จนผมก็ได้เครื่องดนตรีจนได้
Qiz - แหม แต่มันก็ดีไม่ใช่เหรอ
Jiro - ใช่ ผมพูดว่า "ผมขอซื้อกีต้าร์ตัวนี้ครับ" กับคนขาย แหม กว่าจะได้มันมานี่ยากลำบากจริง ๆ หลังจากที่ผมได้กีต้าร์มา ผมก็เริ่มชำนาญขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งพนักงานที่ร้านถามผมว่า จะแสดงดนตรีให้ดูหน่อยได้ไหม และแน่นอนนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมเริ่มแสดงดนตรีอย่างจริงจัง และแล้วการแสดงก็มีขึ้น ผมว่ามันไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ในตอนนั้นผมอยากที่จะก้าวไปสู่การเป็นมืออาชีพเร็ว ๆ แน่นอนมันเป็นไลฟ์ที่ดี แล้วพวกเราก็สนุกกันมาก แต่มันไม่ได้แตกต่างไปจากตอนซ้อมซักเท่าไหร่เลย
Qiz - ในตอนนั้น มีความคิดที่จะขยายวงให้ใหญ่ขึ้นงั้นเหรอคะ
Jiro - ผมคิดว่าผมเล่นได้ดีนะ แต่ความเป็นจริงเราก็ต้องพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้นด้วย ผมได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ผมจะต้องซ้อมเล่นกีต้าร์ที่บ้านทุกวัน
Qiz - แล้วคุณก็ขึ้นชั้น Highschool
Jiro - หลังจากที่ผมขึ้นชั้น Highschool วงของเราก็ยุบลง แต่ผมก็ยังคงเล่นกีต้าร์อยู่นะ ถึงวงในสมัย ม.ต้น ของผมจะยุบไปแล้ว ทำไมกันนะที่ผมยังคงจะเล่นกีต้าร์อยู่คนเดียว ในช่วงนั้นดนตรี Metal กำลังฮิตมาก ผมก็กำลังพยายามที่จะเรียนรู้แนวดนตรีแปลก ๆ ใหม่ ๆ แล้วก็ก๊อปปี้เสียงที่ได้ยิน ผมไม่มีสมุดเอาไว้เขียนโน้ตหรอกนะ แต่ผมมักจดจำเอา sound นั้น ๆ แล้วก็เล่นด้วยตัวเอง
Qiz - อย่างนั้นคุณก็เป็นมือกีต้าร์เดี่ยวมากกว่าอยู่เป็นกลุ่มซินะ
Jiro - ก็ใช่ แต่ว่าในระหว่างชั่วโมงเรียน พ่อแม่ผมเข้มงวดมากเลยนะ ตอนที่ผมกลับบ้านก่อนพ่อหรือตอนที่พ่อออกไปดื่มนะ เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดเลยล่ะ ก็ผมมักจะหนีพ่อออกไปเล่นเกมส์เสมอเลย แต่ก็ต้องคอยกังวลว่าเขาจะกลับมาเมื่อไหร่นะสิ
Qiz - ชีวิตโดยรวมของคุณ มักจะอยู่ในสายตาของคุณพ่อเสมอเลยเหรอ
Jiro - ใช่ ใช่ แต่ตอนที่ผมขึ้นปี 3 กฎต่าง ๆ ที่บ้านก็เริ่มน้อยลงแล้วนะ แต่พ่อก็มักจะจู้จี้ให้ผมท่องหนังสือในตอนกลางคืน แต่ดีนะที่แม่คอยห้ามพ่อไว้
Qiz - คุณก็มีคุณแม่คอยเข้าใจอยู่เสมอสินะ
Jiro - ครับ แม่รู้ว่าผมยังเด็กอยู่ ย่อมที่จะเบื่อพวกกฏแบบนี้ ตอนที่ผมบอกแม่ว่า "ผมจะไป Tokyo ครับ" แม่ก็บอกกับผมว่า อยากไปก็ไปเถอะ ถ้าอยู่ที่ Hokkaido ต่อไป แม่บอกว่าผมก็ต้องอยู่ในกฎแบบนี้ไปตลอดนั่นแหละ แล้วก็ถามผมว่าอยากจะไปทำอะไรที่ Tokyo ล่ะ แม่ต้องการพูดอะไรกับผมกันแน่นะ ตอนอยู่ ปี 1 และปี2 ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นกีต้าร์กับเพื่อน แต่ไม่ได้ดื่มนะ
Qiz - นั่นเป็นเพราะพ่อคุณบอกว่าอยู่ชั้น Highschool ห้ามดื่มหรือเปล่า
Jiro - ตั้งแต่เริ่มแรกมาแล้วล่ะ ที่ผมไม่ชอบที่จะดื่มเหล้า แล้วก็สูบบุหรี่ เพราะพ่อเข้มงวดเรื่องนี้มาก ผมรู้สึกเหมือนพ่ายแพ้ยังไงไม่รู้สิ คุณเข้าใจไหม ก็พ่อผมเคยพูดว่า "ถ้าแกจะสูบบุหรีนะ ก็อย่ามาให้ฉันเห็น แต่ถ้าแกจะดื่มเหล้านะ แกทำได้ แต่ต้องให้ฉันเห็นนะ" (งงจัง) แต่ผมก็ไม่ได้ทำอะไรอย่างนั้นเวลาลับหลังพ่อนะ ถึงเพื่อน ๆ ผมจะสูบบุหรี่ แต่ผมก็ไม่เคยทำนะ
