|
ส่วนอีกเพลงที่วงดนตรีอาชีพหรือวงสมัครเล่นแกะเพลงเล่นก็คือเพลง "Walking in Your Shadow " ส่วนใหญ่วิทยุจะเปิดเพลงแรกมากกว่าเพราะเสียงคม ดนตรีหนักแน่น เสียงร้องชัด สำหรับป๋าแล้วรักเพลงหลังพอๆ กันเพราะมี Solo กีต้าร์เพราะๆ และแกะง่าย ขึ้นต้นเพลงด้วยกลองชุด ฟังแล้วสะดุดหู จากนั้นกีต้าร์และกีต้าร์เบสส์ขึ้น ร้องตาม ทำนองเพลงมีรูปแบบชัดเจนและเนื้อร้องจำง่าย กีต้าร์เบสส์ก็มีลูกเล่นพอให้ได้โชว์ฝีมือ ส่วน "I'll Keep on Trying" " ท่วงทำนองเพลงแนว Prog หลอนๆ แต่ร้องไม่ง่ายเลย คิดจะร้องต้องเสียงเนี้ยบจริงๆ เพลงนี้ถ้าแกะเล่นรับรองสนุกไม่แพ้ Gypsy มือกีต้าร์ได้โชว์ฝีมืออันน่าทึ่งถ้าลอกเลียนแบบได้เหมือน
อัลบั้มที่สอง Salisbury อัดเสียงปลายปีแต่ว่าตลาดเดือนกุมภาพันธ์ 1971 เพลงดังจากชุดนี้ดังยิ่งกว่าชุดแรกเสียอีก Bird of Prey, The Park, Lady in Black และปลายปีเดียวกันออกชุด Look at Yourself มาแชร์หน้าปัทวิทยุอีก เพราะชุดนี้มีเพลงดังระดับ Born to be Wild คือ เพลง Look at Yourself ส่วนเพลง "July Morning" ติดหูคอเพลงไม่ต้องสงสัย ไม่ใช่เฉพาะสาวก Hard Rock เท่านั้นยังกวาดแฟนเพลงชาวบ้านทั่วไปด้วย ช่วงนั้นวิทยุจะเปิดเพลง The Park หรือไม่ก็เพลง July Morming เพื่อผ่อนคลายหูคนฟังหลังเปิดเพลงหนักๆมาแล้ว
เพลง Bird of Prey เป็นเพลงที่โด่งดังในช่วงแรกๆ เช่นกัน แต่ร้องลำบากเสียเหลือเกินเสียงแหลมเปี๊ยบ ทำนองเพลงกระชับ ฟังไปบางทียังกับพวก Opera ส่วนเพลง Lady in Black ทำนองบันลาด นี่ก็ดังสุดๆ เหมือนกัน เล่นเพลงนี้เมื่อไหร่มีคนร้อง Ah ..Ah Ah
Ha
Ha
ตามแน่ สำหรับเพลง The Park กับ July Morning เห็นที่จะไม่พากษ์ให้ฟัง เพราะยังไงต้องไปหาซื้อ CD มาฟังเสียให้ได้อยู่แล้ว เพลงมันอมตะจริงๆ
Uriah Heep ครองใจคอดนตรี Hard Rock เพราะปล่อยเพลงเจ๋งๆ ออกมาแบบไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นเพลง Sunrise , Easy Livin', The Wizard, Sweet Lorraine, และที่สำคัญพวกนี้ยังส่งเพลง Free Me ออกมาไล่เตะเพลง Pop เสียกระเจิดกระเจิง ครองพื้นที่เครื่องขยายเสียงทุกแห่งทุกเวทีทุกสถานที่ จากอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น เมืองไทย อุดรธานี แต่โทษที นักดนตรีบอกถ้าไม่เกรงใจ เจ้าภาพ จะไม่เล่นเพลงนี้เพราะเป็นเพลงตลาดไปแล้ว !
