การเลี้ยงดูแมว

ในการเลี้ยงดูแมวให้มีสุขภาพดีและแข็งแรง ผู้เลี้ยงจึงควรที่จะมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้ เพื่อแมวที่คุณรักจะได้อยู่กับคุณไปได้นาน ๆ

ที่อยู่อาศัย
ที่นอน

แมวใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในการนอนประมาณ 75% แมวมักชอบที่นอนที่อุ่นกำลังดี มีแสงสว่างเพียงพอ ชอบที่จะย้ายที่นอนอยู่เสมอ และที่นอนของแมวไม่จำเป็นต้องเป็นที่นอนที่นุ่มเสมอไป แมวอาจจะนอนกับชั้นวางของ หนังตู้ หรือกับผ้าเช็ดเท้า ส่วนในเวลากลางคืน แมวชอบนอนบนที่นอนกับเจ้าของ ชอบที่จะคลุกคลีกับเจ้าของ และเวลาที่แมวตื่นในตอนเช้า มักจะปลุกให้เจ้าของตื่นด้วย
เมื่อจะต้องค้างคืนนอกบ้านและต้องเอาแมวไปด้วย ควรที่จะเตรียมที่นอนที่แมวเคยนอนไปด้วย เพราะแมวจะมีความรู้สึกปลอดภัยเหมือนอยู่กับบ้าน และที่สำคัญต้องทำความสะอาดที่นอนของแมวอยู่เสมอ เพื่อป้องกันหมัดที่อยู่กับที่นอน
การเลี้ยงนอกบ้าน
อาจเพราะมีแมวที่เลี้ยงไว้จำนวนมาก สถานที่เลี้ยงนอกบ้านก็ควรที่จะสร้างเป็นกรงหรือโรงเรือนสำหรับแมว ควรทำกรงให้มีความกว้างพอเหมาะกับจำนวนแมว ขนาด 10 ถึง 15 ตารางฟุต : ตัว ถือว่าเหมาะสม เป็นกรงที่มีหลังคากันแดดกันฝน พื้นกรงควรยกสูงจากพื้นประมาณ 1 ฟุต ควรมีกระสอบคลุมกรงเวลากลางคืนเพื่อทำให้แมวอบอุ่นขึ้น และอาจจะใช้มุ้งลวดคลุมกรงด้วยในที่มียุงและแมลงรบกวน
อุปกรณ์ที่จำเป็นในกรง ก็คือ ชามใส่น้ำ ชามใส่อาหาร กระบะทราบสำหรับขับถ่ายของแมว (ไม่ควรใช้วัสดุที่ทำด้วยโลหะ เพราะอาจจะผุกร่อนได้)

การอาบน้ำ
     ตามธรรมชาติแล้วแมวเป็นสัตว์ที่รักสะอาด ชอบทำความสะอาดตัวเองโดยการเลียขนเป็นประจำ แต่บางครั้งก็มีพวกเห็บ หมัด อาศัยอยู่ตามตัว กับสิ่งสกปรกต่าง ๆ เช่น เศษดิน ฝุ่นละอองต่าง ๆ ติดอยู่ตามขน ซอกเล็บ ก็สมควรที่จะอาบน้ำทำความสะอาด ข้อสำคัญคือ เลือกเวลาอาบน้ำให้เหมาะสม เช่น เวลาที่มีแสงแดดอ่อน ๆ ให้แมวสามารถที่จะพึ่งตัวให้แห้งได้
สิ่งที่ต้องเตรียมในการอาบน้ำแมว
1. อ่างอาบน้ำหรือกะละมัง
2. สบู่หรือแชมพูอาบน้ำแมว
3. สำลีสำหรับอุดหูแมวเพื่อป้องกันน้ำเข้าหู
4. ผ้าเช็ดตัวแมว
     ควรเลือกใช้สบู่หรือแชมพูสำหรับแมวโดยเฉพาะ เพราะจะมีส่วนผสมที่ไม่เป็นอันตรายต่อแมว เพราะแมวชอบเลียขน อาจจะทำให้ได้รับสารพิษตกค้างได้ถ้าเลือกใช้สบู่หรือแชมพูไม่ถูกต้อง
วิธีการอาบน้ำแมว
      นำแมวลงไปในอ่างอาบน้ำ หรือกะละมัง โดยวางแมวให้อยู่ในท่านั่ง แล้วจึงเทน้ำลาดตัวแมวหรือใช้มือวักน้ำลูบตามตัวแมวก่อน จากนั้นใช้แชมพูผสมกับน้ำแล้วมาลูบและฟอกให้ทั่วตัวแมว ระวังอย่าให้น้ำหรือสบู่เข้าตา จมูก และหูของแมว (ควรใช้สำลีอุดหูเพื่อป้องกันน้ำเข้าหู) เสร็จแล้วล้างสบู่ออกให้สะอาด และเช็ดตัวให้แห้ง