Qiz - ปี 1 แล้วก็ ปี 2 มีเรื่องแค่นี้เองเหรอ
Jiro - ครับ ผมยังเล่นกีต้าร์อยู่ตลอดเวลา เมื่อผมขึ้นปี 2 ผมก็ได้เจอเพื่อนที่อยู่ม.ต้นด้วยกัน เขาบอกผมว่า "ฉันกำลังหามือกีต้าร์อยู่ นายสนใจจะมาเล่นกับเราไหมล่ะ" แล้วผมก็ตกลงเข้าวง วงนั้นมีเพลงเป็นของตัวเอง เราได้ออกทั้งหมด 3 gig แล้วยังเคยได้เล่นไลฟ์กับ Glay อีกด้วย
Qiz - คุณจำ Glay ในตอนนั้นได้ไหม
Jiro - ได้สิ ตอนผมอยู่ปี 2 พวกเขาอยู่ปี 3 Glay ดังมาก ๆ เลยล่ะ ผมค่อนข้างจะอิจฉาพวกเขานะ สมาชิกในวงคนอื่น ๆ ก็ชอบ Glay ด้วยล่ะ แต่ผมไม่ชอบเลย ผมเคยถามเขาด้วยนะว่า " Glay นี่มันมีความหมายว่ายังไงวะ"
Qiz - จากประสบการณ์เล่นไลฟ์ที่ผ่านมาทำให้คุณอยากเล่นอีกมาก ๆ เหรอ
Jiro - อืม มันน่าสนใจมากเลย ผมเล่นกีต้าร์อยู่ 2 ปีได้มั้ง และผมก็เล่นได้ดีด้วย แต่ก็ยังมีความคิดที่ว่าบางทีอาจจะมีอะไรที่ดีขึ้นกว่าตอนนี้ กีต้าร์ที่ผมเล่นเป็นการเล่นแบบ Heavy Metal ซึ่งต้องใช้เทคนิคในการเล่นสูง บางอย่างก็เลยใช้กีต้าร์เล่นไม่ได้ ในการเล่นครั้งแรกเราเรียกมันว่า "hayahiki" ซึ่งปกติคนทั่ว ๆ ไป เค้าจะเรียกกันว่า การเล่นครั้งแรกใช่ม้า แต่พอมาอยู่ Glay แล้วเราเรียกมันว่า "hayahiki"
Qiz - ทำไมต้อง hayahiki ล่ะ
Jiro - ผมคิดว่า Glay ดูเหมือน hayabiki มั้ง การเล่นครั้งแรกของเราในตอนนั้น รู้สึกว่าจะเล่นเพลงของผมด้วยนะ
Qiz - เพลงอะไรเหรอที่คุณแต่ง
Jiro - ผมก็จำไม่ค่อยได้เหมือนกันนะ รู้สึกว่าผมจะเป็นคนเขียนเนื้อร้อง
Qiz - คุณเขียนเนื้อร้องด้วยเหรอ ในตอนช่วงอัลบัม Beloved คุณเคยพูดไม่ใช่เหรอว่าอยากจะแต่งเพลงแบบไม่มีเนื้อร้อง
Jiro - ไม่ใช่นะ แหม ก็สมาชิกในวงแต่ละคนเก่ง ๆ ทั้งนั้นเลย ผมก็ต้องมีการพัฒนากับเค้าบ้างสิ และแล้วทุกคนก็ได้เห็นถึงความสามารถของผม แล้วผมก็ลองเริ่มเขียนเนื้อเพลงตั้งแต่นั้นมา ซึ่งสมาชิกในวงก็เห็นดีด้วย
Qiz - มีอะไรที่คุณอยากจะพูดหรือร้องเป็นพิเศษในเพลงหรือเปล่า
Jiro - ไม่มีนี่ครับ
Qiz - งั้นเวลาคุณแต่งคุณนึกถึงอะไรล่ะ
Jiro - ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษนะ ผมเขียนไปตามอารมณ์ อารมณ์ล้วน ๆ เลย
Qiz - คุณอยากจะสื่ออะไรให้คนในวงคนอื่นผ่านเพลงของคุณใช่หรือเปล่าคะ
Jiro - ใช่เลย ก่อนที่ผมจะทำอะไรเนี่ยนะ ผมอยากที่จะให้สมาชิกในวงเข้าใจผมก่อนเลย ยังไงดีล่ะก็อย่างคนดูเนี่ยก็มักจะเข้าใจว่าอุปนิสัยของผมเหมือนกับเพลง Shutter Speeds ใช่ไหมล่ะ แต่จริง ๆ แล้วผมอยากจะสื่อให้ทุกคนได้รู้ว่า จริง ๆ แล้วตัวผมเนี่ยมันมีอะไรมากกว่านั้น นี่ต่างหากแหละครับเหตุผลที่ผมแต่งเพลงออกมาสักเพลงนึง
Qiz - แล้วพวกเขาว่ายังไงกันบ้างล่ะตอนที่ฟังเพลงของคุณ
Jiro - อืมรู้สึกว่า Takuro เขาจะ happy มาก ๆ เลยนะ เขาบอกว่า โอ้โห มันดีมากเลยนะ เนี่ย แหมผมก็รู้สึกดีใจด้วยที่เห็นเขาตื่นเต้นขนาดนั้น