วงไหนมีมือคีย์บอร์ดเจ๋งๆ ต้องเลือกเพลงจากวงนี้มาเล่น ถ้าเปิดคอนเสิร์ตตรงหัวมุมหน้าห้างฯแยกลาดพร้าว เปิดเสียงดังๆ ป๋าว่าสาวกรุ่นเก๋าจะถือไม้เท้ามาฟังจากทั่วทิศ แล้วไอ้หนูรุ่นใหม่จะถามว่า สมัยรุ่นป๋ามีเพลงยังงี้ด้วยเหรอ ?
ฮ่า..ฮ่า.. ! เคยถูกถามอย่างนี้มาแล้วเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้น Santana มีคอนเสิร์ตที่เวียดนาม แต่มีปัญหาระหว่างทัวร์ แกเลยเปลี่ยนโปรแกรมมาเปิดคอนเสิร์ตฉุกเฉินที่คอมเพล็กซ์ห้างสรรพสินค้าที่ตัวเมืองอุดรธานีแทนเมืองโฮจิมินห์ ตอนนั้นไอ้เด็กถามว่า รุ่นป๋ามีเพลงยังงี้ด้วยเหรอ ? ตอนถูกเด็กถาม ป๋าได้พยักหน้าตอบ แต่ในใจ...เท้าเขี่ยมันกระเด็นไปแล้ว !!
ก่อนขึ้นเวที พวกทีมงาน Santana เปิดเพลงของ Jimi Hendrix ล้วนๆ โดยเลือกเปิดเพลง Hey Joe ก่อนเพื่อน
ตอน Uriah Heep มาเปิดคอนเสิร์ตที่กรุงเทพฯในปี 2006 ต้องขออภัยด้วยนะ ไปดูไม่ได้เพราะติดภารกิจไปทำข่าวที่เมืองนอก แม้....พรรคพวกอุตสาห์มา เรากลับไม่อยู่เสียนี่ น่าเสียดายจริงๆ
James Gang
ช่วงต้นๆ คริสต์ศตวรรษ 70 พวกเรานักดนตรีสมัครเล่น(หัวเกรียน) สนุกอยู่กับการฟังเพลงและแกะเพลงใหม่ๆ ที่มาของเพลงทางหนึ่งก็มาจากสถานีวิทยุของทหารอเมริกันในแคมป์ ทางหนึ่งพวก GIs หอบหิ้วติดมาด้วย ถ้าสถานีไทยที่เปิดเพลงสากลได้แผ่นมาก็เอามาเปิดให้ฟัง จากนั้นก็บอกเล่ากันไปและไปควานหาแผ่นเสียง เทปก็มีแล้วแต่ตามพวกฝรั่งไม่ค่อยทัน
พวกเราชาว หัวเกรียน จะเลือกเล่นเพลง C.C.R., Santana, Black Sabbath, Uriah Heep, Deep Purple, Led Zeppelin, Grand Funk Railroad, The Who จะต่างไปกว่านี้ก็แล้วแต่ชอบ เพราะเพลง โจ๊ะๆ อย่างเพลง Venus, Iron Horses ,Born To be Wild มันอมตะบนฟลอร์อยู่แล้ว แต่วงอาชีพไม่ว่าจะเล่นตามบาร์ตามคลับเล็กใหญ่ เขาจะเล่นกันหลากหลายกว่านี้
ก่อนหน้าที่วง UFO จะออกมาอาละวาดวงการเพลง Heavy - Hard Rock โลก เท่าที่จำได้ก็ยังเลือกเล่นเพลงจากวงใหม่ๆ อย่าง James Gang ซึ่งวงนี้มาเปิดหูเปิดตาพวกเด็กอุดรฯด้วยเพลง Funk # 49 จากนั้นตามมาอีกเพลง คือ เพลง Walk Away เพลงแรกที่กล่าวถึงอ่านว่า ฟั๊งก์ นัมเบอร์ 49 แต่สมัยนั้นพวกวัยรุ่นจะอ่านว่า ฟั๊งก์ ชาร์ป 49 อ่านกันผิดๆ อย่างนี้มานานทีเดียว
จุดเด่นของวงนี้อยู่ที่ลีลาการตีคอร์ดกีต้าร์ที่พิศวง ต้องลองถูกลองผิด เล่นตามเทปและฝึกจนคล่องถึงจะเล่นได้ เสน่ห์ของการตีคอร์ดอยู่ที่ เบรกเสียง
