ประวัติรามเกียรติ์
เมื่อประมาณ 2400 ปีเศษมาแล้ว
พระฤๅษีวาลมิกิแห่งประเทศอินเดีย ได้แต่งเรื่องรามยณะ (เรื่องราวของพระราม)
เป็นภาษาสันสกฤต มีสำนวนภาษาที่ไหเราะมาก จึงมีผู้นำไปเป็นบทสวดในงานต่างๆ
เพราะชาวอินเดียที่นับถือศาสนาฮินดู
เชื่อกันว่าพระรามคือพระนารายณ์อวตารลงมาปราบอสูรและยักษ์ทั้งหลาย เรื่องรามยณะแพร่หลายไปสู่ประเทศใกล้เคียงของอินเดียโดยพราหมณ์ที่ไปเผยแพร่วัฒนธรรมนำไปเล่าต่อๆกัน
จนกระทั่งมีวรรณคดีเกี่ยวกับพระรามอีกหลายเรื่อง
ซึ่งแต่ละเรื่องก็มีรายละเอียดของเนื้อเรื่องและชื่อตัวละครแตกต่างออกไปจากรามยณะฉบับของพระฤๅษีวาลมิมากกิ
ส่วนเรื่องรามเกียรติ์ของไทยนั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6
ทรงสันนิษฐานว่า ได้เค้าโครงเรื่องมาจาก
1. รามยณะฉบับภาษาสันสกฤต
ซึ่งเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยโดยพราหมณ์ที่มาจากแคว้นองคราษฎร์ (คือเบงกอลในปัจจุบัน)
2. วิษณุปุราณะ ในเรื่องรามเกียรติ์ตอนต้นๆ
ซึ่งเป็นกำเนิดของตัวละครต่างๆ ก็ได้อาศัยข้อความและเรื่องราวมาประกอบ
3.หนุมานนาฏกะ
เป็นเรื่องราวความเก่งกล้าของหนุมานรามเกียรติ์ในประเทศไทย
รามเกียรติ์ของประเทศไทยมีหลายฉบับด้วยกันคือ
1. รามเกียรติ์ฉบับพระราชนิพนธ์สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเพื่อให้ละครหลวงเล่นประชันกับละครของเจ้านครศรีธรรมราช
ซึ่งในปัจจุบันมีเหลืออยู่เพียง 4 เล่มสมุดไทยเท่านั้น
2. รามเกียรติ์ฉบับพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
หรือที่นิยมเรียกสั้นๆว่า รามเกียรติ์ฉบับรัชกาลที่ 1 ซึ่งมีต้นฉบับสมบูรณ์
ทรงพระราชนิพนธ์ไว้เป็นเรื่องเดียวยืดยาวตั้งแต่ต้นจนจบ
คล้ายกับมีพระราชประสงค์ที่จะรวบรวมเรื่องรามเกียรติ์ที่คนไทยรู้จักดีเข้าไว้ด้วยกัน
3.
รามเกียรติ์ฉบับพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า รามเกียรติ์รัชกาลที่ 2
ทรงมุ่งพระราชนิพนธ์ให้เป็นบทละครรำโดยแท้
สรรคำใช้อย่างประณีตเหมาะแก่กระบวนท่ารำทุกประการ
แม้จะทรงพระราชนิพนธ์ไว้เป็นเรื่องยาวแต่ก็ไม่เท่าฉบับรัชกาลที่ 1
4. ฉบับพระราชนิพนธ์สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4
ทรงพระราชนิพนธ์สำหรับเล่นโขนหรือละครโดยตรงเป็นตอนๆไป เช่น
ตอนพระรามเดินป่าเพื่อรักษาสัตย์ของพระบิดา
5. ฉบับพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
หรือรามเกียรติ์รัชกาลที่ 5 แปลกไปกว่ารามเกียรติ์ฉบับก่อนๆ
ทรงพระราชนิพนธ์เป็นโคลงจารึกไว้ตามเสาพระระเบียงวัดพระศรีรัตนศาสดารามตรงตามภาพวาดที่อยู่บนฝาผนังเป็นช่องๆไป
รวมหลายพันบทด้วยกัน มีเจ้านายและข้าราชการอื่นๆที่ทรงชักชวนให้ช่วยกันร่วมแต่งด้วย
6. ฉบับพระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงพระราชนิพนธ์เป็นตอนๆเช่นกัน ทรงบรรยายไปตามเค้าโครงเรื่องเดิมของคัมภีร์รามายณะของอินเดีย
ซึ่งวาลมิกิเป็นผู้รจนา ชื่อตัวละคร การลำดับเรื่อง
ตลอดจนบุคลิกลักษณะของตัวละครทรงอนุโลม ตามรามายณะของวาลมิกิ
ข้อคิดที่ได้จากเรื่องรามเกียรติ์
ในเรื่องรามเกียรติ์แสดงให้เห็นว่า ธรรมะย่อมชนะอธรรมเสมอ
นั่นก็คือผู้ที่มีความชั่วร้าย กระทำสิ่งที่ผิดๆ
ย่อมพ่ายแพ้ต่อความความบริสุทธิ์ยุติธรรมเสมอ หน้าหลัก