( 1 ) มนต์นี้
ตรัสโดยพระพุทธเจ้าจำนวน 99
โกฏิเม็ดทราย
แม่น้ำคงคาในอดีตกาลพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ได้รับจากพระตถาคตเจ้าพระสหัสประภาราชศานติสถิตพุทธเจ้า
ในขณะนั้น พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ยังอยู่ในปฐมภูมิ
เมื่อได้ฟังคาถามนต์นี้แล้ว
ก็เข้าถึงภูมิที่ 8 ทันที
มีความปลื้มปิติยินดี
จึงได้ตั้งปณิธานประกาศมนต์นี้
เพื่ออำนวยความสุขสบายแก่สรรพสัตว์
แล้วก็เกิดสนองปณิธานทันที
โดยมีพันกรพันเนตรเกิดขึ้นจากร่างกายฉับพลัน
( 2 ) พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ทูลแด่พระพุทธองค์ว่า
"
หากสรรพสัตว์สวดท่องมหากรุณามนต์
แล้วไม่สามารถไปจุติในพุทธเกษตร
หรือไม่ได้ปฏิภาณสมาธิอันเป็นอมิต
และไม่สมความต้องการทุกสิ่งในชาตินี้
เราจะไม่ยอมบรรลุสัมมาพุทธิ
เว้นไว้แต่ผู้ที่มีจิตบาป
และไม่มีความศรัทธา
( 3 ) ผู้ที่สวดท่องธารณีนี้อยู่เสมอ
ท่านผู้นี้คือ
- พุทธกายปิฏก
ด้วยพระพุทธเจ้า 99
โกฏิเม็ดทราย
แม่น้ำคงคาปกปักรักษาอยู่
- เป็นแสงสว่างปิฏก
ด้วยพระตถาคตทุกองค์ส่องแสงสว่างให้อยู่
- เมตตากรุณาปิฏก
ด้วยพระธารณีโปรดสัตว์อยู่เสมอ
- เป็นสุธรรมปิฏก
ด้วยรวบรวมสรรพธารณีอยู่
- เป็นฌานสมาธิปิฏก
ด้วยสมาธิร้อยพันปรากฏต่อหน้าอยู่
- เป็นอากาศปิฏก
ด้วยได้ใช้ปัญญาแห่งความสูญ
เพ่งวิปัสสนาสรรพสัตว์อยู่
- เป็นอภัยปิฏก
บรรดานาค เทพ อารักขาอยู่
- เป็นสุพจน์ปิฏก
ด้วยเสียงแห่งธารณีไม่ขาดอยู่
- เป็นนิจสถิตปิฏก
ด้วยภัยทั้ง 3
ทุกกัปไม่สามารถมาทำลายอยู่
- เป็นโมกขปิฏก
ด้วยมารและเดียรถีย์
ไม่สามารถขัดขวางได้
- เภษัชราชปิฏก
ด้วยใช้ธารณีนี้รักษาโรคของสรรพสัตว์อยู่เสมอ
- เป็นอภินิหารปิฏก
ด้วยสามารถท่องเที่ยวไปตามพุทธเกษตรต่างๆด้วยความอิสระอยู่
บุญวาสนาของท่านผู้นี้
ไม่สามารถจะสรรเสริญได้หมดสิ้น
*******************************************************************************