ความจริงวงนี้ไม่ใช่วงใหม่เพราะมีรากฐานมาตั้งแต่ปี 1966 เป็นวงจากคลิ๊ฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา สมาชิกเดิมมี Jim Fox กลอง , Tom Kriss เล่นเบส , Ronnie Silverman กีตาร์ , Glen Schwartz กีต้าร์เช่นกัน Phil Giallombardo เป็นมือคีย์บอร์ด ส่วน Joe Walsh นักกีต้าร์มือดี (ตอนหลังไปเล่นกับวง The Eagles) เข้ามาแทน Schwartx เมื่อปี 1968 ออกอัลบั้มแรก Yer' Album เมื่อปี 1969 และออกอัลบั้มที่สอง James Gang Rides Again ในเดือนตุลาคมปี 1970 และชุดนี้นี่แหละมีเพลง Funk # 49 จากนั้น ออกแผ่นซิงเกิ้ล Walk Away เพลงเดียวกับที่ Joe Walsh ในฐานะสมาชิก The Eagles เล่นโชว์คอนเสิร์ตในออสเตรเลียนั่นหล่ะครับ แต่สมัยก่อนไม่ใส่เสียงเครื่องเป่า เดือนสิงหาคม 1971 ออกอัลบั้ม Thirds ในนี้มีเพลง Walk Away อยู่ในไตเติ้ลแทร็ก จากนั้นก็ออกอัลบั้มใหม่เรื่อยๆ จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ปี 1976 ก็เป็นอันเลิกกัน Joe Walsh มีสัญชาตญานด้านการเล่นกีต้าร์สูงมาก เป็นมือกีต้าร์ที่ช่างสรรหาเสียจริงๆ ชอบสร้างเสียงกีต้าร์ให้มีลักษณะแปลกๆ เสียงเหมือนไก่ร้องกระต๊ากๆ ก็มี (ชื่อเพลง Yadig? ) ฟังดูเอาเหอะมีหลายรสชาติ เพลงที่ทำออกมาล้วนแต่มีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป จะว่าไปแล้วเวลาฟังเพลงของวงนี้ดีๆ จะเห็นจุดเด่นชัดที่เสียงกีต้าร์ แต่กระนั้นฝีมือกีต้าร์เบสกับฝีมือตีกลองเรียกว่าไม่แพ้ใครเลยทีเดียว ตอนที่ Joe Walsh ออกมาทำเดี่ยวแล้วติดตลาดก็มีอยู่หลายเพลง อย่างเพลง Rocky Mountain Way หรือไม่ก็เพลง Life's Been Good ฟังเพลงของคนนี้แล้วสบายใจดี
James Gang มีเพลงดังสุดๆ อย่างที่บอก แต่เพลงอื่นๆ ก็ฟังได้เยี่ยม อย่างเพลง Midnight Man, Funk # 48, I Don't Have The Time, The Bomber, Stop, Thanks, White Man/Black Man, Woman, Again , Tend My Garden . Ashe , The Rain And I , The Devil Is Singing Our Song เพลงโซโลกีต้าร์ก็ไม่ควรพลาดเช่นกันชื่อเพลง Asshtonpark
ตอนหลัง Joe Walsh ก็ไปเล่นกีต้าร์ให้กับวง The Eagles แล้ววงนี้ก็เลยมีผลงานที่เด่นเป็นพิเศษออกมาให้ฟัง อย่างเพลง Hotel California, New Kid In Town, Life In Fast Land นั่นไง ในการแสดงสดของวง The Eagles ก็เห็นเล่นเพลงของ Joe Walsh ทั้งเพลง Walk Away กับเพลง Funk # 49 เพลงที่เขาประสานเสียงเครื่องเป่าเข้าไปด้วยนั่นหละ

Home
|