     ไม่ควรอาบน้ำให้แมวบ่อยนัก เฉลี่ยประมาณ 2-3 อาทิตย์ต่อครั้ง การอาบน้ำบ่อยเกินไปจะทำให้ต่อมไขมันที่หล่อเลี้ยงขนให้แห้ง ไม่เป็นเงางามได้


การขับถ่าย

ของจำเป็นอีกอย่างหนึ่งที่ผู้เลี้ยงแมวต้องจัดเตรียมไว้ก็คือ กระบะถ่ายสำหรับแมว ซึ่งสามารถซื้อหาได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปหรือ ร้านขายสัตว์ทั่วไป
การใส่ทราย
เททรายลงในกระบะที่แห้งและสะอาด ให้หนาประมาณ 3 นิ้ว
ควรเปลี่ยนทรายทุกวัน เพื่อไม่ให้เกิดกลิ่น และเชื้อโรค
ไม่ควรวางกระบะทรายใกล้ ชามอาหาร หรือ ชามน้ำ เพราะเวลาแมวกลบทราย จะกระเด็นไปใส่ในชามอาหารหรือชามน้ำได้


การตรวจสุขภาพแมวเบื้องต้น
ส่วน ลักษณะปกติ ลักษณะผิดปกติ
จมูก ชื้น เป็นมัน แห้งหรือมีน้ำมูก
ตา แววตาแจ่มใส ขุ่นมัวหรือมีสีแดง มีขี้ตามาก
หู สะอาด ไม่มีขี้หูมาก มีบาดแผล บวม มีหนอง มีกลิ่น
ปาก ปากไม่มีกลิ่น เหงือกสีชมพู ฟันขาวสะอาด เยื่อบุปากแห้ง หรือสีซีด หรือซ้ำ น้ำลายมาก มีกลิ่นปาก
ลำตัว ไม่มีแผล มีแผล มีการอักเสบ บางบริเวณไม่มีขน ขนร่วงเป็นหย่อม ๆ มีสะเก็ด
ผิวหนัง ยืดหยุ่นเมื่อดึง อุณหภูมิปกติ ตึงตัว ไม่ยืดหยุ่น อุณหภูมิสูงกว่าปกติ
ท่าทาง ยืนหรือเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ เดินโซเซไม่มีแรง ท่าทางแข็ง หรือมีการกระตุก

อาหารแมว
อาหารของแมวเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่ขาดไม่ได้ และการที่แมวจะมีสุขภาพดี แข็งแรง หรือไม่นั้น ก็มีผลมาจากอาหาร แมวต้องการอาหารที่มีคุณค่าครบถ้วน ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และแร่ธาตุ ถ้าขาดอย่างหนึ่งอย่างใดไป แมวก็จะเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่
ตารางการให้อาหารแมว
อายุ น้ำหนักตัว (กก.) ปริมาณอาหารต่อวัน(กรัม)
แรกเกิด 0.12 30
5 สัปดาห์ 0.5 85
10 สัปดาห์ 1.0 140
20 สัปดาห์ 2.0 175
30 สัปดาห์ 3.0 200
แมวตัวผู้ 4.5 240
แมวท้อง 3.5 240
แมวให้นมเลี้ยงลูก 2.5 415
แมวตัวผู้ตอน 4.0 200
แมวตัวเมียตอน 2.5 140

Home